USB:บทที่ 417 ไปจัดการซะ
“เพล้ง!”
นี่เป็นถ้วยน้ำชาถ้วยแรกที่ผู้นำอันดับสองของเมืองชิง ปัดตกลงมา ตอนนี้เขาอารมณ์เสียมาก มีทั้งความโกรธความกลัวผสมกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อผู้กำกับชิวได้สมุดบัญชีเล่มแรกมา เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะมันเกี่ยวข้องกับคนชั้นล่าง ตราบใดที่เขาและบุคคลสำคัญคนอื่นๆ รอบตัวไม่เกิดปัญหา เขาก็สามารถดำเนินการ ลดความสำคัญและแก้ไข เพื่อช่วยพรรคพวกได้
แต่เมื่อเขาพบว่าผู้กำกับชิวได้บัญชีเล่มที่สองจากฮวงเฟิง เขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เพราะสมุดบัญชีเล่มนี้เกี่ยวพันกับคนรอบตัวเขา คนที่มักจะตามหลังเขา คอยโบกธงและตะเบ็งเสียง
ที่สำคัญไปกว่านั้น ถ้าผู้กำกับชิวสืบหาต้นตอได้ ก็เป็นไปได้สูงที่ตัวเขาจะติดกับ ดังนั้นไฟในมือของผู้กำกับชิวไม่ได้แค่เผามือเขา แต่มันกำลังเผาตัวเขา
อาจกล่าวได้ว่า ผู้นำอันดับสองนี้ปฏิบัติการอยู่ในเมืองชิงมาเป็นเวลาหลายปี ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของเขายังมีอยู่มาก เพราะหลังจากที่ฮวงเฟิงส่งมอบสมุดบัญชีให้แก่ผู้กำกับชิวได้ไม่นาน ผู้นำอันดับสองก็ล่วงรู้แล้วว่ามีสมุดบัญชีอยู่ และรู้แม้กระทั่งรายชื่อคนที่เกี่ยวข้องมากกว่าครึ่ง
ไปถามเขาสิว่า เขาต้องการทำอะไร?! เขาคงพอใจสินะที่จับสมาชิกทั้งหมดของเมืองชิงไว้? “อ้า!” ผู้นำอันดับสองตะโกนออกมาจากในออฟฟิศของเขาเพื่อระบายความอัดอั้น
เลขาที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือทายาทสายตรงของผู้นำอันดับสอง หลังจากที่ได้ติดตามผู้นำอันดับสองมาหลายปี ได้รู้ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างของผู้นำอันดับสอง เขาก็ยังคงภักดีมาโดยตลอด ดังนั้นผู้นำอันดับสองจึงไม่ปิดบังอะไรเขา
เขารู้ว่าผู้นำอันดับสองพูดถึงเรื่องอะไร และรู้ด้วยว่าทำไมถึงโกรธ ในเวลานี้ในใจเขานั้นหวาดกลัว เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นกับผู้นำอันดับสองแล้ว เลขาก็ไม่รอด เพราะเป็นผู้ติดตามผู้นำอันดับสองมาหลายปี รู้อะไรหลายๆ อย่าง และมีส่วนร่วมกับผู้นำอันดับสองในหลายๆ เรื่อง
"ท่านผู้นำ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะโกรธ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือแก้ไขเรื่องนี้ก่อน อย่างน้อยที่สุดเราต้องกำจัดความเกี่ยวพันของเราออกไป" เลขารอจนกระทั่งผู้นำอันดับสองสงบลงก่อนจะกระซิบ
“ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร ฉันอยากให้นายพูด!” ผู้นำอันดับสองจ้องมองมายังเขาและพูดว่า “แต่เรื่องนี้จะง่ายขนาดนี้ได้ยังไง!”
เขาไม่อาจคืนเงินและสิ่งของทั้งหมดที่เก็บไว้มาก่อนหน้านี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงบางส่วนที่เขาได้ใช้หมดไปแล้ว มันไม่มีประโยชน์ และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคืนของทั้งหมดในตอนนี้ เขาคาดว่าคนเหล่านั้นอาจตกเป็นเป้าแล้ว กระทั่งตัวเขาก็อาจถูกจับตาอยู่
ขณะที่คิดถึงวิธีการตอบโต้ เขามองไปยังผู้นำของเขาที่กำลังขมวดคิ้ว เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะหาทางแก้ไขปัญหา เรื่องนี้เกี่ยวพันกับเขาอย่างมาก เขาไม่มีทางออกจากร่างแหนี้ได้
เอ่อ รู้แล้ว!
"ท่านผู้นำ ถ้าถงเฉียนจุนถูกปิดปากให้สนิท แม้จะมีบางคนจะยังคงถูกจับ แต่ก็จะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก เลขาเข้าหาผู้นำและทำการกระซิบ ลดเสียงลงต่ำโดยไม่รู้ตัว แม้ว่ารอบๆ จะไม่มีใครอยู่
“ความหมายของนายก็คือ?” ดวงตาของผู้นำอันดับสองวาวขึ้น หากไม่มีพยานปากเอก เขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งได้ เขาไม่สามารถออกจากร่างแหได้ แต่มันจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน
เลขาพยักหน้า ผู้นำอันดับสองเริ่มใคร่ครวญ
อันที่จริง พวกเขาเคยคิดที่จะลงมือจัดการกับถงเฉียนจุนมาก่อน แต่ในเวลานั้น ถงเฉียนจุนเพิ่งถูกจับมา หากพวกเขาเคลื่อนไหว ผู้คนก็จะคิดได้ว่าพวกเขาเป็นคนลงมือฆ่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ใครจะกล้าพึ่งพาพวกเขาในอนาคต?
และในตอนนั้น พวกเขาก็สงสัยเช่นกันว่าถงเฉียนจุนมีหลักฐานอะไรอยู่ในมือ เลยเป็นสาเหตุให้พวกเขายังไม่ลงมือจัดการ
แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว หากพวกเขายังลังเลต่อไปไฟอาจลามถึงร่างได้ ไม่ต้องใส่ใจอะไรให้มาก ในเวลานี้พวกเขาต้องเด็ดขาด
"ดี!" ฉันจะให้นายจัดการเรื่องนี้! ให้เขาปิดปากถงเฉียนจุนตลอดไป!" ในที่สุดผู้นำอันดับสองก็ตัดสินใจและมองไปยังเลขาของเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
ณ เวลานี้ เลขาอยากร้องไห้เงียบๆ อยู่ในใจ เขาเสียใจที่เสนอวิธีการเช่นนั้น มันเป็นวิธีตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้ภัยมาถึงตัว ถ้าเรื่องถูกเปิดโปง เขาจะเป็นคนแรกที่ต้องรับทุกข์
มันสายเกินไปแล้วที่จะพูดอะไรในตอนนี้ อีกทั้งถ้าเขาไม่ปิดปากของถงเฉียนจุนซะ เขาก็จะตกที่นั่งลำบาก
"ครับ ท่านผู้นำ ผมจะจัดการให้ทันที!" เลขากล่าว
คราวนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผู้นำอันดับสอง ต้องมีหลายคนเดือดร้อน ดังนั้นในเวลานี้เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง หลายๆ คนจะใช้โอกาสนี้ช่วยผู้นำอันดับสอง ในบรรดาเพื่อนร่วมงานของผู้กำกับชิว ก็มีคนจำพวกนี้เช่นกัน แม้ว่าผู้กำกับชิวจะไม่เข้าหาผู้นำอันดับสอง แต่ในบรรดาลูกน้องของผู้กำกับชิว ก็มีบางคนที่ให้คำมั่นว่าจะสวามิภักดิ์จงรักภักดีต่อผู้นำอันดับสอง
หลังจากที่เลขารับคำ เขาก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร
ในตอนเย็นฮวงเฟิงมีนัดจะไปกินข้าวกับกัวเหลียงและคนอื่นๆ แต่เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้กำกับชิว จึงปฏิเสธกัวเหลียง และบึ่งไปพบผู้กำกับชิว
"เกิดขึ้นเมื่อไรเนี่ย ไม่ได้มีคนคุ้มกันเหรอ เป็นไปได้ได้ยังไง" เมื่อฮวงเฟิงเจอกับผู้กำกับชิว เขายิงคำถามใส่เป็นชุดทันที สีหน้าของฮวงเฟิงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ที่ฮวงเฟิงมีสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าตำหนิ เพราะข่าวที่ผู้กำกับชิวเพิ่งบอก ทำให้เขากังวล ถงเฉียนจุนตายแล้ว ตายต่อหน้าต่อตาพวกเขา ถงเฉียนจุนเพิ่งถูก "ฆ่า" แบบนั้น
"เรื่องมันเพิ่งเกิด เราเพิ่งเจอ" การแสดงออกทางสีหน้าของฮวงเฟิงก็น่าเกลียดมากเช่นกัน ไม่เฉพาะน้ำเสียง เหตุเพราะเรื่องเกี่ยวกับถงเฉียนจุน
อาจกล่าวได้ว่าฮวงเฟิงฝากความหวังทุกอย่างไว้กับคดีนี้ ตอนนี้เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคงจะแปลกถ้าเขาอารมณ์ดี
แต่ก็ยังดีที่ฮวงเฟิงนำสมุดบัญชีและปากกาบันทึกเสียงของถงเฉียนจุนกลับมาแล้ว ด้วยของสองสิ่งนี้แม้ถงเฉียนจุนจะตายไปแล้ว เขาก็ยังจัดการบางคนได้
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved