ตอนที่ 344 หัตถ์ปราณผลาญฟ้า !

ในอาณาจักรเทียนเฉิน

จอมยุทธ์ระดับปราณฟ้านับเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

ทอดตามองไปทั่วทั้งอาณาจักร

ในปัจจุบันมีไม่เกินสิบคนที่รู้จักกันดี

ผู้ที่เหยียบย่างไปถึงขอบเขตปราณฟ้าแต่ละท่านล้วนแต่เป็นบุคลต้นแบบที่สามารถเปิดสถาบัน

จัดตั้งนิกาย

ตลอดจนสามารถสืบทอดอำนาจไปได้อีกหลายร้อยปีและครอบครองสถานที่บางส่วนเป็นของตนเองภายในดินแดนดาราบรรพกาลได้

บัดนี้ สิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดกำลังเกิดขึ้น

เทียนเจี้ยนจงที่เป็นยอดยุทธ์ระดับปราณฟ้ากลับลงมือต่อรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยกว่าเป็นร้อยๆปี

!

มันลงมือโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีและใบหน้าของผู้อาวุโส

!

"ฟ้าว !"

เทียนเจี้ยนจงพุ่งตัวออกไปได้ไกลสิบเมตรโดยใช้เพียงหกก้าวเท่านั้นในการตามประชิดตัวพวกจี้เทียนซิงทั้งสามคน

"ตายซะ เจ้าพวกเด็กผี !"

คนแค่นเสียงด้วยไอสังหารอันเกรี้ยวกราด

เหยียดฝ่ามือออกไปตรงเข้าหาจี้เทียนซิงและเอี๋ยนเอ๋อร์

บนฝ่ามือของมันเปล่งสีสันสดใส

ธาตุทั้งห้าควบแน่นเป็นสองฝ่ามือยักษ์ปกคลุมร่างของทั้งสอง

ในช่วงเวลาสำคัญ

จี้เทียนซิงกระตุ้นพลังของเกราะดาราไว้ที่เท้า

ก่อเกิดเป็นแสงดวงดาวสีเงินและความเร็วก็เพิ่มเป็นสองเท่า

"ฟุ่บ !"

เขาหลบหนีจากการคร่ากุมของเทียนเจี้ยนจงและฝ่ามือสรรพสีสัน

รอดพ้นจากหายนะไปได้อย่างหวาดเสียว

ทว่าเอี๋ยนเอ๋อร์กลับจนมุม

ยากที่จะหลีกเลี่ยง

เมื่อได้เห็นฝ่ามือสรรพสีสันลอยลงมาจากฟากฟ้า

มันทำได้เพียงควงดาบเพลิงม่วงอย่างแข็งขืน ตวัดออกมาเป็นปราณดาบเข้าต้านรับ

"เปรี้ยง

!"

ปราณดาบกระแทกเข้ากับพลังฝ่ามือของเทียนเจี้ยนจง

จนเกิดเสียงอึกทึกดังขึ้น

อย่างไรก็ตาม ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเทียนเจี้ยนจงไม่เขยื้อน

ไม่ไหวติงและไม่ได้รับแม้แต่รอยขีดข่วน

ด้วยฝ่ามือยักษ์ข้างนั้น  มันพุ่งออกไปคว้าปราณดาบเพลิงม่วงของเอี๋ยนเอ๋อร์และบีบมันจนเกิดเสียงดัง

‘แกร่ก  แกร่ก...’  สุดท้ายก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

ก่อนที่เอี๋ยนเอ๋อร์จะได้ทันตั้งตัว

ฝ่ามือยักษ์อีกข้างของเทียนเจี้ยนจงก็ตกลงมาจากท้องฟ้า

ฟาดตบเขาลงกับพื้นด้วยเสียงดัง ‘ปึง !’

พื้นหินชนวนอันแข็งแรงถูกทุบทำลายเป็นหลุมขนาดใหญ่

รอบๆเกิดรอยปริแตกเหมือนใยแมงมุม

อั่ก......

!

เอี๋ยนเอ๋อร์นอนอยู่ในหลุมที่เต็มไปด้วยฝุ่น

ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยเลือดหลายจุด ปากและจมูกมีเลือดไหลนองออกมาไม่หยุด

เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถทนต่อการโจมตีของเทียนเจี้ยนจงและได้รับบาดเจ็บสาหัสในจุดนั้นทันที

"เดรัจฉานน้อย ดูซิว่าจะหนีไปไหนพ้น !"

เทียนเจี้ยนจงฉีกยิ้มกว้างพลางเหยียดฝ่ามือซ้ายออกไปควบแน่นปราณแท้เป็นฝ่ามือยักษ์อีกครั้ง

คร่ากุมร่างของเอี๋ยนเอ๋อร์ไว้ในฝ่ามืออย่างแน่นหนา

เด็กชายตัวน้อยสะบัดตัวดิ้นรนขัดขืนอย่างหนัก

แต่อาการบาดเจ็บของมันสาหัสเกินไป จิตวิญญาณอ่อนโทรมลงและแทบจะหมดสติ

จี้เทียนซิงที่หันหลังมาและได้เห็นศิษย์น้องถูกจับตัวและได้รับบาดเจ็บ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที ดวงตาปะทุไปด้วยเพลิงโทสะ

"ปล่อยเอี๋ยนเอ๋อร์เดี๋ยวนี้ !"

"เทียนเจี้ยนจง ไอ้เฒ่าระยำ

ข้าจะสับเจ้าเป็นพันๆชิ้น !!”

จี้เทียนซิงคำรามไปด้วยความโกรธา

คนคร่ากุมกระบี่มังกรดำไว้มั่นและพุ่งเข้าหาเทียนเจี้ยนจง

หมายจะช่วยศิษย์น้องออกมา

แต่ทันทีที่เขาหันหลังไป ท่อนแขนที่ปูดเป่งด้วยพลังปราณปะทุซ่านก็ถูกมือเรียวงามคว้าเอาไว้ก่อน

เขาหันควับกลับไปมองหยุนเหยาด้วยสีหน้างุนงง

และพบว่าสีหน้านางเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง นางส่ายศีรษะและพูดเสียงเย็นว่า “เทียนซิง เจ้าอย่าได้หุนหันไป

เยือกเย็นเข้าไว้ นี่มิใช่เวลาจะมาระเบิดโทสะในถิ่นศัตรู !"

"นี่คือแผนการของนิกายกระบี่ฟ้า  ในเมื่อเทียนเจี้ยนจงลงมือด้วยตนเองโดยไม่สนหน้าตาก็แสดงว่ามันต้องจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด  พวกเราต้องรีบไปเดี๋ยวนี้ ทันที  มิฉะนั้นพวกเราทั้งสามจะต้องตายที่นี่ !"

"เทียนเจี้ยนจงวางแผนนี้มาอย่างรอบคอบเพื่อฆ่าพวกเรา

ต่อให้ท่านอาจารย์ตามมาล้างแค้นให้พวกเราภายหลังก็ไม่เกิดประโยชน์ !"

วาจาเตือนสติของหยุนเหยามีหรือที่จี้เทียนซิงจะไม่เข้าใจ

?

แต่เมื่อได้เห็นศิษย์น้องตัวน้อยถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อให้เขาเป็นคนเยือกเย็นเพียงใดก็ใช่ว่าจะควันออกหูไม่เป็น  จะให้เขาทิ้งเอี๋ยนเอ๋อร์ไว้ในเงื้อมมือศัตรูได้อย่างไร

?

"ศิษย์พี่ ข้าเข้าใจทุกสิ่งที่ท่านพูดมา

แล้วศิษย์น้องเล่า ? พวกเราทิ้งเขาไปไม่ได้ !”

หยุนเหยาเม้มปากพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“เทียนซิง

เจ้าต้องฟังข้า พวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้ !”

"เอี๋ยนเอ๋อร์เป็นรัชทายาทแห่งเผ่าอัคคี

ต่อให้เป็นสิบเทียนเจี้ยนจงก็ไม่กล้าฆ่าเขาแน่นอน

เว้นเสียแต่ว่ามันคิดจะเป็นศัตรูกับเผ่าอัคคีทั้งหมด !”

เผ่าอัคคีที่อยู่ทางใต้แม้ว่าจะมีประชากรเพียงเล็กน้อย

แต่ทุกคนก็แข็งแกร่งและมากความสามารถ

หากเทียนเจี้ยนจงลงมือฆ่ารัชทายาทแห่งเผ่าอัคคีก็เท่ากับมันประกาศสงครามกับเผ่าอัคคีทั้งหมด

!

ไม่ว่านิกายกระบี่ฟ้าจะเรืองอำนาจแค่ไหนก็มิอาจต้านทานเพลิงพิโรธของเผ่าอัคคีได้  พวกมันจะถูกทำลายพินาศย่อยยับเป็นกองเถ้าถ่าน !

จี้เทียนซิงชั่งน้ำหนักในใจและยังคงอ้อยอิ่ง

ไม่ทิ้งความหวังในการช่วยเอี๋ยนเอ๋อร์

ในเวลานี้เองเอี๋ยนเอ๋อร์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ร้องตะโกนร้องใส่จี้เทียนซิงและหยุนเหยา

“ศิษย์พี่ใหญ่

ศิษย์พี่เทียนซิง พวกท่าน...หนีไป ไม่ต้องสนใจ... ข้า   รีบไปรายงานต่อท่านอาจารย์เร็วเข้า !"

ดูเหมือนว่าเอี๋ยนเอ๋อร์ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายไปแล้ว

หลังจากตะโกนประโยคนั้นจบ มันก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปและหลับตาหมดสติไปทันที

เทียนเจี้ยนจงเหวี่ยงร่างที่หมดสติของเอี๋ยนเอ๋อร์ไปให้เหล่าผู้เฒ่า  คนทะยานเป็นเส้นรุ้งพุ่งเข้าหาจี้เทียนซิงและหยุนเหยาด้วยสีหน้าท่าทางโกรธกริ้ว

"หนอนแมลงที่โง่เขลา

ยังคิดจะหนีจากเงื้อมมือข้าประมุขอีกงั้นหรือ ? เพ้อฝัน !”

สิ้นคำ มันก็ยกฝ่ามือขวาขึ้นอีกครั้งระเบิดออกเป็นคลื่นลำแสงพร่างพราว

ซัดเข้าหาจี้เทียนซิงและหยุนเหยาอย่างรุนแรง

ในช่วงเวลาคับขัน จี้เทียนซิงยกแขนซ้ายขึ้นโดยไม่รู้ตัวและโคจรพลังชั่วชีวิตไว้ในนั้น

ทันใดนั้น แขนซ้ายของเขาก็กลายเป็นสีแดงชาดเหมือนลาวา

เปลวเพลิงสีม่วงแดงหลั่งไหลบนฝ่ามือของเขาอย่างเดือดพล่านเกรี้ยวกราด

"หัตถ์ ปราณ ผลาญฟ้า !!"

จี้เทียนซิงกัดฟันคำรามลั่น

คนระเบิดพลังชั่วชีวิตและใช้ออกด้วยเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุด

"ฮู่ม !!"

เปลวเพลิงขนาดใหญ่พลันปรากฏ

อัคคีแผดเผาแรงกล้าลุกโชนขึ้นทำให้ทั่วทั้งห้องโถงเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสด

มันเผาผลาญเศษโต๊ะเก้าอี้ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นดินให้เป็นกลายเป็นเถ้าถ่าน

พลังอัคคีอันร้อนแรงนำมาซึ่งพลังผลาญฟ้า

หัตถ์เพลิงข้างนั้นทุบกระแทกเข้าใส่ฝ่ามือยักษ์ของเทียนเจี้ยนจง

สร้างความกดดันจนแทบหายใจไม่ออก

ฉากที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจและหายใจไม่ทั่วท้องได้ปรากฏขึ้น

ฝ่ามือยักษ์สรรพสีสันที่ถูกใช้ออกด้วยพลังปราณอันเข้มแข็งของเทียนเจี้ยนจงได้แตกสลายด้วยหัตถ์ปราณผลาญฟ้าของจี้เทียนซิงในทันที

!

แม้แต่ตัวของเทียนเจี้ยนจงเองก็ยังถูกกระแทกด้วยหัตถ์ข้างนั้นจนกระเด็นออกไป

!

"โครม !"

เทียนเจี้ยนจงลอยถลาไปไกลกว่าร้อยเมตรและชนเข้ากับกำแพงตำหนักอย่างแรง

กำแพงแข็งที่ทำจากหินขนาดใหญ่ถูกเป่ากระจุยด้วยเพลิงฝ่ามือขนาดใหญ่จนเกิดรูโหว่กว้างกว่าสิบเมตร

ผนังทั้งหมดปริแตกไปด้วยร้าวอันหนาแน่น จากนั้นก็ยุบตัวลงอย่างสมบูรณ์ท่ามกลางเสียงแตกดัง  ‘แกร่ก แกร่ก !’

หัตถ์ปราณผลาญฟ้าห่อหุ้มร่างของเทียนเจี้ยนจง

หลังจากระเบิดทะลุผ่านกำแพงห้องโถง

มันยังพุ่งออกไปไกลกว่าร้อยเมตรและระเบิดตำหนักอีกระลอกหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆสลายไป

ทั่วทั้งตำหนักสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงครู่หนึ่ง

ในที่สุดมันก็พังทลายลงกลายเป็นกองซากปรักหักพัง

ทุกคนตกตะลึง !

หากมิได้เห็นกับตาคงไม่มีผู้ใดเชื่อว่า จี้เทียนซิงที่มีพลังในขอบเขตปราณจิตจะสามารถสร้างการทำลายล้างได้ขนาดนี้

ประมุขนิกายกระบี่ฟ้าผู้มีพลังในขอบเขตปราณฟ้ากลับเสียท่าให้กับผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ในขอบเขตปราณจิต

?!

ไม่มีใครเชื่อได้ลงหากไม่เห็นกับตา !

นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ !

ไม่ นี่มิใช่ปาฏิหาริย์ธรรมดา !

แต่เป็นความมหัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

!

ทันทีที่ทุกคนได้สติกลับมา

หัวใจของพวกมันก็เต้นโครมครามและระเบิดเสียงดังกึกก้องในทันที

ในเวลานี้กำแพงด้านเหนือทั้งหมดของห้องโถงพังทลายลง

ทั่วทั้งห้องสั่นสะเทือนอย่างแรงและเริ่มแตกร้าว

หลังคาขนาดใหญ่แตกหักอย่างรวดเร็วและชิ้นส่วนโครงสร้างต่างๆของห้องเริ่มร่วงหล่นกระแทกลงพื้นชิ้นแล้วชิ้นเล่า

แขกเหรื่อหลายคนรีบหนีออกไปนอกห้องโถงทันที

ในเวลาเดียวกัน หยุนเหยาก็เหยียดมือออกไปคว้าจี้เทียนซิงทะยานออกจากประตูห้องโถง