USB: บทที่ 558 ตั้งตัว

"ฟังนะ ผมแค่อยากจะบอกว่าผมมีเงิน และไม่ใช่เพราะต้องการปฏิเสธความมีน้ำใจของคุณ แต่ผมมีเงินจริง ๆ"

สิ่งที่ฮวงเฟิงพูดนั้นคือเรื่องจริง หลังจากที่เขาตัดสินใจซื่อโรงงานกลั่นสุราแล้ว เขายังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง นอกจากนี้แล้ว อีกไม่นานเขาจะลงทุนขยายโรงงานอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียเพื่ออัพเกรดสายงานการผลิตอีกด้วย ในเวลานานี้เขาคือชายฐานะร่ำรวยจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเพิ่งจะได้รับหยกหรูอี้มาเมื่อเช้านี้อีก ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะยังไม่รู้ราคาที่แน่นอนของมัน แต่เชื่อว่าหยกนั่นต้องมีมูลค่ามากอย่างแน่นอน

"คุณมีเงินจริง ๆ เหรอคะ?" ซูหยูโม่ยังคงประหลาดใจนิดหน่อย เนื่องจากท่าทางของฮวงเฟิงดูเหมือนเขาได้กำลังโกหกเธอ

"ครับ พอมีอยู่บ้าง" ฮางเฟิงพูดเพียงแค่นั้น เขาไม่อาจอธิบายให้ซูหยูโม่รู้ว่าเขาได้เงินมาอย่างไร อาจเป็นเพราะเขาได้รับของล้ำค่ามาจากกล่องจักรวาล และเขาสามารถหาเงินได้มากมายจากการขายสมบัติเหล่านั้น  แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจอธิบายถึงเรื่องเหล่านี้ให้คนอื่น ๆ รู้ได้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ เขาไม่อาจบอกกับซูหยูโม่ได้

เมื่อซูหยูโม่เห็นว่าฮวงเฟิงไม่อยากบอกกับเธอถึงที่มาของเงินนั่น และแม้ในใจของเธอจะยังคงรู้สึกแปลกใจไม่น้อยแต่ก็ไม่ประโยชน์ที่เธอจะคงซักถามต่อไป "ในเมื่อคุณมีเงินมันก็เป็นเรื่องดีที่คุณจะเริ่มต้นเปิดบริษัทใหม่ร่วมกับมู่เสวี่ย"

ฮวงเฟิงยุ่งอยู่กับโรงงานกลั่นสุรา และสำหรับถังมู่เสวี่ยนั้นต่างไปจากเขา ในขณะที่เขาเป็นผู้ผลิต แต่ถังมู่เสวี่ยเป็นตัวแทนขาย และนั่นคือเหตุผลที่ซูหยู่โม่บอกคำเขาว่าทำไมบริษัทของถังมู่เสวี่ยจึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก เพียงแต่ธุรกิจของเธอจำเป็นต้องใช้เส้นสายที่มีอยู่ในเมืองหลวง

อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงไม่คิดที่จะร่วมทำธุรกิจกับเขาแน่นอน ทั้งหมดเป็นเพราะว่าเส้นสายพวกนั้นเป็นของถังมู่เสวี่ยไม่ใช่เขา  ดังนั้นฮวงเฟิงจึงรู้สึกว่าธุรกิจแบบนี้ไม่สามารถดำเนินไปได้ นอกจากนั้นแล้วตอนนี้เขายังมีธุรกิจของตัวเอง อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าธุรกิจของถังมู่เสวี่ยด้วย ดังนั้นทำไมเขาจะต้องหันไปร่วมลงทุนกันบริษัทของถังมู่เสวี่ยที่ไม่ได้เติบโตไปกว่าของตัวเองเช่นนี้ด้วย?

"ฟังนะ อันที่จริงแล้ว ต่อให้ผมลาออกจากเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป ผมก็จะไม่ร่วมเปิดบริษัทกับถังมู่เสวี่ย" ฮวงเฟิงกกล่าว

"ทำไมคะ?" หัวใจของซูหยูโม่ถึงกับเต้นผิดจังหวะไป สิ่งที่เธอเป็นห่วงได้เกิดขึ้นแล้ว ฮวงเฟิงคิดจะออกไปจากเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป แต่เขาไม่เต็มใจที่จะร่วมทำธุรกิจกับถังมู่เสวี่ย ถ้าหากเป็นเช่นนี้ สู้เก็บเขาไว้ที่นี่ต่อไปจะดีกว่า

"ที่จริงแล้ว มีบางอย่างที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ" ฮวงเฟิงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า "ผมมีเพื่อนที่ร่วมลงทุนเปิดโรงงานผลิตอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียอยู่ก่อนแล้ว เขาเคยถามผมหลายครั้งแล้ว แต่เป็นเพราะว่าผมยังไม่คิดที่จะลาออกจากที่นี่ ผมก็เลยยังไม่ได้ตอบตกลงไป ดูเหมือนว่าการร่วมงานกับเขาน่าจะเป็นความคิดที่ดี"

เป็นเพราะมันไม่ง่ายเลยสำหรับฮวงเฟิงที่จะพูดถึงกล่องจักรวาลในช่วงนี้ มันจึงเป็นเรื่องยากที่เอ่ยถึงอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียด้วยเช่นกัน

"เพื่อนของคุณเหรอคะ?" ซูหยูโม่แปลกใจเล็กน้อย เป็นเพราะเธอเคยได้ยินเขาเอ่ยถึงเพื่อนของเขามาก่อนเลย

"ครับ คุณเคยพบเขามาแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็คือกัวเหลียง  เพื่อนสมัยเรียนของผม เขาเคยไปเป็นเพื่อนแฟนสาวช๊อปปิ้งในย่านชุมชน ทำให้พวกเราได้พบกัน" ฮวงเฟิงกล่าว

เรื่องนี้ทำให้ซูหยูโม่เริ่มไม่แน่ใจ เดิมทีเธอคิดที่จะขอให้ฮวงเฟิงไปบริษัทของถังมู่เสวี่ย เพื่อเริ่มลงทุน ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากศูนย์ เพื่อที่จะหางาน อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเมีเพื่อนร่วมรุ่นที่จะเปิดโรงงานด้วยกันแล้วก็คงไม่เป็นไร เมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แล้ว เธอก็ไม่คิดที่จะคัดค้านเขาอีกต่อไป แต่ยังคงถามต่ออีกว่า

"คุณจะไปทำงานให้เขา หรือแบ่งชิ้นเนื้อกับเขาคะ? แต่ถ้าหากคุณคิดแค่จะไปทำงานให้เขา งั้นก็อยู่ที่นี่ต่อน่าจะดีกว่า" คำพูดของซูหยูโม่เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้เขาไปทำงานกับเพื่อนร่วมรุ่นของเขา  ถ้าหากเป็นเช่นนั้นไม่ทำให้ฮวงเฟิงดูต่ำต้อยไปกว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขาหรอกหรืออย่างไร? ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่พูดอะไรถึงเรื่องนี้ก็ตาม แต่แน่นอนว่าเขาต้องรู้สึกกระดากใจ และอีกไม่นานก็จะส่งผลกระทบต่อมิตรภาพระหว่างเพื่อนของพวกเขา ถ้าหากทั้งคู่ต้องทำงานร่วมกัน ซูหยูโม่อยากให้ฮวงเฟิงอยู่ในเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปมากกว่า อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยปฏิบัติต่อเขาเหมือนลูกจ้างคนอื่น ๆ สู้ไม่เท่ากับเป็นการเหยียดหยามเขามากจนเกินไป

"ผมจะร่วมลงทุนกับเขา โรงงานจะเป็นของพวกเราทั้งสองคน" ฮวงเฟิงกล่าว เขารู้ดีว่าซูหยูโม่กำลังวิตกถึงสิ่งใด และเขาก็รู้สึกขอบใจเธอมากที่อีกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์แทนเขา

"งั้นก็ดี ถ้าหากคุณมีเงินไม่พอ ก็บอกฉันได้นะ ฉันยังพอมีอยู่บ้าง" ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมการหาแนวทางที่จะให้ฮวงเฟิงได้เริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยอมรับในความคิดของเขา ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วซูหยูโม่จะไม่ได้รับมรดกจากตระกูลของเธอเลย แต่เธอก็สามารถหาเงินมากมายได้ด้วยตัวเอง

"แน่นอนครับ ถ้าผมเดือดร้อนเรื่องเงิน ผมไม่ลืมบอกคุณแน่" นอกจากเขาจะไม่ปฏิเสธแล้ว เขายังยอมรับข้อเสนอเธอด้วยความยินดี อย่างไรก็ตามจากการคิดคำนวณดูแล้ว เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยืมเงินจากซูหยูโม่ เพราะเขามีกล่องจักรวาล และนอกจาจากนั้นแล้ว เขายังมีรายได้จากโรงงานผลิตอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียอีกด้วย

ถึงแม้ว่าซูหยูโม่จะรู้ดีว่าการออกจาเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปของฮวงเฟิงนั้นจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับเขาก็ตาม แต่เธอก็ไม่เต็มใจที่จะอยู่ห่างจากเขา เนื่องจากนั่นหมายความว่าต่อไปเธอจะไม่มีโอกาสได้เจอเขาอีก มันเป็นเพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาเพิ่งเริ่มก่อตัวขึ้น เพียงแค่สองสามวันที่เธอไม่ได้พบเขา ก็ทำให้เธอคิดถึงเขามากแล้ว ถ้าหากไม่ได้เจอกับเขาบ่อย ๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นบ้าเพราะคิดถึงเขาหรือไม่

ซูหยูโม่รู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเธอเองบ้างเหมือนกัน ก่อนหน้าที่จะได้พบกับฮวงเฟิง เธอค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่ไว้วางใจใคร อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอได้พบกับฮวงเฟิง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าเมื่ออยู่ต้องอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ ตัวเองเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน กลายเป็นเด็กสาวอ่อนแอธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น