USB:บทที่ 461 สงครามเริ่ม
ครั้งนี้ฮวงเฟิงได้ใช้หมัดสายฟ้าแห่งสำนักเจ็ดนพเคราะห์ เพราะหลังจากที่เขาได้รับคัมภีร์ฝึกวิชา ฮวงเฟิงก็ไม่ได้ปิดบังว่าแท้จริงแล้วเขาสามารถใช้หมัดสายฟ้าแห่งสำนักเจ็ดนพเคราะห์ได้
แม้ว่าคนอื่นๆจะประหลาดใจที่เขาสามารถใช้วิชาหมัดได้อย่างชำนาญและเชี่ยวชาญ แต่พวกเขาแค่ทึ่งในความสามารถของฮวงเฟิงเท่านั้น และไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอะไรอีก
แม้ว่าฮวงเฟิงจะโต้กลับด้วยหมัดเดียว ทว่าสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ไม่ค่อยดีนักหากเท่าอีกฝ่าย เนื่องจากมีจอมยุทธมากมายในอาณาจักรวายุโชยและหนึ่งในนั้นก็คือคนสกุลหลิน
พวกเขามีพลังและความแข็งแกร่งเหนือกว่าจอมยุทธคนอื่นๆเป็นทุนเดิม ด้วยเหตุนี้ จึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทลายระดับขั้นได้ภายในเวลาอันสั้น
เนื่องจากฮวงเฟิงเคยติดต่อกับหลิวหมิงเจี๋ยและคนอื่นมาก่อน เขาจึงรู้สึกผูกพันต่ออาณาจักรสำเภาสวรรค์ และเขาก็ไม่อยากเห็นจอมยุทธในอาณาจักรสำเภาสวรรค์ถูกสังหารไปมากกว่านี้
นอกจากนี้ หลิวหมิงเจี๋ยที่ดีต่อเขายังอยู่ที่นี่ เขาจึงไม่ต้องการเห็นทั้งสองต้องมาตกอยู่ในอันตราย
จากนั้น ฮวงเฟิงจึงไม่ออมมืออีกต่อไป เขาปล่อยพลังทั้งหมดที่มี ใช้พลังเวทที่ต่างจากการโจมตีก่อนหน้านี้สร้างม่านพลังล้อมรอบตัวเขาทันที
จากนั้นที่ตรงนี้ก็ไม่มีจอมยุทธ์จากอาณาจักรวายุโชยแม้แต่คนเดียว ในตอนนี้คนพวกนั้นถ้าไม่นอนตายอยู่บนพื้นก็ถูกทำให้ตกจากกำแพงเมืองด้านบน
แต่อย่างไรก็ตาม ฮวงเฟิงกลับไม่คิดจะไม่หยุดมือ เขาใช้ท่าเท้าท่องคลื่นพุ่งผ่านฝูงชนและกวัดแกว่งดาบในมืออย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับพลังของเขา แม้อีกฝ่ายจะเป็นถึงยอดฝีมือระดับสองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
ทว่าตอนนี้พวกเขาเพิ่งเริ่มโจมตีเมือง ฝ่ายอาณาจักรวายุโชยจึงไม่ได้ส่งยอดฝีมือมามากเท่าที่ควร และอีกฝ่ายก็ไม่มียอดฝีมือที่มีระดับสูงกว่าระดับสองอยู่เลย
ท้ายที่สุด ด้วยความมุมานะของฮวงเฟิงทำให้เขาสามารถเอาชนะจอมยุทธ์ทุกคนที่ยืนอยู่ข้างบนกำแพงเมืองได้!
ในตอนที่ฮวงเฟิงจัดการศัตรูสำเร็จ คนที่ไม่ใช่ยอดฝีมือส่วนใหญ่ก็ได้มารวมตัวกัน พวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพมาตั้งแต่แรก และพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากสำนัก ทำให้บางคนต้องต่อสู้ด้วยตัวเองเพียงลำพัง
ในหมู่พวกเขาจึงไม่มีแม้แต่คนที่มีคุณสมบัติมากพอที่สามารถสั่งการคนอื่นได้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาไม่สามารถแสดงความสามารถของตนออกมา
นับตั้งแต่ที่ฮวงเฟิงปรากฏตัวและปลดปล่อยพลัง สถานการณ์ของพวกเขาก็ดีขึ้นมาก ทุกคนเหมือนกับได้พบความหวัง พวกเขาไม่มีอุปสรรคในการต่อสู้อีกต่อไป
“ปรมาจารย์กงหมิง ศัตรูที่อยู่ทางใต้ ดูท่าว่าจะมียอดฝีมือคอยปกป้องขอรับ”
ในค่ายนอกเมือง จอมยุทธ์คนหนึ่งได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านกงหมิงทราบ หลังจากสงครามเริ่มขึ้นปรมาจารย์กงหมิงก็ได้แบ่งจอมยุทธ์ที่ติดตามเขาออกเป็นกลุ่มย่อยและเข้ายึดสถานที่ต่างๆ
และคนที่กำลังรายงานเรื่องนี้ให้เขาทราบเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการโจมตีกำแพงเมืองทางใต้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ฮวงเฟิงอยู่ในตอนนี้
“ยอดฝีมือ? มันเก่งกาจมากงั้นรึ?” ปรมาจารย์กงหมิงถามกลับด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
"มันต้องเป็นยอดฝีมือระดับสองหรือสูงกว่านั้น ไม่เช่นนั้นลูกศิษย์ของข้าก็คงไม่ถูกคนอย่างมันสังหารแน่!" ชายคนนั้นตอบ
"ยอดฝีมือระดับสอง? ในอาณาจักรสำเภาสวรรค์มีจอมยุทธ์ระดับนั้นอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น" ปรมาจารย์กงหมิงกล่าว
"เช่นนั้น ข้าจะส่งลูกศิษทั้งสองตามเจ้าไปจัดการมัน สองคนนั้นเป็นถึงยอดฝีมือระดับสอง ฉะนั้นพวกเจ้าจะต้องจัดการเมืองนั้นให้ได้"
สาเหตุที่ทำให้ปรมาจารย์กงหมิงรีบสั่งการเป็นเพราะเขาต้องการอวดตัวต่อหน้าแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรวายุโชย เขาต้องการแสดงให้ศัตรูเห็นว่าแม้เขาจะมีกำลังพลน้อยนิดแต่ทรงพลัง
“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่เมตตา ข้าจะทำลายเมืองนั้นให้จงได้” โดยพื้นฐานแล้วอาณาจักรสำเภาสวรรค์ของเขาไม่มียอดฝีมือระดับหนึ่ง ดังนั้น คนที่เก่งที่สุดที่เขามีคือยอดฝีมือระดับสอง
และในตอนนี้เขามียอดฝีมือระดับสองติดตามมาด้วยถึงสองคน เขาจึงไม่ลังเลที่จะทำลายกำแพงเมือง
หลังจากนั้นชายคนนั้นก็พาลูกศิษย์ทั้งสองของปรมาจารย์กงหมิงไปยังบริเวณที่เขาดูแล “ครั้งนี้ต้องรบกวนท่านทั้งสองแล้ว”
ทว่ายอดฝีมือทั้งสองกลับรู้สึกรังเกียจที่ได้สนทนากับอีกฝ่าย เพราะในสายตาของพวกเขา ชายคนนี้ไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำลายกำแพงเมืองเล็กๆนั้นได้
ดังนั้น ชายคนนี้จึงถูกจัดอยู่ในประเภทคนไร้ประโยชน์ และพวกเขาก็ไม่ต้องการสนทนากับขยะให้เปลืองน้ำลาย
จากนั้นทั้งสองก็ไม่สนว่าชายคนนั้นพูดอะไรและรีบวิ่งไปที่กำแพงเมือง เพียงแค่กระทืบเท้าตรงกำแพงเมือง พวกเขาก็สามารถลอยขึ้นไปอยู่เหนือกำแพง
ฮวงเฟิงที่อยู่บนของกำแพงเมือง บังเอิญอยู่ที่ขอบกำแพงเมืองพอดี พอเขาเห็นว่ามีคนอื่นขึ้นมาบนนี้ เขาก็ปล่อยหมัดออกไปโดยไม่ลังเล
เพียงแต่ครั้งนี้ฮวงเฟิงที่ปล่อยหมัดไล่ศัตรูกลับสัมผัสได้ว่า นอกจากอีกฝ่ายจะยังไม่ตายแล้วยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นร่างของคนๆนั้นก็ตกลงไปในเมือง
ในขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ตกลงมาจากด้านบนสุดของเมือง ฮวงเฟิงถอยหลังกลับไปสองก้าว ในตอนนี้ได้มีคนอื่นปีนขึ้นมาบนกำแพงเมืองและลงจอดท่ามกลางฝูงชนเป็นที่เรียบร้อย
การปล่อยพลังที่รุนแรงทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ คนที่เหลือตัวแข็งทื่อจนไม่กล้าก้าวขาเดินไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียว แสดงว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เขาจะรับมือได้ง่ายๆอย่างแน่นอน
เขากระโดดไปด้านข้างของอีกฝ่ายและฟาดฝ่ามือออกไป ส่งให้เขาลอยไปไกล คนๆนั้นพ่นเลือดออกมาสาดกระเด็นไปทั่วบริเวณ
ฉากที่ได้เห็นตรงหน้าคือคนๆนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถทรงตัวได้ตกลงมาจากด้านบนสุดของกำแพง และไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป
"คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าคนนี้!" เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงทำเรื่องโหดเหี้ยม ฮวงเฟิงจึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะฟื้นพลังลมปราณของตน
ยังดีที่เขาสามารถใช้ท่าเท้าท่องคลื่นได้ เขาจึงวิ่งเข้าหาอีกฝ่ายด้วยการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาด
ปัง!
หมัดของฮวงเฟิงปะทะคู่ต่อสู้ทำให้ทั้งสองฝ่ายถอยไปคนละสองก้าว ทันใดนั้นทั้งสองก็ได้ทราบถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่คนอ่อนแอ ดังนั้นทั้งคู่จึงยังระมัดระวังมากขึ้น
และในตอนนั้นเอง ชายคนที่เพิ่งถูกฮวงเฟิงต่อยจนตกลงไปก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ชายคนนั้นตวาดเสียงดัง
"สุนัขจากอาณาจักรสำเภาสวรรค์อย่างเจ้ากล้าทำร้ายผู้อาวุโสเช่นข้ารึ! ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!"
ทว่าในตอนที่เขาพูดจบ ร่างของเขาก็หยุดชะงักกลางอากาศ จากนั้นเขาก็ล้มลงบนกำแพงเมืองและหยุดหายใจทันที
เหตุการณ์พลิกผันแบบไม่คาดฝันทำให้ทุกคนต่างพากันหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นเป็นยอดฝีมือ แต่เขาก็เสียชีวิตไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คนที่เหลือต่างคิดว่ามันช่างไม่มีเหตุผลและยากที่จะยอมรับมันได้
แต่ว่าคนๆนั้นรนหาที่เองนี่นา…
ฮวงเฟิงลอบถอนใจในใจ
"ไม่ว่าวรยุทธ์ของเจ้าจะสูงแค่ไหน เจ้าก็ควรเกรงกลัวคนมีปืน"
สิ่งของพวกนี้ที่เขาได้มาจากมิติอื่นสามารถนำมาใช้ในที่นี้ได้ ก่อนหน้านี้ ฮวงเฟิงไม่เคยใช้มันมาก่อน แต่ตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาจึงเลือกที่จะไม่ออมมือ!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved