แพร่สะพัดทั่วนิกายชั้นใน
ถึงแม้ไป๋หวู่เชินจะใช้เล่ห์เหลี่ยม
แต่จี้เทียนซิงก็คร้านจะใส่ใจและไม่คิดตอบโต้ด้วยวิธีการเดียวกัน
เขาต้องการตอบโต้อีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาและเอาชนะซึ่งหน้าบนเวทีใหญ่
!
ตอนนี้เขามีพลังเพียงขอบเขตปราณจิตขั้นที่สองเท่านั้น
แต่ไป๋หวู่เชินติดหนึ่งในสี่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในรายชื่อขั้นสวรรค์
อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือในขอบเขตปราณจิต
ในมุมมองของไป๋หวู่เชิน
แน่นอนว่าเขาย่อมมองการท้าทายครั้งนี้เป็นเรื่องไร้สาระอันน่าขัน
อย่างไรก็ตาม
จี้เทียนซิงมีความมั่นใจและสัมผัสได้ว่า
หากมีเวลาอีกหนึ่งเดือนเขาจะสามารถก้าวข้ามไป๋หวู่เชินและสร้างชื่อให้ตัวเองได้อีกครั้ง
!
หลังจากประกาศท้าทายอีกฝ่ายอย่างเป็นทางการ
จี้เทียนซิงก็ไม่คิดสนใจปฏิกิริยาของมันและหันหลังเดินออกจากตำหนักไม่จีรัง
มุ่งหน้าไปยังจัตุรัสชั้นใน
ไป๋หวู่เชินหรี่ตามองเงาหลังของอีกฝ่ายด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม
“หึๆๆ จี้เทียนซิงเอยจี้เทียนซิง
ข้ามองเจ้าเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ทำได้เพียงลอบวางแผนจัดการเจ้าอย่างช้าๆ
มิคาดว่าเจ้าจะโง่เง่าถึงเพียงนี้
กลับกล้ามาท้าทายข้าไป๋หวู่เชินและมอบโอกาสงามๆให้ข้า”
“ในการจัดอันดับรายชื่อขั้นสวรรค์ในเดือนหน้า
ข้าจะทำลายเจ้าให้แพ้พ่ายและกลายเป็นตัวตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรเทียนเฉิน !”
จี้เทียนซิงไม่สนใจเสียงร่ำร้องของไป๋หวู่เชินและยังคงมุ่งหน้าไปที่จัตุรัสชั้นใน
..........
จัตุรัสชั้นในตั้งอยู่ที่เชิงเขาของนิกายพันธมิตรสวรรค์
มันล้อมรอบไปด้วยตำหนักงดงามมากมาย
จัตุรัสแห่งนี้ไม่ใหญ่นัก
มันมีพื้นที่เพียงสามร้อยเมตรเท่านั้นและโดยปกติจะมีศิษย์ไม่กี่คนที่มาทำธุระที่นี่
แต่ที่นี่คือแหล่งรวมข้อมูลข่าวสารและประกาศภารกิจต่างๆของนิกาย
รวมถึงเป็นที่ตั้งของการชุมนุม
ทางทิศเหนือมีเวทีจัตุรัสที่ปูด้วยหินอ่อนและมีแท่นสูงตั้งอยู่
โดยปกติของฝ่ายใน หากมีการเฉลิมฉลองหรือการประชุมผู้อาวุโสจะยืนอยู่บนแท่นสูง
ริมขอบของแท่นมีแผ่นศิลาสูงสิบเมตรตั้งอยู่
มันมีข่ายอาคมลึกลับเคลือบทับเอาไว้จนทำให้แผ่นศิลานี้ดูเหมือนหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตหากมีภารกิจและข้อความที่จะต้องป่าวประกาศ
ผู้อาวุโสหรือผู้ดูแลจะส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังแผ่นศิลาและมันจะปรากฏเป็นตัวอักษรสีขาวกระพริบ
เมื่อมีการท้าทายระหว่างศิษย์สาวก
บุคลเหล่านั้นก็สามารถป้อนข้อมูลลงไปบนแผ่นศิลาเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะได้ทันที
ซึ่งเนื้อหาที่มีผู้ป้อนข้อมูลไว้จะขึ้นประกาศเป็นเวลาสามวัน
หลังจากครบสามวันข้อความบนแผ่นศิลาก็จะหายไปโดยอัตโนมัติ
แน่นอนว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาไม่มีการประกาศคือข้อความใดๆภายในนิกายฝ่ายใน
ถึงแม้จะมีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ้างของเหล่าศิษย์
แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะอดทนหรือยอมปล่อยผ่านกันไปจึงไม่เกิดปัญหาใดๆขึ้น
ทว่าวันนี้ต่างออกไป จี้เทียนซิงคือชายที่ถูกกำหนดมาให้ทำลายความเงียบสงบของนิกายชั้นในและนำมาซึ่งพายุลูกใหญ่
!
เขาขึ้นไปบนแท่นสูง
กางฝ่ามือขวาทาบกดลงไปบนเม็ดหินสีดำ จากนั้นก็อัดพลังลมปราณลงไปในแผ่นศิลาเพื่อเริ่มการทำงานของข่ายอาคม
เขาใช้สัมผัสญาณเพื่อป้อนข้อมูลลงไปในอาคมเพื่อขึ้นประกาศ
ในเวลาไม่นานตัวอักษรสีขาวใสหลายสิบตัวก็ปรากฏขึ้นบนแผ่นศิลาว่า
[ข้าคือจี้เทียนซิง
วันนี้ข้าได้ไปพบศิษย์หัวกะทิไป๋หวู่เชินเพื่อท้าสู้ในการจัดอันดับรายชื่อขั้นสวรรค์ที่จะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า]
[นอกจากนี้ ผู้แพ้จะต้องยอมเป็นศิษย์รับใช้ของผู้ชนะเป็นเวลาหนึ่งปี
!]
หลังจากใช้เวลาอยู่นาน
เมื่อเนื้อหาถูกถ่ายทอดและนำเสนออย่างสมบูรณ์ จี้เทียนซิงก็ถอนฝ่ามือออก
เขาเหลือบมองไปที่ข้อความปรากฏบนแผ่นศิลา
จากนั้นก็เบือนหน้าหันหลังเดินออกจากจัตุรัสชั้นใน
ระหว่างเดินกลับตำหนักเทียนซิง
เขาได้เดินสวนกับศิษย์ฝ่ายในที่เหลือบมองไปยังแผ่นศิลาโดยไม่ตั้งใจ
โดยปกติ
ทุกครั้งที่ศิษย์ฝ่ายในเดินผ่านระแวกนี้ก็มักจะเหลือบมองแผ่นศิลานั้นเพื่อดูว่ามีข้อความประกาศใดๆหรือไม่ ทันทีที่เขาได้เห็นแผ่นศิลาปรากฏข้อความขึ้น
เขาก็เบิกตากว้างอย่างไม่น่าเชื่อพลางอุทานว่า
“จี้เทียนซิง ? ศิษย์สายตรงคนใหม่ของท่านประมุขฉู่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาฝ่ายในได้ไม่นานมิใช่หรือ
?”
“นี่เขาต้องการท้าศิษย์พี่ไป๋หวู่เชินในการจัดอันดับรายชื่อขั้นสวรรค์ในเดือนหน้า
? สวรรค์ ! หมอนี่ช่างน่าเหลือเชื่อนัก!”
“ศิษย์สายตรงประมุขนิกายประกาศท้าทายศิษย์หัวกะทิกลางที่สาธารณะ
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ฝ่ายในข้าไม่เคยพบเจอมาก่อนเลย !”
ศิษย์ฝ่ายในที่เห็นข้อความเป็นคนแรกผู้นั้นตกตะลึงจนแทบหงายหลัง
เขารีบผละจากจัตุรัสอย่างรวดเร็วและรีบกลับไปที่ตำหนัก
เขาตะโกนอยู่หลายครั้งกลางสนาม
ซึ่งศิษย์หลายคนที่ได้ยินข่าวต่างก็ตกใจและรู้สึกเหลือเชื่อ
บางคนไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
ดังนั้นพวกเขาจึงรีบบึ่งไปที่จัตุรัสและต้องการดูประกาศด้วยตาตัวเอง และเมื่อศิษย์หลายคนได้เห็นข้อความบนแผ่นศิลา
พวกเขาก็ยิ่งตื่นเต้นและกลับไปยังตำหนักของตัวเองเพื่อกระจายข่าวไปอีกทอด
หลังจากประกาศผ่านไปได้แค่ไม่กี่ชั่วยาม
ข่าวศิษย์สายตรงประมุข, จี้เทียนซิงส่งสาสน์ท้าทายถึงศิษย์หัวกะทิไป๋หวู่เชินก็ได้แพร่สะบัดไปทั่วทั้งนิกายชั้นใน
!
ภายในเวลาไม่นานจัตุรัสชั้นในก็เต็มไปด้วยศิษย์ในชุดเสื้อคลุมสีขาวหลายสิบคนที่มาออกันด้วยความตื่นเต้น
แม้แต่ผู้ดูแลหลายคนก็ตื่นตระหนกและรีบทะยานไปที่จัตุรัสชั้นในเพื่อดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เมื่อพวกเขาได้เห็นตัวอักษรข้อความที่ปรากฏบนแผ่นศิลา
สีหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นซับซ้อนและรีบร้อนออกจากจัตุรัสเพื่อไปรายงานข่าวแก่เหล่าผู้อาวุโส
ในช่วงเวลานั้น
ทั่วทั้งนิกายฝ่ายในตกอยู่ในความอลหม่าน
ศิษย์นับร้อยต่างพูดคุยกันอย่างไม่หยุดหย่อนและดูอึกทึกวุ่นวาย แม้กระทั่งผู้อาวุโสฝ่ายในและผู้ดูแลก็ยังพูดถึงเรื่องนี้
........
ตกเย็น
ดวงอาทิตย์ส่องประกายไปที่จัตุรัสชั้นในบนเชิงเขา ผ่านตัวอักษรสีขาวหลายสิบตัวบนแผ่นศิลาจนย้อมมันกลายเป็นสีทอง
ท่ามกลางการถกเถียงกันยกใหญ่ในหมู่ศิษย์สาวกทั้งหลาย
ศิษย์สองคนในชุดคลุมสีขาวที่มีสีหน้าโอ่อ่าดูทะเยอทะยานได้เดินเข้ามาในจัตุรัส
เมื่อทั้งสองมาถึงและเงยหน้าขึ้นมองคำประกาศบนแผ่นศิลา
สีหน้าก็เผยรอยยิ้มขึ้น
ศิษย์รอบๆที่ได้เห็นชายสองคนนี้
พวกเขาเผยสีหน้าหวาดกลัวและตกตะลึงออกมาทันที
“ดูสิ
นั่นมันศิษย์พี่เฉินซู่กับศิษย์พี่ถังอี้ลั่วนี่นา ?!”
“เหอๆ ดูเหมือนว่าเฉินซู่กับถังอี้ลั่วก็สนใจเรื่องนี้ไม่น้อย”
“เฉินซู่ติดอันดับสองบนรายชื่อขั้นสวรรค์
ส่วนถังอี้ลั่วอยู่อันดับสาม พวกเขาทั้งสองมีพลังยุทธ์ใกล้เคียงกับไป๋หวู่เชิน”
“จี้เทียนซิงได้กลายเป็นศิษย์ฝ่ายใน
อีกทั้งยังได้เป็นศิษย์สายตรงของท่านประมุข
แน่นอนว่าย่อมทำให้ศิษย์พี่ไป๋หวู่เชินไม่พอใจ
ทั้งสองมีเรื่องบาดหมางกันจนต้องตัดสินกันด้วยการประลองยุทธ์”
“ถูกต้อง เรื่องนี้ไม่เพียงทำให้ศิษย์พี่ไป๋ไม่พอใจ
แต่มันยังทำให้ศิษย์พี่เฉินและศิษย์ถังขุ่นเคืองเช่นกัน
ข้าไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่เมื่อได้เห็นคำประกาศของจี้เทียนซิงในตอนนี้”
ศิษย์ฝ่ายในหลายคนซุบซิบกันพลางจ้องมองไปที่เฉินซู่กับถังอี้ลั่ว
พวกเขาเว้นระยะห่างและไม่เข้าไปไกลหรือทักทาย
จากนั้น ทั้งเฉินซู่และถังอี้ลั่วที่ได้อ่านคำประกาศบนแผ่ศิลา พวกเขาก็หันหลังเดินลึกเข้าไปในตำหนักด้วยสีหน้าเฉยชา
ระหว่างทาง
ถังอี้ลั่วแสยะยิ้มและพูดอย่างเย้ยหยันว่า “เฮอะๆ
เฉินซู่ ข้าไม่คิดฝันว่าเจ้าจี้เทียนซิง ศิษย์สายตรงคนใหม่ของท่านประมุขจะเป็นพวกปีนเกลียวและงี่เง่าขนาดนี้
มันเพิ่งเข้ามาอยู่ฝ่ายในได้ไม่ถึงสามวันก็ริอาจมาท้าทายไป๋หวู่เชิน!”
เฉินซู่พยักหน้าและพูดด้วยเสียงหัวเราะ
“จี้เทียนซิงเป็นศิษย์สายตรงท่านประมุข ไป๋หวู่เชินเป็นหนึ่งให้ห้าอาวุโส
งานนี้คงมีอะไรสนุกๆให้ดูชมเสียแล้ว หึๆๆ....”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved