ตอนที่ 685

USB:บทที่ 685 บทเพลง

เมื่อหญิงสาวยืดตัวตรงทันใดนั้นเองทั่วทั้งบริเวณทั่วทั้งบริเวณจัดแสดงคอนเสิร์ตก็เงียบกริบลงทันที ราวกับว่ามีใครคอยกำกับการกระทำของผู้เข้าชมอยู่ก็ไม่ป่าน อย่างไรก็ตามต่อให้มีผู้ควบคุมที่แข็งแกร่งมากมายสักแค่ไหนก็ยังไม่อาจควบคุมผู้คนนับพันให้อยู่ในระเบียบวินัยเช่นนี้ได้

ชิงซวนยังคงยืนอยู่ตรงกลางเวที ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขเมื่อมองไปยังเก้าอี้ชมการแสดงที่เต็มไปด้วยผู้ชม ศิลปินสาวรู้ดีว่าการที่เธอสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้รับการสนับจากเหล่าแฟนคลับเหล่านี้ ห้าปีในวงการบันเทิงได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วในชั่วพริบตาเดียว ชิงซวนยังจดจำเหตุการณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นบนเวทีการประกวดความสามารถในครั้งแรกได้ดี ในตอนนั้นเธอเกือบทำเรื่องอันน่าอับอาย ด้วยเพราะความรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าทำให้เธอแทบจะลืมเนื้อเพลง

จากวันนั้นจนถึงวันนี้สิ่งที่สามารถทำให้เธอสามารถยืนอยู่ในวงการบันเทิงและเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกได้ก็เพราะทุกคนที่นี่ให้การสนับสนุนเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ในเวลานั้นบรรดาผู้ชมทั้งหมดยังคงนิ่งเงียบ ถ้าหากมีคนสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีสตรีผู้เข้าชมบางคนเอามือปิดปากตัวเองเพื่อพยายามให้เสียงร้องไห้ของตัวเองเล็ดรอดออกมาให้น้อยที่สุด ทุกคนต่างไม่มีใครยากรบกวนชิงซวนที่ยังคงกล่าวบางอย่างอยู่บนเวที

"ฉันรู้ดีว่าฉันโชคดีมากแค่ไหนที่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ในวันนี้  ขอบคุณพระเจ้า และขอบคุณทุกคนมากที่ให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ฉันตลอดมา และถึงแม้ว่าฉันต้องพบเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคใด ๆ ก็ตาม ฉันก็จะมีทุกคนที่เฝ้ามองและคอยให้กำลังใจฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถยอมแพ้ และทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง กำลังใจและการสนับของเพื่อน ๆ ทุกคนทำให้ฉันสามารถก้าวผ่านอุปสรรคทุกอย่างมากได้! ขอบคุณที่ทุกคนไว้ใจและเชื่อใจฉัน!"

ชิงซวนพูดขึ้นด้วยดวงตาที่ชุ่มด้วยน้ำตา แม้ว่าชิงซวนจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สามารถก้าวมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถพูดได้ว่ามันเป็นเพราะความโชคดีของเธอเอง แต่ท่ามกลางความสำเร็จนี้เธอเองก็ต้องพบกับอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย และแน่นอนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้ความสนใจของแฟน ๆ ที่ชื่นชอบเธอ พวกเขาคอยให้กำลังใจและสนับสนุนเธอเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามชิงซวนก็ไม่ได้ทำให้บรรดาแฟน ๆ ต้องผิดหวัง ต่อให้เธอต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคที่ยากลำบากสักเพียงใด แต่เธอก็ยังสามารถก้าวเดินต่อไปได้

เด็กสาวสองคนที่เกือบจะมาช้าเกินไปก่อนหน้านี้ ในตอนนี้พวกเธอทั้งสองก็สะอิดสะอื้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าบรรดาแฟนตัวยงที่คลั่งไคล้ชิงซวนเป็นอย่างมากนั้น พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าแก้มทั้งสองข้างที่อาบด้วยน้ำตาของพวกเขาในตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกตื่นเต้นและซาบซึ้งใจบนใบหน้า  ขณะที่จ้องมองดูทุกกกิริยาบทของชิงซวนที่ยืนอยู่บนเวที ในฐานะแฟนตัวยงของเธอนั้น พวกเขารู้ดีว่าความสำเร็จของศิลปินสาวคนนี้ไม่ได้มาจากโชคช่วยหรือภูมิหลังทางครอบครัวของเธอเหมือนอย่างที่คนอื่นพูดกัน  พวกเขารู้ดีว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของชิงซวน

"เอาละเลิกพูดถึงความซาบซึ้งที่ฉันมีต่อเพื่อน ๆ ทุกคนกันดีกว่า เพราะต่อให้พูดมากเท่าไหร่ก็ไม่อาจแสดงความรู้สึกของฉันออกมาได้หมด ต่อไปในขอให้ฉันได้ใช้บทเพลงถ่ายทอดความรู้สึกที่มี หวังว่าทุกคนจะพบกับความสุขและมีช่วงเวลาที่ดีในค่ำคืนนี้!" ชิงซวนพูดกับไมโครโฟนอย่างช้า และเนื่องจากนี่คือเวทีคอนเสิร์ตเธอไม่สามารถปล่อยให้ความรู้สึกของผู้ชมทั้งหมดต้องจมดิ่งอยู่กับความซาบซึ้งและเศร้าสร้อย ดังนั้นศิลปินสาวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเริ่มเปิดการแสดงคอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ขึ้น

"ชิงซวน ฉันรักคุณ!"  จู่ ๆ แฟนคลับตัวยงของเธอคนหนึ่งก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบอยู่นาน จากนั้นบรรดาผู้ชมคนอื่น ๆ ก็เริ่มทยอยร้องตะโกนขึ้นเช่นกัน

"ซิงซน ฉันรักคุณ!"

"ซิงซน ฉันรักคุณ!"

หลังจากนั้นคำพูดเดียวกันก็ได้ดังขึ้นมาจากทิศทางต่าง ๆ ในที่สุดมันก็สามารถผสานรวมกันเป็นประโยคทั่งขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันกระหึ่มขึ้นทั้งหอจัดแสดง ในตอนนี้บนใบหน้าของคนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา และพวกเขาก็เป็นแฟนกลับที่เห็นการพัฒนาขึ้นในแต่ละก้าวจนมาถึงทุกวันนี้ของชิงซวน ดังนั้นวันนี้พวกเขาจึงยิ่งรู้สึกประทับใจและหลงรักผู้หญิงคนนี้มากขึ้น พวกเขาเข้าจีว่าทุกก้าวย่างของศิลปินในดวงใจของพวกเขานั้นยากเย็นมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามเมื่อเสียงดนตรีเริ่มบรรเลงขึ้น เสียงร้องตะโกนก้องเมื่อครู่ก็เงียบง่ายลงไปโดยอัตโนมัติ ทุกคนเริ่มปลอยความอารมณ์ไปกับบทเพลงและฮัมเพลงของชิงซวนไปพร้อม ๆ กับเธอ ในฐานะแฟนคลับผู้คลั่งไคล้เธอทุกคนรู้จักทุก ๆ บทเพลงของเธอและสามารถร้องตามได้

คอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ดำเนินไปด้วยดี บรรยากาศอึมครึมในตอนต้นได้จากหายไป ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความสุขและบรรยากาศอันชื่นมื่นแทน หลังจากเวลาได้ดำเนินไปจนเกือบสามชั่วโมง ชิงซวนไม่ได้เชื้อเชิญศิลปินคนใดเพื่อร่วมแสดงคอนเสิร์ต ดังนั้นการร้องขับร้องบทเพลงเพียงลำพังในเวลายาวนานขนาดนี้ทำให้เธอเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก และเมื่อถึงช่วงท้ายของคอนเสิร์ต

"เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเดียวคอนเสิร์ตก็ใกล้จะจบลงแล้ว" ชิงซวนหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่เธอก็ยังพยายามยิ้มและคั่นการแสดงด้วยการพูดกับเหล่าผู้ชมเอเธอจะได้มีเวลาหยุดพักบ้าง เป็นธรรมาที่เหล่าแฟน ๆ จะรู้สึกเสียในเมื่อได้ยินดังนั้น นี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงที่พิเศษสุดเท่านั้นหากทว่าคอนเสิร์ตกำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่ช้า และมันก็ยากมากที่พวกเขาจะได้ฟังบนเพลงจากศิลปินในดวงใจของพวกเขาอีก  ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตำหนิชิงซวนได้ ทุกคนรู้ดีว่าศิลปินสาวเหน็ดเหนื่อยกับการแสงมากแล้วและเธอต้องการการพัก  ไม่เช่นนั้นเธอก็คงต้องเจ็บป่วย และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาอยากที่จะเห็น

"มีอีกบทเพลง ซึ่งเป็นเพลงส่งท้ายคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ถึงแม้ว่ามันจะน่าเศร้าที่พวกเราต้องจากกันในวันนี้ แต่พวกเราก็ยังสามารถพบกันในคอนเสิร์ตครั้งหน้าอีก!" ชิงซวนกล่าว "เพื่อน ๆ คงรู้จักเพลงที่ฉันจะร้องต่อไปนี้ดีใช่หรือเปล่าคะ?"

หลังจากสามชั่วโมงผ่านไป ชิงซวนต้องก็ขับร้องบทเพลงของเธอเองเกือบครบทุกบทเพลงแล้ว จะมีหลงเหลืออยู่อีกก็ไม่มานัก และสำหรับบทเพลงสุดท้าย แน่นอนวาเธอเองก็ไม่รู้จักบทเพลงอื่นดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะขับร้องบทเพลงของเธอเอง  และแฟน ๆ ของเธอก็รู้ดีว่าเพลงที่เธอกำลังจะร้องเป็นเพลงสุดท้ายนั่นคือเพลงใด และเนื่องจากมันเป็นเพลงสุดท้ายนั้นการแสดงของค่ำคืนนี้ดังนั้นมันจึงบทเพลงที่สื่อความหมายได้ดีที่สุด

"ความรัก!"

"ความรัก!"

"ความรัก!"

เสียงเชียร์ที่ดังขึ้นมาจากด้านล่างเวทีอีกครั้งเป็นคำสองคำนั่นก็คือ "ซินตง" ซึ่งนี่ไม่ใช่คำทั่ว ๆ ไป หากแต่เป็นชื่อเพลงที่ชิงซวนเคยขับร้องมาก่อน