ตอนที่ 562

USB:บทที่ 562 อธิบาย

"แต่ไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่สามารถถ่ายจับใบหน้าของนายได้เลยไม่รู้ว่านายเป็นใคร" หลี่ปิงอวิ้นบอกกับฮวงเฟิง

ฮวงเฟิงพยักหน้า แต่แล้วก็พูดต่อ: "ฉันกลัวว่าเธอจะเจอกับปัญหาเพราะเรื่องนี้ เป็นความผิดของฉันเอง หากฉันรู้ก่อนหน้านี้ฉันจะระวังให้มากกว่านี้หรือไม่ก็ไปรอเธออยู่ที่สนามบิน"

ฮวงเฟิงรู้ว่าหลี่ปิงอวิ้นไม่ได้ติดต่อกับใครเลยจนถึงตอนนี้ และไม่ได้ติดต่อกับเขาเป็นเวลานานหลังมีข่าวลือพร้อมกับเขาคราวก่อน แต่ครั้งนี้มันร้ายแรงยิ่งกว่าและมีรูปถ่ายของเขาติดมาด้วย

"ไม่เป็นไร ไม่ช้าก็เร็ว มันต้องเกิดขึ้นอยู่ดี" ในฐานะคนดังระดับเอลิสต์ ชีวิตส่วนตัวของเธอมักจะเป็นจุดสนใจของสื่อ สื่อเหล่านั้นไม่มีผลเสียใด ๆ และจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ในการขายและยอดคลิก ในตอนนั้น แม้ว่าเธอจะพูดคุยกับชายหนุ่มคนดังคนใดก็ตามนอกกองถ่าย พวกเขาก็ยังคงสร้างข่าวลืออยู่ดี

อาจกล่าวได้ว่าการปรากฏตัวของฮวงเฟิงเป็นเพียงสาเหตุให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นก่อนเวลา ในความเห็นของหลี่ปิงอวิ้นแทนที่จะเป็นข่าวลือกับคนอื่นเป็นข่าวกับฮวงเฟิงน่าจะดีกว่า

ฮวงเฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในฐานะคนดัง สื่อไม่เพียงแต่ช่วยพวกเขาเท่านั้นแต่ยังทำให้พวกเขาเดือดร้อนได้ ดั่งเช่นเรื่องอื้อฉาวนี้ คนดังบางคนอาจตั้งใจเปิดเผยความลับเพื่อเพิ่มความเด่นดัง ในขณะที่ข่าวของคนดังอื่น ๆ กลับถูกสร้างขึ้นโดยผู้สื่อข่าว

“ดูเหมือนเวลาที่เธอจะมามณฑลเจียงครั้งต่อไป ฉันคงไปรับเธอที่สนามบินไม่ได้แล้ว” ฮวงเฟิงพูดกับหลี่ปิงอวิ้นทางโทรศัพท์

"ถ้านายไม่มารับฉันก็ไม่เป็นไร แค่อย่าลืมเลี้ยงอาหาร ฉันรอชิมอาหารฝีมือนายอยู่นะ" หลี่ปิงอวิ้นกล่าว

เนื่องจากคอนเสิร์ต เธออาจต้องมุ่งหน้าไปมณฑลเจียงอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้ ในเวลานั้น ข่าวลือเกี่ยวกับเธอน่าจะยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ และถ้าเธอยังคงไปที่มณฑลเจียงในเวลานี้ก็คงจะมีนักข่าวจำนวนมากที่แอบติดตามเธออย่างลับ ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเธอหรือฮวงเฟิง การพบกันของพวกเขาที่สนามบินจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

"ไม่ต้องกังวล เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะกลืนลิ้นตัวเองลงไปด้วยแน่ ๆ " ฮวงเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ

"นายพูดแล้วนะ ถ้าฉันไม่พอใจกับอาหารที่นายทำ ฉันจะหัวเราะเยาะนายให้สะใจเลย" หลี่ปิงอวิ้นบอก

"ไม่มีปัญหา" ฮวงเฟิงพูด

ทั้งสองคุยกันนานสักพักจนกระทั่งหลี่ปิงอวิ้นบอกเขาถึงสิ่งที่เธอกำลังจะทำ และเป็นเพราะเธอยังคงต้องซ้อม หลี่ปิงอวิ้นจึงวางสายหลังจากนั้น

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เมื่อฮวงเฟิงกำลังจะทำงานต่อ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้คนที่โทรมาไม่ใช่หลี่ปิงอวิ้น แต่เป็นแฟนในอนาคตของเขา ซูหยูโม่

เมื่อเห็นซูหยูโม่โทรมา หัวใจของฮวงเฟิงแตกตื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับข่าวลือของเขากับหลี่ปิงอวิ้น แล้วซูหยูโม่กลับโทรมาในเวลาเดียวกัน นี่เป็นเรื่องบังเอิญมากเกินไป

แต่ไม่ว่าเขาจะคิดอะไร ฮวงเฟิงยังคงรับสายทันที การไม่รับโทรศัพท์ในเวลานี้เท่ากับแกว่งเท้าหาความตายไม่ใช่หรือ?

"เฮ้ หยูโม่ มีอะไรเหรอ?" ฮวงเฟิงถามด้วยความตกใจเล็กน้อย

"ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากทานอาหารเย็นกับนาย นายสัญญากับฉันครั้งล่าสุดว่าจะทำอาหารให้ฉันอีก ลืมไปแล้วเหรอ?" ไม่มีคำพูดแปลก ๆ ในคำกล่าวของซูหยูโม่ราวกับว่าเธอไม่รู้เรื่องอื้อฉาวระหว่าง หลี่ปิงอวิ้นกับเขา

"แน่นอนว่าฉันยังไม่ลืม ฉันจะไปที่ห้องของเธอตอนกลางคืนและทำอาหารที่นั่น และฉันยังสามารถให้เพื่อนร่วมห้องอีกสองคนของเธอกินด้วยกันได้ ฉันต้องการติดสินบนพวกเขาและทำให้พวกเขามีความสุข ไม่อย่างนั้นตอนไปที่นั่นและพวกเขาจะไม่ให้ฉันเข้าไป" ฮวงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฮวงเฟิงไม่กล้าบอกให้ซูหยูโม่รู้ว่าตอนนี้เขาติดต่อกับหญิงสาวอีกคน ถ้าเธอพบว่าเขาเป็น "หญิงสาวที่มีบ้านสีทอง" ผลที่ตามมาจะเลวร้ายแม้ว่าจะไม่มีอะไรระหว่างเขาและหลี่ปิงอวิ้นเลยก็ตาม

"ตกลง นายรู้อยู่แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหน มาหลังเลิกงานแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะโทรบอกมู่เสวี่ยให้เธอกลับไปก่อน" แม้เธอจะเสียใจที่ไม่ได้ทานข้าวคนกับฮวงเฟิงตามลำพัง แต่เธอก็ยังเห็นด้วยกับความคิดของฮวงเฟิง เธอต้องการให้ฮวงเฟิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัวของเธอก็ตาม

"แน่นอน ไม่มีปัญหา" ฮวงเฟิงกล่าว

"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะวางสายก่อน" ซูหยูโม่พูด

ฮวงเฟิงเห็นว่าซูหยูโม่กำลังจะวางสายจึงรีบพูดว่า: "นี่ หยูโม่ รอเดี๋ยว"

“มีอะไรเหรอ?” ซูหยูโม่ถามอย่างสงสัย

"เอ่อ เธอเห็นข่าวของหลี่ปิงอวิ้นทางอินเทอร์เน็ตหรือยัง?" ฮวงเฟิงพูดกับซูหยูโม่ด้วยความประหม่า

แม้ว่ารูปถ่ายบนอินเทอร์เน็ตจะไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเขา และพิกเซลของกล้องก็ต่ำมากเช่นกัน แต่ด้วยรูปเหล่านั้น ฮวงเฟิงรู้ดีว่าคนที่คุ้นเคยกับเขาน่าจะสามารถรู้ได้ ถึงแม้จะไม่แน่ใจ แต่พวกเขาอาจจะคาดเดาได้

"ฉันเห็นแล้ว มีอะไรเหรอ?" ซูหยูโม่บอก จากนั้นเธอจึงนึกได้และตอบกลับว่า: "คนในรูปคือนายใช่ไหม? นายซื้อรถตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนหน้านี้ นายเคยบอกว่านายมีเงินแต่ฉันไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านายจะมีเงินจริง ๆ สินะ"

ฮวงเฟิงอึ้งเล็กน้อย: "หยูโม่ นี่เธอกังวลเรื่องรถของฉันเหรอ?"

“มีเรื่องอะไรอีก?”

"เธอจะไม่ถามเรื่องฉันและคุณหลี่เหรอ?" ฮวงเฟิงกล่าว

มีไม่กี่ครั้งที่คุณหลี่มา นายเป็นคนเดียวที่ไปรับพวกเขาและคอยติดตามพวกเขาไปตลอดทาง นายเป็นห่วงเธอ เมื่อเธอจะไป ก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่นายจะต้องส่งเธอกลับเหรอ? ซูหยูโม่กล่าวตามความเป็นจริง

"ใช่ มันเป็นเรื่องปกติ" คำพูดของหยูโม่ทำให้เขาประหลาดใจ เขาคิดว่าซูหยูโม่จะต้องถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลี่ปิงอวิ้น แต่ใครจะคิดว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้มีข้อสงสัยแม้แต่นิดและเชื่อใจเขา คำพูดที่เขาเตรียมจะอธิบายจึงไม่ได้หลุดออกมาเลย

"อุ้บ!" ซูหยูโม่รู้ได้ถึงความคิดของฮวงเฟิงและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง : "ฉันรู้ว่านายกังวลเรื่องอะไร ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะไม่คิดมาก ฉันเชื่อใจนาย”

แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่ซูหยูโม่คิดแต่ฮวงเฟิงก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความหึงหวงจากน้ำเสียงของเธอ แต่คำตอบของซูหยูโม่กลับทำให้ฮวงเฟิงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

ถ้าซูหยูโม่ไม่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เลย นั่นก็หมายความว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก แต่ถ้าซูหยูโม่โกรธขึ้นมาทันที ฮวงเฟิงจะรู้สึกว่าเธอเยอะเกินไปหน่อย อย่างไรก็ตามซูหยูโม่ได้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจและความห่วงใยที่เธอมีต่อเขา