USB:บทที่ 553 แอบถ่าย

หลังจากที่ฮวงเฟิงมาถึงประตูหลังของโรงแรมได้ไม่นาน หลี่ปิงอวิ้นและผู้ช่วยของเธอก็ปรากฏตัวขึ้น ขณะนั้นนักแสดงสาวสวมหมวกใบใหญ่และแว่นกันแดด รวมถึงหน้ากากอนามัยไว้ด้วย เรียกได้ว่าบดบังแทบทุกส่วนของใบหน้า  ดังหน้าถ้าหากไม่ใช่คนที่ใกล้ชิดหรือรู้จักเธอดีคงจำเธอไม่ได้แน่

"อะไรกัน ดูลึกลับยิ่งกว่าปฏิบัติการลับเสียอีกนะเนี่ย?" ฮวงเฟิงพูดขณะที่ส่งยิ้มให้เธอ

"ฉันเองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เหมือนกัน? แต่ทุกครั้งที่ต้องคอยหลบปาปารัสซี่พวกนั้น ก็ต้องทำแบบนี้" หลี่ปิงอวิ้นมองไปที่ฮวงเฟิงแล้วพูดขึ้น ถึงแม้การเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงนั้นจะเป็นเป็นเรื่องที่น่ายินดีก็ตามที แต่ทว่านั่นก็หมายความว่า มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเก็บงำเรื่องส่วนตัวไว้สักเรื่อง ในเมื่อเธอเป็นที่สนใจของผู้คน ปาปารัสซี่พวกนั้นจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวที่ขายได้ราคา

"พวกเราไปกันเถอะ เอาไว้ค่อยคุยกันบนรถ" ฮวงเฟิงกล่าว

"ไหนค่ะ รถคุณ?" หลี่ปิงอวิ้นซึ่งเดินคู่ไปกับฮวงเฟิง เอ่ยถามขึ้นเมื่อเธอโชงกหน้าออกไปเพื่อมองหารถคันที่เธอเคยเห็นฮวงเฟิงขับอยู่สองสามครั้ง และนั่นมันก็เป็นรถของบริษัทเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป  แต่ในขณะนั้นไม่มีใครรู้เลยว่า ที่ตึกตรงข้ามกับโรงแรม มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในห้องบนชั้นสองของถึง กำลังโน้มตัวออกมาจากหน้าต่างห้อง พร้อมกับกล้องถ่ายรูปในมือ ผู้ชายคนนั้นรัวชัตเตอร์ เก็บภาพของพวกเขาเอาไว้

"ฉันรวยแล้ว รวยแล้ว ข่าวลับเฉพาะ หลี่ปิงอวิ้นแอบคบหากับแฟนหนุ่มของเธอ แต่แฟนหนุ่มคนนี้ของเธอเป็นใครกัน?" ผู้ชายคนนั้นพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ยังคงกดชัตเตอร์อยู่อย่างนั้น เขาอยู่ห่างจากฮวงเฟิงและหลี่ปิงอวิ้นพอประมาณ แต่ด้วยเพราะหลี่ปิงอวิ้นเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ถึงแม้ว่าเธอจะปลอมตัวอย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้ก็ยังจำเธอได้ เนื่องจากเขาคอยติดตามคนดังอยู่หลายครั้งและเขาก็รู้จักนักแสดงมากมาย ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะจำพวกเขาได้  อย่างไรก็ตามเขากลับรู้สึกไม่คุ้นหน้าฮวงเฟิงเลย รูปที่ถ่ายได้นั้นก็สามารถเห็นเพียงแต่ใบหน้าด้านข้างของฮวงเฟิงเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเห็นใบหน้าของฮวงเฟิงไม่ชัดเจนนัก ถึงแม้ว่าในใจเขาจะรู้สึกกระวนกระวายมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น

"ฉันทำเรื่องขอเบิกกล้องตัวใหม่กับ บก. ไปนานแล้ว แต่ก็ไม่ยอมอนุมัติสักที ดูรูปพวกนี้สิ เห็นแล้วน่าโมโหจริง ๆ"

"รถคันนี้ ของคุณเหรอคะ?" เมื่อเห็นฮวงเฟิงเดินมาหยุดอยู่หน้ารถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่ง หลี่ปิงอวิ้นจึงถามขึ้นอย่างแปลกใจ

"ครับ รถของผมเอง ไม่ใช่ของบริษัท" ฮวงเฟิงพูดขณะที่เปิดประตูให้นักแสดงสาวแล้วพูดขึ้น "เชิญครับ"

"อ้อ ค่ะ" หลี่ปิงอวิ้นที่ยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ยิ้มแล้วเข้าไปนั่งอยู่ในรถ ขณะที่ในใจของเธอก็คิดว่า ไม่มีอะไรที่ฮวงเฟิงคนนี้ทำไม่ได้ ทำให้เธอเชื่อเขาได้ไม่ยาก  แต่สำหรับผู้ช่วยของเธอนั้นกลับไม่ยอมเชื่อง่าย ๆ ทั้งหมดเป็นเพราะว่าเธอไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฮวงเฟิง รู้แค่เพียงว่าเขาทำงานเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้เรื่องรถมากนักก็ตาม แต่ก็รู้สึกได้ว่ารถคันนี้ต้องแพงมากแน่ ๆ ถ้ามีเงินไม่ถึงล้าน หรือ สองล้าน ก็อย่าหวังว่าจะซื้อรถคันนี้ได้

ถูกต้อง ถึงแม้วาผู้ช่วยสาวคนนี้จะใช้ความรู้สึกของเธอประเมินราคารถคันนี้ไว้สูงมากแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ส่งที่เธอคิดนั้น ยังไม่ถึง 10% ของราคาจริงด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าเธอจะมีเงินมากขนาดนั้นแต่ก็ไม่สามารถซื้อรถคันนี้ได้

พวกเขาขึ้นรถไปแล้ว แฟนหนุ่มลึกลับของหลี่ปิงอวิ้นคนนี้จะต้องเป็นทายาทมหาเศรษฐี คงไม่ใช่ไอ้กระจอกที่เป็นยามนั่นหรอก เป็นแค่ยามเอาปัญญาไหนมาขับรถหรู ๆ แบบนี้ได้?"  ผู้ชายคนนั้นถ่ายรูปท้ายรถของฮวงเฟิงได้อีกสองสามรูป ขณะที่คิดสรุปเรื่องราวด้วยตัวเอง

แน่นอนว่า เขาคิดว่าหลี่ปิงอวิ้นกำลังคบหาอยู่กับแฟนหนุ่มลึกลับ แต่แฟนหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ยามคนนั้นแน่ เขาไม่มีทางมีรถหรูแบบนี้ เนื่องจากระยะห่างระหว่างพวกเขากับกล้อง ทำให้เขาไม่สามารถเห็นใบหน้าฮวงเฟิงได้ชัดเจน และนั่นทำให้เขารู้สึกเสียใจไม่น้อย

"เอาเถอะ ยังไงก็ช่าง เรื่องนี้ยังคงเป็นข่าวลับ และนี้ก็เป็นสาเหตุที่หลี่ปิงอวิ้นไม่ยอมออกไปช๊อปปิ้งในช่วงสองสามวันมานี่" ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงต้องการถ่ายรูปให้ได้มากขึ้น แต่ทว่ารถของเขาไม่อาจเทียบกับความเร็วของรถฮวงเฟิงได้ ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้ในที่สพุด

"รูปพวกนี้ต้องทำให้ได้โบนัสเพิ่มแน่คราวนี้" ผู้ชายคนนั้นรู้สึกภาคพูดในผลงานของตัวเอง อย่างที่รู้กันว่าเขาเป็นคนขุดขุ้ยความลับเรื่องนี้ได้ และนั่นก็หมายความว่าเขาจะได้เงินมากมายจากการขายความลับนี้

"ผมเสียใจจริง ๆ ที่ผมได้สัญญาบางอย่างไว้ แต่ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าช่วงสองวันมานี้ผมจะยุ่งมากขนาดนี้" ฮวงเฟิงกล่าวขอโทษหลี่ปิงอวิ้นอีกครั้งขณะที่พวกเขานั่งอยู่ในรถด้วยกัน

"ช่างมันเถอะค่ะ คุณก็บอกฉันแล้วนี่ค่ะ ฉันเข้าใจ" ในขณะที่หลี่ปิงอวิ้นกำลังสำรวจดูรถของฮวงเฟิงอยู่นั้น เธอก็หันกลับมาพูดกับเขา เมื่อได้ยินคำขอโทษจากฮวงเฟิงอีกครั้ง พี่ชายของเธอเป็นหน่วยรบพิเศษ ดังนั้นเขาจึงต้องออกไปปฏิบัติภาระกิจและฮวงเฟิงเองก็เป็นสมาชิกขององค์กรความมั่นคงแห่งชาติ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาต้องมีภารกิจมากมาย ในความเป็นจริงแล้วการที่ฮวงเฟิงเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้น แต่การที่เขาจะมีรถดี ๆ แบบนี้ได้ เห็นได้ชัดวามันจะต้องเป็นเพราะเขายุ่งอยู่กับภารกิจอื่นเพียงแต่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็เท่านั้นเอง

"ขอบคุณครับ ที่เข้าใจ เอาไว้คราวหลัง เมื่อคุณกลับมามณฑลเจียงอีก ผมจะทำให้คุณมีช่วงเวลาดีแน่ แล้วผมก็จะทำอาหารอร่อย ๆ ให้คุณทานด้วยตัวเองเลย" ฮวงเฟิงกล่าว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นคนผิดสัญญากับเธอ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดต่อเธอ

"ทำอาหารด้วยตัวเอง? คุณทำเป็นหรือคะ? แล้วคุณกินได้ไหม? ฮ่า ฮ่า" หลี่ปิงอวิ้นไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดออกไปเช่นนั้น ในความคิดของเธอแล้ว อาหารที่ดีที่สุดที่ฮวงเฟิงทำได้ก็คงหนีไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

"แล้วคุณจะรู้เอง เมื่อคุณได้ลองชิมดู" ฮวงฟิงกล่าว เขาค่อนข้างมั่นใจในฝีมือการทำครัวของตัวเองมาก

"ในเมือคุณพูดเช่นนั้น ก็ตกลงค่ะ เมื่อถึงเวลานั้นฉันต้องลองชิมอาหารฝีมือคุณแน่" หลี่ปิงอวิ้นกล่าว "อีกอย่าง คงไม่นานเกินไป"

"อีกไม่นานคุณก็จะกลับมาเหรอครับ?" ฮวงเฟิงถาม

"ก็อาจเป็นไปได้ค่ะ ครั้งที่ที่ฉันกลับไป ก็เพื่อวางแผนเรื่องการทัวร์คอนเสิร์ต และมีโอกาสเป็นไปได้ว่ามณฑลเจียงก็เป็นอีกหนึ่งเวทีของฉัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉันก็มีโอกาสที่จะได้กลับมาที่นี่อีก" หลี่ปิงอวิ้นกล่าว

เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ปิงอวิ้น หนังตาของผู้ช่วยหลี่ปิงอวิ้นก็กระตุกขึ้น ในฐานะผู้ช่วยของเธอ เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้เรื่องคอนเสิร์ตดี เดิมทีมณฑลเจียงไม่ได้อยู่ในบัญชีสถานที่จัดแสดงของเธอ แต่ดูเหมือนจากคำพูดของหลี่ปิงอวิ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังจะเพิ่มมณฑลเจียงลงไปในโปรแกรมของเธอ และเหตุผลที่เธอทำเช่นนี้ เมื่อหันไปมองยังฮวงเฟิงที่กำลังขับรถอยู่นั้น ผู้ช่วยสาวคนนี้ก็เข้าใจทุกอย่างได้ทันที