ตอนที่ 246

USB:บทที่ 246 นำมันออกมา

“หา? ภารกิจระดับ [A] ?” โอวหยางซิงเหวินร้องออกมาด้วยความตกใจ แม้แต่หนุ่มเจ้าสำราญอย่างเขายังรู้เลยว่าภารกิจระดับ [A] นั้นยากขนาดไหน

เช่นเดียวกับการจัดระดับของทหารรับจ้าง ภารกิจที่ออกโดยสหภาพทหารรับจ้างแบ่งออกเป็นเก้าระดับโดยแบ่งตามระดับความยากง่ายในแต่ละระดับ

การจัดระดับของทหารรับจ้างนั้นคล้ายคลึงกับการจัดระดับของภารกิจ และภารกิจระดับสูงบางภารกิจจำเป็นต้องมีทหารรับจ้างหรือกลุ่มทหารรับจ้างที่มีระดับถึงที่กำหนดไว้ ถึงจะสามารถรับภารกิจได้ แน่นอนว่ายังมีภารกิจบางภารกิจที่ไม่กำหนดระดับของทหารรับจ้าง

ภารกิจที่มีระดับความยากมากๆ ทหารรับจ้างคนเดียวนั้นไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จ แม้แต่กับกลุ่มทหารรับจ้าง หากมีความแข็งแกร่งไม่มากพอ การรับภารกิจระดับสูงก็ไม่ต่างกับการรนหาที่ตาย สำหรับภารกิจในระดับนี้ โดยปกติจะมีเพียงกลุ่มทหารรับจ้างชั้นยอดเท่านั้นที่กล้ารับภารกิจ

โอวหยางซิงเหวินไม่เคยคิดเลยว่ากองทหารโลหิตสีจากจะทำภารกิจระดับ [A] สำเร็จ หากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปมันจะยิ่งเพิ่มชื่อเสียงให้กับกลุ่มทหารรับจ้างของเขาอย่างมาก

ทันใดนั้นดวงตาของโอวหยางซิงเหวินก็สว่างขึ้นทันที เป็นที่รู้กันว่าภารกิจระดับ [A] นั้นยากมาก และยิ่งภารกิจมีระดับยากมากเท่าไหร่ ของรางวัลก็จะยิ่งมีมูลค่ามากขึ้นตามไปด้วย หากพูดถึงสมบัติที่พวกเขาได้รับระหว่างการทำภาพกิจให้สำเร็จ ของพวกนั้นก็เป็นของที่มีมูลค่าเช่นกัน

โอวหยางซิงเหวินคิดมาตลอดว่าเขาควรจะทำยังไงให้พ่อหายโกรธ และในตอนนี้เขาก็ได้พบกับทางออกแล้ว พลันรู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที

โอวหยางซิงเหวินเดินตรงไปหาพวกกองทหารโลหิตสีชาด โดยไม่สนอันจื่อชิงที่นั่งอยู่ข้างกายเลยแม้แต่น้อย

“พวกท่านทุกคนมาจากกองทหารโลหิตสีชาดเหรอ?” โอวหยางซิงเหวินเดินเข้าไปถามอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

"ท่านคือใคร?" ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราคนหนึ่งหันไปถามโอวหยางซิงเหวินด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร

"ข้าชื่อโอวหยางซิงเหวินแห่งตระกูลโอหยาง หนึ่งในสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืองฮ่าวเทียน" โอวหยางซิงเหวินแนะนำตัวด้วยความภาคภูมิใจ

“ตระกูลโอหยาง?” พวกเขาไปที่ป่าแห่งหมอกอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งที่ไปต้องผ่านเมืองเฮ่าเทียน พวกเขาจึงรู้เรื่องสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองเฮ่าเทียน

แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินชื่อของโอวหยางซิงเหวินคนนี้มาก่อน แต่แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาเคยได้ยินมานั้นส่วนใหญ่เป็นเรืองที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก

"แล้วท่านมาหาพวกเราแบบนี้ ไม่ทราบว่าต้องการอะไร?" ชายวัยกลางคนถาม ดูจากท่าทางแล้วอีกฝ่าย คนๆนี้น่าจะเป็นผู้นำกลุ่ม

"พวกท่านเพิ่งออกมาจากป่าแห่งหมอก และสามารถทำภารกิจระดับ [A] สำเร็จ ข้าเชื่อว่าพวกท่านต้องได้รับสมบัติดีๆระหว่างที่ทำภารกิจมาไม่น้อย ข้าขอดูมันหน่อยได้ไหม?" โอวหยางซิงเหวินกล่าวด้วยท่าทางอ่อนน้อม เกรงว่าหากพวกทหารโลหิตสีชาดไม่พอใจขึ้นมา พวกเขาคงเจรจากันไม่รู้เรื่อง

"แล้วทำไมข้าต้องเอามันออกมาให้เจ้าดูด้วย เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คิดว่าเป็นคนของตระกูลโอวหยางแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ?" ก่อนที่ชายวัยกลางคนจะตอบอะไรกลับไป จู่ๆชายที่ไว้หนวดเคราก็ชิงปฏิเสธโอวหยางซิงเหวินอย่างไร้เยื่อไย

จู่ๆก็มีใครไม่รู้ปรากฏตัวขึ้นแล้วมาสั่งให้เขาเอาสมบัติออกมาให้ดูหน่อย ไม่ทราบว่าคนๆนี้มีสิทธิ์อะไรอย่างนั้นหรือ? หากลองคิดกลับกัน ถ้าคนที่หามาได้เป็นเขาบ้าง เขาจะให้คนอื่นเห็นสมบัติของตนได้ง่ายๆจริงหรือ?

ท้ายที่สุดแล้ว การกระทำของโอวหยางซิงเหวินนั้นไม่สมกับที่มีชื่อแซ่โอวหยางเลยแม้แต่น้อย

แล้วถ้าพวกเขาเป็นกลุ่มทหารรับจ้างระดับ [B] ล่ะ? จริงอยู่ที่มีกลุ่มทหารรับจ้างมากมายที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาอยู่ทั่วราชอาณาจักร แต่อย่าลืมว่าที่นี่คือเมืองเฮ่าเทียน ตระกูลของเขาเป็นถึงหนึ่งในตระกูลใหญ่ของที่นี่ กองทหารโลหิตสีชาดของพวกเขาส่วนใหญ่จึงถูกมองว่าเป็นต่างถิ่นเป็นธรรมดา ด้วยเหตุนี้ ถูกปฏิเสธโดยอย่างไร้เยื่อไยแบบนี้ เขาจะโกรธอีกฝ่ายก็ไม่แปลก

โอวหยางซิงเหวินมีน้ำโหขึ้นมาเพราะในเมืองเฮ่าเทียน ในอดีตตกาลมีน้อยคนนักที่ไม่ให้เกียรติเขา แม้แต่สมาชิกในตระกูลอีกสามคนก็ไม่มีวันทำแบบนั้นกับเขา

"ไม่ใช่ว่าสหายท่านนี้อาจด่วนสรุปเกินไปเหรอ? ข้าแค่ต้องการเห็นมันเท่านั้น แค่ดูแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ?" โอวหยางซิงเหวินเอ่ยถามเสียงต่ำ

“ถ้างั้นข้าขอเห็นหน้าผู้หญิงของเจ้าหน่อยสิ เรียกผู้หญิงของเจ้ามาให้ข้าเจอหน้าหน่อยสิ ตกลงไหม?”

ทหารรับจ้างคนหนึ่งถามกลับ หลังจากที่เขาพูดจบ ทหารรับจ้างคนที่เหลือก็ต่างพากันหัวเราะและเยาะชายหนุ่มทันที

นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นหนึ่งในกลุ่มทหารรับจ้างอันดับต้น ๆ ของประเทศ ดังนั้นพวกเขาจึงมีความมั่นใจในตัวเองสูง และตอนนี้พวกเขาเพิ่งทำภารกิจระดับ [A] สำเร็จ พวกเขาถึงได้กล้าทำตัวหยิ่งผยอง และไม่เกรงกลัวโอวหยางซิงเหวินที่เป็นรุ่นที่สองเลยแม้แต่น้อย

อันที่จริง ตระกูลโอหยางมีความแข็งแกร่งในเมืองฮ่าวเทียน แต่ในประเทศนี้ กลุ่มของพวกเขาอาจแข็งแกร่งน้อยกว่าพวกพ้องทหารโลหิตสีชาดกลุ่มอื่นด้วยซ้ำ

สำหรับทหารรับจ้างที่ไร้มิตรสหาย โดยเฉพาะในกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงอย่างพวกเขา มีทหารรับจ้างที่โดดเดี่ยวอยู่ไม่น้อยต้องการเข้าร่วมหรือสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น

โอวหยางซิงเหวินโกรธจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง คนรอบตัวที่เห็นท่าทางของเขาต่างชี้นิ้วมาที่เขาและหัวเราะเสียงดัง

โอวหยางซิงเหวินเบนสายตาไปมองชายวัยกลางคนคนนั้น เขาสังเกตเห็นว่าชายคนนั้นกำลังนั่งดื่มอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“ดี ดีจริงๆ พวกท่านกล้าหัวเราะข้าแบบนี้ ฝากไว้ก่อนเถอะ!” โอวหยางซิงเหวินรู้สึกเสียหน้าจึงชี้นิ้วไปที่กลุ่มคน กล่าวเตือนพวกเขาสองครั้ง จากนั้นก็สบัดมือแล้วรีบเดินออกจากโรงเตี๊ยมทันที

คิดว่าคนอย่างโอวหยางซิงเหวินจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆหรือ? เห็นๆอยู่ว่าไม่มีทาง!

ทันใดนั้น เขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า ฝ่ายเขายังอ่อนเกินไป ถึงจะมีอันจื่อชิงเป็นพวกเดียวกัน แต่ถ้ามีเรื่องขึ้นมาจริงๆ หมอนั่นก็คงไม่มาช่วยเขาแน่นอน

ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เจ็บตัวและขายขี้หน้าอีก โอวหยางซิงเหวินจึงตัดสินใจแป็นฝ่ายยอมเดินออกไปจากตรงนี้ก่อน

"เจ้ารออยู่ข้างนอกแล้วคอยจับตาดูพวกนั้นไว้ คอยดูว่าคืนนี้พวกเขาไปพักที่ไหน" หลังจากเดินออกไปจากโรงเตี๊ยม โอวหยางซิงเหวินก็พูดกับซุนจื่อ

"ได้เลย นายน้อย!" ซุนจื่อรับคำในทันที

“ไอ้เด็กบ้า พูดได้ไม่กี่ประโยคก็วิ่งหนีหางจุกตูดแล้ว น่าเบื่อจริงๆ!” ทันทีที่เห็นโอวหยางซิงเหวินรีบเดินออกไป ชายผู้มีหนวดเคราจึงรู้สึกว่าตนยังพูดไม่จบไอ้เด็กนี่ก็วิ่งหนีไปแล้ว

"พูดอีกก็ถูกอีก ไอ้หมอนี่มันไม่ขี้ขลาดเกินไปหน่อยเหรอ? เป็นถึงลูกหลานของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ น่าละอายใจจริงๆ!"

"ข้าล่ะอยากเห็นหน้าผู้หญิงของไอ้เด็กขี้ขลาดคนนี้จริงๆ ฮ่า ๆ "

ทุกคนยังคงพูดล้อเลียนโอวหยางซิงเหวิน โดยไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ พวกเขาเคยพบเจอกับเรื่องแบบนี้มานัดต่อนัดแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใจประโยคสุดท้ายของโอวหยางซิงเหวินเท่าไหร่นัก

“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดมาก หลังจากนี้ไปจะเป็นเขตแดนของพวกมันแล้ว จำไว้ว่า อย่าสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น” ชายวัยกลางคนค่อยๆพูดออกมา

“เข้าใจแล้ว กัปตัน!” ในขณะที่ชายวัยกลางคนพูด ทุกคนที่เหลือก็ตอบรับด้วยความเคารพ จากนั้นพวกเขาก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก