USB:บทที่ 260 ร่วมมือกัน
"มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!" ชิวหนิงซวงตอบ
อันที่จริง ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเสียใจที่นำหัวข้อนี้ขึ้นมาพูด ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวข้อนี้ก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเธอเลย
หลังจากนั้น ทั้งสองก็เลือกทานอาหารง่ายๆแล้วค่อยแยกย้าย ทั้งสองนัดพบกันตอนบ่ายของวันพรุ่งนี้ที่ประตูเล่อกังหลังเลิกงาน
ในขณะเดียวกัน หลังจากที่ฮวงเฟิงและชิวหนิงซวงแยกทางกัน ที่ไฮเอนด์คลับเฮาส์มีคนสองสามคนกำลังรับประทานอาหารและดื่มอย่างมีความสุข บรรยากาศโดยรอบนับว่าดีทีเดียว
"มา ผู้จัดการถง ดื่มครับ ผมได้ยินชื่อเสียงของผู้จัดการถงมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ผมก็มีโอกาสได้เห็นความกล้าหาญของคุณกับตา จริงๆแล้วคุณดูมีสง่าราศีมากกว่าที่ผมเคยได้ยินมากเสียอีก อ่า ฮ่าฮ่า” ผู้จัดการหยวนหยิบแก้วไวน์ของตัวเอง เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับถงเฉียนจุนที่นั่งอยู่ข้างๆ
อาหารมื้อนี้จัดโดยผู้จัดการหยวนเอง หลังจากมาถึงมณฑลชิงเขาได้ไปเยี่ยมผู้คนมากมายและวันนี้ก็สามารถติดต่อกับถงเฉียนจุนได้อย่างแม่นยำ
ไม่ใช่เพราะผู้จัดการหยวนไม่ต้องการสานสัมพันธ์กับถงเฉียนจุนให้เร็วขึ้น แต่เพราะถงเฉียนจุนมีเรื่องที่ต้องทำมากมาย และมีเรื่องเกิดขึ้นกับลูกชายของเขา หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้มาพบพวกเขาอีกจนถึงวันนี้
การพยักหน้าของถงเฉียนจุนทำให้ผู้จัดการหยวนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ถงเฉียนจุนเป็นอสรพิษที่มีทรงพลังมาก อีกทั้งยังเป็นอสรพิษที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย หากเขาไม่สามารถบูชาวิหารภูเขานี้ได้อย่างถูกต้อง การที่เขาจะประสบความสำเร็จในเมืองชิงถือเป็นเรื่องที่ยากมาก
"ผู้จัดการหยวน ชมกันเกินไปแล้วครับ" ถงเฉียนจุนคิดว่าจะดื่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผู้จัดการหยวนที่อยู่ข้างๆก็ได้รินไวน์ให้เขาจนเต็มแก้วไปแล้ว
หลังจากนั้น ทุกคนก็รับประทานอาหารปละพูดคุยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายผู้จัดการหยวนที่เริ่มต้นการสนทนา แต่คนช่างเจรจาอย่างผู้จัดการหยวนนั้นมีฝีปากดี ทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งสองนั้นดูดีไร้ที่ติ
“ตั้งแต่ผู้จัดการหยวนมาที่เมืองชิง ผมคิดว่าคุณกำลังวางแผนทำอะไรบางอย่างที่เมืองชิง ใช่ไหมครับ?” ไม่มีใครรู้ว่าเขายังคงกังวลเรื่องลูกชายและพี่เปี่ยว แต่สีหน้าของเขากลับดูไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
"พวกเขาต้องการขยายธุรกิจไปยังเมืองชิง" ผู้จัดการหยวนไม่ปฏิเสธ
ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ใช่คนโง่ ทุกคนก็จะรู้ หลังจากมาถึงเมืองชิง เขาก็ไม่มีเวลาว่างอีกและเห็นได้ชัดว่าถงเฉียนจุนไม่ใช่คนขาดสติ
“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าคุณควรเตรียมรับมือให้ดี บริษัทเครื่องสำอางของเราที่มีชื่อเสียงในเมืองชิงมีอยู่ไม่น้อย” ถงเฉียนจุนกล่าว
"ผมทราบเรื่องนี้ดี ก่อนที่ผมจะมาที่เมืองชิง ผมได้ทำการตรวจสอบมาก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็มั่นใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัทของผมมาก" ผู้จัดการหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
"บางครั้ง แค่สินค้าดีไม่ได้หมายความว่าจะทำสำเร็จนะครับ" ถงเฉียนจุนว่า
เขาเองก็เคยคิดแบบนั้น แต่เขามีอะไรดีไปกว่าคนอื่นล่ะ? บริษัทของเขาดีกว่าของคนอื่นหรือไง? เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ แต่เขาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองชิง แสดงว่าต้องมีปัญหาตามมาแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการหยวนไม่ใช่มือใหม่ในพื้นที่นี้ และเข้าใจหลักการต่างๆเป็นอย่างดี
ผู้จัดการหยวนหัวเราะแล้วพูดกับถงเฉียนจุนว่า "แต่ว่าผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าอย่างคุณสักหน่อย"
ถงเฉียนจุนโบกมือและตอบกลับไปว่า "คุณคิดว่าผมเป็นพระพุทธเจ้าได้ยังไงละครับ?" ถึงเขาจะตอบไปกลับแบบนั้น แต่กลับไม่สามารถปกปิดความหยิ่งทนงบนใบหน้าได้
“ผมได้ยินมาว่าคุณชายถงตามจีนซีอีโอซูหยูโมคนสวยอยู่ เรื่องจริงเหรอครับ?” ผู้จัดการหยวนเอ่ยถาม
“ผู้จัดการหยวนเองก็ทราบเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ” คิ้วของถงเฉียนจุนกระตุก โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
"เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปคือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา การรู้จักตัวเองและรู้จักศัตรูก็เพียงพอให้ผมทำศึกร้อยครั้งชนะร้อยครั้งแล้ว ผมต้องให้ความสำคัญกับคนที่เกี่ยวข้องกับเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปอยู่แล้วครับ" ผู้จัดการหยวนกล่าว
"นอกจากนี้ ผมคิดว่าถ้าคุณชายถงจับซูหยูโม่คนนั้นได้จริงๆ ผมอาจจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทนิดหน่อย ผมจะต้องเห็นแก่หน้าตาของคุณชายถงด้วย"
"ไม่จำเป็น!" ถงเฉียนจุนโบกมือ "มันก็แค่ความปรารถนาของเจ้าลูกชายแค่ฝ่ายเดียว"
"เป็นไปได้ยังไง คุณชายตงมีฐานะดีขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าซูหยูโม่มีมาตรฐานสูงหรือ เธอไม่ได้ชอบคุณชายถงเหรอ?" ความจริงแล้ว เขาได้ตามสืบเรื่องนี้มาอย่างดีแล้ว ท้ายที่สุด ทั้งเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป
และตระกูลถงเป็นสิ่งที่เขาต้องให้ความสนใจ
"เหอะ!" ถงเฉียนจุนสบถอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร
ในความเป็นจริง ถงเฉียนจุนเองก็รู้สึกโกรธที่ซูหยูโม่ ‘ไม่รู้ว่าอะไรคือของดี’ แม้ว่าตระกูลของเธอจะมีอิทธิพลต่อเมืองนี้ แต่ถึงอย่างนั้นตระกูลถงของเขาก็ไม่ต่างจากอีกฝ่าย
ลูกชายของเขาบริสุทธิ์ใจต่อเธอมาโดยตลอด เขาตามจีบเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เธอไม่สามารถแม้แต่จะหันมามองเขา เรื่องนี้ทำให้ถงเฉียนจุนผู้เคยทำตัวหยิ่งผยอง กลับต้องมานั่งรู้สึกเสียใจ
“ผู้จัดการถง ผมทราบข่าวที่คุณและลูกชายอาจจะสนใจมาด้วยละครับ” ผู้จัดการหยวนกล่าว
"ข่าวอะไร?"
“ผมทราบมาว่าตระกูลซูของซูหยูโม่มีอิทธิพลในเมืองหลวง แต่คนในตระกูลของเธอไม่อนุญาติให้เธอก่อตั้ง บริษัท แต่เพราะเธอยังดั้นด้นที่จะทำมันให้สำเร็จ เป้าหมายของเธอคือการทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง และปราถนาที่จะไม่ถูกตระกูลจับคลุมถุงชน" ผู้จัดการหยวนกล่าว
"โอ้? เป็นอย่างนี้นี่เอง" ถงเฉียนจุนพูดด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยบนใบหน้า
อันที่จริง ไม่นานมานี้ ถงเฉียนจุนเองก็ทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน เพียงแต่ยังไม่ได้ยืนยันความถูกต้องของข่าวเท่านั้น ตอนที่เขาได้ยิน ผู้จัดการหยวนพูดเรื่องเดียวกันนี้ ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าข่าวนี้คงจะเป็นเรื่องจริง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงสิครับ ผมมั่นใจ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่เลือกโจมตีเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปหรอกครับ จริงไหม?” ผู้จัดการหยวนไม่ได้ปิดบัง
นอกจากนี้ ผู้จัดการหยวนเขายังเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถของถงเฉียนจุน ไม่มีทางที่เขาจะสามารถปิดบังอีกฝ่ายได้ และที่มากกว่านั้นคือเขาไม่คิดตัวเองจำเป็นต้องปิดบังอีกฝ่าย
"คุณหมายถึงอะไร?" ถงเฉียนจุนถามกลับ เขาไม่เชื่อว่านี่จะเป็นการสนทนากันแบบสบาย ๆเหมือนที่ผู้จัดการหยวนกำลังทำอยู่
เนื่องจากพวกเขากำลังพูดถึงหัวข้อนี้ แน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องมีเหตุผลบางอย่างถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เมื่อนึกถึงวิธีที่ผู้จัดการหยวนจะจัดการกับสู่เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดูท่าว่าเขาจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
"ผมจะไม่พูดอ้อมค้อมนะครัย ผู้จัดการถง ผมต้องการร่วมมือกับผู้จัดการถงทำลายเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปครับ!" ในที่สุดผู้จัดการหยวนก็ได้บอกจุดประสงค์ของตน
"แล้วทำไมผมต้องร่วมมือกับคุณด้วยละครับ? ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับเฮฟเว่นไพร์กรุ๊ปสักหน่อย อีกอย่าง ลูกชายของผมก็ชอบซูหยูโม่"
ถงเฉียนจุนแอบคิดว่าที่อีกฝ่ายพูดมานั้นเป็นความจริง แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ผ่านบนใบหน้า
“เพราะว่ามันมีประโยชน์ยังไงละครับ!” ผู้จัดการหยวนกล่าวด้วยความมั่นใจ "แถมยังวินวินกันทั้งสองฝ่ายอีกด้วย"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved