ตอนที่ 402

USB:บทที่ 402 ตระกูลเผิง

"บอกหน่อยสิว่าหมอนั่นมาที่นี่ทำไม? มาเที่ยว? มาหาสาว? หรือแค่บังเอิญผ่านมาแถวนี้เฉยๆ" เจิ้งฉ่วยที่อยู่ตรงมุมห้องเอ่ยถามเสียงเบา

"ไม่รู้สิ" ฮวงเฟิงยักไหล่พลางกล่าว ขณะที่หญิงสาวทั้งสองโดยเฉพาะชิวหนิงซวงเองก็ไม่รู้เช่นกัน มิหนำซ้ำทั้งสองก็ไม่ต้องการสืบหาเหตุผลว่าเพราะเหตุใดอีกฝ่ายถึงมาเดินทางมายังเมืองชิงได้เช่นกัน

ในตอนนั้นเอง เผิงเฉิงฝูที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจดันฉ่ายเทียนออกไปให้พ้นทาง แล้วเดินไปด้านหน้าแล้วกล่าวว่า "ผมมาทำธุรกิจที่เมืองชิงครับ ถ้ามีใครสนใจร่วมลงทุนกับผมสามารถติดต่อผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ผมจะทำให้ธุรกิจของเราเจริญก้าวหน้าและรุ่งเรืองแน่นอนครับ!"

แขกบางคนพูดจาดูถูกเขา ในขณะที่บางคนแสดงความสนใจออกมา ส่วนบางคนก็แสดงท่าทางหวาดระแวงออกมา

สุดท้ายแล้วก็มีแขกจำนวนมากที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แม้ว่ามันจะเป็นของที่ได้สืบทอดมา แต่พวกเขายังสร้างรายได้จากมันได้

บัดนี้ จู่ๆก็ดันคนที่มีภูมิหลังดีกว่าปรากฏตัวขึ้น หากพวกเขาทำธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันกับอีกฝ่าย ก็เท่ากับว่าพวกเขามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมาอีกเจ้าน่ะสิ

แน่นอนว่ายังมีคนที่แสดงออกถึงความหลงใหลพวกนี้คือเด็กผู้หญิงคุณสามารถเพิกเฉยต่อพวกเขาได้

“ผมรู้ว่ายังมีอีกหลายท่านที่ยังสงสัยอยู่ใช่ไหมละครับ พวกคุณไม่จำเป็นต้องเดาว่าผมจะประกอบธุรกิจอะไรให้เสียเวลาเปล่า ผมขอประกาศตรงนี้เลยว่าธุรกิจที่ผมกำลังจะสร้างก็คือไวน์นั่นเองครับ ทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ผมจะเป็นที่หนึ่งในตลาดไวน์ ผมจะลตไวน์ขาวและไวน์แดงคุณภาพสูงจากเมืองชิงเองครับ หลังจากนี้ หากแขกท่านไหนต้องการนำไวน์ดีไปขายที่บาร์หรือคลับ ผมก็หวังว่าทุกท่านจะนึกถึงไวน์ของผมเป็นสิ่งแรกนะครับ” เผิงเฉิงฝูพูดต่อ

คำพูดคำจาของเผิงเฉิงฝูนอกจากจะอวดดีแล้วยังดูถูกคนอื่นอีกด้วย เรื่องนี้ทำให้หลาย ๆ คนแอบรู้สึกไม่พอใจ

สุดท้ายแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการร่วมทำธุรกิจกับคุณชายท่านนี้ แต่อย่างไรก็ตามกลับมีคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจ เพราะธุรกิจที่พวกเขาดูแลอยู่จำเป็นต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้บริการลูกค้า

สถานที่ชายหนุ่มกล่าวมาล้วนเป็นสถานที่ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความหมายแฝงที่เผิงเฉิงฝูพูดก็คือ เขาต้องการผูกขาดช่องทางการสั่งซื้อของพวกเขานั่นเอง

ส่วนเรื่องราคานั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะหากผูกขาดช่องทางการซื้อไปแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นพ่อค้าในตลาดเพียงเจ้าเดียวแล้ว คิดว่าเขาจะไม่กำหนดราคาตามใจชอบหรือ?

ด้วยเหตุนี้ แขกหลายท่านที่ได้ฟังเช่นนั้นจึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา

“ผมทราบดีว่าบางท่านอาจคิดว่าคำพูดของผมดูเพ้อเจ้อหรือบ้างก็อาจจะคิดว่าผมพูดจาไร้สาระ แต่ผมขอบอกตามตรงว่าผมสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ และผมก็อยากจะฝากไปถึงคนที่ไม่ต้องการร่วมมือกับผมว่า พวกคุณไม่มีทางหากำไรได้หรอกครับ ถ้าพวกคุณไม่ให้ร่วมมือกับผม เพราะนอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้คุณมีกำไรได้อีกแล้วครับ” เผิงเฉิงฝูกล่าวต่อจนจบ แต่หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ไม่สนว่าแขกที่อยู่ด้านล่างเวทีจะมีปฏิกิริยาอย่างไรอีก

ในขณะที่ฉ่ายเทียนที่อยู่ข้างๆกลับรู้สึกอับอายจนไม่รู้ว่าตนควรจะทำตัวอย่างไร ส่วนเผิงเฉิงฝูกลับเลือกที่จะหันหลังและเดินจากไปโดยไม่ลังเลโดยแม้แต่น้อย

เผิงเฉิงฝูไม่ต้องการจะเสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก เดิมทีเขาไม่ต้องการที่จะร่วมดื่มกับ ‘พวกบ้านนอก’ เท่าไหร่นัก แต่เมื่อนึกว่าเขาคือคุณชายเผิงแล้ว แม้ว่านั่นจะหมายถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่เมืองหลวงก็ตาม

งานเลี้ยงที่เขามาเข้าร่วมในครั้งนี้ นอกจากจะมีพวกคนใหญ่คนโตแล้วยังมีแขกคนอื่นที่มาร่วมงานอีกด้วย และนอกจากคุณชายที่มาจากเมืองหลวง คุณชายท่านอื่น ๆ จากเมืองนี้หรือจากเมืองอื่นแล้ว คนที่เหลือก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยสักนิด

เช่นนั้น เขาจึงมองว่าคนอื่นเป็น ‘พวกบ้านนอก’ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกขยาดที่ต้องร่วมดื่มกับคนเหล่านี้

เหตุผลที่เขามาในวันนี้เป็นเพราะฉ่ายเทียนซึ่งเป็นนายน้อยอันดับหนึ่งคนใหม่เชิญเขามา และอีกเหตุผลก็คือ เขาต้องการประกาศว่าเขาได้มาที่นี่และชี้ทางพวกคนตาบอด เพื่อไม่ให้พวกเขากระทำในสิ่งที่โง่เขลานั่นเอง

และตอนนี้เขาก็ได้พูดสิ่งที่เขาต้องการจะพูดไปแล้ว เขาจึงไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อ

ฉ่ายเทียนมองดูเผิงเฉิงฝูเดินจากไปโดยไม่คิดจะหันกลับมา จากนั้นก็หันไปมองแขกที่กำลังจับกลุ่มซุบซิบกันอยู่ไม่ไกล เขายกไมโครโฟนขึ้นมาอยู่ในระดับริมฝีปากแล้วพูดว่า

"ฮ่าฮ่า คุณชายเผิงนี่เป็นคนที่มีอารมณ์ขันเสียจริง ผมหวังว่าทุกท่านจะไม่เข้าใจเขาผิดไปนะครับ สิ่งที่คุณชายเผิงต้องการจะสื่อก็คือ เขาต้องการให้ทุกท่านทำเงินให้ได้เยอะๆ เพราะการร่วมมือกับคุณชายเผิง พวกคุณไม่มีวันขาดทุนแน่นอนครับ เขาแค่หวังดีก็เลยอยากจะแนะนำทุกท่านครับ เพราะถ้าถึงตอนนั้น ในฐานะคู่แข่งแล้ว ฝ่ายที่จะเสียเปรียบก็คือทุกท่านนั่นเองครับ”

แม้ว่าฉ่ายเทียนจะพยายามช่วยเผิงเฉิงฝูอย่างเต็มที่ในฐานะเจ้าของงาน แต่แม้ว่าที่นี่มีคนที่ไม่คิดมากในคำพูดของอีกฝ่าย

แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน เนื่องจากในตอนนี้ มีแขกไม่น้อยที่รู้สึกไม่พอใจในสิ่งที่เผิงเฉิงฝูกล่าวออกมาเมื่อครู่

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทราบดีว่าแม้ว่าพวกเขาจะพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ หรือต่อให้พวกเขาสาปแช่งอีกฝ่ายในตอนนี้ ถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะร่วมลงทุนกับเผิงเฉิงฝูอยู่ดี เพราะพวกเขาต่างเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดไหน และพวกเขาไม่มีทางเทียบเผิงเฉิงฝูหรือฉ่ายเทียนได้เลย

ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงเริ่มคิดแล้วว่าคราวนี้พวกเขาจะสูญเสียกำไรไปเท่าไหร่ รวมถึงผลลัพท์ที่ตามมาหลังจากนี้

"แม่งเอ๊ย! ไอ้เผิงเฉิงฝูคนนี้ช่างอวดดีจริงๆ มันคิดว่าเมืองชิงของพวกเราไม่มีอะไรดีรึไง?!" ชายอ้วนที่ยืนอยู่ตรงมุมห้องพูดออกมาอย่างหัวเสีย

รวมถึงเสี่ยวซวนและอีกสองคนที่เหลือก็มีสีหน้าถมึนทึงเช่นกัน เห็นๆอยู่ว่าหมอนั่นแทบไม่เห็นทายาทเศรษฐีแห่งเมืองชิงอยู่ในสายตาสักคน

และแน่นอนว่าชิวหนิงซวงกับเสี่ยวซวนก็เป็นหนึ่งในคนที่รู้สึกไม่พอใจในคำพูดของอีกฝ่าย จึงไม่แปลกที่ทั้งสองจะไม่รู้สึกประทับใจในตัวเผิงเฉิงฝูตั้งแต่แรกพบ

"ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วรวยขนาดนั้นเลยเหรอ?" จู่ๆฮวงเฟิงก็ถามออกมา

ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินว่าถังมู่เสวี่ยทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และตอนนี้ผู้ชายจองหองจากเมืองกรุงก็ต้องการสร้างธุรกิจแบบเดียวกัน แล้วธุรกิจนี้สร้างกำไรได้ยังไงล่ะ?

"ก็ใช่นะสิ" เจิ้งฉ่วยพยักหน้าตอบ "ยิ่งกับไวน์ที่มีคุณภาพสูงนะ ขอบอกเลยว่าโคตรแพง!  ถามแบบนี้แสดงว่านายยังไม่เคยดื่มละสิ คนทั่วไปไม่ค่อยได้ลิ้มรสไวน์ดีหรอกนะ จะมีก็แต่พวกที่ชอบเที่ยวกลางคืนที่ได้ดื่มด่ำและเพลิดเพลินไปกับมัน และที่สำคัญคือ ถ้านายอยากจะลิ้มลองไวน์ดีๆสักแก้ว นายก็ต้องไปหากินตามผับตามบาร์หรือไนท์คลับเท่านั้นแหละ"

"เอ๋ นี่เจ้าอ้วนเป็นเจ้าของบาร์ด้วยเหรอเนี่ย" เสี่ยวซวนกล่าวเสริม

"ใช่แล้ว แต่ว่าบาร์ของฉันไม่ได้ใหญ่โตอะไร ก็แค่สร้างไว้ขำๆน่ะ" เจิ้งฉ่วยตอบพลางโบกมือ

ฮวงเฟิงแต่เข้าใจว่าพวกทายาทเศรษฐีชอบเที่ยวเล่นและสังสรรค์ ไม่แปลกที่พวกเขาจะอยากประกอบธุรกิจแบบนี้ เพราะพวกเขาคุ้นเคยและสนใจสถานที่แห่งนี้

ด้วยวิธีนี้ หลายคนที่จึงเลือกที่จะเปิดผับ บาร์ หรือสถานบันเทิงเพื่อที่พวกเขาจะได้ถูกห้อมล้อมไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง

“ไม่แปลกเลยที่ผู้ชายคนนั้นจะพุ่งเป้าไปที่คนพวกนั้น” ฮวงเฟิงพึมพำ

"คราวนี้เมืองชิงของพวกเราจะต้องเจริญขึ้นแน่" ชายอ้วนกล่าว

และใช่ เผิงเฉิงฝูไม่ใช่พวกที่ชอบทำอะไรแบบหลบๆซ่อนๆ เพราะฉะนั้น ในอนาคตอันใกล้เมืองชิงแห่งนี้จะต้องเป็นที่รู้จักของใครหลายคนอย่างแน่นอน