ตอนที่ 675

USB:บทที่ 675 ช๊อปปิ้ง

ซูหยูโม่เลือกเสื้อผ้า และหลังจากที่เธอแต่งหน้าเสร็จแล้ว ฮวงเฟิงก็โทรมาบอกว่าเขามาถึงชั้นล่างแล้ว

ซูหยูโม่รีบออกไป ขณะที่ถังมู่เสวี่ยยังอยู่ในครัวและเป็นกังวลเรื่องซุปที่อยู่ในหม้อ และไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทของเธอได้ออกไปแล้วกับคนที่เธอกำลังเป็นห่วง

"วันนี้คุณดูสวยมากเลยนะ" ฮวงเฟิงเอนตัวพิงที่ด้านข้างของรถและมองดูซูหยูโม่ที่กำลังเดินออกมา แววตาของความประหลาดใจวาบผ่านดวงตาของเขา

ซูหยูโม่นั้นสวยมากอยู่แล้ว และวันนี้เธอได้ตั้งใจแต่งหน้าและเลือกเสื้อผ้าอย่างพิถีพิถันทำให้เธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ฮวงเฟิงรู้สึกซาบซึ้งในหัวใจ สงสัยว่าคุณธรรมหรือความสามารถแบบไหนกันที่ทำให้เขาได้เป็นแฟนกับผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้

ในตอนแรกซูหยูโม่ยังคงกังวลเพราะเธอยังแต่งหน้าไม่เสร็จ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ฮวงเฟิงพูด เธอก็สงบลงทันทีและเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

“ทำไมฉันไม่เคยได้ยินแบบนี้มาก่อนเลยนะ? ทำไมวันนี้คุณช่างสำบัดสำนวนจังเลยนะคะ?” ซูหยูโม่พูดขณะที่เดินขึ้นรถ

“ผมไม่ได้โกหกนะ ผมกำลังพูดความจริง ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณก็แค่ไปคว้าแขนผู้ชายมาสักคนและถามเขาดูสิ ผมรับรองได้เลยว่าเขาจะต้องชมคุณเกินจริงมากกว่าที่ผมชมซะอีก” ฮวงเฟิงขึ้นรถและคาดเข็มขัดนิรภัย เขาหันกลับมามองดูซูหยูโม่และพูดว่า “บางครั้ง ผมรู้สึกว่าเหมือนกับผมกำลังฝันไปที่ได้มีแฟนอย่างคุณ สวรรค์ช่างปรานีผมซะจริงๆ”

ใบหน้าของซูหยูโม่แดงก่ำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในใจเขาก็มีความสุขเช่นกัน แต่เขาก็ยังพูดว่า: “ฉันยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับคุณสักหน่อย ฉันแค่ยอมให้คุณจีบฉันได้ก็แค่นั้น”

“ถ้าคุณไม่ใช่แฟนของผม แล้วคุณเป็นใครกันล่ะ? ถ้ามีใครออกมายอมรับนะ ผมจะหักขาพวกนั้นซะ!” ฮวงเฟิงกล่าวอย่างโหดเหี้ยม

“คุณนี่เอาแต่ใจจริงๆ” ซูหยูโม่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ฮวงเฟิงมองดูซูหยูโม่ด้วยสีหน้าที่จริงจังและพูดว่า: "ผมเป็นคนเอาแต่ใจแต่ในเมื่อคุณมารู้เอาตอนนี้ มันก็สายไปแล้วล่ะครับ" จากนั้นฮวงเฟิงก็หยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า "คุณซูหยูโม่ เป็นแฟนของผมนะ"

ซูหยูโม่จ้องเขม็งอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ฮวงเฟิงสารภาพรักกับเธอ และแม้แต่เธอเองที่เริ่มพูดคำพวกนั้นกับเขา ซึ่งซูหยูโม่ก็เข้าใจและไม่เคยนึกเสียใจ เธอคงจะทำในสิ่งที่เธอตัดสินใจแล้ว และเธอก็จะไม่เสียใจเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ได้รับการยืนยันแล้วและไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เดิมทีแล้วซูหยูโม่เคยคิดว่าจะส่งคำใบ้บางอย่างให้แก่ฮวงเฟิงเพื่อสารภาพรัก แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าอยู่ๆ ฮวงเฟิงจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา?

ซูหยูโม่ยังไม่ทันได้เตรียมตัวและฮวงเฟิงเองก็ไม่ได้เตรียมตัวเช่นกัน แต่เขารู้สึกอย่างนี้จริงๆ และรู้สึกว่าถ้าเขาพลาดผู้หญิงดีๆ อย่างซูหยูโม่ไป มันจะเป็นความเสียใจอันอย่างใหญ่หลวงในชีวิตของเขาอย่างแน่นอน เขาไม่อยากที่จะยอมแพ้และเขาก็ไม่อาจที่จะยอมแพ้ได้เช่นกัน

"หยูโม่ คุณเป็นแฟนของผมได้ไหม? ให้ผมปกป้องคุณและดูแลคุณในอนาคตนะ" เมื่อไม่เห็นปฏิกิริยาจากซูหยูโม่ หัวใจของฮวงเฟิงก็เกร็งขึ้นเขาจึงพูดอีกครั้ง

ซูหยูโม่จ้องมองดูฮวงเฟิงและเพียงแต่เธอแน่ใจว่าเขาไม่ได้ฟังผิด ว่าฮวงเฟิงได้สารภาพรักกับเธอจริงๆ และไม่ใช่เธอที่เป็นคนพูดแต่เพราะสิ่งที่ฮวงเฟิงกล่าว ซูหยูโม่รู้สึกว่ามีบางอย่าง ในดวงตาของเธอที่กำลังจะทะลักออกมา แต่เธอพยายามกลั้นไว้และไม่ได้ทำให้ฮวงเฟิงต้องประหม่าอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดเธอก็พยักหน้าอย่างแรงและพูดว่า "อือ!"

ในความเป็นจริง เธอได้พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมาเป็นเวลานานแล้ว จากช่วงเวลาที่เธอบอกเป็นนัยถึงเจตนาของฮวงเฟิงที่มีต่อเขา เธอรู้อยู่แล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ

เมื่อฮวงเฟิงได้ยินคำตอบตกลงของซูหยูโม่ เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาทันที เขาถอดสายเข็มขัดนิรภัยบนตัวของเขาออกด้วยความตื่นเต้น และโน้มตัวเข้าไปกอดซูหยูโม่เอาไว้แน่นขณะที่เขากล่าวด้วยความดีใจว่า “เยี่ยมไปเลย มันเยี่ยมไปเลยที่คุณยอมตกลง หยูโม่ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณอย่างดีเลยนะ”

ในเวลานี้ดูเหมือนว่าฮวงเฟิงจะลืมไปแล้วว่ายังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่ข้างๆ เขา ในใจของเขาตอนนี้มีเพียงแต่ซูหยูโม่เท่านั้นและเขาก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มีแฟนแบบเธอ

ซูหยูโม่เองก็ดีใจมากเช่นกัน เธอเองก็ไม่ได้ผลักไสฮวงเฟิงแต่กลับเอื้อมมือไปจับมือของฮวงเฟิงที่กำลังโอบหลังของเธออยู่พร้อมด้วยรอยยิ้มที่สะพรั่งไปทั้งหน้า “นี่ฉันเพิ่งจะรับปากคุณ แต่นี่คุณกลับมาแต๊ะอั๋งฉันเสียแล้ว”

“แต๊ะอั๋งอะไรกันล่ะ? ผมก็แค่กอดแฟนผมแค่นั้นเองนะ นี่มันก็สมเหตุสมผลแล้ว” ฮวงเฟิงคลายอ้อมแขนจากซูหยูโม่และกล่าวออกมา จากนั้นเขาก็โน้มศรีษะเข้าไปหาซูหยูโม่และหอมแก้มเธออย่างรวดเร็ว

ซูหยูโม่ตกตะลึงที่ถูกฮวงเฟิงจู่โจมอย่างกระทันหันและกว่าที่เธอจะทันได้ทำอะไร ฮวงเฟิงก็กลับไปประจำที่นั่งของเขาและคาดเข็มขัดของตัวเองอีกครั้งซะแล้ว เขาหันมาและมองเธอพร้อมด้วยรอยยิ้ม

ใบหน้าของซูหยูโม่แดงก่ำและหัวใจเธอก็ยิ่งเต้นระส่ำมากยิ่งขึ้น “ฮวงเฟิง ฉันเสียใจจริงๆ ที่ตกปากรับคำคุณไป คุณนี่มันหื่นจริงๆ” อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเธอจะกล่าวเช่นนั้นแต่ซูหยูโม่กลับไม่ได้รู้สึกโกรธเขาเลยแม้แต่น้อย

ฮวงเฟิงเองก็รู้ดีว่าซูหยูโม่ไม่ได้โกรธเขาจริง เขาจึงหัวเราะออกมา “จะมาเสียใจอะไรตอนนี้ล่ะ? นี่มันสายไปแล้ว คุณมาขึ้นเรือลำเดียวกันกับผมแล้วอย่าได้คิดว่าจะได้ลงไปง่ายๆ! ฮ่าๆๆ!”

จากนั้นฮวงเฟิงก็เหยียบคันเร่งและรถสปอร์ตคันนั้นก็แล่นอยู่บนพื้นดินอยู่เพียงชั่วขณะและจากนั้นก็ลอยขึ้นไปทันทีแต่ทั้งสองคนที่อยู่ภายในรถกลับไม่ได้รู้สึกถึงความไม่สะดวกตรงไหนเลย

ซูหยูโม่นั้นก็ไม่ได้โกรธอะไรจริงจังดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรกับฮวงเฟิง และในเวลานี้เธอเองก็รู้สึกว่ารถคันนี้ไม่ใช่ธรรมดาถึงแม้ว่าเธอจะเคยเห็นเห็นรถแบบนี้มาก่อน แต่เธอก็ยังไม่เคยเห็นที่นี่ และในตอนนี้เธอก็รู้สึกว่ารถคันนี้ไม่เลวเลย

“ทำไมคุณถึงได้ซื้อรถคันนี้ล่ะ? มันไม่เลวเลยนะ” ซูหยูโม่เองก็มีรถยนต์อยู่คันหนึ่ง ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้รู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องรถ แต่จากการที่รู้สึกว่าการนั่งภายในรถคันนี้ช่างแสนสบาย เธอก็รู้ว่ารถคันนี้ต้องเป็นรถที่ดีอย่างแน่นอน

“มันเป็นรุ่นสั่งทำน่ะ ไม่ใช่ถูกๆ เลยล่ะ แต่ก็แน่นอนว่ามันดีสมราคา” ฮวงเฟิงกล่าว ในตอนนี้เขายังไม่คิดที่จะบอกความจริงกับซูหยูโม่เกี่ยวกับกล่องจักรวาล ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่โกหกเธอ โชคยังดีที่การโกหกนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ในทางกลับกัน เธอค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของฮวงเฟิง ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียง รปภ. คนหนึ่งและเขาก็เป็นสมาชิกในบริษัทของตัวเองด้วย นอกจากนี้ฮวงเฟิงก็ยังเปิดโรงงานกับเพื่อนของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการใช้เงินอย่างแน่นอน

เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งที่ฮวงเฟิงเองไม่รู้ แต่ซูหยูโม่ไม่คิดที่จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป เพราะหากเป็นกรณีนี้ มันคงจะไม่มีความหมายอะไร หากฮวงเฟิงต้องการที่จะบอกเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ถาม เขาก็คงจะพูดออกมาเองแล้ว