ตอนที่ 285

USB:บทที่ 285 ดารามาร่วมงาน

ในทางตรงกันข้าม เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้องการให้หลี่ปิงอวิ๋นมาเป็นนางแบบให้ เนื่องจากว่ามีบริษัทมากมายที่ต้องการตัวเธอให้มาเป็นนางแบบ แต่น้อยครั้งที่เธอจะตอบรับงาน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องความต้องการของเจ้าตัว

สาเหตุมาจากที่เธอรู้สึกเกรงใจเหล่าแฟนคลับที่ชื่นชอบเธอ เธอจะไม่รับงานโฆษณาสินค้าที่เธอไม่รู้จักเพื่อป้องกันไม่ให้แฟนคลับหลงเชื่อสินค้าที่มีคุณภาพเกินจริง ดังนั้นทุกครั้งที่เธอรับงานโฆษณาสินค้า เธอจะต้องศึกษามันก่อน

แม้ว่ามันจะทำให้เธอมีงานมากขึ้นและทำให้มีสปอนด์เซอร์ลดลง แต่อย่างน้อยสินค้าที่เธอได้โฆษณานั้นทำให้เหล่าแฟนคลับและผู้ชมรู้สึกไว้วางใจมากขึ้น

ทุกครั้งที่เธอให้การรับรองหรือถ่ายโฆษณา ยอดขายของสินค้าก็ยังมั่นคงอยู่เสมอ

แม้ว่าสัญญาของเธอจะค่อนข้างเข้มงวดรวมถึงค่าตัวที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการจ้างเธอให้มาโฆษณาสินค้า

ดังนั้นเมื่อฮวงเฟิงและคนอื่น ๆ ได้ยินว่าซูหยูโม่กำลังเตรียมนางแบบและการถ่ายโฆษณา ทุกคนก็เข้าใจได้ในทันทีว่าบริษัทจะต้องจ่ายเงินไปไม่น้อยแน่ และพวกเขาก็รู้แล้วว่าทำไมหลี่ปิงอวิ๋นถึงเดินทางมาหาถึงที่บริษัท

อันที่จริง ในตอนที่หลี่ปิงอวิ๋นต้องการรับรองหรือถ่ายโฆษณาสินค้า ถึงเธอจะรู้คุณภาพและคุณประโยชน์ของสินค้า

แต่น้อยครั้งที่เธอจะยอมไปที่บริษัทของผู้อื่น เนื่องจากว่าเธอไม่ได้เป็นประธานบริษัทแต่อย่างใด แถมเธอยังมีงานต้องทำอีกมากมาย

หากแต่เซี่ยเมิ่งเจียวต้องการใช้โอกาสนี้เพิ่มชื่อเสียงให้กับบริษัท และบังเอิญว่าภายในอีกไม่กี่วัน หลี่ปิงอวิ๋นจะมาทำธุระที่เมืองชิง เธอจึงมีเวลาแวะเข้ามาที่บริษัท

"อืม ผมเข้าใจแล้ว" ฮวงเฟิงตอบ

แม้ว่าหลี่ปิงอวิ๋นจะเป็นดารา แต่เธอก็ยังเป็นคนธรรมดาอยู่วันยังค่ำ ฮวงเฟิงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตกอยู่ในเหตุการณ์อันตราย

แต่เพราะเธอมีแฟนคลับมากมาย และในเวลานั้นหน้าที่หลักของเขาก็คือการปกป้องหลี่ปิงอวิ๋นจากเหล่าแฟนคลับที่ต้องการก่อกวนเธอนอกเวลางาน

เพราะในตอนที่แฟนคลับได้เห็นไอดอลผู้เป็นที่รักในชีวิตจริง พวกเขาจะมีท่าทางตื่นเต้นมากและพลาดพลั้งทำเรื่องที่ไม่สมควรได้

หลังจากนั้นไม่นานข่าวของหลี่ปิงอวิ๋นที่เดินทางมาที่บริษัทก็แพร่งพรายออกไป พนักงานหลายคนเริ่มซุบซิบกัน และพนักงานบางคนก็ดูตื่นเต้นมาก

เรื่องนี้ ฮวงเฟิงกับซูหยูโม่ก็ไม่ได้ต่อว่าพวกเขาโดยไร้เหตุผล แม้แต่กับพนักงานในบริษัทยังตื่นเต้นเหมือนเป็นแฟนคลับตัวยงของเธอเลย

"ผู้จัดการ ฉันได้ยินมาว่าหลี่ปิงอวิ๋นจะมาที่บริษัทเหรอ?" พอได้เห็นท่าทางตกใจของฮวงเฟิงแล้ว แม้แต่พี่หวังก็ยังเดินมาถามเขาถึงห้องทำงาน

"ใช่ คุณก็เป็นแฟนคลับของเธอเหรอครับ?" ฮวงเฟิงถามกลับด้วยความสงสัย

แม้ว่าพี่หวังจะอายุไม่มากพอที่จะเป็นพ่อของหลี่ปิงอวิ๋น แต่ก็ไม่ได้ดูห่างกันมากนัก เป็นไปได้ไหมว่าเขากำลังคว้าดาวและไล่ตามหลี่ปิงอวิ๋นอยู่?

"ลูกสาวของผม เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของหลี่ปิงอวิ๋นน่ะครับ เธอชอบหลี่ปิงอวิ๋นมาก ถ้าผมได้ลายเซ็นของเธอ ลูกสาวของผมจะต้องมีความสุขมากแน่ ๆ " พี่หวังตอบด้วยท่าทางเขินอาย "แต่ว่าผมเองก็ชอบเธอเหมือนกัน..."

พูดตามตรงว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบหลี่ปิงหวิ๋น แต่โดยเฉพาะแล้วผู้ชาย ขนาดว่าฮวงเฟิงไม่ใช่แฟนคลับตัวยงก็ยังชอบเธอเลย

อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงกลับคิดว่าในวงการบันเทิงคนที่ใบหน้างดงามขนาดนี้กลับไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาว แสดงว่าหลี่ปิงอวิ๋นจะต้องมีความลับบางอย่างแน่นอน

"ผมคิดว่าคุณขอลายเซ็นจากเธอได้นะครับ เพราะงานนี้ เราจะได้เป็นบอดี้การ์ดให้เธอชั่วคราวครับ" ฮวงเฟิงตอบ

“จริงเหรอครับ? ยอดไปเลย!” พี่หวังตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมสุข เขากำลังคิดว่าจะให้อีกฝ่ายเซ็นให้ตรงไหนหรือจะอวดลูกสาวของเขายังไงดี

หลังจากส่งพี่หวังกลับไป ฮวงเฟิงเข้าใจความรู้สึกของคนในบริษัทดี เพราะลึกๆแล้วเขาเองก็ค่อนข้างคาดหวังกับการมาถึงของหลี่ปิงอวิ๋นเช่นกัน

ขณะที่ฮวงเฟิงกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น แต่ทันทีที่เห็นว่ามันเป็นเบอร์ของชิวหนิงช่วง ทันใดนั้นฮวงเฟิงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

วันที่เขาไปหาชิวหนิงช่วง เขาได้สัญญากับเธอว่าเขาจะไปเยี่ยมเธอบ่อยๆ แต่พอนึกถึงความกระตือรือร้นของแม่อีกฝ่ายแล้ว ฮวงเฟิงก็อยากถอนคำพูดทันที ทำให้เขาไม่ได้ไปหาเธอเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา

แต่ถึงอย่างนั้นชิวหนิงช่วงกลับโทรมาหาเขาเพื่อถามว่าทำไมเขาถึงไม่ไปพบเธออย่างต่อเนื่อง และฮวงเฟิงก็ไม่ได้ตอบอะไรไปมากกว่าบอกว่าช่วงนี้เขายุ่งๆ

ชิวหนิงช่วงเองก็สามารถเดาเหตุผลนั้นได้ และถึงแม้ว่าเธอจะโทรหาฮวงเฟิง แต่เธอก็ไม่ได้บังคับเขาให้คุยกับเธอ

เนื่องจากว่าพวกเขาต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเธอ ทั้งสองจึงคุยโทรศัพท์กันไม่นาน

แม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกปวดหัว แต่เขาก็ยังคงรับโทรศัพท์และคิดว่าวันนี้ควรหาข้อแก้ตัวเพื่อปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างไรดี

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว ชิวหนิงช่วงไม่ได้ขอให้เขาไปโรงพยาบาลด้วย อีกฝ่ายบอกเขาว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้

"อ่า ถ้างั้นก็ดีใจด้วยนะ" ฮวงเฟิงกล่าวหลังจากที่เงียบไปชั่วครู่

“พรุ่งนี้นายว่างไหม?” ชิวหนิงช่วงยังคงถามต่อ ในเมื่อเธอได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ชิวหนิงช่วงก็อยากเจอฮวงเฟิงจริงๆ

“พรุ่งนี้เหรอ?” ฮวงเฟิงอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าพรุ่งนี้เขามีธุระ เพราะเขาสัญญากับกัวเหลียงว่าเขาจะไปที่โรงงานพรุ่งนี้

“ไม่ว่างเหรอ?” ชิวหนิงช่วงถาม แม้ว่าเธอจะรู้อยู่แล้วว่าทำไมฮวงเฟิงถึงไม่มาหา

แต่ถึงอย่างนั้นชิวหนิงช่วงก็ยังรู้สึกผิดหวัง เป็นอีกครั้งที่เธอไม่ได้เจอฮวงเฟิง

จู่ๆก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเมื่อได้ฟังคำถามจากชิวหนิงช่วง ปกติแล้วเขามักจะหาข้อแก้ตัว แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะต่างกันออกไปและอีกฝ่ายไม่มีทางเชื่อเขาแน่นอน

นอกจากนี้ ประโยคเมื่อครู่ของชิวหนิงช่วงที่เขาได้ยินนั้นมีความเศร้าแฝงอยู่

ฮวงเฟิงคิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีพิธีเปิดที่โรงงานตอนสิบโมง ก่อนหน้านั้นเขายังเหลือเวลาพอสมควร เขาสามารถไปเยี่ยมชิวหนิงช่วงได้ เพราะก่อนหน้านั้นเขาเคยสัญญาว่าจะไปหาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป

“พรุ่งนี้ฉันพอจะมีเวลาอยู่บ้าง ฉันจะไปรับเธอที่โรงพยาบาลก็แล้วกัน” ฮวงเฟิงตอบ

นอกจากนี้เขายังรู้ว่าแม่ของชิวหนิงช่วงจะต้องไปที่นั่นแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องไปรับเธอ

"จริงเหรอ? นายสัญญาแล้วนะ ถ้าพรุ่งนี้นายไม่มา ฉันก็อยู่ที่โรงพยาบาล ฉันจะไม่ยอมออกไปไหนเด็ดขาด!" ชิวหนิงช่วงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

"ได้ พรุ่งนี้ฉันไปแน่!" ฮวงเฟิงตอบด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนเขาจะสัมผัสได้ว่าความรู้สึกที่ชิวหนิงช่วงมีต่อเขาก่อนเกิดเรื่องขึ้น ไม่เหมือนกับก่อนหน้า

“เป็นเพราะคืนนั้นหรือเปล่านะ?” ฮวงเฟิงนึกถึงเรื่องในตอนนั้นหลังจากที่วางสายแล้ว