ตอนที่ 281

USB:บทที่ 281 เด็กน้อย

แน่นอนว่ายังมีคนอย่างฮวงเฟิงที่กำลัง ‘พาสุนัขไปเดินเล่น’ อย่างสบายใจ

ดูเหมือนสหายตัวน้อยจะเห็นเพื่อนของมันเข้า มันเลยส่งเสียงร้องแล้ววิ่งไปหาสุนัขอีกตัวที่อยู่ไม่ไกล

เมื่อสุนัขเห็นมันเข้า เหมือนกับว่ามันเป็นมิตรมาก จึงอยากวิ่งไปหาฮวงเฟิงด้วยเช่นกัน

ในระหว่างทาง ฮวงเฟิงก็ได้พบเจอกับสถานการณ์เหมือนก่อนหน้านี้อีกสองสามครั้ง เขาจึงส่งยิ้มให้เจ้าของของมัน

ในสถานที่ที่ค่อนข้างมืด จู่ๆฮวงเฟิงก็ได้ยินเสียงหมาเห่า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ เนื่องจากในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงหมา แต่เขาเพิ่งเห็นพวกมันแค่ไม่กี่ตัว

แต่คราวนี้ นอกจากเขาจะได้ยินเสียงหมาเห่าแล้วยังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ด้วย เสียงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและอึดอัด เหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังกลัวอะไรบางอย่างเลยไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง

ฮวงเฟิงรีบเดินไปตามเสียง ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ได้เห็นสุนัขตัวใหญ่ข้างพุ่มไม้เล็กๆ สุนัขตัวนั้นกำลังแยกเขี้ยวและคำรามใส่เด็กคนหนึ่ง เหมือนกับว่ามันสามารถพุ่งไปกัดเด็กคนนั้นได้ตลอดเวลา

เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่เจ้านายของสุนัขตัวนั้น ถ้าอย่างนั้น เจ้าของตัวจริงของมันอยู่ไหนล่ะ?

ฮวงเฟิงเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาอยู่ไหน แต่ที่เขารู้แน่ๆคือคนๆนั้นไม่ใช่ที่นี่แน่นอน

ฮวงเฟิงกับเสี่ยวไป่รีบตรงเข้าไปหาเด็กคนนั้นเพื่อช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนสุนัขตัวนี้จะไม่กลัวคนที่โตกว่าอย่างฮวงเฟิงเท่าไหร่นัก พอมันเห็นว่าฮวงเฟิงเดินเข้ามามันก็คำรามใส่เขาทันที

ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังจะคว้าเด็กคนนั้นให้มายืนหลังเขา จู่ๆสุนัขตัวนั้นก็เคลื่อนไหวและกระโจนใส่ฮวงเฟิงทันที

แต่ฝ่ายฮวงเฟิงนั้นไวกว่า เมื่อมันวิ่งเข้าใกล้ เขาก็ใช้เท้าเตะจนตัวลอย

"เห้ย! แม่แกสิ นี่แกกล้าเตะหมาฉันเร๊อะ! แกรู้ไหมว่าสุนัขของฉันมันแพงขนาดไหน? ถึงฉันจะเอาไอ้กุ๊ยอย่างแกไปขาย ก็ยังเอาไปแลกกับหมาของฉันไม่ได้เลยนะโว้ย!"

ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มที่แสดงสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

ก่อนหน้านั้น เขาเห็นหมาของตัวเองถูกใครก็ไม่รู้เตะจนลอยมาอยู่ตรงหน้า พอเขาเห็นมัน เขาก็รีบวิ่งไปคนทำทันที

"สาวน้อย ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ เธอปลอดภัยแล้ว" ทว่าฮวงเฟิงไม่แม้แต่จะสนใจชายหนุ่ม เขาหันกลับมาปลอบเด็กน้อยที่อยู่ข้างหลังแทน

ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถมองเห็นอีกฝ่ายชัดเจนจากระยะไกล แต่ตอนนี้ ฮวงเฟิงรู้แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักราวกับถูกแกะสลักออกมาจากหยก

ทว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาคนนี้กลับมีหยดน้ำตาไหลอาบแก้ม ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้วนะ” ฮวงเฟิงปลอบโยนเธออย่างต่อเนื่อง เขาหวังว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้จะไม่ฝังอยู่ในความคิดของเธอ

"เห้ย ไอ้กุ๊ย ฉันกำลังพูดกับแกอยู่ ไม่ได้ยินรึไงวะ?" เห็นว่าฮวงเฟิงไม่สนใจเขาแถมยังหันไปคุยกับเด็ก ชายหนุ่มพลันมีน้ำโหขึ้นมาทันที

"คุณลองดูที่หมาของคุณสิครับ คุณกล้ามามันออกมาโดยที่ไม่ล่ามเชือกได้ยังไง? เห็นไหมมันวิ่งไปทั่วเลย ถ้ามันกัดผมขึ้นมา คุณจะทำยังไงละครับ? คุณจะจ่ายค่ารักษาให้ผมหรือเปล่า?" ฮวงเฟิงยืนขึ้นแล้วถามกลับ

"บัดซบ! นี่แกกล้าสอนฉันเหรอ!? ใครสนล่ะ? หมาของฉัน ฉันจะทำอะไรกับมันก็เรื่องของฉัน ถ้างั้นแกก็บอกฉันมาสิว่าแกจะชดเชยที่แกเตะหมาของฉันยังไง?" คน ๆ นี้ไม่เพียงไม่สำนึก ยังต้องการให้ฮวงเฟิงชดเชยให้เขาอีก

ฮวงเฟิงเกือบจะเดือดที่อีกฝ่ายหัวเราะใส่เขาเต็มที "หมาของคุณเกือบจะกัดเด็กคนนี้แล้วคุณจะชดเชยให้เธอยังไงละครับ?"

“ฉันจะชดเชยให้แม่แกเอง!” เห็นได้ชัดชายหนุ่มกำลังโมโหสุดๆ "เด็กมันเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเอง แกยังจะโทษหมาของฉันอยู่อีก? เหอะ หมาของฉันยังไม่ได้กัดใคร และเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่?"

"หึ ถ้าผมมาช้ากว่านี้อีกนิดนึง เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เป็นไปตามที่คุณพูดหรอกครับ" ฮวงเฟิงกล่าว

เขาไม่ยินดีที่จะเสียเวลากับอีกฝ่ายอีกจึงพูดว่า "วันหลัง อย่าลืมใช้เชือกล่ามหมาของคุณตอนที่พามันออกไปเดินเล่นด้วยละครับ วันดีคืนดีมันอาจจะถูกคนอื่นตีจนตายได้!”

เมื่อได้ยินคำขู่จากฮวงเฟิง ชายหนุ่มก็ยิ่งโกรธ โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นว่าฮวงเฟิงกำลังจะจากไป

ในเมื่อเขาต้องการแก้แค้นให้หมาของตัวเองขนาดนี้ เขาจะอดทนมองฮวงเฟิงเดินจากไปง่ายขนาดนั้นได้ยังไง?

"เจ้าขุนพล ไปกัดไอ้ตัวเล็กนั่นให้ตายไปเลย!" ชายหนุ่มไม่กล้าให้สุนัขของตนกัดฮวงเฟิงและเด็ก เขารู้ว่าสุนัขของตนนั้นดุร้าย ถ้าหากเขาให้มันกัดสุนัขของมันจนถึงตายจริงๆ เขาก็ไม่สามารถควบคุมมันได้

เขาไม่มีทางปล่อยให้สุนัขของตัวเองตาย แต่อย่างนั้นก็ไม่สนสุนัขของอีกฝ่าย

เนื่องจากวิธีนี้ทำให้เขาสามารถสอนบทเรียนให้กับฮวงเฟิงว่า วันหลัง อย่าแส่เรื่องของชาวบ้านและห่วงตัวเองก่อน

นอกจากนี้ เขายังสามารถแก้แค้นให้กับสุนัขที่เพิ่งถูกฮวงเฟิงเตะได้อีกด้วย

อันที่จริง เสี่ยวไป่ที่อยู่ข้างๆ ฮวงเฟิงได้เห็นความทุกข์ของสุนัขตัวนี้มาสักพักแล้ว แต่ฮวงเฟิงยังคงรั้งมันไว้ทำให้ไม่สามารถวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ นอกจากนี้มันยังไม่ได้รับอนุญาตจากฮวงเฟิง มันเลยวิ่งไปรอบๆไม่ได้

สิ่งแรกที่เห็นคือสายตาฮึกเหิมที่กำลังจ้องมาทางเขา จากนั้นมันก็พุ่งเข้ามาหาเขาจริงๆ

เสี่ยวไป่รู้สึกดีใจมาก มันไม่ได้วิ่งหนี กลับกัน มันหันไปมองสุนัขตัวใหญ่แทน

ในตอนนี้ ฮวงเฟิงยังเห็นสายตาของเจ้าตัวเล็กข้างหลัง จู่ๆเขาก็รู้สึกเป็นห่วงเสี่ยวไป่ขึ้นมา

แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็ยังไม่โตเต็มวัย มันจึงไม่ใช่เป็นคู่ต่อสู้กับสุนัขตัวนั้นในศึกนี้

ฮวงเฟิงเลยอยากดึงมันกลับมาเพื่อเขาจะได้สอนบทเรียนให้แก่สุนัขตัวนั้นแทน

อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตเห็นว่า ไม่ว่าเขาจะดึงเสี่ยวไป่อย่างไรก็ไม่สามารถดึงมันกลับมาได้ ราวกับว่าเสี่ยวป่ถูกยึดไว้กับพื้น มันไม่ขยับไปไหนและยังคงจ้องมองสุนัขตัวนั้นอยู่

ฮวงเฟิงแอบรู้สึกกังวลเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุนัขตัวใหญ่กำลังจะเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

ฮวงเฟิงตั้งท่าเตรียมเดินไปเตะมันให้กระเด็นเหมือนอย่างก่อนหน้านี้

ก่อนที่ฮวงเฟิงจะได้ลงมือ จู่ๆเสี่ยวไป่ก็กระโดดไปข้างหน้า

แม้ว่าขาของมันจะสั้น แต่ระยะที่มันกระโดดออกไปนั้นนับว่าไม่สั้นเลย เหมือนกับฮวงเฟิง มันเหยียดขาขวาหน้าออกไปเตะใต้ศีรษะสุนัขตัวใหญ่อย่างไร้ความปรานี

ลูกเตะนี้ทำให้สุนัขตัวนั้นถึงกับบินได้!

ฮวงเฟิงและชายหนุ่มตกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้า พวกเขาไม่คิดเลยว่าร่างเล็ก ๆ ของเสี่ยวไป่จะมีแข็งแกร่งขนาดนี้

สุนัขตัวใหญ่ต้องมีน้ำหนักมากกว่าร้อยกิโลกรัม แต่มันกลับถูกเตะจนตัวลอยอย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำความสูงที่มันลอยนั้นนับว่าสูงในระดับหนึ่ง

เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวไป่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของเขา ทั้งๆที่การโจมตีของมันควรจะเป็นการกัดและกระชากอีกฝ่าย ไม่ใช่การใช้ลูกเตะแบบนี้

ฮวงเฟิงกำลังคิดว่า ถ้าเสี่ยวไป่อยู่กับเขาไปเรื่อยๆ วันดีคืนดีมันจะ ‘เสียหมา’ ไหม?