ตอนที่ 236

USB:บทที่ 236 เริ่มต้นธุรกิจ

"แล้วนายตัดสินใจรึยังว่าจะทำยังไงต่อ?" ก่อนหน้านี้เขาก็เคยได้ยินกัวเหลียงพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน เขาจึงมีลางสังหรณ์ว่ากัวเหลียงคงคิดจะลาออก

"ยังเลย ตอนนี้ก็เหมือนได้พักสมองบ้าง" กัวเหลียงกล่าว

แม้ว่าฐานะครอบครัวของกัวเหลียงจะดีแค่ไหน แต่ความอดทนของพวกเขาก็ย่อมมีขีดจำกัดเช่นกัน

เนื่องจากงานปัจจุบันของกัวเหลียงนั้นเป็นสิ่งที่ครอบครัวของเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้เขาได้เข้าไปทำงาน

เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะไม่ทำงานเลย ยิ่งกว่านั้นความตั้งใจเดิมของกัวเหลียงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้องการสร้างอนาคตร่วมกันกับโจวหรูหรานซึ่งจำนวนเงินสำหรับใช้ร่วมกันก็ไม่ได้มากมายนัก

ดังนั้นคงถึงเวลาแล้วที่พวกเขาทั้งสองคนจะต้องดิ้นรนเพื่ออนาคต

ฮวงเฟิงมองไปที่โจวหรูหรานและแน่นอนว่าเขาเห็นสีหน้าที่กังวลของเธอแต่ในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกผิดเช่นกัน สุดแล้วเหตุที่ต้องลากออกก็เกี่ยวข้องกับเธอเช่นกัน

เมื่อมองไปที่พวกเขาทั้งสองคน ฮวงเฟิงก็นึกออกว่าคืนนี้เขาเองมีรายได้ถึงสองล้าน แม้ว่าเขาจะหักค่าคอมมิชชั่นจากบ้านประมูลแล้ว แต่เขาก็ยังมีเงินเหลืออยู่กว่าหนึ่งล้านหยวน บวกกับเงินที่เขาได้จากการขายมุกราตรีก่อนหน้านั้นอีก ตอนนี้เขาจึงมีเงินมากพอสำหรับสร้างโรงงานเล็กๆ ได้

นอกจากนี้ ฮวงเฟิงยังมั่นใจในเครื่องบำบัดน้ำเสียจากกล่องจักวาลว่ามันคงไม่แย่นัก

แม้ว่าเขาจะยังมีสูตรบ่มไวน์ขาวแต่สำหรับไวน์ขาวแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดตลาดได้ในทันที เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฮวงเฟิงจึงรู้สึกว่าควรทำเครื่องบำบัดน้ำเสียให้สำเร็จก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจอื่น

อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ยังคงไม่ได้รับการตัดสิน เงินจากภาพวาดยังไม่เข้าบัญชีเขาในวันนี้ เช่นนั้นฮวงเฟิงจึงยังไม่ได้คุยกับกัวเหลียง เขาทำได้เพียงปลอบใจพวกเขาทั้งสองเล็กน้อย จากนั้นก็ดื่มกับกัวเหลียงต่อ

กัวเหลียงไม่เคยคิดว่าฮวงเฟิงจะสามารถช่วยอะไรเขาได้เลย เพราะสุดท้ายเขาก็รู้ว่าตอนนี้ฮวงเฟิงกำลังเผชิญอยู่ในสถานการณ์เช่นไร เขาโทรเรียกฮวงเฟิงมาเพื่อระบายอารมณ์และเพื่อหาเพื่อนดื่มด้วยก็เท่านั้น

"โอ้ใช่ จากที่ฉันได้ยินมา เหมิงหานเขาก็กำลังจะลาออกเหมือนกันนะ" จู่ๆ โจวหรูหรานก็พูดกับฮวงเฟิง แม้กระนั้นในใจของเธอนั้นต้องการให้ฮวงเฟิงและกัวเหมิงหานอยู่ด้วยกันมาโดยตลอด

กัวเหมิงหานนั้นสวยกว่าโจวหรูหรานมาก ดังนั้นเธอจึงถูกเจ้านายของกัวเหลียงกลั่นแกล้งด้วยแน่นอน

นอกจากนี้ในบริษัทเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัวเหลียงและโจวหรูหรานดีที่สุดอีก ในเมื่อเพื่อนดีๆทั้งสองต้องลาออกไป เธอย่อมต้องคิดลาออกบ้างเช่นกัน

ดังนั้น ตอนนี้เธอจึงยังคงลังเล แต่โจวหรูหรานมั่นใจว่ากัวเหมิงหานจะต้องลาออกในไม่ช้าเพราะเจ้านายของกัวเหลียงจะไม่ปล่อยกัวเหมิงหานไปอย่างแน่นอน แม้ว่าบุคลิกของกัวเหมิงหานจะดูนุ่มนวลแต่เธอคงไม่เต็มใจงานร่วมกับคนประเภทนี้แน่ ตามความเข้าใจของเธอเธอจะไม่ยอมรับกฎที่ไม่ได้เขียนขึ้นไว้แบบนี้

ฮวงเฟิงพยักหน้าตามแม้ว่าเขาจะรู้สึกได้ว่ากัวเหลียงและโจวหรูหรานดูเหมือนตั้งใจที่จะจับคู่เขากับเธอ แต่เขารู้สึกกับกัวเหมิงฮานเป็นเพียงเพื่อนธรรมดาๆคนหนึ่งและเขาทำได้เพียงเป็นห่วงในฐานะเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

หลังจากที่กลับบ้านมา ฮวงเฟิงก็ไม่ได้พบอะไรใหม่เพิ่มในกล่องจักรวาล

เนื่องจากเขาได้รับเงินกว่าล้านเหรียญจากภาพวาดในคืนนี้ฮวงเฟิงจึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

สองวันถัดมาหลังจากที่ฮวงเฟิงกลับมายังออฟฟิศได้ไม่นาน เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการเหวินแห่งบริษัทประมูลเจียเฉิง

ผู้จัดการเหวินได้โทรมาบอกฮวงเฟิงว่าเขาจัดการเรื่องโอนเงินให้เรียบร้อยแล้ว เขาสามารถตรวจสอบเงินในตอนนี้ได้แล้ว

ในใจฮวงเฟิงหยุดคิดเรื่องงานทันที เขาขอลางานจากซูหยูโม่และออกจากบริษัท หลังจากตรวจสอบยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ฮวงเฟิงก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที

หลังจากนั้น ฮวงเฟิงจึงไม่รีรอที่จะโทรหากัวเหลียงทันที เมื่อคืนเพื่อนเขาคนนี้ไม่ได้เมามากนักเพียงแค่มึนเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้อารมณ์ดี ดังนั้นเมื่อฮวงเฟิงโทรมา เขาจึงสามารถตื่นมารับโทรศัพท์ได้อย่างสบายๆ

"โทรมามีอะไร?" ยี่สิบนาทีถัดมา กัวเหลียงที่ถูกฮวงเฟิงก็ได้นัดเจอ เอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความสงสัย

"เพื่อน ทำไมนายถึงได้โทรมแบบนี้ล่ะ" เมื่อมองไปที่กัวเหลียงตรงหน้า ฮวงเฟิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยขณะที่ถาม

"พูดเกินไปล่ะ ฉันดูเป็นพวกพ่ายแพ้ต่อความยากลำบากง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?" เมื่อคืนฉันไม่ค่อยได้พักผ่อนน่ะ พรุ่งนี้ฉันจะไปหางานทำ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าด้วยความสามารถของฉันแล้วจะหางานที่ดีกว่าที่เคยไม่ได้! "กัวเหลียงกล่าวอย่างมั่นใจ

ฮวงเฟิงไม่เคยสงสัยในความสามารถของเพื่อนเขาคนนี้เลย หากไม่เป็นเช่นนั้น เขาคงไม่เลื่อนตำแหน่งโดยปราศจากคนหนุนหลัง

ได้เร็วขนาดนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้ก็ดูไม่สู้ดีนัก การหางานดีๆทำไม่ใช่เรื่องยากซึ่งฮวงเฟิงรู้เรื่องนี้ดี กัวเหลียงเองก็ทราบดีเช่นกัน

หลังจากที่เขามีแฟนแล้ว เขายิ่งไม่มีทางไม่ดิ้นรน ไม่ว่าจะต้องลำบากแค่ไหนก็ต้องอดทนสู้

"ดีแล้ว ฉันคิดว่านายจะยอมแพ้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไปซะแล้ว"

ฮวงเฟิงกล่าวว่า "นายยังต้องการให้พี่ชายคนนี้ดูแลไหมล่ะ?"

"ไปเป็นรปภ.ที่บริษัทของนายน่ะหรอ?" กัวเหลียงกล่าว

เขาไม่เคยคิดยกย่องอาชีพนี้เท่าไหร่และคิดว่าฮวงเฟิงทำอาชีพแบบนี้ไปได้อย่างไร ก่อนหน้านี้เขาก็เคยแนะนำให้ฮวงเฟิงเปลี่ยนงานนี้ด้วย

"ไม่แน่นอน แต่ถ้านายอยากไปฉันก็คงไม่รับนายอยู่ดี" ดูที่ร่างกายของนายสิ นายแย่กว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริษัทของฉันเสียอีก” ฮวงเฟิงกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น

กัวเหลียงหมดความมั่นใจจึงคิดจะอวดกล้ามโชว์ แต่ฮวงเฟิงก็ขัดจังหวะและพูดขึ้นว่า: "ฉันกำลังมีโปรแจ็คดีๆ ตอนนี้เพียงแค่ขาดกำลังคน ถ้านายยินดีร่วมด้วย งั้นเราก็มาขยันทำงานกันเถอะ”

“ โปรแจ็คดีๆ?” โปรแจ็คอะไร? นายต้องการเริ่มทำธุรกิจเองหรอ?" กัวเหลียงรัวคำถามาเป็นชุด

"ใช่!" ฮวงเฟิงกล่าวด้วยความมั่นใจ นับตั้งแต่ที่เขารู้จักความมหัศจรรย์ของกล่องจักรวาล เขาก็คิดเช่นนี้มาตลอด ก่อนหน้านี้ไม่มีทั้งเงินทั้งโปรแจ็ค

“นายไปเอาเงินกับโปรแจ็คนี่มาจากไหนล่ะ นายรู้ไหมว่าการเริ่มต้นธุรกิจทุกวันนี้มันยากแค่ไหน?” กัวเหลียงถาม เขาต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง แต่มันคงยากสำหรับเขาที่จะทำมากกว่าการหางานในตอนนี้

เขารู้เกี่ยวกับฐานะของฮวงเฟิงดีซึ่งแย่กว่าครอบครัวของเขาเล็กน้อย เขาไปได้เงินมาเริ่มธุรกิจมาจากไหนกัน?

นี่นายไปหาเงินทำธุรกิจมาจากที่ไหนล่ะนั่น?