ตอนที่ 549

USB:บทที่ 549 ต้องการ

หลังจากนายพลพวกนั้นออกไปแล้ว ผู้นําฉีอู่ก็เดินตรงเข้าไปยังสวนหลังบ้าน ในเวลานี้คนที่ใส่ร้ายซูเป่ยไม่ได้กลับออกไป แต่ตามเขากลับเดินตามท่านผู้นำฉีอู่ไปแทน

"ท่านโกว ดูเหมือนว่าซูเป่ยไม่ได้มีอิทธิพลต่อจิตใจของทุกคนอย่างที่ข้าคิด" ผู้นําฉีอู่ กล่าวว่าในขณะที่เขาเดิน เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้อารมณ์ของผู้นําก็ไม่แย่นัก เพราะเขาเห็นว่าเหล่านายพลตำแหน่งสูงพวกนั้นต่างตระหนักถึงหน้าที่ของพวกเขาดี นอกจากนี้กองทัพจากรัฐบาลจักรวรรดิจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่คาดไม่ถึง ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก

"นั่นเป็นเพราะความสามารถของท่านผู้นำขอรับ ทุกคนชื่นชมท่านจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขา เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านผู้นำ" ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น แซ่ของเขาคือโกว ปกติแล้วซูเป่ยจะคุ้นเคยกับแซ่นี้ เนื่องจากเขามักจะเรียกชายคนนี้ว่า "สุนัขเฒ่า" ทั้งลับหลังและต่อหน้า ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ชายคนนี้จะเห็นซูเป่ยเป็นศัตรู

การที่เขาหลุดพ้นจากการเป็นยามเฝ้าลานบ้านจนวันนี้สามารถมายืนอยู่ในจุดนี้ได้นั่น ทำให้ผู้นำฉีอู่ยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างมาก  เป็นธรรมดาที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาชื่นชมเขา ไม่เหมือนซูเป่ยที่อวดดีกล้าไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา "ครั้งนี้ ข้าจะทำให้ซูเป่ยได้เห็น ต่อให้ไม่มีเขา ข้าก็สามารถเอาชนะกองทัพจากราชสำนักได้อยู่ดี"

ฉีอู่เกิดมาในครอบครัวทหาร เขาเป็นเพียงทหารชั้นประทวน ต่อมาก็สามารถไต่ต้าวจนได้มีตำแหน่งในระดับกลาง เพราะฉะนั้นเขาจึงเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะไม่เคยควบคุมทหารจำนวนมากเพื่อทำการรบมาก่อน แต่ฉีอู่ก็ยังคิดว่าซูเป่ยซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนยังทำได้ แล้วทำไมเขาเองจะทำไม่ได้? เป็นไปไม่ได้ที่ศักยภาพของเขาจะด้อยไปกว่าซูเป่ย!

นอกจากนั้นในการต่อสู้กับกองทัพตะวันตกเมื่อครั้งที่ผ่านมา ในตอนนั้นกองกำลังของเขายังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะต่อสู้กองทัพของราชสำนักได้ อีกทั้งในเวลานั้นเขายังไม่มีซูเป่ยคอยช่วยเหลือ แต่เขาก็ยังเอาชนะศัตรูมาได้ ท้ายที่สุดแล้วสำหรับผู้นำฉีอู่แล้ว สามารถพูดได้เลยว่าเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง และไม่รู้สึกหวั่นเกรงเลยสักนิด ในความคิดของฉีอู่แล้ว จากความสำเร็จและชื่อเสียงที่ผ่านมาของเขา ไม่มีทางที่กองทัพตะวันตกจะสร้างปัญหาให้กับเขาได้

"ใช่แล้วครับท่านผู้นำ ท่านจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าซูเป่ย คนผู้นั้นยังไม่รู้จักท่านผู้นำดีพอ คนอย่างเขาจะเอาอะไรมาเทียบกับท่านผู้นำได้? เมื่ออยู่ต่อหน้าท่าน กองทัพตะวันตกพวกนั้นไม่เห็นมีอะไรให้ต้องกลัว!" เดิมที่เขารู้สึกวิตกเล็กน้อย หลังจากที่ใส่ร้ายซูเป่ยจนถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้นำกองทัพแล้ว ถ้าหากพวกเขาต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับสงครามในครั้งนี้ แม้แต่ชีวิตของเขาเองก็ต้องตกอยู่ในอันตราบแน่ แต่หลังจากรู้ว่ากองทัพที่มานั้นมากจากกองทัพตะวันตก เขาก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาก เขาค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวท่านผู้นำฉีอู่

ผู้นำฉีอู่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นจู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นว่า "ช่วงนี้พอมีอะไรดี ๆ บ้าง?"

"ท่านผู้นำ ข้ากำลังจะบอกท่านอยู่พอดี ไม่กี่วันมานี่  ข้าบังเอิญไปได้หยกหรูอี้มาชิ้นหนึ่ง ข้าคิดว่าหยกชิ้นนี้มีแต่ท่านผู้นำเท้านั้นที่คู่ควรกับมัน ข้ากำลังจะไปเอามันมามอบให้กับท่าน" นายท่านโกวกล่าว

"อ้อ หยกหรูอี้อย่างนั้นเหรอ?" ผู้นำฉีอู่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย  ถึงแม้วาหยกหรูอี้จะเป็นหยกหายาก แต่เขาก็เคยพบเห็นมันมาบ้างแล้ว และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ

"ท่านผู้นำ หยกหรูอี้ชิ้นนี้แตกต่างไปจากชิ้นอื่น มันจะต้องสวยงามมากกว่าชิ้นอื่น ๆ ข้ารับรองว่าท่านต้องชอบมัน" นายท่านโกวพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

"งั้นเหรอ" อย่างไรก็ตามผู้นำฉีอู่ก็พยักหน้าไปงั้น ๆ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับมันสักเท่าไหร่ หลังจากที่เขาสามารถครอบครองเมืองต่าง ๆ ไว้ได้  ผู้นำฉีอู่ก็เริ่มชื่นชอบความสุขสำราญ ไม่ใช่เพียงเพราะจำนวนของเมืองที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขาที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น  หากแต่เป็นเพราะจำนวนทรัพย์สมบัติในคลังส่วนตัวของเขาก็ได้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าในความคิดของผู้นำฉีอู่ ถ้าหากเขาไม่สามารถต้านทานการปราบปรามของกองทัพจากราชสำนักได้อีกต่อไป เขาก็จะหอบเอาสมบัติมีค่าพวกนั้นหนีไป แล้วใช้ชีวิตอยู่อย่างมหาเศรษฐี

ถึงแม้ว่าเขาจะต้องอยู่อย่างหลบซ่อนแต่เชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเขาจะต้องดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน แน่นอนที่สุดตราบใดที่ยังมีโอกาสให้แสวงหาอำนาต ผู้นำฉีอู่ก็จะไม่หยุดไขว่ขว้าอำนาจไว้ในมือ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหากมีเพียงแค่เงินแต่ไร้ซึ่งอำนาจ ก็ยังคงไม่อาจรับรองได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขาบ้าง สมบัติล้ำค่าในความคิดของผู้นำฉีอู่นั้น ย่อมรวมถึงของสะสมของเขาอีกอย่าง ผู้หญิง!"

"แล้วเรื่องผู้หญิง คนที่ข้าเคยบอกกับท่านเมื่อวันก่อนละ?" ผู้นำฉีอู่ถามขึ้น ขณะที่จินตการภาพสาวน้อยปรากฏขึ้นในหัวของเขา เขายังจำความรู้สึกครั้งแรกที่เห็นนางได้ หัวใจของเขาเต้นรัวระทึกด้วยความรู้สึกอยากครอบครอง

"ท่านผู้นำ เรื่องนี้มีปัญหานิดหน่อย" ผู้ชายคนนี้คือคนที่คอยเสาะแสวงหาสิ่งต่างที่เป็นความประสงค์ของผู้นำฉีอู่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นายท่านโกวจะรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงที่ท่านผู้นำหมายถึงคนนั้นคือใคร

"ทำไม มีปัญหาอะไร?" ผู้นำฉีอู่ถาม

"ผู้หญิงคนนั้น เป็นเด็กสาวจากตระกูลที่มั่งคั่งในเมืองเม่ย พวกเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับผ้าไหม เมื่อครั้งที่เมืองเม่ยถูกโจมตี  ตอนแรกครอบครัวของพวกเขาได้ให้ความช่วยเหลือกองกำลังของพวกเราไว้มาก แต่ต่อมาพวกเขาก็หยุดให้การสนับสนุนพวกเรา" นายท่านโกวอธิบาย "อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นคือบุตรสาวของท่านผู้นำตระกูล และเขาก็ไม่ยอมยกบุตรสาวของเขาให้กับท่านผู้นำอีกด้วย"

การให้ความสนับสนุนต่อผู้นำฉีอู่นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การปกป้องบุตรสาวของตัวเองนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผู้นำของตระกูลให้การสนับสนุนผู้นำฉีอู่และคนอื่น ๆ อย่างมาก และแม้กระทั่งยอมบริจาคเงินทองมากายให้กับพวกเขา เพราะเขาไม่ต้องการให้ลูกสาวของเขาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับทหาร เขาประสงค์ให้ลูกสาวของเขาแต่งงานกับบัณฑิต

ผู้นำฉีอู่นิ่วหน้า เขาไม่เคยคิดเลยว่าเด็กสาวที่เขาเจอโดยบังเอิญนั่น ครอบครัวของนางจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่ามันจะแปลกอะไร ก็มีเพียงแต่ครอบครัวที่มีฐานะเช่นนี้เท่านั้นจะสามารถฟูมฟักเด็กสาวให้เติบโตและขึ้นมาอย่างสวยงามและโดดเด่นได้เช่นนี้