USB:บทที่ 645 ประชุมอีกครั้ง

แม้ว่าซูเผยจะไม่สามารถสนับสนุนฮวงเฟิงเรื่องการเงินไปมากกว่านี้ และเขาเองก็ไม่ใช่คนปัดความรับผิดชอบเมื่อ หากมีเรื่องที่เขาพอจะช่วยเหลือได้เขาจะช่วยอีกฝ่ายเต็มที่

ฝ่ายซูเผยอยู่ที่มณฑลเมยและมณฑลหลี่รวมถึงเมืองเล็กบางแห่งที่ถูกกองกำลังพันธมิตรยึดครอง เขามอบร้านค้าที่เหมาะสมบางแห่งให้ฮวงเฟิง เจ้าของเดิมของร้านค้าเหล่านี้อาจเสียชีวิตในสงครามไม่ก็ให้การสนับสนุนศัตรูของกองทัพพันธมิตร

ดังนั้นร้านค้าเหล่านี้จึงไม่มีเจ้าของ ดังนั้น ซูเผยจึงมอบร้านค้าเหล่านี้ให้ฮวงเฟิงเพื่อเป็นการสนับสนุนกิจการของเขา

ด้วยร้านค้านี้ประกอบกับการติดต่อของตระกูลของหนิงอู๋ซวง กิจการผ้าที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮวงเฟิงก็ได้เปิดตัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่ซูเผยก็มีชื่อในการสนับสนุนฮวงเฟิงเช่นกัน ทำให้ร้านใหม่ของฮวงเฟิงเปิดกิจการได้อย่างราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้นรวมถึงไม่มีใครกล้าขัดขวางหรือสร้างปัญหาให้เขา

แต่เมื่อกล่าวถึงเรื่องคู่ค้าของหนิงอู๋ซวง ในช่วงแรกมีคนสนับสนุนนางไม่มากนัก นางเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง และในยุคที่อำนาจอยู่เหนือทุกสิ่ง นางจึงไม่มีผลประโยชน์ต่อพวกเขา

เพียงแค่คนเหล่านี้รู้ว่าหนิงอู๋ซวงเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด พวกเขาทุกคนต่างเปลี่ยนความคิดและเริ่มร่วมมือกับหนิงอู๋ซวง ทว่าเงื่อนไขในการร่วมมือที่พวกเขาเสนอที่เรื่องดีสำหรับหนิงอู๋ซวง แต่พวกเขาไม่กล้าดูหมิ่นหรือหลอกเขา ทำให้หนิงอู๋ซวงที่เพิ่งเปิดร้านโดยที่ไม่มีความรู้สามารถศึกษาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้

ไม่กี่วันถัดมา ฮวงเฟิงและหนิงอู๋ซวงกำลังง่วนอยู่กับการเปิดร้านค้า และเพราะฮวงเฟิงทำให้ร้านนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นตอนนี้มันจึงเติบโตเร็วมาก แม้จะผ่านไปไม่นานแต่ร้านค้าของเขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลถึงต่างมณฑล

สิ่งที่ทำให้ ฮวงเฟิงประหลาดใจคือตอนที่เสี่ยวซุยสาวใช้ของหนิงอู๋ซวงกำลังช่วยหนิงอู๋ซวง นางได้เผยความสามารถในการค้าขายที่ไม่ด้อยไปกว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ค้าขายในตลาดมาเนิ่นนาน

ดังนั้น เมื่อหนิงอู๋ซวงและฮวงเฟิงปรึกษาหารือในเรื่องนี้ ทั้งสองตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเสี่ยวซุยให้ทำตามที่นางต้องการ ตราบใดที่ยังมีพวกเขาคอยสนับสนุน โดยเฉพาะหนิงอู๋ซวง อีกไม่นานนางก็จะเป็นนายใหญ่ที่คอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง

แต่เพราะที่นี่ยังมีร้านค้าและคู่แข่งอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น หนิงอู๋ซวงจึงจำเป็นต้องระวังเรื่องนี้

นางเติบโตในตระกูลหนิง และความสัมพันธ์ของนางและหนิงอู๋ซวงนั้นดีมาก ทั้งฮวงเฟิงและหนิงอู๋ซวงต่างเชื่อมั่นและไว้ใจนาง มันจึงทำให้นางสามารถแสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่

แต่ไม่กี่วันต่อมา ฮวงเฟิงก็เริ่มไม่พอใจการขายเสื้อผ้าแบบธรรมดาเกินไป เขาอธิบายการออกแบบเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ในชีวิตจริงแก่หนิงอู๋ซวงและเสี่ยวซุย และการออกแบบเสื้อผ้าที่แปลกใหม่ได้ดึงดูดความสนใจจากหนิงอู๋ซวงและเสี่ยวซุยที่เป็นหญิงสาววัยแรกแย้ม สำหรับเสื้อผ้าที่งดงามเหล่านี้ เสี่ยวซุยไม่ได้ต่อต้าน เมื่อเข้าใจวิธีการออกแบบ เสี่ยวซุยก็ต้องการนำไปใช้ทันที

ด้วยเหตุนี้ ภายในเวลาไม่กี่วัน ชุดกี่เพ้า กระโปรงจีบ และเสื้อชั้นในที่สามารถพบเห็นได้เฉพาะในยุคปัจจุบันก็ได้ปรากฏขึ้น และมันก็ได้เป็นที่นิยมในมณฑลที่ถูกกองทัพกบฏยึดอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะไม่มีผู้ใดกล้าใส่เสื้อชั้นในเพราะมุมมองทางความคิด แต่ก็มีหญิงสาวจำนวนมากที่ชอบสวมเสื้อผ้าที่เผยเรือนร่างที่ซ่อนอยู่ในห้องส่วนตัว

เนื่องจากความสัมพันธ์ของฮวงเฟิงกับนาง นางก็ได้พบสมาชิกหญิงของตระกูลชนชั้นสูงในบางมณฑลอยู่บ่อยๆ เนื่องจากหนิงอู๋ซวงมาจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับคนเหล่านั้น

ด้วยเหตุนี้ นางจึงขายชุดใหม่ๆพวกนี้ให้พวกเขาอย่างรวดเร็ว บางครั้งหญิงสาวก็นำเสื้อผ้ามาสวมใส่และเมื่อมันมาอยู่บนรูปร่างของนางนั้นทำให้ดูงดงามมาก

ในช่วงเวลาสั้น ๆ เสื้อผ้าที่ฮวงเฟิงเป็นคนคิดค้นก็ได้เป็นที่ต้องการในท้องตลาดในบางมณฑล

และระหว่างนั้น ซูเผยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและคอยส่งคนไปสอบถามข่าวคราวตามเมืองต่างๆที่ใกล้เคียง และได้รับการตอบกลับเรื่อยๆ ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์รอบตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ เรื่องกองทัพตะวันตก เขาไม่ได้ขัดขวางพวกเขา การคาดการของฮวงเฟิงนั้นไม่ผิด แม้ว่ากองทัพตะวันตกบางคนจะลังเลและปฏิเสธ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยินดีเข้าร่วมกองทัพพันธมิตร ทำให้กองทัพพันธมิตรภายใต้การควบคุมของซูเผยมีกำลังพลมากขึ้น

เนื่องจากกองทัพตะวันตกมีกองกำลังมากกว่ากองทัพพันธมิตร ความสามารถในการสู้รบของกองทัพพันธมิตรจึงไม่ได้ด้อยไปกว่ากองทัพภายใต้การควบคุมของผู้นำฉีอู่ในอดีต

ขณะนี้ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่เพราะตอนนี้คือยุคแห่งสงคราม คนมากมายจึงเริ่มอดตายอีกทั้งการเติมความต้องการและท้องอิ่ม การเข้าร่วมกองทัพพันธมิตรจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่นัก

อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการสู้รบของทหารหน้าใหม่สามารถพัฒนาได้ หากพวกเขาต้องการ พวกเขาก็ต้องฝึกร่างกายหนักและฝึกต่อสู้ในสนามรบให้มาก

ในช่วงนี้ ฮวงเฟิงกำลังวุ่นอยู่กับกิจการของตน ส่วนการยกระดับกองทัพ เขาแทบจะไม่สนเรื่องการรับกองทัพตะวันตกเลย เรื่องนี้ทำให้ซูเผยและนายพลคนอื่นๆ รู้แล้วว่าฮวงเฟิงไม่สนเรื่องพวกนี้เลยสักนิด ชายหนุ่มต้องการหาเงินเท่านั้น

เรื่องนี้ทำให้หลายคนแอบโล่งใจ ในเวลาเดียวกัน ทุกคนก็ให้การสนับสนุนฮวงเฟิงมากขึ้นเพราะความสามารถของฮวงเฟิง ชายหนุ่มไม่ได้ต้องการต่อสู้เพื่อแย่งชิงความป็นใหญ่ สำหรับพวกเขา คนประเภทนี้นับเป็นสหายที่ดีที่สุด

สุดท้ายชื่อเสียงของฮวงเฟิงในหมู่นายพลก็เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว และนี่เป็นสิ่งที่ฮวงเฟิงไม่เคยคาดคิดมาก่อน

แม้ซูเผยจะทราบเรื่องที่ฮวงเฟิงไม่ต้องการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจ และไม่ขอข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกโล่งใจ และในเวลาเดียวกัน เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะช่วยดูแลกิจการของฮวงเฟิงในอนาคต

ครั้งนี้พวกเขากำลังหารือเรื่องขั้นตอนต่อไป ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา พวกเขาได้สะสางเรื่องต่างๆไปมากมาย และตอนนี้ก็ถึงเวลาวางแผนสำหรับขั้นตอนต่อไป

สุดท้ายฮวงเฟิงจำต้องทิ้งงานที่ทำอยู่และไปทุ่มเทให้กับการก่อสงคราม เพียงเพราะอำนาจในกองทัพพันธมิตรยิ่งใหญ่ขึ้น กิจการของเขาก็ยิ่งรุ่งเรือง