USB:บทที่ 230 ใครคือไอ้โง่กันแน่
หรือว่าผู้จัดการเหวินจะเป็นไอ้โง่คนนั้น? ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว!
ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็ต้องไม่ใช่ไอ้โง่ที่มีฐานะในบ้านประมูลห้าอันดับแรกของประเทศตั้งแต่อายุสามสิบด้วยตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแห่งเมืองชิงเด็ดขาด!
ดังนั้นใบหน้าของผู้จัดการหยวนจึงเต็มไปด้วยความสงสัยในตอนแรก กลับกลายเป็นความขมขื่น
แต่ถึงอย่างนั้น ผู้จัดการเหวินกลับไม่สนใจอีกฝ่ายนัก จึงหันไปพูดกับฮวงเฟิงว่า "คุณฮวงมาอยู่นี่เองเหรอครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่เห็นคุณในงาน ผมนึกว่าคุณฮวงไม่อยากมาซะแล้ว..."
“ผู้จัดการเหวินสุภาพเกินไปแล้วครับ” ฮวงเฟิงว่า
“อ่ะ..พวกคุณทั้งสองคงจะเป็นสองบอสสาวแสนสวยแห่งเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปสินะครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่พวกคุณทั้งสองคนมาที่นี่ในค่ำคืนนี้” ผู้จัดการเหวินกล่าวขณะที่จ้องมองซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียว
"ฉันเองก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับคำเชิญเช่นกันค่ะ" ซูหยูโม่ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
เฮฟเว่นไพร์เพิ่งเปิดบริษัทได้ไม่นาน จึงไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้บริษัทประมูลเจียเฉิ่งจะไม่เคยจัดงานเลี้ยง แต่เรื่องที่พวกเธอได้รับเชิญมาวันนี้เปรียบเสมือนการแสดงจุดยืน
ด้วยเหตุนี้ซูหยูโม่และเซี่ยเมิ่งเจียวจึงตั้งใจเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ และพวกเธอจะไม่ปิดบังตัวตนใดๆ แม้ทั้งสองจะไม่ได้รับความสนใจเลยก็ตาม
“คุณฮวงเองก็รู้จักโฉมงามทั้งสองคนนี้ด้วยเหรอครับ” ผู้จัดการเหวินถาม
"ถ้าจะพูดให้ถูกคือพวกเธอเป็นเจ้านายของผมครับ" ฮวงเฟิงตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” ผู้จัดการเหวินแอบรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดูถูกฮวงเฟิง
สำหรับอาจารย์อาวุโสชิวที่ใช้เรียกเขา เห็นๆอยู่ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา ถึงเขาจะไม่รู้ว่าทำไมฮวงเฟิงถึงทำงานที่เฮฟเว่นไพร์ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจำเป็นต้องรู้เช่นกัน
บางทีเหตุผลที่ฮวงเฟิงมาทำงานที่เฮฟเว่นไพร์อาจเป็นเพราะเขาได้ใกล้ชิดกับสาวสวมทั้งสองมากขึ้นก็ได้
ท้ายที่สุด ความงามและความสามารถของทั้งสองก็มีชื่อเสียงในชนชั้นสูงแห่งเมืองชิง และจะโด่นดังขึ้นไปเรื่องๆในภายภาคหน้า
"ผอ.เซี่ยกัยผอ.ซูมีลูกน้องที่ดีจริงๆ" ผู้จัดการเหวินยิ้มแล้วพูดต่อว่า "ผมยังมีแขกที่รอให้ผมไปทักทายอยู่ ผมขอตัวก่อนนะครับ"
“เชิญคุณตามสบายเลยค่ะ ผู้อำนวยการเหวิน” ซูหยูโม่และคนที่เหลืออีกสามคนกล่าวพร้อมกัน
จากนั้น ผู้จัดการเหวินก็เดินออกไปทางดด้านซ้าย ส่วนผู้จัดการหยวนที่ถูกทิ้งให้ยืนอยู่ข้าง ๆ นอกจากการทักทาย ผู้จัดการเหวินก็ไม่ได้สนใจเขาอีกเลย เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมาก
ผู้จัดการเหวินไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้จัดการหยวนเลยแม้แต่น้อย ถึงเขาจะเพิ่งมาเมืองชิง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถปรับตัวได้หรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น ชัยชนะที่ดีต้องพิจารณาจากการเป็นที่หนึ่งในหมู่คนรวยแห่งเมืองชิง ดังนั้นแม้ว่าศัตรูจะเป็นถึงมังกรที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ต้องชนะคนรวยพวกนั้นให้ได้
ในเมืองชิงหรือแม้แต่ในประเทศจีน คอนเนคชั่นแห่งชัยชนะที่ดีไม่ใช่สิ่งที่เขา จะเทียบได้
ด้วยเหตุนี้ ผู้จัดการหยวนจึงดุเขาต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญ และผู้จัดการเหวินไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเรื่องนี้จะรั่วไหลออกสู่ภายนอก ก็ถือเป็นความผิดของอีกฝ่ายไม่ใช่ของเขา
"ผู้จัดการหยวน ฉันชื่นชมคุณมากจริงๆ คุณกล้าด่าเขาต่อหน้าเจ้านายเขา ความกล้าหาญและความบ้าบิ่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงบอบบางจะทำได้" เซี่ยเมิ่งเจียวไม่ใช่ยอมปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือจึงพูดจาดูถูกอีกฝ่ายอย่างเจ็บแสบ เธอพูดพลางหัวเราะผู้จัดการหยวน
"เหอะ!" ในตอนที่เขากำลังจะจากไป เขาก็เหลือบมองฮวงเฟิงด้วยความข้องใจ เขาไม่เข้าใจว่ารปภ.ที่ต่ำต้อยอย่างฮวงเฟิงรับคำเชิญจากผู้จัดการเหวินได้ยังไง
หญิงสาวทั้งสามที่รวมถึงซูหยูโม่ก็ไม่เข้าใจไม่ต่างกัน หลังจากผู้จัดการหยวนจากไป พวกเธอทั้งสามก็หันไปมองฮวงเฟิงด้วยความสงสัย ราวกับว่าพวกเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
แม้ว่าผู้จัดการเหวินจะเป็นเพียงผู้จัดการของบริษัทประมูล แต่เขาก็มีคอนเนคชั่นทั่วทั้งเมืองชิง นอกจากนี้เขายังมีผู้สนับสนุนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
สถานะของผู้จัดการเหวินไม่ธรรมดาเลยสักนิด แต่เขากลับวางตัวสุภาพกับรปภ.อย่างฮวงเฟิง ไม่แปลกที่พวกเธอทั้งสามจะสงสัย
“ทำไมพวกคุณถึงมองผมแบบนั้นละครับ?” ฮวงเฟิงเอ่ยถามด้วยยิ้มเหยเกทันทีที่เห็นทั้งสามกำลังจ้องมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท่าอย่างไม่ลดละ
“ก็ฉันไม่รู้ว่าคุณได้คำเชิญจากผู้จัดการเหวินจริงๆนี่ แล้วคุณรู้จักเขาได้ยังไง?” ผู้หญิงอีกสองคนก็มองฮวงเฟิงด้วยใบหน้าสงสัย เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเองก็อยากรู้เรื่องนี้เช่นกัน
“ผมรู้จักเขาจากการทำธุรกิจ” ฮวงเฟิงตอบ
"หา นายทำธุรกิจกับเขา? ธุรกิจประอะไร?" เซี่ยเมิ่งเจียวถาม
“ผมแค่ขอให้เขาช่วยขายของให้ ไม่ใช่เขาทำบริษัทประมูลเหรือครับ? อย่างผมจะทำธุรกิจอะไรได้อีกล่ะ?” ฮวงเฟิงมองเซี่ยเมิ่งเจียวราวกับเธอเป็นคนซื่อบื้อ
สายตาของฮวงเฟิงทำให้เซี่ยเมิ่งเจียวรู้สึกหงุดหงิด ใบหน้าของหญิงสาวพลันขึ้นสี
"เหอะ! ใครจะไปรู้ว่านายทำธุรกิจแบบไหนล่ะ เขายังมีแขกอีกตั้งเยอะ ฉันยังไม่เห็นว่าเขาจะทำตัวสุภาพกับคนพวกนี้เท่านี้เลย นายไม่ได้พูดความจริงนี่!”
เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวไม่ผิด ที่นี่คือบริษัทประมูล ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนที่ได้ติดต่อธุรกิจกับผู้จัดการเหวิน และพวกเธอก็ไม่เห็นว่าเขาจะพูดจาดีกับใครเลย
"สิ่งที่ผมพูดไปทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ ส่วนเหตุผลที่เขาพูดจาสุภาพกับผมขนาดนี้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน..." ฮวงเฟิงตอบ แต่อย่างน้อยเขาก็พอเดาออก มันน่าจะเกี่ยวข้องกับอาวุโสชิว
เมื่อนึกถึงอาวุโสชิว ฮวงเฟิงก็เห็นอีกฝ่ายตัวจริง เขาเพิ่งมาถึงและผู้จัดการเหวินที่เพิ่งจากไปก็ยืนอยู่ข้างชายชรา
ฮวงเฟิงอยากจะขึ้นไปกล่าวคำทักทายอีกฝ่าย แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เขาจึงรอโอกาสแล้วค่อยไปทักทาย
แต่ฮวงเฟิงกลับไม่ได้โอกาสนั้น ชายชราคนนี้มีผู้คนรายล้อมมากมาย เห็นได้ชัดว่าผู้คนเหล่านั้นจดจำเขาได้
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เซี่ยเมิ่งเจียว ซูหยูโม่และคนอื่น ๆ มางานวันนี้
แต่สำหรับฮวงเฟิงนั้นต่างออกไป เขาไม่ได้มีความคิดที่จะมาพบใครในงานเลี้ยง แต่มาเพื่อการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังงานเลี้ยงจบลง
ดังนั้นเมื่อซูหยูโม่และหญิงสาวอีกสองคนไปทักทายแขกคนอื่น ฮวงเฟิงที่ยืนอยู่ตามลำพังจึงเริ่มลงมือจัดการอาหารของตัวเอง
"เฮ้! สหาย นายเองก็ถูกลากมาที่นี่เหมือนกันเหรอ?" ขณะที่ฮวงเฟิงกำลังลิ้มรสอาหารอันโอชะ ได้มีเด็กหนุ่มร่างท้วมเล็กน้อยเดินมานั่งข้างๆแล้วพูดกับเขาอย่างสนิทสนม
ฮวงเฟิงมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความสงสัย ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าหมอนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เด็กอ้วนคนนั้นกินเค้กเต็มปากแล้วพูดว่า "นี่เป็นงานเลี้ยงที่น่าเบื่อที่สุดเลย! แต่พ่อของฉันบอกว่าจะลากฉันมาที่นี่ให้ได้ เขาอยากให้ฉันรู้จักคนอื่นเยอะๆน่ะ เฮ้อ ปวดหัวจริงๆ"
ฮวงเฟิงพอจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น ดูท่าเด็กอ้วนคนนี้จะเป็นลูกเศรษฐีที่ถูกพ่อลากตัวมาเพื่อเปิดหูเปิดตา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved