มนุษย์อสูรหมาป่าอันหยิง
ในห้องลับอันมืดมิดมีเพียงแสงไฟจากตะเกียงหินสองดวงเท่านั้นที่ส่องแสงสลัวออกมา
หินชนวนบนพื้นดินของห้องลับเกิดรอยเป็นร่องหลายหลุมและมีรอยปริแตกขนาดใหญ่จำนวนมาก อีกทั้งยังมีรอยกรงเล็บปรากฏอยู่ทั่ว
จี้เทียนซิงสามารถเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าร่องรอยเหล่านี้ล้วนเกิดจากการน้ำมือของเผ่าอสูรหรือสัตว์อสูร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเผ่าอสูรหรือไม่ก็สัตว์อสูรที่กำลังจะต่อสู้กันได้ถูกกักไว้ในห้องนี้ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น
เขานั่งอยู่บนม้านั่งหินที่มุมห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผู้คุมบัดซบนั่นดันขังข้าไว้ในนี้ยังกับข้าเป็นสัตว์อสูร”
“…ดูเหมือนว่าที่นี่มักจะมีการต่อสู้ของเหล่าสัตว์อสูรเพื่อดึงดูดให้ผู้ชมมากมายมาเดิมพนันกัน”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาหรี่ตามองไปที่ประตูเหล็กสีดำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าห้องที่อยู่ด้านหลังประตูเหล็กสีดำอีกฝั่งหนึ่งสมควรเป็นห้องของมนุษย์หมาป่าที่เขาจะท้าทายในค่ำคืนนี้
จี้เทียนซิงเคยอ่านตำราโบราณเกี่ยวกับลักษณะของเผ่าอสูรมาก่อน
เผ่าอสูรไม่เหมือนสัตว์อสูรทั้งหมดแต่มันเป็นการผสมผสานระหว่างมนุษย์และอสูร
พวกเขาจะดูเหมือนมนุษย์แต่ก็มีลักษณะทั้งหมดของอสูรด้วย
มีการกล่าวกันว่าความแข็งแกร่งและการป้องกันทางกายภาพของเผ่าอสูรนั้นทรงพลังเทียบเท่ากับสัตว์อสูร
พวกเขาไม่เพียงแค่มีปฏิกิริยาตอบสนองอันรวดเร็วยิ่ง แต่ยังทนทรหดต่อการโจมตี
ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปหากไม่ใช้อาวุธวิเศษย่อมไม่มีทางทำร้ายเผ่าอสูรได้ในขอบเขตพลังเดียวกัน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้จี้เทียนซิงก็ยกคิ้วขึ้น
มุมปากผุดยิ้มบางขึ้นสายหนึ่ง
“มนุษย์หมาป่าอันหยิงมีพลังในขอบเขตปราณจิตขั้นที่ห้า
ไม่ว่าจะเป็นพลังและความรวดเร็วล้วนแต่แข็งแกร่งทรงพลังมาก
ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ทั่วไปหากใช้มือเปล่าสู้ย่อมไม่มีทางทำร้ายอีกฝ่ายได้แน่นอน”
“โชคดีที่ข้าแตกต่างจากผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไป
ข้าไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธภายนอกก็สามารถใช้กระบวนท่าที่ทรงพลังยิ่งกว่าออกมาได้ !”
...........
ห้องลับเงียบสงบและเวลาผ่านไปเล็กน้อย
ไม่นานหลังจากนั้นรอบตัวก็เกิดเสียงอึกทึกดังขึ้น
มันเป็นเสียงของผู้คนที่กำลังพูดคุยกัน
เมื่อเวลาผ่านไป
เสียงฝีเท้าจากรอบข้างก็เริ่มถี่ขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่ามีผู้คนจำนวนมากกำลังหลั่งไหลเข้ามาในเวที
จี้เทียนซิงลอบฟังการสนทนาอยู่พักใหญ่จนจับใจความถึงที่มาที่ไปได้
ปรากฎว่าหลังจากที่พ่อบ้านเทียนนำเขามานั่งรอในห้องลับเสร็จแล้วก็ส่งข้อความออกไปทั่วเมืองว่า
ค่ำคืนนี้มีมนุษย์ประกาศท้าทายมนุษย์หมาป่าอันหยิง
เมื่อชาวยุทธ์ทั้งหลายได้ยินข่าวนี้ก็รีบมุ่งหน้าไปยังตึกพนันเหยี่ยวเวหาอย่างรวดเร็วเพื่อรอชมการต่อสู้และพนันขันต่อ
เมื่อผู้ชมแห่กันไปที่ลานต่อสู้มากขึ้นเสียงภายในลานก็ยิ่งดังขึ้นและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
จี้เทียนซิงหลับตาและตั้งใจสดับรับฟังเสียงรอบตัวจนได้ยินเสียงที่อยู่ห่างจากเขาไปราวๆ20 เมตร มันเป็นกลุ่มชาวยุทธ์รุ่นเยาว์หลายคนที่มารวมตัวกันสนทนา
“เฮ้
มันแปลกๆนะการพนันจ้าวสัตว์เปิดขึ้นทุกๆสิบวันเท่านั้นนี่นา วันนี้เพิ่งจะวันที่หกเอง
ทำไมมันถึงเปิดอีกครั้งได้ ?”
“ที่ผ่านๆมามีแต่น่าเบื่อ
เป้าจ้งกับอันหยิงชนะตลอด ไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย”
"ก็ถูก แต่คืนนี้ไม่เหมือนกัน มันน่าตื่นเต้นกว่า
! ข่าวว่ามีเจ้าหนุ่มไม่รักชีวิตคนหนึ่งต้องการท้าทายมนุษย์หมาป่าอันหยิง
!”
“ฮ้า ? จริงรึ
? เท่าที่ข้าจำได้
ไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายอันหยิงมาร่วมครึ่งปีแล้วนี่นา ?”
"ใช่
ครั้งที่แล้วมีผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งมาท้าทายอันหยิง ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นลูกศิษย์ของนิกายเจิ้นหวู่ที่มีพลังในขอบเขตปราณจิตขั้นที่ห้า
ก่อนขึ้นลานประลองข้าจำได้ติดตาเลยว่ามันโคตรมั่นหน้าเลย !”
“นายน้อยหลิว แล้วผลวันนั้นเป็นอย่างไรหรือ ? เจ้าหนูคนนั้นท้าทายสำเร็จหรือไม่ ?”
“เพ้ย ! จะสำเร็จได้ไง
? ฝันเฝื่อง
ผลปรากฏว่าเจ้าหนูนั่นได้ไปเยี่ยมบรรพบุรุษเลย
ไม่เพียงแค่แพ้อย่างอนาถเท่านั้น แต่มนุษย์หมาป่าอันหยิงฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆตรงนั้นทันทีเลยด้วย
!”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ชาวยุทธ์ทั้งหลายก็แสดงท่าทางตกใจและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลังจากสูดหายใจลึกกันหลายเฮือกอย่างใจหายใจคว่ำ
กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ที่จี้เทียนซิงกำลังแอบฟังการสนทนาก็พูดคุยกันต่อไปว่า
“นายน้อยหลิว แล้วผู้ท้าชิงคนต่อไปนี่หากมันเป็นลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของนิกายใหญ่โตขึ้นมาเล่า
? .....หากมันถูกมนุษย์หมาป่าอันหยิงฉีกเป็นชิ้นๆในลานประลอง
นิกายใหญ่นั่นมิใช่เอาเรื่องกันตายเลยหรือ ?”
“ผายลม ! ผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริงของนิกายใหญ่ล้วนเข้าใจกฎของที่นี่ดี
ต่อให้คิดทวงถามหนี้แค้นให้ลูกศิษย์ก็ตาม
พวกเขาก็ไม่กล้าล่วงเกินตึกพนันเหยี่ยวเวหาอยู่ดี !”
“เจ้าหนูนั่นประกาศท้าทายโดยความสมัครใจเอง
พ่อบ้านเทียนย่อมแจ้งกฎก่อนการท้าทายอยู่แล้วว่ามันคือการสู้กันถึงชีวิต ในเมื่อคนผู้นั้นแสดงเจตจำนงออกมาเอง
เช่นนั้นนิกายใหญ่ต้นสังกัดของมันจะมาเอาเรื่องได้อย่างไร ?”
“เคะ เคะ เคะ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้, ผู้ท้าชิงคืนนี้ย่ำแย่แล้ว
ดูท่าคงศพไม่สวยเป็นแน่”
“ถูกต้อง มนุษย์หมาป่าอันหยิงมิได้คลายเสี้ยนมาร่วมครึ่งปีแล้ว
เขาจะต้องกระหายเลือดจนคลั่งแน่นอน”
“ข้าจะเตือนพวกเจ้าไว้ก่อนนะ
หลังจากนี้อีกไม่นานเจ้าจะได้เห็นผู้ท้าชิงถูกมนุษย์หมาป่าอันหยิงฉีกกระชากร่างเป็นชิ้นๆ อย่าหวาดกลัวจนอุจจาระราดเสียล่ะ คิดซะว่ามันเป็นหมั่นโถวก็แล้วกัน”
ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์หลายคนพยักหน้าอย่างรวดเร็วต่อคำพูดของนายน้อยหลิวผู้นั้น
................
จี้เทียนซิงที่อยู่ในห้องลับได้ยินคำพูดของพวกเขาทั้งหมดอย่างชัดเจน
ใบหน้าของเขาหม่นหมองลงทันที
ดวงตากระพริบด้วยแสงเย็นเยียบ
“เช่นนี้แสดงว่าอำนาจในการต่อสู้และความกระหายเลือดดุร้ายของมนุษย์หมาป่าอันหยิงย่อมเหนือความคาดหมายของข้าโดยสิ้นเชิง ข้าต้องระวังให้มาก !”
เขาตระหนักได้ในทันทีว่ากฏของการพนันจ้าวสัตว์นั้นโหดร้ายทารุณมาก
อย่างไรก็ตามเขามิได้สำนึกเสียใจที่มายังสถานที่แห่งนี้
เมื่อเขาตัดสินใจที่จะตามหาเบาะแสของเทือกเขาหมอกเร้นลับและลูกปัดแห่งดวงดาราแล้ว เขาก็พร้อมที่จะรับมือกับอันตรายทุกชนิด !
การพนันในคืนนี้เป็นเพียงการทดสอบครั้งแรกสำหรับเขาในการค้นหาเบาะแสของสิ่งที่ตามหาเท่านั้นเอง
ในที่สุดเวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม
มันเป็นยามราตรีแล้ว
แต่แสงไฟจากโคมไฟของตึกพนันเหยี่ยวเวหากลับสว่างไสวและมีชีวิตชีวามากที่สุด
บนอัฒจันทร์รอบเวทีเต็มไปด้วยผู้ชมที่พร้อมชมดูการต่อสู้อย่างแน่นขนัด
แม้กระทั่งในห้องที่หรูหราบนชั้นสองของห้องโถงก็ยังเต็มไปด้วยแขกเหรื่อหนาตา
ผู้คนหลายพันคนรอบๆลานประลองเต็มไปด้วยอารมณ์คึกครื้นตื่นเต้นและรอคอยการการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มต้น
ในเวลานี้ชายชราร่างใหญ่สวมเสื้อคลุมสีดำคนหนึ่งและชายสี่คนในชุดเกราะหนักก็เดินไปลานประลอง
ชายชราร่างใหญ่ผู้นี้เต็มไปด้วยเย่อหยิ่ง
เส้นผมเต็มไปด้วยสีขาวดอกเลา ทั่วร่างแผ่ซ่านกลิ่นอายอันแข็งแกร่งน่าเกรงขามออกมา
ดวงตาประดุจเหยี่ยวจับจ้องไปที่ผู้ชมทั้งหลาย
ด้านหลังของชายชรายืนตะหง่านไว้ด้วยชายสี่คนในชุดเกราะหนัก
พวกเขามีพลังในขอบเขตปราณจิตและยืนหลังเหยียดตรงประดุจหอก ทั่วร่างประดับประดาไว้ด้วยกลิ่นอายกระบี่อันแหลมคม
เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้คุ้มกันฝีมือดีกลุ่มหนึ่ง
เสียงอึกทึกของฝูงชนนับพันในอัฒจันทร์เงียบลงทันที
ดวงตาของพวกเขารวมศูนย์ไปที่ชายชราร่างกำยำผู้นั้นเป็นจุดเดียว
หลายๆคนรู้จักชายชราผู้นี้ดี
เขาคือหัวหน้าผู้ดูของตึกพนันเหยี่ยวเวหาแซ่เหลยและมีฐานะเป็นมือขวาของเทียนอิงฟางจู้ผู้ลึกลับ
เมื่อหัวหน้าเหลยเห็นว่าฝูงชนเงียบลงแล้ว
เขาก็ประกาศออกมาเสียงดังว่า
“ข้าคือเหลยเฉียนจวิน ขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้
!”
“ค่ำคืนนี้หมู่ตึกของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอการต่อสู้อันยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นมาให้พวกท่านได้ชม
!”
“ผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ระดับปราณจิตขั้นที่สามต้องการพบหน้าเทียนอิงฟางจู้ของพวกเรา
ดังนั้นเขาจึงประกาศท้าทายมนุษย์หมาป่าอันหยิงที่นี่ !”
เมื่อเสียงของเหลยเฉียนจวินแพร่กระจายไปทั่ว
ผู้ชมเกือบหนึ่งพันคนก็รู้สึกตื่นเต้นทันทีและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างเอิกเกริก
เหลยเฉียนจวินกล่าวต่อไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า
“ชายหนุ่มไร้ความกลัวผู้นี้เป็นใครมาจากไหน ? เขามีความสามารถพิเศษอะไร ?”
“ศักยภาพของมนุษย์หมาป่าอันหยิงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมานี้จะเป็นอย่างไร
? ขอให้ทุกท่านโปรดรอดู !”
“หลังจากสิ้นเสียงของข้า ทุกท่านสามารถเริ่มเดิมพันได้
แล้วหลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไป
ทางหมู่ตึกพนันเหยี่ยวเวหาเราจะปิดรับเดิมพันและการต่อสู้จะเริ่มขึ้นทันที
ทุกท่านโปรดเลือกแทงกันให้ดี !”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved