เช่นนั้น
เจ้าก็จงตายซะ
จี้เทียนซิงกำลังจะถูกกรงเล็บหมาป่า
หากกระทบร่างแน่นอนว่าไม่สาหัสก็ปางตาย
“พิษสงร้ายนัก !”
เขาแค่นเสียงในใจ
ดวงตากระพริบถี่ด้วยแสงอันเยือกเย็น
ในช่วงวิกฤตนี้
เขากระตุ้นคลื่นกระบี่ออกมาสองสายโดยไม่ลังเล
กระแทกเข้าใส่อุ้งเท้ากรงเล็บของอันหยิง
“ฟุ่บ ฟุ่บ !”
คลื่นกระบี่สีทองสองสายปรากฏขึ้นจากอากาศที่บางเบา
มันแทงทะลุอุ้งเท้าของอันหยิงโดยไม่ทันตั้งตัว
จี้เทียนซิงไร้รอยขีดข่วน
และปราณกระบี่สองสายที่พุ่งออกมานั้นทะลุผ่านตัดพื้นดินจนเป็นรอย
มนุษย์หมาป่าอันหยิงกระเด็นออกไปและสั่นไปทั่วร่าง
เท้าใหญ่ของมันรูดไถลไปกับพื้นลานประลองหลายก้าวก่อนที่จะยืนหยัดได้อย่างมั่นคง
มันมองลงไปที่ฝ่ามือและพบว่ามีรูเลือดปรากฏขึ้นบนฝ่ามือแต่ละข้าง
โลหิตสีแดงชาดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
อะ วู้วววววววว !
ด้วยผลลัพธ์ที่ไม่ได้ดั่งใจทำให้มันรู้สึกอึดอัดคับข้อง
มันเห่าหอนออกมาด้วยความโกรธแค้น
ผู้ชมรอบๆอัฒจันทร์ผุดลุกขึ้นยืนมองและได้เห็นอันหยิงบาดเจ็บจากการโจมตีของจี้เทียนซิง
พวกเขาแสดงสีหน้าตกใจออกมาพร้อมทั้งส่งเสียงอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ !
ไม่มีใครคิดว่าทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น
ทั้งสองฝ่ายลงมือเพียงสองกระบวนท่าเท่านั้น แต่อันหยิงกลับได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว !
ในการท้าดวลก่อนหน้านี้
มีหลายครั้งที่อันหยิงได้รับบาดเจ็บมากบ้างน้อยบ้างตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม
ทุกครั้งที่อันหยิงประลองและบาดเจ็บ ฝ่ายตรงข้ามก็อาการสาหัสปางตายหรือไม่ก็ตกตายไปเลยด้วยซ้ำ !
มาถึงครั้งนี้
ผู้ชมหลายคนตกตะลึงไม่น้อย
หลังจากดึงสติกลับมาได้
พวกเขาก็ตะโกนโห่ร้องส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นเพื่อส่งแรงใจให้มนุษย์หมาป่าอันหยิงฮึกเหิมและฉีกร่างจี้เทียนซิงเป็นชิ้นๆ
น่าเสียดาย
มนุษย์หมาป่าอันหยิงเข้าใจภาษาเผ่าพันธุ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์เสียที่ไหน ?
มันเพิกเฉยต่อปฏิกิริยาของผู้ชมทุกคน
ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยพลางจ้องมองจี้เทียนซิงพร้อมกับอ้าปากเห่าหอนคำรามออกมา
“ระยำบัดซบ ! เจ้ากล้าทำร้ายข้า
?”
"เจ้าต้องตาย ! ข้าจะบิดหัวกบาลเจ้าและฉีกเป็นชิ้นๆ
! จากนั้นข้าจะถลกหนังเจ้าและกระทืบให้บี้แบนเป็นกองเนื้อ”
“ด้วยวิธีการนี้เท่านั้นข้าถึงจะสามารถระบายความโกรธแค้นในใจออกมาได้
!”
มันก้นด่าสาปแช่งรัวเป็นชุดด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยโทสะ
ทว่าน่าเสียดายที่มันพูดออกมาเป็นภาษาของเผ่าอสูร
ไม่มีใครเข้าใจคำด่าของมันแม้แต่น้อย ...
อันหยิงโกรธจัดอย่างสมบูรณ์
ปรากฏปราณหมอกหนาทั่วร่างกายของมัน
เห็นได้ชัดว่ามันกำลังกระตุ้นพละกำลังทั้งหมดออกมา
“ฟุ่บ !”
มันทะยานออกไปเป็นเกิดเป็นภาพติดตาสีเทาที่ปรากฏข้างๆจี้เทียนซิง
จากนั้นอุ้งมือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บแหลมคมก็กวาดฟาดลงมาอีกครั้ง
“ย่างก้าวไร้เงา !”
จี้เทียนซิงใช้ท่าร่างออกมาทันที
ร่างกายกระพริบไหวหนีออกไปไกลห้าเมตรในเสี้ยวพริบตา
“คิดหนี ? ฝันไปเถอะ
!”
“ฟุ่บ ! ”
ความเร็วของอันหยิงมิได้ชะงักหรือลดลง
มันดีดร่างทะยานไล่ตามติดจี้เทียนซิงต่อไป
ความเร็วของมันในระลอกนี้เหนือล้ำกว่าย่างก้าวไร้เงาของจี้เทียนซิง
ดังนั้นมันเป็นการยากที่เขาจะมองเห็นการเคลื่อนที่ของมันได้ชัดเจน
ในช่วงนี้เอง
ชายหนุ่มหรี่ตาลงอย่างเคร่งขรึม ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เงาร่างของอันหยิงที่กระพริบมาทางซ้ายทีขวาที
จากนั้นเขาก็กระโดดถอยหลังหนีออกไปครั้ง
ทั้งสองไล่ล่ากันในลานประลองและเปิดฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดและน่าอัศจรรย์
ผู้ชมรอบอัฒจันทร์เห็นเพียงพวกเขาทั้งสองกลายเป็นกลุ่มเงาสองกลุ่มที่กระพริบโผล่ทางฝั่งซ้ายที
ขวาที
มีเพียงยอดฝีมือระดับปราณจิตขั้นที่ห้าขึ้นไปจึงจะสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวและลูกเล่นของพวกเขาทั้งสองได้
ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ที่ระดับพลังฝีมืออ่อนด้อยกว่านั้น
แม้จะพอมองตามทัน แต่ภาพที่เห็นก็ยังเบลอๆและไม่ชัดเจนนัก
จี้เทียนซิงหลบหลีกอย่างน่าหวาดเสียวมาได้ห้าครั้งติดต่อกัน ในที่สุดเมื่ออันหยิงใช้กระบวนท่าที่หกออกมา เขาก็ไม่สามารถหนีพ้นกรงเล็บอันแหลมคมของมันได้อีก
คว้ากกกกกกกกกก
!
เสียงฉีกขาดลากยาวดังขึ้นทั่วลานประลอง
เสื้อคลุมสีขาวส่วนหน้าอกของเขาถูกฉีกระชากขาดแหว่งในทันที
ปรากฏเป็นร่องโหว่และมีเศษเสื้อหลุดร่วงออกมา
ในช่องว่างของเสื้อคลุมสีขาว
เกราะอ่อนสีทองเข้มจินหยางถูกเปิดเผยออกมา และมีรอยเล็บลากเป็นทางยาวหลายเส้นบนพื้นผิว
จี้เทียนซิงไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
แต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ดวงตากลายเป็นเคร่งเครียดจริงจัง
“เร็ว เร็วมาก
!”
“ยิ่งสู้มันก็ยิ่งเร็วขึ้นจนข้ามิอาจหลบเลี่ยงได้ทัน
ท่าร่างของมนุษย์หมาป่าตัวนี้สามารถเปลี่ยนตนเองเป็นกลุ่มหมอกที่ยากจะเห็นได้ชัดตา ไม่แปลกใจว่าทำไมมันถึงได้ชื่อว่าอันหยิง !” (暗影 อัน,อานหยิง 暗 อานแปลว่าลึกลับ ยากจะมองเห็น มืดมน 影 หยิงแปลว่าเงา)
“ไม่ได้การ ข้าไม่อาจเอาแต่หลบหลีกได้อีกต่อไป หากเกราะอ่อนจินหยางหมดสภาพเมื่อไหร่ข้าคงถูกมันฉีกเป็นชิ้นๆ”
ในใจของเขากระพริบผ่านด้วยมวลความคิดเหล่านี้
จากนั้นร่างกายของเขาก็ปะทุเจตนาต่อสู้ขึ้นเช่นกัน
เขาตัดสินใจที่จะเข้าต่อกรด้วยพลังและเคล็ดวิชาเพื่อห่ำหั่นกับอันหยิงให้รู้ชัดกันไปข้าง
!
ในเวลาเดียวกัน
อันหยิงก็พุ่งเข้าหาอีกครั้ง ร่างของมันกลายเป็นเมฆหมอกและรวดเร็วเกือบจะเท่าสายฟ้าฟาด
ครั้งนี้มันไม่ได้ใช้เพียงกรงเล็บสองข้างเล็งเข้าที่ศีรษะและลำคอของจี้เทียนซิง
แต่มันกางฝ่ามือออกเหวี่ยงปราณคมมีดหมอกสิบสองเล่มออกมา
หมายจะสังหารอีกฝ่ายให้ดับดิ้น
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ..... !”
คมมีดสายหมอกสิบสองเล่มราวกับลูกธนู
ยิงเข้าหาศีรษะ ลำคอและหน้าอกของจี้เทียนซิงอย่างรวดเร็ว
เดิมทีชายหนุ่มคิดว่ามันจะใช้เพียงการโจมตีทางกายภาพเท่านั้น
เขาไม่คิดว่ามันจะใช้พลังปราณโจมตีออกมาได้เหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์ ลักษณะการโจมตีระลอกนี้ของมันคล้ายคลึงกับเคล็ดวิชาคลื่นพลังกระบี่ที่ใช้โจมตีในระยะไกลของเผ่ามนุษย์ไม่ผิดเพี้ยน
ภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้
เขาเกือบจะพลาดพลั้ง
แต่โชคดีที่เขาเยือกเย็นและรวดเร็วพอที่จะหลบหนีได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด
“ฉึก ฉึก ฉึก !”
คมมีดหมอกปราณจำนวนมากหล่นลงมาบนพื้นลานประลอง
มันแทงเข้าไปและตัดคว้านพื้นดินจนกลายเป็นร่องน้ำ
“สัตว์ร้ายเจ้าเล่ห์ที่น่ารังเกียจ ตายซะ !”
จี้เทียนซิงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดพลันกระตุ้นคลื่นกระบี่สีทองสามเล่มให้ปรากฏขึ้นและร่ายเคล็ดวิชากระบี่ดาราเหินเข้าโจมตีอันหยิง
“คมมีดขนนกพันเล่ม !”
คลื่นกระบี่สามเล่มแตกตัวออกเป็นเก้าในคราเดียว
พลันจู่โจมออกไปอย่างรวดเร็วราวกับคลื่นแสงประกายแสง
มันปรากฏทั่วจากทุกทิศทางและทุกแง่มุม
“ฉัว
ฉัวะ ฉัวะ !”
เก้ากระบี่แสงส่องประกายพร่างพราวก่อเกิดเป็นเงากระบี่นับไม่ถ้วนราวกับห่าฝนเกาทัณฑ์ที่ห่อหุ้มทั่วร่างอันหยิง
ทันใดนั้น
หน้าของมันก็ถอดสี ดวงตาสีเขียวเผยให้เห็นความสยดสยองผองเกล้า
เห็นได้ชัดว่ามันไม่เคยพบเจอกระบวนท่าเช่นนี้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก่อน
มันคาดไม่ถึงว่าจอมยุทธ์ในขอบเขตปราณจิตจะสามารถรังสรรค์การโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ออกมาได้อย่างทรงอำนาจขนาดนี้
ในช่วงวิกฤติ
มันหลบเลี่ยงอย่างไร้ความลังเลและโบกกรงเล็บคู่นั้นออกไปต้านทานคลื่นกระบี่มหาศาล
“ป้ง
ป้ง ป้ง ......... !”
เสียงกรงเล็บปะทะกระบี่ดังระงมไม่ขาดสายทั่วทั้งอัฒจันทร์และรอบเวที
หลังจากช่วงเวลาสั้นๆเพียงห้าอึดใจ
คลื่นกระบี่ทั้งเก้าก็สลายไปในที่สุด
จนกว่าจะถึงตอนนั้น
ผู้ชมบนอัฒจันทร์ก็เริ่มได้เห็นร่างของอันหยิงหลังจากโดนกระบวนท่านี้เข้าจู่โจม
มันยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงและไม่ล้มลง
ทว่าทั่วร่างของมันปกคลุมไปด้วยบาดแผลไขว้นับไม่ถ้วน
เลือดสีแดงเข้มฉีดพุ่งออกมาชโลมไปทั่วขนสีเทาของมันจนกลายเป็นสีแดง
สภาพของมันตอนนี้ช่างดูน่าสังเวชและกลายเป็นหมาป่าอาบเลือด
!
หากมองอย่างใกล้ชิดจะพบว่าร่างของมันประทับรอยแผลกระบี่อย่างน้อยก็ร่วมร้อยสาย
หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั่วไป
หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสสากรรจ์ขนาดนี้
แน่นอนว่าย่อมสูญสิ้นพลังและความแข็งแกร่งจนไม่อาจสู้ต่อไปได้แล้ว
แต่ทว่าอันหยิงคือเผ่าพันธุ์อสูร
มันดุร้าย ป่าเถื่อนและมีความทนทานยิ่งกว่า!
อะ
วู้ววววววววว !!
มันคำรามก้องและกัดฟันแน่นสะกดอาการบาดเจ็บ
พุ่งทะยานเข้าหาจี้เทียนซิงอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น
มองผ่านดวงตาคู่นั้น
จี้เทียนซิงสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายในดวงตาสีเขียวของมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือดและความบ้าคลั่ง
“เผ่าอสูรช่างมีพลังและความทรหดสูงล้ำยิ่งนัก
แม้จะสาหัสขนาดนี้แต่มันก็ยังสามารถสู้ต่อไปได้ !”
เขาส่งเสียงพึมพำพลางแสยะยิ้มลับๆ
“เช่นนั้น เจ้าก็ตายซะเถอะ !”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved