ตอนที่ 722

USB:บทที่ 722 สังหารไม่เหลือ

"จะทำไงกับเขาดี?" หนึ่งในผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ใกล้กับโอวหยางเทียน ได้หันไปมองโอวหยางซิงเหวินที่กำลังหวาดกลัวสุดขีดได้พูดขึ้น

"อย่าฆ่าข้า ได้โปรดอย่าฆ่าข้า!" โอวหยางซิงเหวินร้องให้วิงวอน น้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย อีกทั้งตอนนี้บิดาผู้ที่คอยปกป้องคุ้มภัยได้เสียชีวิตลงแล้ว ทำให้เขารู้สึกเศร้าโศกอย่ามากและสับสนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในเวลานี้นั่นก็คือวิงวอนขอความเมตตา ภาวนาให้คนที่ลงมือสังหารบิดายอมละเว้นชีวิตเขา

"ฆ่าเขาซะ!" โอวหยางจงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน ไม่เหลือเค้าโครงความอ่อนแอเหลืออยู่อีก

"ไม่" โอวหยางซิเหวินร้องให้พร้อมกับส่ายหน้า เขาหันไปมองผู้เป็นอาแล้วพูดขึ้น "ท่าอา ได้โปรดละเว้นข้าด้วย ข้ารับปากว่าจะไม่คิดแก้แค้นแทนท่านพ่อของข้า"

แม้ว่าจะได้ยินเช่นนั้นโอวหยางจงถือมีดสั้นที่ทำร้ายโอวหยางเทียนจนได้รับบาดเจ็บแล้วเดินตรงเข้าไปหาโอวหยางซิงเหวิน เขาไม่สามารถปล่อยหลานชายไปได้ เพราะถ้าหากเขาทำเช่นนั้นก็จะไม่ปลอดภัยต่อตำแหน่งผู้นำตระกูลของเขาก็จะไม่มั่นคง

"ไม่ ได้โปรดอย่าฆ่าข้า" โอยหยางซิงเหวินพูดขึ้นอย่างคนขลาด และเมื่อหยางจงเดินเข้ามาหยุดอยู่ใกล้ ๆ โอวหยางซิงเหวิน ไม่มีท่าทีลังเลใจสักนิด เขายกมีดสั้นขึ้นแล้วจ้วงแทงไปที่โอวหยางซิงเหวินผู้เป็นหลานชายจนถึงแก่ความตาย  แม้กระทั่งในเวลานี้สีหน้าและแววตาของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย หากทว่าโอวหยางซิงเหวินไม่มีโอกาสขัดขืนแม้แต่น้อย เนื่องจากเดิมทีแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่มีทักษะใด ๆ  และมิหนำซ้ำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้เขาหวาดกลัวเป็นที่สุด  สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือร้องขอความเมตตา และมองดูมีดสั้นที่ปักลงมาบนหัวใจของตัวเอง

"เอาละ นับจากนี้ไป โอวหยางจงคือท่านผู้นำตระกูลของพวกเรา" ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวขึ้น

ใบหน้าจองโอวหยางจงเต็มไปด้วยร้อยยิ้ม เพียงเพื่อตำแหน่งนี้เขาได้ซุ่มวางแผนมานานหลายปี และวันนี้ในที่สุดเขาก็สามารถเขาก็รับในสิ่งที่ต้องการแล้ว และเป้าหมายต่อไปนั่นก็คือหลุดพ้นจากควบคุมของคนพวกนี้

"ใครก็ได้ นำศพสองคนนี้ไปฝังที่ไหนสักแห่ง" ผู้อาวุโสสูงสุดออกคำสั่ง

หลังจากนั้นบ่าวรับใช้สองสามคนก็เข้ามาในห้อง ทว่าพวกเขากลับไม่รู้สึกแปลกใจกับภาพเหตุการณ์เบื้องหน้ามากนัก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็คือคนของผู้อาวุโสสูงสุด

"มือข้างขวานั่น!" แต่วินาทีนั้นเองผู้อาวุโสสูงสุดที่อยู่ด้านในก็ตะโกนเสียงดังขึ้น

"มีอะไรเหรอขอรับ?" เมื่อเห็นดังนั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ได้เอ่ยถามขึ้น

"เปล่า ไม่มีอะไร" พูดพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาไม่อาจบอกกับทุกคนถึงสิ่งที่เขาสังเกตเห็นและฉุดคิดขึ้นมาได้ แม้ผู้อาวุโสท่านนั้นจะสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของผู้อาวุโสสูงสุด แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก และเมื่อผู้นำสูงสุดมองดูร่างไร้วิญญาณของโอวหยางเทียนที่กำลังถูกเคลื่อนย้ายลอยผ่านหน้าเขาไป ทันใดนั้นสายตาของเขาปะทะเข้ากับนิ้วมือของโอวหยางเทียน แหวนอยู่นั่น เดิมทีผู้อาวุโสสูงสุดนึกละโมบอยากได้แหวนมิติของโอวหยางเทียนอยู่ก่อนแล้ว ในที่สุดวันนี้เขามีโอกาสที่จะได้ครอบครองมัน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่มีทางปล่อยให้มันหลุดมือไป

อย่างไรก็ตามแหวนมิติมันก็มีอยู่เพียงแค่วงเดียวเท่านั้น และเขาก็อยากได้มัน และนั่นก็ดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่ที่นี้ก็อยากได้แหวนนี่เช่นเดียวกัน โชคดีที่คนพวกนี้ยังมทันคิดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจังไม่อยากกระโตกกระตากให้คืนอื่นรู้  และเมื่อจัดการกับโอวหยางเทียนได้แล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันออกไปจากห้องนั้น ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสูงสุดก็เดินกลับไปยังที่พักของตัวเองเช่นเดียวกัน หากแต่เมื่อเขากลับเลี้ยวเข้าไปยังมุมหนึ่งของตัวบ้าน แล้วมุ่งหน้าไปยังที่อื่นแทน เขารีบวิ่งไล่ตามพวกบ่าวรับใช้ที่นำร่างไร้วิญญาณของสองพ่อลูกออกไป

"ช้าก่อน!" เมื่อเขาไล่มาทัน เขาก็ร้องเรียกบ่าวรับใช้พวกนั้นไว้

"ผู้อาวุโสสูงสุด ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือขอรับ?" เมื่อโอวหยางเทียนได้สิ้นใจลงแล้ว และโอวหยางจงก็ได้กลายเป็นผู้นำของตระกูล แต่อย่างไรก็ตามในผู้ที่กุมอำนาจแท้จริงก็คือผู้อาวุโสสูงสุดที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาต่างหาก เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วบ่าวรับใช่พวกนี้จึงไม่มีใครลบลู่เขา เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะต้องแสดงความนอบน้อมและให้เกียรติเขา

"ข้าก็แค่อยากจะเคารพศพท่านโอวอยางเทียนเป็นครั้งสุดท้าย" ผู้อาวุโสสูงสุดบอกกับบ่าวรับใช้พวกนั้น

"ขอรับ" แม้ว่าคำพูดของท่านผู้นำสูงสุดนั้นจะฟังดูประหลาดไปสักหน่อย ทว่าบ่าวรับใช้ทั้งบ่าวรับใช้สองคนที่แบกร่างของโอวหยางเทียนอยู่นั้นก็ได้ว่างร่างเขาไว้กับพื้นและรอให้ผู้อาวุโสสูงสุดได้แสดงความเคารพศพ

"พวกเจ้าสองคนวางร่างเขาไว้กับพื้นแล้วออกไปยืนรอห่าง ๆ  ไม่ต้องเข้ามาจนกว่าข้าจะเรียก ข้าไม่อยากถูกรับกวน" ผู้อาวุโสสูงสุดกำชับออกไปเช่นนั้น

"ขอรับนายท่าน!"

จากนั้นทั้งสี่คนก็ได้เดินออกไปจากตรงนั้น เขารอจนกว่าทั้งหมดจะเดินไกลออกไปพอสมควรแล้ว เขาก็มองไปที่มือขวาของโอวหยางเทียน แล้วมองไปที่แหวนที่อยู่บนนิ้วมือขอร่างไร้วิญญาณด้วยความตื่นเต้น แหวนยังอยู่ เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าที่เขามาที่นี่ก็เพื่อตามหาแหวนมิติ

"ทำไมข้าจึงรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกันนะ?" เมื่อเขาถอดแหวนออกมาจากนิ้วมือของโอวหยางเทียน ก็สังเกตเห็นได้ว่าแหวนวงนี้มันดูแตกต่างไปจากแหวนที่เขาเห็นเมื่อสักครู่นี้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ บ่าวรับใช้พวกนั้นย่อมไม่มีทางสับเปลี่ยนแหวนได้ทันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นอาวุโสสูงสุดผู้นี้จึงไม่ได้คิดอะไรมากนัก อีกทั้งยังคิดว่าแหวนที่เขาเห็นก่อนหน้าที่อาจะเป็นแหวนวงอื่น

นอกจากนั้นแล้วในตอนนี้ก็เป็นเวลาค่ำคืนสายตาของเขาก็ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้ที่เขาเห็นแหวนผิดวง หลังจากนั้นที่เขาก็ซุกซ่อนเก็บแหวนวงนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลุกขึ้นแล้วส่งเสียงเรียกบ่าวรับใช้ที่อยู่ห่างออกไป "เอาละ เข้ามาแล้วเอาศพสองคนนี่ออกไปซะ"

"ขอรับท่านผู้อาวุโสสูงสุด! บ่าวรับใช้ทั้งสี่คนตอบรับคำสั่งเป็นเสียงเดียวกัน

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุดก็กลับไปยังที่พักด้วยความรู้สึกพึงพอใจ แน่นอนว่าเขารู้สึกพึงพอใจกับการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในวันนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถสังหารโอวหยางเทียนได้เท่านั้น ต่อไปเขาก็จะมีอำนาจสามารถควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง

ส่วนอีกด้านฮวงเฟิงที่อยู่ในโลกปัจจุบันนั้นก็อารมณ์ไม่ต่างกัน  ในที่สุดแล้วไวน์ตัวใหม่ของเขาก็สามารถวางตลาดได้แล้วในวันนี้ นอกจากนั้นแล้วด้วยความพยายามหนักก่อนนหน้านี่ทำให้ในตอนนี้ไวน์ของเขากลายเป็นไวน์ขึ้นชื่ออยู่ในมณฑลเจียง  แต่เนื่องจากเขายังคงมีต้นทุนที่จำกัดทำให้การโฆษณาทั้งหมดของเขาจึงพุ่งเป้าไปที่มรฑลเจียงเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นฮวงเฟิงก็ยังมั่นใจว่าหลังจากที่แล้วไวน์ของเขาก็จะได้มีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น จนสามารถแพร่กระจายไปถึงเมืองอื่น ๆ โดยรอบได้ไม่ยาก ฮวงเฟิงมั่นใจในคุณภาพไวน์ของเขามาก

นอกจากนี้แล้วยังมีพ่อค้าสายตาดี ไม่เพียงแค่นี้เขายังมีพอมีตัวแทนจำหน่ายคอยเสาะหาลูกค้า เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของฮวงเฟิงนั้นมีชื่อเสียงอยู่แค่ในมณฑลเจียงเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นแค่โรงงานขนาดเล็ก ดังนั้นตัวแทนจำหน่ายเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนท้องถิ่น ที่อาศัยอยู่ในเมือง ชานเมือง และแม้แต่ในตัวจังหวัดก็ไม่ใช่แค่คนคนเดียว

"อาวุโสเหอ ทุกอย่างเตรียมการไปถึงไหนแล้วครับ? มีปัญหารอะไรไหม?" เช้าตรู่วันนั้น ฮวงเฟิงก็ได้เดินทางมาถึงโรงกลั่นไวน์ของเขาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่ไวน์จากโรงงานของเขาออกสู่ตลาด แน่นอนว่าเขาจะคอยเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด