ตอนที่ 245

USB:บทที่ 245 ดักรอ

"ไปกันเถอะ!" โอวหยางซิงเหวินพูดต่อว่า "โอ้ เกือบลืมไป เจ้าไปบอกคนพวกนั้นว่าให้สอบปากคำหวังเอ้อต่อ จนกว่าจะได้ข้อมูลมา พวกมันห้ามปล่อยให้หวังเอ้อหนีไปหรือตายเป็นอันขาด"

“เข้าใจแล้ว ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้” หัวใจของซุนจื่อเต้นรัว ก่อนหน้านี้ หวังเอ้อเป็นคนที่นายน้อยโปรดปราณมาก แต่ตอนนี้เขากลับต้องพบเจอกับจุดจบแบบนี้ ในอนาคต ไม่ว่าจะทำอะไร เขาจำเป็นต้องระมัดระวัง และภาคภูมิใจกับมัน

เมื่อเห็นซุนจื่อรีบเดินออกไป โอวหยางซิงเหวินที่ดันเหลือบไปเห็นเศษขยะบนพื้น จึงขมวดคิ้วมุ่น ไอ้หมอนี่ตาบอดหรือไง?

หลังจากนั้นโอวหยางซิงเหวินก็ได้พาซุนจื่อออกไปกับเขา

ตอนนี้ พ่อของเขาไม่อยู่บ้าน จึงไม่มีใครหน้าไหนควบคุมเขาได้ เขาสามารถทำทุกอย่างที่ตนเองต้องการ

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หากเขาต้องการจะออกไปข้างนอก เขาก็ต้องแอบปีนกำแพงออกไป

โดยที่ในตอนนี้ โอวหยางซิงเหวินสามารถเดินผ่านประตูที่มียามเฝ้าประตูไปได้ และแม้ว่าอีกฝ่ายจะเห็นเขา คนพวกนั้นก็ไม่มีทางห้ามปรานเขาอย่างแน่นอน

“โอวหยางซิงเหวิน? เจ้าเองก็มาที่นี่ด้วยเหรอ? ข้าไม่ได้เห็นหน้าเจ้ามาตั้งสามวัน นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” ทันทีที่โอวหยางซิงเหวินมาถึงโรงเตี๊ยม นายน้อยอันก็มาถึงที่นี่อยู่ก่อนแล้ว นอกจากเขาแล้วยังมีนายน้อยท่านอื่นอีกสามคน

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้อาวุโสของทั้งสองตระกูลไม่ได้ใกล้ชิดกันมากนัก จึงทำให้มีการแข่งขันกันเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา หากแต่นายน้อยอันและโอวหยางซิงเหวินต่างก็เป็นลูกรักเหมือนกัน ทั้งคู่จึงตกลงว่าเป็นเพื่อนไปเที่ยวเล่นด้วยกัน

“สองสามวันที่ผ่านมา ข้ามีเรื่องที่ต้องจัดการเลยไม่มีอารมณ์ออกมาข้างนอกน่ะ” โอวหยางซิงเหวินกล่าว

หากพูดถึงนายน้อยอันท่านนี้แล้ว จริงๆแล้วอีกฝ่ายเป็นคนที่มีภูมิหลังด้อยกว่าเขาอยู่เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นักจึงถามกลับไป

"อันจื่อชิง พวกคนที่มาจากกรมทหารโลหิตสีชาดไปพักอยู่ที่ไหนหรือ?"

“อ้อ เรื่องนี้นี่เอง เจ้าไม่ต้องกังวลไป มานั่งแล้วดื่มนี่สักหน่อย แน่นอนว่าถ้าพวกเขามาถึง พวกเขาก็จะต้องไปที่สหภาพทหารเพื่อทำภารกิจ” อันจื่อชิงตอบ

โอวหยางซิงเหวินเองก็คิดเหมือนกันกับอีกฝ่าย แม้ว่าสำนักงานใหญ่ของงานทหารรับจ้างจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ในหลายๆเมืองก็มีสาขาย่อย

และเมืองเฮ่าเทียนก็เป็นเมืองที่อยู่ใกล้ป่าแห่งหมอกมาก ทำให้ทหารรับจ้างจำนวนมากต่างพากันไปที่นั่น ด้วยเหตุนี้ การที่มีสาขาย่อยของสหภาพทหารตั้งอยู่ที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

นอกจากนี้ยังมีการรับส่งภารกิจของสหภาพทหารในแต่ละพื้นที่ได้อีกด้วย เมื่อได้รับภารกิจมาจากเมืองหนึ่งแล้วทหารรับจ้างสามารถส่งภารกิจในอีกเมืองได้ แต่จะมีความล่าช้าในการส่งมอบของรางวัล นอกจากจะส่งภารกิจให้สหภาพทหารตามเมืองที่ได้รับภารกิจมาเท่านั้นจึงสามารถรับรางวัลได้ทันที

โอวหยางซิงเหวินนั่งลง ได้กลิ่นยั่วยวนของไวน์ ทำให้เกิดความตะกละตะกลามและต้องการจัดการไวน์ที่อยู่ตรงหน้า

เนื่องจากเขาวุ่นอยู่กับเรื่องแหวนมิติ เลยทำให้เขาไม่มีอารมณ์ออกไปข้างนอกและได้เพลิดเพลินไปกับกลิ่นอันหอมหวานของไวน์แบบนี้มาหลายวันแล้ว

“เยี่ยมมาก!” หลังจากดื่มไวน์ไปหนึ่งแก้ว โอวหยางซิงเหวินก็ตะโกนเสียงดัง ทำให้อันจื่อชิงรู้สึกว่าตนกำลังถูกผู้อื่นมองด้วยสายตาดูหมิ่น

เนื่องจากท่าทางของโอวหยางซิงเหวินในตอนนี้เหมือนกับคนที่ไม่เคยเห็นโลก และเพิ่งเคยดื่มไวน์เป็นครั้งแรก นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว!

"อ้อ ข้าได้ยินว่าพ่อของเจ้าไม่อยู่บ้าน แล้วอย่างนี้ใครเป็นคนห้ามไม่ให้เจ้าหนีออกมาได้อีกล่ะ? จากที่เห็นท่าทางตะกละของเจ้าแล้ว อย่าบอกนะว่าข้าจะได้เจอเจ้าก็ต่อเมื่อเจ้าหนีออกมาได้” อันจื่อชิงถาม

"อ๋า ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว ไม่มีใครขังข้าไว้ทั้งนั้นแหละ สองสามวันที่ผ่านมา ข้ามีเรื่องนิดหน่อย ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูที่นิ้วของข้าดูดีๆสิ" โอวหยางซิงเหวินตอบ

"ทำไม? มีอะไรเกิดขึ้นกับนิ้วของเจ้ารึไง? ...เอ๊ะ แหวนมิติของเจ้าหายไปไหนแล้วล่ะ?" อันจื่อชิงถาม ครั้งสุดท้ายหลังจากที่โอวหยางซิงเหวินได้รับแหวนมิติ เขาก็อวดมันต่อหน้าทุกคนและแน่นอนว่าอันจื่อชิงก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้เห็นมันเช่นกัน

"ก็เพราะแหวนมิติของข้าถูกคนรับใช้สารเลวที่ใกล้ชิดกับข้ามากที่สุดขโมยไปยังไงล่ะ!" โอวหยางซิงเหวินตอบขณะดื่มไวน์ ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

“หืม นี่เจ้าหมายถึงหวังเอ้อ?” อันจื่อชิงถามกลับ

หวังเอ้อเป็นคนที่อยู่เคียงข้างโอวหยางซิงเหวินมาโดยตลอด แต่วันนี้ โอวหยางซิงเหวินได้พาคนรับใช้คนอื่นมา เป็นไปได้ว่าคนที่โอวหยางซิงเหวินพูดถึงก่อนหน้านี้คือ หวังเอ้อ

"ก็ใช่น่ะสิ มันเป็นหนอนบ่อนไส้ ทั้งๆที่ข้าอุส่าปฏิบัติกับมันอย่างดี แต่มันกลับมาขโมยของของข้าไป ถ้าข้าไม่ต้องบีบบังคับให้มันสารภาพว่าเก็บแหวนมิติไว้ที่ไหน ข้าคงฆ่ามันไปนานแล้ว!" โอวหยางซิงเหวินตอบ

แม้ว่าที่ผ่านมาหวังเอ้อจะตั้งใจทำให้เขาพอใจ โดยคิดหาวิธีและพยายามทำมันให้สำเร็จอยู่เสมอ หากแต่ตอนนี้มันกลับทำเรื่องที่ไม่สมควร และโอหยางซิงเหวินจะไม่ลังเลที่จะตัดหางคนอย่างมันเด็ดขาด

"เจ้าเข้าใจผิดรึเปล่า? หมอนั่นจะกล้าทำอย่างนั้นเหรอ?" อันจื่อชิงกลอกตาแล้วถามกลับ

“คนอย่างข้าไม่เคยคิดผิด” โอวหยางซิงเหวินโบกมือแล้วพูดต่อ "มันเป็นคนเดียวที่สามารถทำอย่างนั้นได้"

“โอ้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงละก็ คนรับใช้ชั่วๆอย่างมันก็สมควรตายแล้วจริงๆ!” อันจื่อชิงกล่าวด้วยความหนักแน่น

จากนั้น อันจื่อชิงก็ชนแก้วกับโอวหยางซิงเหวิน ขณะที่สมองของเขากลับคิดแต่เรื่องของหวังเอ้อ

ตามที่โอวหยางซิงเหวินบอก แหวนมิติน่าจะถูกหวังเอ้อขโมยไป เนื่องจากแหวนมิติเป็นของดี ถ้ามันยังเป็นของโอวหยางซิงเหวินเหมือนก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เป็นไร

แต่ตอนนี้มันดันอยู่ที่คนรับใช้สารเลว ช่างเสียของเสียจริง หรือเขาควรหาวิธีไปขโมยแหวนมิติจากมันมาดี?

สภาพของหวังเอ้อในตอนนี้ช่างน่าเวทนา ถ้าหากเขาช่วยชีวิตมันแล้วถามเรื่องที่ซ่อนของแหวนมิติ มันอาจจะยอมบอกเขาก็เป็นได้ หรือถ้ามันไม่บอก เขาก็จะทำให้มันสารภาพออกมาเอง เพื่อของดีๆอย่างแหวนมิติแล้ว ให้ตายยังไงเขาก็จะหาวิธีช่วงชิงมันมาเป็นของตนให้ได้!

ทั้งสองพูดคุยกันพร้อมกับดื่มไวน์ อันจื่อชิงตั้งใจฟังเรื่องที่โอวหยางซิงเหวินเล่า เพราะเขาต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหวังเอ้อ

ขณะที่ทั้งสองกำลังเพลินเพลินอยู่นั้น ทันใดนั้นประตูโรงเตี๊ยมก็ถูกเปิดออกอย่างแรง ตามมาด้วยคนจำนวนมากมายที่เดินเข้ามา

“กัปตัน วันนี้พวกเราต้องดื่มให้เต็มที่เลย”

"ถูกต้อง ข้าอยู่ในรังนกนั่นมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ขนาดตอนนี้ยังเหมือนมีนกบินอยู่ในปากของข้าเลย"

“ในเมื่อพวกเราทำภารกิจสำเร็จแล้ว พวกเราต้องฉลองกันให้เต็มที่!”

ทุกคนที่เข้ามาเดินพูดคุยกันตลอดทาง เสียงที่ไม่แผ่วเบาได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่น ๆ ในโรงเตี๊ยมได้ทันที แต่ถึงอย่างนั้น คนพวกนี้ก็ดูจะว่าจะไม่สนใจเลยสักนิด

“ลูกพี่ ขอไวน์ที่ดีที่สุด!” พวกเขาแบ่งกลุ่มออกเป็นสามคนแล้วนั่งคนละโต๊ะ

"คนพวกนั้นมาจากกรมทหารโลหิตสีชาดนี่!" อันจื่อชิงหันไปพูดกับโอวหยางซิงเหวิน

โอวหยางซิงเหวินจึงหันมองไปทางคนพวกนั้นทันที ไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะไม่รู้จักคนพวกนั้น เนื่องจากว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนจากกองทหารโลหิตสีชาด

“ ข้าล่ะสงสัยจริงๆว่าคราวนี้ คนพวกนั้นได้สมบัติอะไรกลับมา ดูจากท่าทางแล้ว พวกเขาดูมีความสุขมากผิดปกติ ข้าว่าพวกเขาน่าจะได้สมบัติล้ำค่าติดมือกลับมาด้วย” โอวหยางซิงเหวินกล่าว

"ไม่รู้สิ แต่มีคนบอกว่าครั้งนี้พวกเขารับภารกิจระดับ [A]  มา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำมันสำเร็จ" อันจื่อชิงกล่าว