ด้านบนสุดของหอคอยเจ็ดดาว ในที่สุดความเงียบสงบก็กลับมาในที่สุด
ซื่อเหวินหยูนั่งลงบนพื้น หยิบเอาโอสถฟื้นฟูออกมารักษาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูกำลังออกมาอย่างเงียบๆ
จี้เทียนซิงนั่งอยู่ในใจกลางของค่ายกลเจ็ดดาว
ปิดตาลงเพื่อบ่มเพาะและใช้พลังจากดวงดาวในการบรรเทาจุดฝังเข็ม
ทั้งคู่ไม่ยินยอมที่จะเสียเวลา
พวกเขาทุ่มเทให้กับการบ่มเพาะเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
ก่อนที่จี้เทียนซิงจะเข้ามาในหอคอยเจ็ดดาว
หยุนเหยาเคยบอกเขาว่าหอคอยแห่งนี้จะเปิดเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
ความเร็วเวลาของโลกในหอคอยนั้นแตกต่างจากเวลาในดินแดนดาราบรรพกาล
หนึ่งวันในดินแดนดาราบรรพกาลของโลกภายนอกเทียบเท่ากับครึ่งเดือนภายในหอคอย
เมื่อลองนับเวลาที่เหลือดูแล้วพบว่า
อีกไม่เกินห้าวันหอคอยเจ็ดดาวจะส่งเขากลับออกไป
ในช่วงห้าวันนี้เขาจะใช้พลังลึกลับจากดวงดาวเพื่อปรับแต่งความแข็งแกร่งให้ได้มากที่สุด
ท้ายที่สุดแล้ว
การที่ได้บ่มเพาะที่นี่ห้าวันก็เท่ากับข้างนอกสองเดือน
หลังจากพลาดโอกาสนี้ไปเขาจะต้องรออีกหนึ่งปี
.............
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากบ่มเพาะตลอดทั้งวันทั้งคืน อาการบาดเจ็บของซื่อเหวินหยูก็หายเป็นปลิดทิ้งและความแข็งแรงของเขาก็กลับคืนมาเป็นเก้าส่วน
เกือบจะสมบูรณ์เต็มร้อย
มันหยุดการบ่มเพาะและหันไปหรี่ตามองจี้เทียนซิงที่อยู่กลางค่ายกล
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงอยู่ในภวังค์บ่มเพาะด้วยสองตาที่ปิดสนิท ดวงตาของซื่อเหวินหยูก็เปล่องประกายยินดี
จากนั้น มันก็ผุดลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบ
ก้าวเท้าเดินไปหาอีกฝ่ายอย่างเงียบงัน
มันเดินมาถึงเบื้องหน้าจี้เทียนซิงและหยุดสังเกตที่โลงหยกวิญญาณกับหินวิญญาณโป๋จิง
ในไม่ช้ามันก็พบข่ายอาคมที่จี้เทียนซิงจัดวางไว้และยังได้เห็นจี้เค่อที่นอนหลับอยู่ในโลงหยกวิญญาณ
"ไอ้สารเลวจี้เทียนซิง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงตั้งป้อมเฝ้าอยู่หน้าหินวิญญาณโป๋จิง
ที่แท้มันก็พาคนเข้ามาด้วย !"
“มันใช้พลังของหินวิญญาณโป๋จิงในค่ายกลเจ็ดดาวเพื่อทำการรักษาสตรีนางนั้น
!”
ซื่อเหวินหยูขมวดคิ้ว
ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นว่าจี้เทียนซิงยังคงบ่มเพาะอยู่ราวกับว่าไม่ได้รับรู้ถึงการมาเยือนของมัน ทันใดนั้นในใจของมันก็มีความคิดวาบผ่าน
"เพื่อให้ได้หินวิญญาณโป๋จิงมา...
ข้าต้องทำลายข่ายอาคมป้องกันที่จี้เทียนซิงวางเอาไว้เสียก่อน"
"แต่ทันทีที่ข้าลงมือ ไอ้หมอนี่จะต้องตื่นขึ้นมาและหยุดข้าแน่นอน..."
"ไม่ได้ เช่นนี้ข้าคงต้องกำจัดมันก่อน"
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว
ซื่อเหวินหยูก็เดินไปข้างหลังจี้เทียนซิง
พลันควบแน่นพลังลมปราณไว้ในมือขวาตบฟาดเข้าหากลางหลังของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม
มันต้องการสกัดจุดการเคลื่อนไหวของจี้เทียนซิงด้วยฝ่ามือเดียวอย่างรวบรัด
จากนั้นก็จับโยนลงไปในทะเลเมฆ
ด้วยวิธีนี้จี้เทียนซิงก็จะร่วงหล่นจากหอคอยเจ็ดดาวและไม่สามารถหยุดมันได้อีกต่อไป
“วูบบบ !”
เมื่อเห็นว่าฝ่ามือขวาของซื่อเหวินหยูกำลังจะถึงตัว
ทันใดนั้นจี้เทียนซิงพลันลืมตาขึ้น
เขายกมือซ้ายโดยไม่หันกลับไปมองและปัดฝ่ามือของซื่อเหวินหยูด้วยหลังมือ
แขนซ้ายของเขากลายเป็นสีแดงชาดและมีเปลวไฟสีแดงปะทุขึ้นบนฝ่ามือ
ก่อเกิดเป็นหัตถ์เปลวอัคคีขนาดใหญ่
"บึ้ม !!"
สองฝ่ามือกระแทกกันอย่างดุเดือดจนเกิดเสียงกัมปนาทดังขึ้น
ท้องฟ้าลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ
จี้เทียนซิงนั่งอยู่ที่จุดเดิมไม่ขยับเขยื้อน
แต่ซื่อเหวินหยูต้องถอยหลังไปถึงสามก้าวและได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ดวงตาของมันเบิกกว้างขึ้นในทันทีและเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมา
"บ้าน่า
ข้าฟื้นฟูพลังกลับมาได้ถึงเก้าส่วนแล้ว แถมยังลอบโจมตีตอนมันกำลังบ่มเพาะ มันตอบโต้กลับได้อย่างไร ?!”
ในเวลาเดียวกันจี้เทียนซิงก็ยืนขึ้นและหันมามองซื่อเหวินหยูพลางกล่าวว่า
“ซื่อเหวินหยู
! ข้าให้โอกาสเจ้าได้บ่มเพาะที่นี่
แต่เจ้ากลับลอบทำร้ายข้าอย่างไร้ยางอาย ?”
"นี่เป็นเจ้าที่แส่หาเรื่องเองนะ !"
“เช้ง !”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้ว
พลันชักกระบี่มังกรดำออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวและซัดกระบี่โจมตีซื่อเหวินหยูออกไป
ขณะนั้น กระบี่มังกรดำเปลี่ยนคลื่นกระบี่แสงอันเย็นเยือกสายหนึ่ง
"โฮกกก
!"
เสียงมังกรคำรามดังอึกทึกและแผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายกลเจ็ดดาว
มายามังกรทองที่นำมาซึ่งพลังเบิกพิภพ
ซัดเข้าหาซื่อเหวินหยูอย่างรุนแรง
มันไม่มีเวลาหลบเลี่ยงและทำได้เพียงต้องชักกระบี่ขึ้นมาต้านรับเท่านั้น
"ปัง !"
ด้วยเสียงดังกึกก้อง
ซื่อเหวินหยูถูกกระแทกบินออกไปด้วยคลื่นกระบี่มังกร ปากฉีดพุ่งโลหิตสดออกมา
ลอยละลิ่วไปไกลกว่าสิบเมตรล้มลงบนพื้นหินสีดำอย่างรุนแรง
"แค้ก... แค่ก ... !"
ซื่อเหวินหยูกระอักเลือกออกมา
โลหิตไหลซึมจากปากและจมูก มันพยายามชันกายลุกขึ้น
กุมกระบี่สีฟ้าไว้ในมือ ดวงตาจ้องมองจี้เทียนซิงและตะโกนออกมา “จี้เทียนซิง
! เจ้ากล้าหันกระบี่ใส่ข้า
? คิดจะฆ่าแกงกันเลยหรือไง
?”
จี้เทียนซิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“ก็เจ้าลอบโจมตีในระหว่างที่ข้ากำลังบ่มเพาะ ด้วยการกระทำที่ชั่วช้าต่ำทรามเยี่ยงนี้
หากข้าจะฆ่าเจ้าก็ไม่นับว่าผิดอะไร !”
ซื่อเหวินหยูไม่คิดยอมรับ
พลางสบถอย่างโกรธแค้นว่า “ผายลม !
เห็นชัดๆว่าเจ้าลงมือก่อน ข้าก็แค่เห็นเจ้านิ่งไปนานเลยคิดจะเข้าไปดูก็เท่านั้น !”
“เจ้าละเมิดคำสั่งร้ายแรง อยู่ในหอคอยเจ็ดดาวแปดนิกายห้ามทำร้ายกันเอง
หนำซ้ำยังฝ่าฝืนกฎ พาคนนอกเข้ามาในหอคอย วางไว้ในค่ายกลเจ็ดดาว
เจ้ามีเจตนาอะไรกันแน่ !?"
แน่นอนว่าจี้เทียนซิงมิอาจอธิบายเรื่องของจี้เค่อให้อีกฝ่ายฟังได้
พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธกริ้วว่า “ซื่อเหวินหยู อย่ามาพูดไร้สาระ !”
"ถ้าอยากมีเรื่องนักก็ใช้พลังทั้งหมดของเจ้าโจมตีเข้ามาได้ทุกเมื่อ
ให้ข้าดูหน่อยเถอะว่าหัวหน้าศิษย์ของนิกายกระบี่ฟ้ามีศักดิ์ศรีแค่ไหน !”
ฟุ่บ !
เมื่อเสียงลดลง
เงาร่างของจี้เทียนซิงก็ทะยานเข้าหาซื่อเหวินหยูในทันทีพลางเหวี่ยงกระบี่ฟาดฟันออกไป
ซื่อเหวินหยูก็ใช้กระบี่ของมันตอบโต้กลับอย่างเกรี้ยวกราดด้วยเคล็ดวิชากระบี่อันวิจิตรงดงามของมัน
ก่อเกิดเป็นคลื่นกระบี่หลายสิบสายพุ่งออกมาราวกับลูกธนู
"เคร้ง ! เคร้ง ! เคร้ง !"
คลื่นกระบี่ของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด
ระเบิดเสียงอึกทึกหลายครั้งครา ก่อเกิดเป็นพายุเฮอริเคนที่รุนแรง
หลังจากปะทะกัน
คลื่นกระบี่ก็พังทลายกลายเป็นเสี้ยวลำแสงกระบี่นับไม่ถ้วน กระเด็นออกไปทุกทิศทาง
ในเวลาเพียง 20 นาที ชายทั้งสองได้แลกกระบี่กันไปมากกว่าสิบกระบวนท่าและปะทะกันอย่างดุเดือดหลายครั้ง
ในตอนแรก
จี้เทียนซิงคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะซื่อเหวินหยูได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งระดับปราณจิตขั้นที่เจ็ด
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วอีกฝ่ายก็เป็นถึงศิษย์สายตรงของเทียนเจี้ยนจง
วิชากระบี่ของมันนั้นช่างแพรวพราวและละเอียดอ่อนมาก
หลังจากที่ทั้งสองได้สัประยุทธ์กันนานหลายสิบกระบวนท่าก็ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบอย่างชี้ขาด
จี้เทียนซิงเก็บกระบี่มังกรดำกลับไปทันทีและทำการร่ายเพลงกระบี่ดาราเหินออกมาแทน
เขากระตุ้นตัวอ่อนกระบี่ในร่าง
ปลดปล่อยคลื่นกระบี่ยักษ์สีทองสองสายจู่โจมออกไปทั้งซ้ายและขวาของซื่อเหวินหยู
"วายุอัสนีบาต !!"
คลื่นกระบี่ยาวสามเมตร ระเหิดออกเป็นลำแสงสีทองอันพร่างพราว
หลอมรวมกันเป็นพายุเฮอริเคนอันรุนแรงประหนึ่งสายฟ้าสีทองขนาดใหญ่ที่ฟาดผ่าเข้าหาซื่อเหวินหยูในจุดนั้น
เมื่อได้ยินเสียงดัง ชี่ ชี่ ชี่, ซื่อเหวินหยูก็ถูกผ่าฟาด ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยเลือดและกระเด็นออกไปร่วมสิบเมตร
มันขบฟันแน่นข่มอาการบาดเจ็บและพยายามลุกขึ้นเตรียมจะตอบโต้กลับด้วยกระบี่ในมือ
ในเวลานี้เอง
จี้เทียนซิงได้ปลดปล่อยกระบี่เพลิงขนาดใหญ่ออกมาอีกระลอก พุ่งเข้าหามัน
"ประกายแสงมังกรแดง !!"
คลื่นกระบี่เพลิงยาวกว่าห้าเมตรที่หอบหุ้มไว้ด้วยเปลวไฟสีแดงอันร้อนระอุ ประดุจดั่งมังกรไฟได้กระแทกจมลงไปในร่างของซื่อเหวินหยูทันที
"บูม !"
ท่ามกลางเสียงระเบิดกึกก้อง
ซื่อเหวินหยูถูกกระแทกซ้ำอีกครั้งลงไปกองกับพื้นไกลออกไปยี่สิบเมตร
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved