USB:บทที่ 472 ผิดคาด
"เธอ..เธอบอกว่า...." ผู้ช่วยทำท่าเหมือนจะร้องไห้แต่ยังคงพยายามพูดต่อว่า "เธอพูดว่า..." ครั้งที่สอง เขาก็ไม่สามารถพูดในสิ่งที่เซี่ยเมิ่งเจียวบอกเขาได้
"สรุปเธอว่ายังไงบ้าง? นายจะอ้ำๆอึ้งๆอีกนานไหม รีบพูดสักที!" หนุ่มหน้าหวานพูดด้วยท่าทางหงุดหงิด
“เธอบอกว่าไม่ต้องไปแล้วครับ!” ภายใต้ความกดดันจากหนุ่มหน้าหวาน ในที่สุดผู้ช่วยคนนี้ก็ได้พูดสิ่งที่เซี่ยเมิ่งเจียวพูดออกมา
“หมายความว่ายังไง” หนุ่มหน้าหวานขมวดคิ้วเหมือนกับว่าเขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยเมิ่งเจียวหมายถึงอะไร "ที่บอกว่าไม่ต้องไปแล้วหมายความว่ายังไง นอกจากโฆษณาที่ถ่ายเสร็จ เธอไม่มาขอโทษแล้ว เรายังไม่ได้ค่าตัวเลยนะ! แล้วจะมาบอกว่าไม่ต้องไปแล้วได้ยังไง!"
ยิ่งหนุ่มหน้าหวานพูดเสียงของเขาก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ความโกรธที่สุมอยู่บนหน้าของเขากำลังจะระเบิดเต็มที
"นี่นายอยากให้ฉันเครียดตายใช่ไหม!" เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยที่ถือโทรศัพท์หยุดพูด ผู้ช่วยคนอื่นก็พากันวิตก
"ผู้อำนวยการเซี่ยบอกว่าเธอไม่ต้องการให้เราถ่ายโฆษณาแล้ว และเราต้องชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เธอด้วย!" ในที่สุดผู้ช่วยก็โยนความคิดของเขาออกไป และพูดในสิ่งที่เซี่ยเมิ่งเจียวบอกเขาเมื่อกี้นี้
"นี่เธอต้องการให้เราชดใช้ค่าเสียหายอย่างนั้นเหรอ?! ดีจริงๆ ค่าเสียหายก็ไม่ชดเชย เสียเวลาไม่พอ คนของเธอยังทำร้ายฉันอีก พูดมาได้ยังไงว่าต้องการพวกเราชดใช้ค่าเสียหาย ยัยนี่มันหน้าเงินจริงๆ!" หลังจากที่หนุ่มหน้าหวานได้ยินในสิ่งที่ผู้ช่วยพูด เขาก็โยนถ้วยน้ำชาที่อยู่ข้างๆลงบนพื้นแล้วส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ
"นี่คือสิ่งที่เธอพูดครับ" ในตอนนั้นเอง ผู้ช่วยไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป นอกจากนี้ หลังจากได้ยินผู้ช่วยพูดแบบนั้น เขาก็มีน้ำโหขึ้นมาเหมือนกัน
"เธอกล้าทำกับเราแบบนี้ มันไม่กลัวว่าเราจะยกเลิกถ่ายโฆษณาสินะ" หนึ่งในผู้ช่วยที่ทำหน้าที่ถือร่มกล่าว
"นั่นสิ ในเมื่อเธอว่าแบบนั้น เราก็ต้องรอดูไปก่อน ทางเราเสียทั้งเงินทั้งเวลาเหมือนกัน จะมาโทษเราอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้!"
ในขณะเดียวกัน ผู้ช่วยที่รับสายมีท่าทางลังเลเล็กน้อยเหมือนกับว่าเขากำลังไม่มั่นใจ "ผู้อำนวยการเซี่ยบอกว่าโฆษณาถ่ายทำเสร็จแล้วครับ"
"หา? เป็นไปไม่ได้!” หนุ่มหน้าหวานตกใจมากที่ได้ยิน เขายืนขึ้นแล้วพูด
"นั่นสิ เร็วขนาดนี้จะไปถ่ายเสร็จได้ยังไง? ขนาดเปลี่ยนนักแสดงก็ต้องใช้เวลาตั้ง 2-3 วัน แล้วจะถ่ายเสร็จเร็วขนาดนี้ได้ยังไง? โกหกชัดๆ"
"ใช่ โกหก เธอต้องหลอกพวกเราแหงๆ!"
ผู้ช่วยทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน ทว่าพวกเขากลับเริ่มไม่มั่นใจ หากโฆษณาของเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปถ่ายทำเสร็จแล้ว พวกเขาจะทำยังไงต่อดีล่ะ?
ไม่มีใครกล้าคิดถึงผลที่ตามมาหลังจากนี้ ในความเป็นจริงการถ่ายโฆษณาในครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของหนุ่มหน้าหวาน เพราะเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่ และเป้าหมายของพวกเขาก็คือการร่วมงานกับดาราดังระดับแนวหน้าอย่างหลี่ปิงอวิ้นที่เป็นที่รู้จักในทุกครัวเรือน
แต่เพราะความโลภและโง่เขลาได้ทำให้พวกเขาตัดโอกาสในการสร้างชื่อเสียงด้วยมือของพวกเขาเอง นี่คือสาเหตุที่ทำให้ทุกคนต่างพากันวิตก
"ส่งโทรศัพท์มา ฉันจะโทรไปคุยผู้อำนวยการเซี่ยเอง!" หนุ่มหน้าหวานคิดว่าตนไม่อาจนั่งรอให้ความตายมาเยือนได้ หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงรับมือกับมันไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจโทรหาเซี่ยเมิ่งเจียวด้วยตัวเอง
ก่อนหน้านี้ที่เขาให้ผู้ช่วยติดต่อเซี่ยเมิ่งเจียวกลับไปก็เพราะเขาต้องการถ่ายโฆษณา และเจรจาต่อรองกับอีกฝ่ายในภายหลัง เขาคิดว่ามันจะสำเร็จ ทว่าตอนนี้เขาไม่สนแล้ว ตราบใดที่เซี่ยเมิ่งเจียวยอมให้เขาถ่ายทำโฆษณา เขาก็ยินดีทำมันโดยไม่มีข้อแม้!
ผู้ช่วยส่งโทรศัพท์ให้เจ้านายทันที แต่หลังจากโทรกลับไปหาเซี่ยเมิ่งเจียว เขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายไม่รับสายเขา เหมือนกับว่าเขาถูกหลอก มันยิ่งทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีมากกว่าเก่า
“นี่ เธอไม่รับสายฉันเหรอ!” เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” แน่นอนไม่มีใครในที่นี้ตอบคำถามเขา
เหตุผลที่ทำให้พวกเขาสามารถรอเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปให้มาถึงหน้าประตูอย่างใจเย็นก็เพราะว่าพวกเขาได้พิจารณาแล้วว่าเซี่ยเมิ่งเจียวไม่สามารถหาคนแทนเขาภายในเวลาอันสั้นได้
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องจะไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิด เซี่ยเมิ่งเจียวได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว ในขณะที่พวกเขาไม่อยู่ โฆษณาได้ถูกถ่ายทำไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงมันก็ไม่ดูเหมือนคนที่เพิ่งได้รับการว่าจ้างเลยสักนิด
"พวกเขาทำแบบนั้นได้ยังไง!? ในเมื่อเราเซ็นสัญญาไปแล้ว พวกเขาให้คนอื่นมาถ่ายโดยพวกเราไม่ได้ยินยอมแบบนี้ มันผิดสัญญา เราต้องให้พวกเขาชดเชยให้เราให้ได้!" ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจ หากอีกฝ่ายไม่ต้องการรับสายและไม่ติดต่อกลับมา แสดงว่าพวกเขาต้องหาคนอื่นมาถ่ายโฆษณาแทนเขาแล้ว
"ใช่แล้ว เราต้องฟ้องพวกเขา!" ผู้ช่วยอีกคนเข้ามา
"บ้าเอ้ย! หนุ่มหน้าหวานโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เขาเหวี่ยงโทรศัพท์ลงพื้นแล้วพูดต่อว่า "ในเมื่อพวกแกร้ายใส่ฉันก่อน ก็อย่ามาโทษว่าฉันขี้โกงก็แล้วกัน! ไปรายงานเรื่องนี้กับสื่อ ถึงจะต้องใช้เงินก็ช่างมันต้องทำให้ชื่อเสียงของพวกมันเสียหายให้ได้! เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ บอกพวกเขาไปว่าเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปเป็นพวกอันธพาล สั่งให้คนมาทำร้ายพวกเรายังไม่พอ ยังยกเลิกสัญญาโดยไม่บอกพวกเราเลยสักคำ!"
"ทราบแล้วครับ ผมจะจัดการทันที" แม้ว่าหนุ่มหน้าหวานคนนี้จะเป็นดาราเพศที่สาม ทว่าใบหน้าของเขาก็เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง ดังนั้นมักจะมีบางสำนักข่าวเข้ามาตีสนิทกับเขาเพื่อหาผลงาน ฝั่งหนึ่งคือต้องการข่าว และส่วนอีกฝั่งต้องการสร้างชื่อเสียง ทั้งสองมีความต้องการเหมือนกัน ดังนั้นหากเขาต้องการออกสื่อ เขาก็ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน
ในอีกด้านหนึ่ง เซี่ยเมิ่งเจียวไม่รู้ว่าหนุ่มหน้าหวานได้วางแผนที่จะโจมตีบริษัท ในตอนนี้เธอได้ลืมเรื่องหนุ่มหน้าหวานไปแล้ว เพราะสำหรับเธอมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ
ตั้งแต่โฆษณาถ่ายทำเสร็จหนุ่มหน้าหวานก็ไม่สำคัญอีกต่อไป แต่ถ้าหากอีกฝ่ายตาบอดแล้วก่อปัญหา เธอก็จะไม่พูดดีกับอีกฝ่ายอีกต่อไป
ในความเป็นจริง เธอไม่ได้สนใจหนุ่มหน้าหวานและไม่มีความคิดที่จะสานสัมพันธ์กับอีกฝ่ายในอนาคต ในตอนนี้เธอเลยไปช้อปปิ้งกับหลี่ปิงอวิ้น
จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน หลังจากที่หลี่ปิงอวิ้นปลอมตัวเสร็จแล้ว เธอก็ทิ้งผู้ช่วยของเธอและฮวงเฟิงไว้ข้างหลังแล้วเที่ยวเตร่ไปเรื่อยๆ
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved