ตอนที่ 535

USB: บทที่ 535 ขยันทำงาน

คำพูดของถังมู่เสวี่ยทำให้ดวงตาของซูหยูโม่สว่างวาบ จากนั้นเธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ถังมู่เสวี่ยพูดไม่ผิด แม้ว่าคนในครอบครัวจะให้โอกาสเธอได้เลือกคู่ครองด้วยตัวเอง แต่มีข้อแม้ว่าอีกฝ่ายจะต้องมีฐานะระดับเดียวกันกับเธอ ถ้าฐานะของอีกฝ่ายไม่ดีพอ คนในครอบครัวไม่มีทางยอมให้เธอแต่งกับเขาเด็ดขาด

ถ้าฮวงเฟิงยังทำงานที่เฮฟเว่นไพร์กรุ๊ป ถึงเซี่ยเมิ่งเจียวกับซูหยูโม่จะให้เขาเป็นรองประธาน ครอบครัวของเธอก็คงไม่คิดว่ามันเป็นเพราะความสามารถของฮวงเฟิง แต่เป็นเพราะเธอที่ทำให้เขาได้ครอบครองตำแหน่งนั้น

ทว่าการที่ฮวงเฟิงทำงานกับถังมู่เสวี่ยนั้นต่างออกไป ถังมู่เสวี่ยไม่ใช่คนของเขา ถึงจะยังมีข้อสงสัยในเรื่องตำแหน่งอยู่บ้าง แต่ฮวงเฟิงก็ทำงานที่นั่นมาตั้งแต่แรก

หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยูโม่ก็ขมวดคิ้วมุ่น แต่อย่างที่เธอเคยบอกเซี่ยเมิ่งเจียวก่อนหน้านี้ ฮวงเฟิงเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีมาก ถ้าเกิดว่าเธอให้ฮวงเฟิงไปทำงานกับถังมู่เสวี่ย

หรือถ้าเกิดว่าเขาดันรู้ว่าที่เธอทำแบบนั้นเพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่คู่ควรกับเธอจนต้องบังคับให้อีกฝ่ายเปลี่ยนอาชีพขึ้นมา หลังจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะเป็นยังไงต่อล่ะ?

ถ้าเกิดฮวงเฟิงรู้ความจริงขึ้นมา เขาจะต้องผิดหวังในตัวเธอและขอลาออกจากบริษัทและไม่ยอมทำงานกับถังมู่เสวี่ยแน่

"ทำไมล่ะ พี่หยูโม่มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" เมื่อเห็นสีหน้าของซูหยูโม่ ถังมู่เสวี่ยก็รู้ว่าเธอกำลังคิดหาวิธีแต่อาจจะประสบปัญหานิดหน่อย

"ฉันเห็นด้วยกับเธอนะ ถึงฉันจะไม่สนว่าเขาเป็นใคร แต่ฉันก็กลัวว่าในอนาคตคนพวกนั้นจะทำให้ฮวงเฟิงเดือดร้อนน่ะสิ แต่ความคิดของเธอก็ไม่เลวเลยนะ" ซูหยูโม่พูด "และฉันก็กลัวว่าฮวงเฟิงจะคิดมากและคิดว่าฉันกำลังดูถูกเขาอยู่น่ะสิ"

ซูหยูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า "ช่างมัน เรื่องนั้นให้เขาเป็นคนตัดสินใจก็แล้วกัน ฉันไม่มีหน้าไปสั่งเขาหรอก"

"พี่หยูโม่ ทั้งหมดที่พี่ทำไปก็เพื่อตัวเขานะ" ถังมู่เสวี่ยว่า

"นั่นก็จริง แต่ถ้าเกิดเขาไม่รู้ว่าพี่ทำเพื่อเขาแล้วเข้าใจผิดล่ะ" ครั้งนี้เซี่ยเมิ่งเจียวเป็นฝ่ายพูดบ้าง

ซูหยูโม่ยังคงลังเล แต่หลังจากถูกทั้งสองคนโน้วน้าว เธอจึงตัดสินใจอธิบายเรื่องทั้งมดให้ฮวงเฟิงฟัง หลังจากนั้นไม่ว่าฮวงเฟิงจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เธอก็จะไม่คัดค้านเขา

เพียงแต่สองวันมานี้ ซูหยูโม่ไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับฮวงเฟิงได้ เพราะอีกฝ่ายหยุดงาน ถึงซูหยูโม่จะรู้สึกเศร้า แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร

ตอนนี้โฆษณาก็ได้ถ่ายทำเสร็จแล้ว แต่หลี่ปิงอวิ้นยังไม่กลับเพราะยังอยากอยู่เที่ยวเล่นที่เมืองเจียง ทว่าการเที่ยวครั้งนี้ เธอไม่ได้อยากไปเพียงลำพังและไม่ก็อยากไปเที่ยวกับผู้ช่วย แต่อยากไปเที่ยวกับฮวงเฟิง

เมื่อวานฮวงเฟิงไม่ว่างแต่ว่าวันนี้เขาก็ไม่ว่าง ดูเหมือนว่าเขาจะมีเรื่องด่วนต้องทำ และเธอไม่ใช่พวกที่ชอบรบกวนคนอื่น เธอเลยไม่รบกวนเขาอีก

ฮวงเฟิงมาถึงโรงบำบัดน้ำเสียแล้วในตอนเช้า ในตอนแรกเขาคิดว่าที่นี่ยังไม่จำเป็นต้องพึ่งแรงเขา แค่พัฒนาไปเรื่อยๆก็พอ

ทว่าแผนของเขาไม่ใช่นึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ทันที โรงหมักไวน์ของเขายังไม่ทันเปิด แต่โรงบำบัดน้ำกลับถึงจุดเปลี่ยนแล้ว ถ้าครั้งนี้เขาประสบความสำเร็จ มันก็คงจะทำให้โรงงานของเขาพัฒนาก้าวไกลได้

ด้วยเหตุนี้ฮวงเฟิงและกัวเหลียงจึงมีสีหน้าจริงจังมาก พวกเขานั่งรออยู่ในห้องทำงานมาสักพักแล้ว

และฮวงเฟิงยังได้เห็นกัวเมิ่งหานที่นี่ ทว่าเขาไม่ได้เห็นเธอมาสองวันแล้ว เทียบกับวันก่อน กัวเมิ่งหานยังคงสวยเหมือนเคย ดูเหมือนว่าเธอจะลดน้ำหนักได้บ้างแล้ว เธอเก่งมากที่สามารถก้าวผ่านช่วงที่ยากลำบากมาได้

กัวเมิ่งหานเหนื่อยแทบตายกว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้ เนื่องจากโรงงานแห่งนี้กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วจึงมีงานให้ทำเยอะมากทุกวัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เธอยังเป็นแค่พนักงานตัวเล็ก ๆ ในบริษัทอยู่เลย

ต่างกับที่นี่ที่ตอนนี้เธอเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน เธอไม่ถนัดงานด้านนี้และไม่เคยทำมันมาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยเข้าใจงานนี้เท่าไหร่นัก

ถ้าเธอเป็นแค่พนักงานตัวเล็ก ๆ เธอก็คงไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนี้ แค่ทำงานของตัวเองให้ทันเวลาก็พอ

แต่หลังจากที่เธอกลายเป็นหัวหน้าแผนก เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทำตัวเหลวไหลเหมือนเมื่อก่อน และเธอก็ไม่อยากทำให้ฮวงเฟิงกับกัวเหลียงผิดหวังที่ให้โอกาสเธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงต้องขยันทำงานและพยายามปรับตัวให้เข้ากับงานใหม่ อีกทั้งยังต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นอีกด้วย

ดังนั้นแม้ว่าเธอจะอยู่ใกล้กับฮวงเฟิง แต่ช่วงนี้เธอก็ไม่มีโอกาสได้พบเขาเลย นอกจากนี้ ฮวงเฟิงไม่ได้มาที่โรงงานบ่อยๆ ทั้งสองคนจึงไม่ค่อยได้พบกัน

"เมิ่งหาน กัวเหลียงเพิ่งนินทาเธอไป แต่ตอนนี้เธอดันสวยขึ้นเป็นกองเลย" ฮวงเฟิงพูดกับกัวเมิ่งหาน

"เห้ย นายพูดอะไรซี้ซั้วสิ ฉันห้ามเธอแล้วแต่เธอไม่ฟังเอง ไหนๆ วันนี้นายก็มาแล้วช่วยบอกให้เธอว่าอย่าหักโหมเกินไปหน่อยสิ" เสียงของกัวเหลียงดังขึ้นจากข้างหลัง

“ฉันไม่ได้หักโหมสักหน่อย” กัวเมิ่งหานตอบอย่างเขินอาย "ก็ฉันไม่อยากเป็นคนที่ด้อยกว่าคนอื่นนี่"

กัวเมิ่งหานเข้าใจว่าเธอเป็นถึงหัวหน้าแผนก เธอจึงไม่สามารถทำตัวเหลวไหลต่อหน้าลูกน้องได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะเป็นหัวหน้าพวกเขาได้ยังไงล่ะ?

ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเอง เพียงเท่านี้เธอก็พอใจแล้ว

"ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เธอไม่จำเป็นต้องทำงานให้เสร็จภายในวันเดียวหรอก" ฮวงเฟิงพูดต่อว่า "และก็ไม่ต้องพูดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นด้วย เพราะในสายตาฉัน เธอเก่งกว่าพวกเขาทุกคน"

คำพูดของฮวงเฟิงทำให้กัวเมิ่งหายรู้สึกอุ่นใจ ทันใดนั้นเขาก็คิดว่าการที่เธอทำงานหนักในวันที่ผ่านมานี้คุ้มค่าแล้ว อีกทั้งความรู้สึกเหนื่อยล้าตามร่างกายก็หายไปด้วย

เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของกัวเมิ่งหาน กัวเหลียงและโจวหรูหลานก็หลุดหัวเราะ ว่าแล้วว่าต้องให้ฮวงเฟิงพูด พูดไปได้ไม่กี่ประโยคก็ทำให้กัวเมิ่งหานยิ้มออกแล้ว

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันก็ใกล้จะถึงเวลานัดแล้ว พวกเขาไปยังทางเข้าเพื่อเตรียมต้อนรับท่านหูและผู้ใต้บัญชา

ท่านหูไม่ปล่อยให้พวกเขารอนาน หลังจากที่ฮวงเฟิงและคนอื่นมาถึงทางเข้า รถของท่านหูก็มาถึง ทว่าครั้งนี้กลับไม่ใช่แค่รถของท่านหูเพียงคันเดียว แต่ยังมีรถคันอื่น ๆ อยู่ด้านหลังรถของท่านหู คนที่อยู่ข้างในรถทุกคันเป็นคนที่ท่านหูพามาในวันนี้