USB:บทที่ 296 ถูกสับเปลี่ยน
"นำของมาและเอาไปมอบให้กัปตันปาร์คเกอร์!" โอวหยางเทียนกล่าวกับผู้คุมที่ยืนอยู่เบื้องหลังเขา
ตอนนี้ในมือของผู้คุมคนดังกล่าวกำลังถือกล่องใบหนึ่งอยู่ซึ่งมันเป็นกล่องที่มีผลเวอร์มิลเลี่ยนแสนล้ำค่าที่โอวหยางเทียนเห็นก่อนหน้านี้ จริง ๆ แล้วทั้งโอวหยางเทียนและคนที่เหลือฝ่ายเขาต่างก็เคยเห็นมาพร้อมกันแล้ว ส่วนฝ่ายกองทหารโลหิตสีชาดเองก็เคยพบกล่องกล่องนี้มาก่อนเช่นกัน
ปาร์คเกอร์รู้ว่าในกล่องนั้นมีผลเวอร์มิลเลี่ยนอยู่ พวกกองทหารรับจ้างที่มีระดับสูงกว่าเขาต่างก็รู้ประสิทธิภาพของผลเวอร์มิลเลี่ยนด้วยและปาร์คเกอร์เองก็รู้สึกอิจฉาคนที่ได้ครอบครองผลไม้นี้อยู่เช่นกัน ครั้งนี้กองทหารรับจ้างโลหิตสีชาดไม่ได้มาเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับรองกัปตันและตามหาตระกูลโอวหยางเพียงเท่านั้นแต่พวกเขามาด้วยอีกเหตผลนั้นก็คือ ผลเวอร์มิลเลี่ยน
นอกจากนี้ที่ผ่านมาเขาต้องเผชิญความยากลำบากมากมายมาเป็นเวลานาน ซึ่งการได้ใช้ผลเวอร์มิลเลี่ยนนั้นอาจช่วยให้เขาให้ผ่านอุปสรรคไปได้ อีกทั้งความเร็วในการฝึกยุทธ์ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครในอาณาจักรที่จะเพิกเฉยต่อสิ่งที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายได้มากขนาดนี้ลงได้
แต่ในตอนนั้นหลังจากที่เขาได้รับผลเวอร์มิลเลี่ยนมาเขากลับต้องไปที่เมืองอื่นเขาจึงต้องหาคนอื่นมาดูแลมันและนั้นคือเหตุผลที่เขาฝากผลเวอร์มิลเลี่ยนไว้กับรองกัปตัน หลังจากที่เขาทราบเรื่องมาจากสมาชิกในทีมว่าผลเวอร์มิลเลี่ยนถูกขโมยไปและสมาชิกคนอื่น ๆ ในกองทหารก็ถูกฆ่าด้วยซึ่งนั้นทำให้เขาโกรธมาก สิ่งแรกที่เขาจะทำต่อจากนั้นไม่ใช่การแก้แค้นแต่เป็นการตามหาผลเวอร์มิลเลี่ยนกลับคืนมาให้ได้รวดเร็วที่สุดต่างหาก มิเช่นนั้นหากปล่อยเวลานานเกินไป อีกฝ่ายอาจกินผลเวอร์มิลเลี่ยนไปก่อนได้ สุดท้ายเวลาเขาจะฆ่าล้างตระกูลของอีกฝ่ายได้ แต่มันก็ไม่สามรถทดแทนกับผลเวอร์มิเลี่ยนได้
ส่วนเรื่องที่รองกัปตันถูกสังหารเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาโกรธเป็นอย่างมาก แต่จริง ๆ แล้วในใจเข้าก็แอบรู้ดีและรู้สึกขอบคุณโอวหยางซิงเหวินด้วยซ้ำเนื่องจากเดิมทีรองกัปตันนั้นเป็นที่เคารพนับถือมากกว่าเขา พวกเขามีความเห็นไม่ค่อยตรงกันอยู่บ่อยครั้งและรองกัปตันมักจะคัดค้านเขาอยู่เสมอ ในกองทหารยังมีคนอีกมากมายที่สนับสนุนรองกัปตัน ดังนั้นปาร์คเกอร์จึงต้องการหาข้ออ้างเพื่อบีบให้เขาออกมานานแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าโอวหยางซิงเหวินจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังมีผลเวอร์มิลเลี่ยนเหลืออยู่เพียงลูกเดียว ถ้าให้เขาพูดตรง ๆ แน่นอนว่านี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลและแน่นอนว่าจริง ๆ แล้วเขาสามารถแบ่งมันออกเป็นสองชิ้นได้ แต่หากทำเช่นนั้นประสิทธิภาพคงไม่ดีเท่ากินไปทั้งลูก ดังนั้นหลังจากที่รองกัปตันเสียชีวิตไป เขาจึงไม่จำเป็นต้องแบ่งผลเวอร์มิลเลี่ยนกับใครอีก
เมื่อผู้คุมของตระกูลโอวหยางกำลังจะมอบกล่องให้กับปาร์คเกอร์ ปาร์คเกอร์ก็ก้าวไปรับกล่องนั้นด้วยใจที่หมายมั่นโดยที่ไม่ต้องให้ผู้อื่นเข้ามาช่วยด้วยซ้ำ แต่อย่างไรหลังจากที่เขารับกล่องมาเขาพบว่ามีร่องรอยว่ากล่องได้ถูกเปิดออกโดยใครบางคนจากฝ่ายตระกูลโอวหยางและมิหนำซ้ำยังเป็นการเปิดโดยใช้กำลังอีกด้วย เขามองไปที่โอวหยางเทียนด้วยความไม่พอใจเพราะเห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนในตระกูลโอวหยางเปิดกล่องนี้และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้นำตระกูลโอวหยางที่อยู่ตรงหน้าเขาเสียด้วย
“ข้าเป็นคนเปิดกล่องนี้เอง แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ได้เอาของข้างในไปและไม่ได้สับเปลี่ยนของด้วย ” โอวหยางเทียนเริ่มพูดเมื่อเขาเห็นท่าทีของอีกฝ่ายซึ่งเขาเองก็เข้าใจความคิดของอีกฝ่ายอย่างไม่ต้องสงสัย
ปาร์คเกอร์พยักหน้าตอบ อีกฝ่ายคงไม่ได้กินผลเวอร์มิลเลี่ยนข้างในเพราะหากเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายคงไม่กล้ามอบกล่องคืนให้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะคิดอย่างนั้นในใจ ปาร์คเกอร์ก็ยังคงกังวลอยู่เล็กน้อยเนื่องด้วยผลเวอร์มิลเลี่ยนนั้นล้ำค่ามาก เช่นนั้นเขาจึงคิดจะเปิดกล่องต่อหน้าอีกฝ่ายเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าผลเวอร์มิลเลี่ยนยังคงอยู่ในกล่องและเพื่อความสบายใจของเขาเองด้วย
และเมื่อเห็นการกระทำของปาร์คเกอร์ ความรู้สึกโกรธก็เผยให้เห็นบนใบหน้าของโอวหยางเทียน การกระทำของปาร์คเกอร์นั้นเห็นชัดว่าเขาต้องการบอกทุกคนให้ทราบว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่โอวหยางเทียนพูด
การกระทำเพียงเท่านั้นไม่เพียงแต่จะทำให้โอวหยางเทียนโกรธ เมื่อปาร์คเกอร์เปิดกล่องออกเขาก็ต้องตกตะลึงทันทีกับสิ่งที่เห็น จากนั้นทุกคนต่างเห็นว่าเขาโกรธขึ้นมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดและสีหน้าของเขาที่แสดงออกมาก็ดูน่าขนลุกและน่าหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีก
ปาร์คเกอร์ไม่เคยคิดเลยว่าโอวหยางเทียนจะอยากมีปัญหากับเขาจริง ๆ นี่เขากล้าสลับของที่อยู่ในกล่องแล้วส่งคืนมาให้อย่างนั้นหรือ นี่มันถือว่าเป็นการหลอกหลวงกันซึ่ง ๆ หน้า สงสัยโอวหยางเทียนคงคิดว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดีแน่หรือเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาโอวหยางเทียนยังฆ่าคนของเขาไม่พออีกหรือ? นี่มันยั่วกันชัด ๆ
โอ;หยางเทียนสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของปาร์คเกอร์ โดยสัญชาตญาณเขารับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่อย่างไรเขาก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจแต่กลับรู้สึกโกรธมากกว่า
“ข้าคืนของของท่านให้แล้ว แล้วทำไมถึงยังโกรธอยู่อีก? เป็นเพราะข้าทำกล่องของท่านแตกงั้นหรือ?”
"ท่านผู้นำตระกูลโอวหยาง เรื่องนี้ท่านจะอธิบายกับข้ายังไง?!" ปาร์คเกอร์หยิบแอปเปิ้ลออกมาจากกล่องแล้วโยนกล่องทิ้งไป จากนั้นจึงยกแอปเปิ้ลขึ้นต่อหน้าพร้อมพูดกับโอวหยางเทียนด้วยสีหน้าดุดัน
เมื่อปาร์คเกอร์หยิบแอปเปิ้ลออกมา เบื้องหลังเขาก็มีเสียงอึกทึกดังขึ้น เพราะเขารู้ว่าข้างในกล่องควรมีผลเวอร์มิลเลี่ยนอยู่ ไม่เพียงแต่ปาร์คเกอร์เท่านั้นที่รู้แต่ทหารรับจ้างหลายคนเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
“ พูดมาได้ยังไงว่าสิ่งนี้คืออะไร? นี่ท่านไม่เห็นจริง ๆ หรือว่ามันคืออะไร? ท่านยังจะให้ข้าต้องถามอีกหรือ?” โอวหยางเทียนพูดด้วยความสับสนเพราะเห็นชัดว่าปาร์คเกอร์เองก็กำลังถือผลไม้นั้นอยู่แล้วเหตุใดเขาจึงยังตั้งคำถามอย่างไม่พอใจกับเขาอยู่อีก หรือว่าเขาอาจจะเป็นคนโง่เง่าเกินไป
"ท่าน!" ปาร์คเกอร์ไม่คิดว่าเขาจะกล้าสับเปลี่ยนของข้างใน มิหนำซ้ำตอนนี้โอวหยางเทียนยังไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นอีก เช่นนั้นเขาจึงกล่าวว่า
"ข้ามาที่นี่เพื่อมาเจรจาด้วยความจริงใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลโอวหยางจะไม่ยอมจบเรื่องนี้ลงง่าย ๆ นี่ท่านดูถูกพวกเราเกินไปหรือเปล่า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นโอวหยางเทียนถึงกับขมวดคิ้วและพูดว่า "ดูถูกหรือ? ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกำลังหมายถึงอะไร?"
"ไม่ใช่หรือ? ก็ท่านสับเปลี่ยนของในกล่องและยังโกหกพวกเราซึ่ง ๆ หน้า นั้นไม่ใช่การดูถูกพวกเราหรอกหรือ?" ปาร์คเกอร์ถาม
"สับเปลี่ยน?" โอวหยางเทียนส่ายหัว: "ข้าไม่ได้ทำ ข้าแค่เปิดกล่องแล้วดูของที่อยู่ข้างในและไม่ได้สับเปลี่ยนอะไรเลย แม้ว่าจริง ๆ แล้วข้าก็อยากจะกินมันก็ตาม แต่ถ้าเป็นอย่างที่ท่านว่า ข้าคงไม่นำกล่องมาคืนท่านถึงที่นี่หรอก"
"แต่มันเปลี่ยน! สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในกล่องก่อนหน้านั้นที่อยู่กับเรา! "ปาร์คเกอร์เองก็รู้สึกได้ว่าคำพูดของโอวหยางเทียนนั้นมีเหตุผล แต่ความจริงก็เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจสงสัยได้ แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นผลเวอร์มิลเลี่ยนมาก่อนแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ผลเวอร์มิลเลี่ยนแน่นอน ฉะนั้นแสดงว่าตอนนี้ผลเวอร์มิลเลี่ยนหายไป
“ ไม่ใช่หรือ” โอวหยางเทียนจ้องมองสิ่งนั้นอย่างว่างเปล่าชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาหันไปมองลูกชายของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
“ พ่อ ข้าไม่ได้ทำอย่างนั้น พ่อก็เห็นว่ากล่องมันล็อกอยู่” โอวหยางซิงเหวินรีบอธิบายทันทีเมื่อเห็นพ่อจ้องมองมา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved