ตอนที่ 590

USB:บทที่ 590 หาเรื่อง (6)

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียนจุนทำท่าจะลุกขึ้นสู้ เขารู้สึกราวกับว่าตัวของถูกกดทับเอาไว้ต่อให้พยายามสักแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถหลุดเป็นอิสระได้ เทียนจุนมองดูฮวงเฟิงด้วยความรู้สึกงุนงง ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่

"อยู่นิ่ง ๆ  ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น วันนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมคนเดียวพอ ถ้าหากคุณลงมือทำอะไรลงไป อนาคตชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยศัตรูมากมาย!" ฮวงเฟิงพูดกับเทียนจุน

ฮวงเฟิงรู้ดีว่าเทียนจุนคิดอะไรอยู่ และหลังจากที่เขาถามถึงคำถามที่เขาได้ถามไป๋เสี่ยวโหรวก่อนหน้านี้ เธอก็ได้บอกวิธีที่จะได้รับมอบความจงรักภักดีของเทียนจุนด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นในเวลานี้ในหัวของเขาส่วนใหญ่คิดถึงแต่เรื่องที่จะหาเงิน เพื่อซื้อขายสิ่งที่เขาต้องการจากกล่องจักรวาล สำหรับเรื่องเล็กน้อยน่ารำคาญใจพวกนี้ขาไม่ได้ใส่ใจกับพวกมันมากนัก เทียนจุนลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ยอมตกลง "ก็ได้!"

จากนั้นฮวงเฟิงก็กวาดสายตามองดูเหล่าสมุนของฟางหัวโตแล้วพูดขึ้น "หยุดทำให้ฉันต้องเสียเวลาได้แล้ว พวกแกเข้ามาพร้อมกันนั่นแหละ!"

ที่ฮวงเฟิงพูดออกไปนั่นไม่ใช่เพราะความหยิ่งยโส  แต่เป็นเพราะเขารู้สึกได้ว่าคนพวกนี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป หรืออาจจะมีความชั่วแอบแฝงมากไปหน่อย ด้วยความสามารถในการต่อสู้โดยพื้นฐานของพวกเขาแล้ว ต่อให้พวกเขามีคนมากกว่านี้ฮวงเฟิงก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด ต่อให้พวกเขาทั้งหมดบุกเข้ามาพร้อมกันก็ไม่สามารถเทียบได้กับยอดฝีมือระดับสาม

"ไอ้สารเลว อย่าห้ามฉัน! ดูสิว่าฉันจะสามารถฆ่ามนุษย์อวดดีคนนี้ได้ไหม!"

"ลุย ลุย ฆ่ามัน!"

สำหรับคำพูดของฮวงเฟิงในความคิดของเขานั้นไม่ได้หมายความถึงสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากที่เขารู้ดีว่าทักษะการต่อสู้ของคนพวกนี้เทียบกับทักษะของเขาไม่ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดเวลา แน่นอนว่าเขาหวังให้คนพวกนี้บุกเข้ามาพร้อมกัน อย่างไรก็ตามในสายตาของพวกเขาช่างเป็นคำพูดที่แสนจะอวดดีที่สุด อย่างที่รู้กันว่าทางด้านของพวกเขามีคนจำนวนมากเกือบถึง 20 คน อีกทั้งนี่ยังเป็นเขตปกครองของพวกเขา อย่างไรก็ตามทางด้านของฮวงเฟิงก็มีกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น อีกทั้งพวกเขายังบุกเข้าไปพร้อมกันอีก ดังนั้นคนพวกนั้นจึงกรูเข้าใส่ฮวงเฟิง ด้วยท่าทางดุดันและรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า ราวกับว่าพวกเขาได้มองเห็นภาพฮวงเฟิงกับเทียนจุนกำลังคุกเข่าลงกับพื้นอ้อนขอชีวิตแล้วก็ไม่ปาน

ก่อนหน้านี่ฮวงเฟิงที่นั่งอยู่บนโซฟา แต่เพียงแค่พริบตาเดียว เขาก็หายวับไปแล้ว ในขณะที่คนพวกนั้นยังคงงงงวยกันการหายตัวไปอย่างรวดเร็วของฮวงเฟิง  แต่แล้วจู่ ๆ พวกเขาก็เห็นเงาของใครคนหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่ท่ามกลางวงล้อมของพวกเขา

"ปัง ปัง ปัง!"

อาศัยท่าเท้าท่องคลื่นทำให้ฮวงเฟิงสามารถจัดการคนของฟางหัวโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่คนพวกนั้นไม่สามารถสัมผัสโดนแม้แต่เสื้อผ้าของเขาเลย จากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งลอยออกไปทีละคน ที่นี้เป็นสถานที่แห่งแรกที่ฮวงเฟิงตั้งใจเข้าก่อเรื่องวุ่นวายขึ้น ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาไม่คิดจะยั้งมือ และนั่นทำให้คนพวกนั้นตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา แต่คนล้วนรู้สึกราวกับว่าถูกทุบเข้าที่ท้องโดยพลังอันมหาศาล แน่นอนว่าในหมู่พวกเขามีผู้โชคดีเหลือรอดอยู่หนึ่งคน นั่นก็คือเด็กหนุ่มที่เทียนจุนส่งเข้ามาเป็นสายปะปนอยู่กับคนของฟางหัวโต ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำร้ายเขาจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยฮวงเฟิงจึงเพียงแค่แตะโดนเขาเบา ๆ  และด้วยไหวพริบและปัญญาของเด็กหนุ่มคนนั้นเช่นกัน เขาส่งเสียงร้องอวดครวญอย่างเจ็บปวดทรมานออกมาทันที จากนั้นก็ล้มลงนอนกับพื้น กลิ้งตัวไปมาตามพื้น ขณะที่สองมือก็เกาะกุมช่องท้องเอาไว้ ราวกับว่าเขากำลังทุกข์ทรมานจากอาการบาดเจ็บสาหัส ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีผู้คนที่โห่ร้องหมายที่จะให้บทเรียนกับฮวงเฟิง ล้วนนอนกลิ้งตัวไปมาอยู่กับพื้นพร้อมกับส่งเสียงร้องอวดครวญด้วยความเจ็บปวดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าคำพูดที่พวกเขาเคยประกาศเอาไว้ จะเป็นเพียงแค่เรื่องขำขันเท่านั้น!"

"ตอนนี้ ก็เหลือแกแค่คนเดียว" ฮวงเฟิงพูดขึ้น ขณะที่มองไปที่หัวหน้าการ์ดที่เขาเหลือเอาไว้

ใบหน้าของหัวหน้าการซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด การที่เขาสามารถเป็นถึงผู้ติดตามของฟางหัวโตได้ แน่นอนว่าเขาจะต้องพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่เขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป ที่เห็นฮวงเฟิงเอาชนะพี่น้องใต้บัญชาอขงเขาได้เพียงแค่ชั่วพริบตา นอกจากนั้นแล้วฮวงเฟิงยังไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่รอยแมวข่วน ดังนั้นการ์ดคนนี้จึงรู้ได้ทันทีว่าฮวงเฟิงคือสุดยอดฝีมือจริง ๆ และเป็นสุดยอดฝีมือที่เขาไม่มีทางเอาชนะได้

อย่างไรก็ตามในเมื่อเขายังอยากที่จะติดตามหัวหน้าฟาง เขาก็ไม่อาจวิ่งหนีออกไปแบบนี้ หรือแม้กระทั่งหลบหลีกการต่อสู้ หัวหน้าของเขาต้องตำหนิเขาแน่  และนั่นเองเมื่อเขาเห็นฮวงเฟิงจ้องมาที่เขา หัวหน้าการ์ดคนนั้นก็หยิบมีดพกออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ด้วยมีดที่อยู่ในมือทำเขากลับมามั่นใจอีกครั้ง  เขามองไปที่ฮวงเฟิงแล้วพูดขึ้น "ฉันยอมรับว่าแกแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่แกกล้าหยามหัวหน้าฟางของเรา แกต้องตาย!"

การ์ดคนนี้คิดว่าฮวงเฟิงและเทียนจุนเป็นพวกเดียวกันแน่ แต่เขารู้เรื่องต่าง ๆ มากมาย เขารู้ว่าหัวหน้าของเขากำลังคิดที่จะยึดเขตปกครองของเทียนจุนที่มีอยู่ในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงสามารถเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างได้ อีกอย่างพวกเขามีความได้เปรียบในเรื่องของจำนวนคน คิดไม่ถึงเลยว่าฮวงเฟิงจะสามารถทำอะไรได้

"อย่างนั้นเหรอ? แกจะลองดสักครั้งก็ได้! ฮวงเฟิงพูดขึ้น

"อ่....า!" ผู้ชายคนนั้นไปเสียเวลาพูดมากอีกต่อไป เขาขยับเพียงแค่ก้าวเดียว มีดที่อยู่ในมีดพวกในมือเขาก็แทงไปที่ฮวงเฟิงทันที วินาทีต่อมาดดูเหมือนว่าปลายมีดที่ทั้งแหลมและคมกริบกำลังจะจิ้มไปที่ฮวงเฟิง  แต่แล้วผู้ชายคนนั้นก็ต้องเบิกตากว้าง ไม่น่าเชื่อมีดพกที่ในมือเขาถูกบีบแน่นด้วยนิ้วมือเพียงแค่สองนิ้วของฮวงเฟิงเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถแทงมีดให้พุ่งออกไปข้างหน้าได้แม้แต่เซนเดียว

"กลับไป!" ฮวงเฟิงพูดแล้วยกขาขึ้น จากนั้นเขาก็เตะไปที่หน้าอกของชายคนนั้นจนเสียหลักเซถอยหลังไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามทรงตัวให้มั่นคงมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็ล้มลงกับพื้น เขาไม่ได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตัวเองในช่วงในทันที เนื่องจากเขายังอยู่ในสภาวะความงุนงงราวกับยังไม่หายจากอากตื่นตกใจ ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ให้กับฮวงเฟิงอย่างง่ายดายแบบนี้  เขาคิดว่าถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะเป็นฝ่ายชนะก็ตาม แต่อย่างน้อยก็น่าจะใช้เวลาสักระยะ แต่นี่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะทำร้ายฮวงเฟิงเลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามความจริงที่เกิดขึ้นนั้นมันช่างโหดร้าย เขาคิดว่าการจู่โจมที่ดุดันของเขาไม่ควรค่าให้พูดถึงสักนิดเมื่ออยู่ต่อหน้าฮวงเฟิง ผู้ซึ่งสามารถสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้ด้วยเพียงแค่สองนิ้วเท่านั้น เช่นนี้แล้วจะให้เขาทำใจยอมรับเหลื่อมล้ำระหว่างพวกเขาได้อย่างไร?