ตอนที่ 576

USB:บทที่ 576 สั่งสอน

ด้วยพลังเพียงน้อยนิดจากฝ่ามือของเขา ก็สามารถทำให้เปิ้งเจิ้งฝูกรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพชราวกับหมูถูกเฉือด  เปิ้งเจิ้งฝูคิดไม่ถึงเลยว่าฮวงเฟิงจะแข็งแรงถึงเพียงนี้  เขาไม่เคยต้องทุกข์ทรมานด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน เมื่อเห็นว่าคำขู่นั้นใช้ไม่ได้กับฮวงเฟิง เปิ้งเจิ้งฝูก็อยากจะร้องขอความเมตตา แต่แล้วเมื่อเห็นถังมู่เสวี่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฮวงเฟิงก็ทำให้เขานึกลังเลอยู่ในใจ ถ้าเขาร้องขอความเมตตาต่อหน้าถังมู่เสวี่ย แล้วต่อไปจะสู้หน้าเธอได้อย่างไร? สุดท้ายแล้วเปิ้งเจิ้งฝูที่ร้องด้วยความเจ็บปวดนั้น ในใจเขาก็ได้แต่ภาวนาขอให้ผู้จัดการรีบเดินมาโดยเร็ว  แต่ดูเหมือนว่าคำอธษฐานของเขาจะไม่เป็นผล ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผู้จัดการที่กำลังมานั้นดูเหมือนเขาจะเดินได้ช้ามาก ทั้ง ๆ ที่ระยะห่างระหว่างพวกเขาก็อยู่ไม่ไกลกันเลย ผู้จัดการคนนั้นเดินเข้ามาหาพวกเขาตั้งนานแล้วแต่ก็ยังมาไม่ถึงสักที เปิ้งเจิ้งฝูอยากชี้ไปที่จมูกของอีกฝ่ายแล้วถามว่า "คุณเป็นหอยทากหรือไงกัน? แม้แต่หอยทางยังเดินได้เร็วกว่าคุณ!"

แน่นอนว่าผู้จัดการคนนั้นไม่ใช่หอยทาก เขาก็คนธรรมดานี่เอง แต่เมื่อเปิ้งเจิ้งฝูพูดเหยียดหยามฮวงเฟิงด้วยความเย่อหยิ่ง นอกจากนั้นแล้วเขายังดูถูกมณฑลเจียงแห่งนี้ด้วย ถึงแม้ว่าอย่างไรเสียผู้จัดการคนนั้นจะต้องเข้ามาจัดการระงับข้อพิพาทของคนทั้งสาม แต่เขาก็คิดว่าอย่างน้อยก็ควรให้บทเรียนต่อชายหนุ่มโอหังคนนั้นซะบ้าง ทำให้การเดินของเขาจึงเชื่องช้ากว่าปกติมาก

"ท่านสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษครับ นี่เป็นสถานที่สาธารณะ ถ้าหากพวกคุณมีเรื่องขัดแย้งกันละก็ ขอเชิญพวกคุณไปจัดการปัญหาของพวกคุณกันที่อื่น เพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานของเราครับ"

ถึงแม้ว่าเขาจะเดินมาอย่างช้า ด้วยระยะทางเพียงแค่นั้น ในที่สุดผู้จัดการร้านกาแฟก็เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ ฮวงเฟิง และคนอื่น ๆ และเมื่อผู้จัดการพูดขึ้นกับพวกเขา ขณะนั้นเปิ้งเจิ้งฝูได้รับความเจ็บปวดจนแทบจะเป็นลม แล้วเขาก็กลับมีความหวัง ขึ้นมากอีก "ในที่สุดคุณก็มา!" เปิ้งเจิ้งฝูคิดในใจ

"ได้เลย ไม่มีปัญหา!" เมื่อได้ยินดังนั้นเปิ้งเจิ้งฝูคิดว่าในที่สุดแล้วนี่คือโอกาสที่เจาจะได้เป็นอิสระจากการควบคุมของฮวงเฟิงได้แล้ว ในใจของเขาครุ่นคิดแต่เพียงว่าในตอนนี้ก่อนอื่นต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แล้วค่อยหาวิธีจัดการกับฮวงเฟิงภายหลัง อย่างไรก็ตามในเวลานั้นฮวงเฟิงได้ลากเปิ้งเจิ้งฝูออกไปนอกร้านคอฟฟี่โดยที่ไม่คิดจะปล่อยเขาไปสักนิด ส่วนด้านของผู้จัดการร้านที่คิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือในตอนแรก  ได้มองดูฮวงเฟิงคิดบัญชีกับอีกฝ่ายอยู่แล้วจากไปพร้อมด้วยรอยยิ้ม

และนั่นทำให้ความหวังทุกอย่างของเปิ้งเจิ้งฝูได้จบสิ้นลง  เมื่อเห็นดังนี้นเปิ้งเจิ้งฝูรู้ได้ทันที ป่วยการที่จะร้องขอความความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย นอกจากนั้นแล้วถังมู่เสวี่ยยังคงยืนเคียงข้างฮวงเฟิงอยู่อย่างนั้น มิหนำซ้ำเธอยังยิ้มเหยาะ และเฝ้าดูความเจ็บปวดทรมานของเขาตั้งแต่ต้นจนจบ

" ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ" เปิงเจิ้งฝูพูดกับฮวงเฟิงด้วยท่าทางอ่อนน้อมเป็นที่สุด ยึดหลักความคิดของนักปราชญ์ ที่กล่าวไว้ว่า ลูกผู้ชายไม่ถือว่าเป็นผู้แพ้ เมื่อยังคงมีโอกาสได้  คนเราจะไม่พบกับหายนะ เมื่อรู้จักประเมินความแข็งแกร่งของศัตรู อย่างไรก็ความชั่วร้ายก็ได้ส่องแสงวาววับอยู่ในดวงตาของเปิ้งเจิ้งฝู ในใจเขาได้คิดหาวิธีการต่าง ๆ หลากหลายวิธีเพื่อชำระบัญชีแค้นกับฮวงเฟิง  ตราบใดที่เขาสามารถไปจากที่นี่ได้ นั่นก็หมายถึงเวลาของฮวงเฟิงได้หมดลงแล้ว เขาจะต้องทำให้ฮวงเฟิงต้องเสียใจที่ทำกับเขาแบบนี้ จนต้องร้องขอความตาย!

มีหรือที่จะรอดพ้นสายตาคมกริบของฮวงเฟิงไปได้? เขาสามารถสังเกตเห็นความโกรธแค้นนั้นได้ทันที เพียงแค่มองลึกลงไปในดวงตาของเปิ้งเจิ้งฝู และถึงแม้ว่าเขาไม่เคยคิดอยากปฏิบัตต่ออีกฝ่ายเช่นนี้เลย ด้วยฐานะของอีกฝ่ายแล้ว อย่างน้อยเขาก็ควรอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ได้ อย่างไรก็ตามก่อนที่ฮวงเฟิงจะลงมือ เขาได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ไว้แล้ว ถ้าหากเขาหวั่นแกรงต่อการแก้แค้นของอีกฝ่ายละก็ เขาคงไม่เลือกทำเช่นในเวลานี้! ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องเอาคืนเขาแน่ แต่ฮวงเฟิงก็ไม่อาจนิ่งเฉย ทนดูถังมู่เสวี่ยถูกข่มแหงได้ เขาไม่ได้ทำลงไปเพียงชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เท่านั้น แต่เป็นเพราะมิตรภาพความเป็นเพื่อนของพวกเขาทั้งสองคนอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่การเมินเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ภายในใจของเขายังคงรู้สึกผิดต่อถังมู่เสวี่ยไม่น้อย  และในช่วงขณะเดียวกันนั้นความรู้สึกบางอย่างที่ซับซ้อนได้เกิดขึ้นในจิตใจแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกนั้นได้

"ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าคุณต้องแก้แค้นผมแน่ แต่ผมก็ไม่สนใจ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ให้มาหาผมได้เลย อย่าทำให้ผู้หญิงต้องลำบาก ถ้าเธอต้องการไปกับคุณผมก็จะไม่ขัด แต่ถ้าเธอต้องไปเพราะถูกบังคับ  อย่าโทษที่ผมต้องใจดำกับคุณ!" เมื่อฮวงเฟิงพูดจบลง เขาก็คลายมือออกจากแขนของเปิ้งเจิ้งฝู และด้วยคำพูดของฮวงเฟิงทำให้เปิ้งเจิ้งฝูถอยหลังไปสองถึงสามก้าว  ก่อนที่เขาจะกลับมาทรงตัวให้สมดุลได้อีก เขาจ้องมองฮวงเฟิงด้วยสายตาแห่งความเกลียดชังแล้วพูดขึ้นว่า "แกกล้ามาก"

เมื่อพูดจบลง บางที่เขาก็นึกกลัวว่าฮวงเฟิงจะสั่งสอนให้เขาได้รับบทเรียนอีกครั้ง ทำให้เขารีบหันหลังแล้วจากไปในทันที เขารู้ถึงพละกำลังที่แตกต่างกันระหว่างเขากับฮวงเฟิงดี แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่เพื่อต้องพบกับความเจ็บปวดอีก