ตอนที่ 150

USB:บทที่ 150 เพื่อนธรรมดา

แม้ว่าเขาจะเอาชนะชิวหัวและคนอื่นๆ ได้ แต่ฮวงเฟิงเองก็ยังคงอารมณ์ไม่ดีนักขณะที่กลับบ้าน

จริงๆ แล้วเขาวางแผนที่จะไปหาถงเฉียนและสั่งสอนเขาเพื่อที่จะคลายอารมณ์

อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่า เจ้าลูกน้องคนนั้นจะเร็วกว่าเขานักและหาคนอื่นมาจัดการเขาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาผู้คนในปัจจุบัน คนสุดท้ายที่พ่ายแพ้ต่อเขานั้นช่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องเสี่ยงอันตรายจากการบาดเจ็บของตัวเองที่จะคว้าตัวคู่ต่อสู้และหักขาของเขาให้ได้ ฮวงเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมของเขาได้หรือไม่

แน่นอนว่าถ้าเขาใช้เวทมนตร์ ความเป็นไปได้ก็จะสูงขึ้น

เป็นผลให้ฮวงเฟิงรู้สึกได้ถึงวิกฤตครั้งใหญ่ เขาไม่รู้ว่าในครั้งต่อไปที่ถงเฉียนส่งใครมาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่านี้ หรือถ้าพวกเขาพาลูกน้องมาที่นี่โดยตรง

ดังนั้น ฮวงเฟิงจึงตัดสินใจที่จะออกไปข้างนอกในตอนกลางคืนเพื่อดูว่าเขาสามารถจัดการถงเฉียนได้ก่อนหรือไม่

เขาอยากจะประพฤติตัวดีสักพักและหลังจากนั้นเขาก็จะมีความแข็งแกร่งพอที่จะจัดถงเฉียนให้สิ้นซาก

ถ้าต้องการที่จะสอนบทเรียนให้แก่ถงเฉียน ก็ต้องรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่สามารถไปที่บ้านของเขาได้ และจะเป็นการดีที่สุด หากอยู่ข้างนอก

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฮวงเฟิงก็โทรหาซูหยูโม่ เธอรู้จักถงเฉียน และน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับเขา

"เฮ้ นี่ฮวงเฟิงเองนะ" การโทรถูกเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว

ซูหยูโม่สงสัยอยู่เล็กน้อยเช่นกันว่าทำไมฮวงเฟิงถึงได้โทรหาเธอในเวลานี้

แต่เมื่อมองไปที่เซี่ยเมิ่งเจียวที่กำลังขับรถอยู่ ซูหยูโม่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อยถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับฮวงเฟิงก็ตาม

เมื่อมองดูเซี่ยเมิ่งเจียวที่อยู่ด้านข้าง

ในที่สุดซูหยูโม่ก็กดรับโทรศัพท์ และเธอได้สังเกตเห็นการกระทำของเซี่ยเมิ่งเจียวปากของเธอเผยรอยยิ้ม แต่เธอไม่ได้พูดอะไรและยังคงขับรถต่อไปอย่างเงียบๆ

"เกิดอะไรขึ้น?" ซูหยูโม่ถาม

"คือว่าแบบนี้นะ คุณรู้ไหมว่าถงเฉียนชอบไปที่ไหน?" ฮวงเฟิงถามตรงๆ

“ถงเฉียนเหรอ คุณถามถึงเขาทำไม?” ซูหยูโม่สงสัยเล็กน้อย

"ไม่มีอะไรหรอก แค่มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการ" ฮวงเฟิงกล่าว

ซูหยูโม่รู้สึกสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมฮวงเฟิงถึงตามหาเขา

นอกเหนือจากตอนที่พวกเขาพบกันที่ทางเข้าบริษัท ทั้งสองคนก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันเลยนอกเหนือจากนี้

เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประตูทางเข้าบริษัท หัวใจของซูหยูโม่ก็กระตุก และถามว่า “นี่เขาสร้างปัญหาอะไรให้คุณหรือเปล่า?”

“ไม่ ฉันก็แค่มีธุระกับเขา ถ้าคุณไม่รู้ ก็ไม่เป็นไร” ฮวงเฟิงไม่คิดที่จะกระโตกกระตากไป เขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะมีคนสงสัยแต่เขาก็จะไม่มีวันยอมรับมัน

“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรว่าเขาชอบไปที่ไหน เพราะว่าฉันไม่ค่อยสนิทกับเขา แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาไปที่คลับเฮาส์ที่ชื่อ เคลียร์สปริง บ่อยๆ ถ้าคุณอยากจะได้อะไรจากเขาก็ไปที่นั่นสิ” ซูหยูโม่กล่าว

เกือบจะไม่รู้ตัวเธอและฮวงเฟิงได้เน้นย้ำถึงบางสิ่งที่พวกเขาไม่คุ้นเคย และนั่นก็คือความจริง

แม้ว่าถงเฉียนจะคอยตามตื๊อเธอ แต่เธอก็ไม่เคยตกลงปลงใจด้วยและเธอก็ไม่เคยไปออกเดทกับเขา

“โอเค ขอบคุณนะ” ฮวงเฟิงกล่าว

“ไม่เป็นไร อ้อ ใช่ ถ้าคุณไม่จำเป็นก็อย่าไปติดต่อถงเฉียนเลยนะ เขาไม่ใช่คนดี” ซูหยูโม่กล่าว

“ผมรู้” ฮวงเฟิงเองก็รู้ดีว่าถงเฉียนนั้นไม่ใช่คนดี

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็พูดกันอีกสองสามคำและวางสายไป

“เธอไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ?” ในเวลานี้เซี่ยเมิ่งเจียวที่กำลังขับรถอยู่ หัวเราะและกล่าวออกมา

“พูดอะไร?” ซูหยูโม่ใคร่รู้เล็กน้อย

“ก็โทรศัพท์ที่โทรเข้ามานั่นไง” เซี่ยเมิ่งเจียวถาม “ใครน่ะ?”

“ก็แค่เพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง” ซูหยูโม่รู้ดีว่าเธอกำลังพูดถึงฮวงเฟิง

“อ้อ แค่เพื่อนธรรมดา ก็เธอดูให้ความสนใจเพื่อนธรรมดาคนนี้เหลือเกินน่ะสิ” เซี่ยเมิ่งเจียวยิ้มและยังย้ำคำว่า “ธรรมดา” ถึงสองครั้ง

“แน่นอนสิ เพื่อนก็ต้องห้วงเพื่อนอยู่แล้ว” ซูหยูโม่กล่าวขณะที่แสร้งรวบผม

“นี่ฉันเพิ่งจะได้ยินเขาเรียกชื่อเล่นเธอใช่ไหม? ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว

“เสียงเบาขนาดนั้น เธอยังได้ยินอีกเหรอ? หูเธอนี่ดีจริงๆใช่ไหม?” ซูหยูโม่กล่าวอย่างรวดเร็ว เธอไม่คาดคิดว่าเสียงโทรศัพท์นั้นช่างเบานัก แล้วเธอก็อยู่ที่ฝั่งคนขับ หูของเธอทำด้วยอะไรกัน?

“ไม่ต้องห่วงหรอกว่าหูของฉันจะเป็นยังไง นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี่ย ฉันไปแค่ไม่กี่วันแต่เธอกลับมีเพื่อน “ธรรมดา” ไปซะแล้ว นี่มันไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ?” เซี่ยเมิ่งเจียวดูเหมือนจะพบบางอย่างที่น่าสนใจเธอจึงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“เร็วอะไรกัน? อย่าเข้าใจผิดสิ เขาก็เป็นแค่เพื่อนธรรมดา เธออยากจะให้เขาเรียกฉันว่าผู้อำนวยการซูอย่างนั้นใช่ไหม?” ซูหยูโม่กล่าว

“อย่าบอกนะว่าเป็นผู้ชายคนที่โทรมาหาเธอครั้งก่อนนั่น” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว

เธอและซูหยูโม่เป็นเพื่อนสนิทกันและพวกเธอก็รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว

ดังนั้นพวกเธอจึงรู้จักซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี และอีกอย่างก็เป็นเพราะว่าเธอรู้สึกว่าเพื่อน “ธรรมดา” ของซูหยูโม่นั้นไม่ธรรมดา

“ฉันขี้เกียจจะอธิบายแล้วล่ะ” ซูหยูโม่กล่าว หลังจากที่เธอหันหน้ากลับมาไม่มองไปที่เซี่ยเมิ่งเจียว แต่หน้าของเธอนั้นก็แดงก่ำขึ้นเล็กน้อยและไม่อาจที่จะเห็นได้ชัดเจน

เซี่ยเมิ่งเจียวหัวเราะและไม่ล้อซูหยูโม่เล่นอีกต่อไป แต่เธอกำลังสนใจเพื่อนธรรมดาที่เธอพูดถึงเป็นอย่างมาก

อีกทางด้านหนึ่ง หลังจากที่ฮวงเฟิงได้รับข้อความจากซูหยูโม่ เขาก็กลับบ้าน

สถานที่ใหม่แห่งนี้เป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ในตอนนี้และไม่มีใครรู้เรื่องนี้มากนัก

และจากข้อมูลที่เขาได้รับจากซูหยูโม่ มันก็เห็นได้ชัดว่าเธอรู้จักเพียงสถานที่นี้

คนอย่างถงเฉียนคงจะไม่ไปเที่ยวเล่นแค่ที่นี่ที่เดียวเป็นแน่

แต่ฮวงเฟิงนั้นก็ไม่มีข้อมูลอื่นอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงลองเสี่ยงโชคมาที่นี่ดู

เพราะว่าเวลานี้ยังไม่ดึกมาก ฮวงเฟิงจึงไม่ได้เร่งรีบที่จะไป

เขาอยากจะกลับไปหาเสี่ยวไป่และหาอาหารค่ำกินเสียก่อน

ในตอนที่ฮวงเฟิงเปิดประตูออก เจ้าตัวน้อยก็ได้วิ่งเข้ามาหาอย่างมีความสุข มันถูเข้ากับกางเกงของฮวงเฟิงอย่างรักใคร่ขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและกระดิกหาง โดยปราศจากศักดิ์ศรีใดๆ ที่หมาป่าควรจะมีเลย

อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงไม่ได้เลี้ยงดูมันเยี่ยงหมาป่า

ก่อนอื่นเขาได้หาอะไรให้เจ้าตัวน้อยกิน และหลังจากนั้นฮวงเฟิงก็เริ่มปรุงอาหารให้กับตัวเอง เพราะว่าเขามีคัมภีร์อมฤต ดังนั้นความเร็วในการปรุงอาหารของเขาจึงยังคงรวดเร็วและรสชาตินั้นก็เป็นเลิศ

หลังจากที่อิ่มแล้ว ฮวงเฟิงก็ตั้งใจที่จะไปเปิดกล่องจักรวาลของเขา