เมื่อเห็นว่าฝ่ายหลังไม่รู้จักหอคอยเจ็ดดาว
ผู้อาวุโสเหยาจึงเล่าให้ฟังอย่างละเอียด
หอคอยเจ็ดดาวเป็นดั่งขุมสมบัติลึกลับ
หลังจากแปดนิกายใหญ่ได้ค้นพบความลึกลับนี้
พวกเขาต่างก็ต้องการครอบครองมันเป็นสมบัติของตนเอง เพื่อใช้มันเป็นสถานที่ลับคมและปรับปรุงความแข็งแกร่งของเหล่าเด็กๆในนิกาย
หลังจากต่อสู้และเจรจากันหลายครั้ง
สุดท้ายทั้งแปดนิกายใหญ่ก็บรรลุข้อตกลงร่วมกัน
พวกเขาร่วมมือวางข่ายอาคมขนาดมหึมาขึ้นเพื่อปกป้องความลึกลับนี้และตั้งชื่อของมันว่าหอคอยเจ็ดดาว
หอคอยเจ็ดดาวมีทั้งหมดเจ็ดชั้น จากชั้นแรกถึงชั้นหกจะมีอันตรายและการทดสอบในแต่ละพื้นที่
มีเพียงผ่านการทดสอบเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ในระดับสูงขึ้นได้
บนชั้นที่เจ็ด เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เยี่ยมยอดสำหรับการบ่มเพาะและมีผลกระทบอย่างคาดไม่ถึง
นิกายใหญ่ทั้งแปดตั้งกฎขึ้นและทำให้หอคอยเจ็ดดาวเปิดใช้งานเพียงปีละครั้งเท่านั้น
แต่ละนิกายจะมีป้ายยืนยันที่เป็นเสมือนกุญแจในการเข้าสู่หอคอยเจ็ดดาว
ศิษย์ที่เข้าสู่หอคอยจำเป็นต้องผ่านอุปสรรคตามความสามารถของแต่ละคน
ยิ่งไต่ขึ้นไปได้สูงมากเท่าใดก็ยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
จี้เทียนซิงพยักหน้าเข้าใจพลางถามว่า “ผู้อาวุโสเหยา
ป้ายยืนยันเข้าสู่หอคอยเจ็ดดาวของนิกายเราอยู่กับใครหรือ ?”
อาวุโสเหยาตอบอย่างรวดเร็วว่า "โดยปกติแล้วจะอยู่ในมือของหยุนเหยา"
"หลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่หอคอยเจ็ดดาวเปิดขึ้น
นางจะเป็นผู้ถือป้ายยืนยันพาเหล่าศิษย์เข้าไปฝึกฝน ไม่เคยมีศิษย์คนใดที่สามารถขึ้นไปบนยอดหอคอยเจ็ดดาวได้ มีเพียงหยุนเหยาเท่านั้นที่ทำได้”
“เฉินซู่และถังอี้ลั่วก็เคยขึ้นไป
แต่ทั้งคู่ต้องถอดใจยอมแพ้ที่ชั้นห้าและไม่สามารถขึ้นไปถึงยอดหอคอยได้”
นับตั้งแต่นั้นมานิกายก็ยกป้ายยืนยันให้หยุนเหยาเก็บรักษาแต่เพียงผู้เดียว
เกี่ยวกับหอคอยเจ็ดดาว นางทราบดีกว่าผู้ใด
หากเจ้าต้องการข้อมูลมากกว่านี้ก็ไปถามนางได้"
จี้เทียนซิงพยักหน้าและกล่าวขอบคุณอาวุโสเหยา
จากนั้นอีกฝ่ายก็บอกว่า “ยังมีเวลาเหลืออีกแปดวันก่อนที่หอคอยเจ็ดดาวจะเปิด
อาการของจี้เค่อยังไม่คงที่ ช่วงหลายวันนี้ข้าจะช่วยดูแลนางให้
เมื่อเจ้าได้รับโลงหยกวิญญาณและป้ายยืนยันหอคอยเจ็ดดาวแล้ว
จงเตรียมตัวให้พร้อมทุกเวลา"
"เมื่อข้าควบคุมอาการของจี้เค่อได้แล้วจะส่งคนไปแจ้ง
ถึงตอนนั้นเจ้าค่อยนำร่างนางไว้ในโลงหยกวิญญาณ"
"ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านมาก” จี้เทียนซิงขอบคุณอีกฝ่ายและหันหลังเดินจากไป
หลังออกจากหอวิญญาณโอสถ เขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังวิหารไป๋หยุน(วิหารเมฆขาว)ที่อยู่บนยอดเขาชื่อเซียว
วิหารไป๋หยุนเป็นที่อยู่อาศัยของหยุนเหยา
เมื่อเขามาถึงวิหารไป๋หยุนก็พบหยุนเหยากำลังศึกษาตำราโบราณอยู่
ได้ยินเสียงฝีเท้า หยุนเหยาวางตำราโบราณในมือและหันศีรษะน้อยๆไปมองอีกฝ่ายถามว่า
“ศิษย์น้องเทียนซิง
เจ้ามีธุระกับข้า ?”
จี้เทียนซิงพยักหน้าและกล่าวว่า
“ศิษย์พี่ ข้ามีเรื่องต้องการถามท่านเกี่ยวกับหอคอยเจ็ดดาว"
"หอคอยเจ็ดดาว ?"
หยุนเหยาขมวดคิ้วเรียวงามครู่หนึ่ง
นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและถามว่า
"อีกไม่กี่วันหอคอยเจ็ดดาวจะเปิดขึ้น
ที่ถามเช่นนี้ ใช่คิดเข้าไปในนั้น ?"
"อืม" จี้เทียนซิงตอบไม่ลังเล เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้า “ข้าต้องการช่วยชีวิตสหายสนิท
จำเป็นต้องใช้พลังของหอคอยเจ็ดดาว"
คิ้วเรียวงามของหยุนเหยาขมวดเล็กน้อย
กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
"ถึงแม้หอคอยเจ็ดดาวจะเป็นสถานที่ลับ
เต็มไปด้วยโชควาสนาและโอกาสที่ดี แต่มันก็อันตรายมาก"
"ศิษย์น้อง
ด้วยระดับพลังยุทธ์ของเจ้าตอนนี้ข้าเกรงว่ายากที่จะผ่านไปได้"
จี้เทียนซิงเข้าใจดีว่าหยุนเหยามิได้พูดขู่ให้ตกใจหรือดูถูกความสามารถ นางตักเตือนเขาด้วยความจริงใจ
ชายหนุ่มกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ศิษย์พี่ เพื่อช่วยชีวิตคน
ข้าถอยไม่ได้อันตรายเพียงใดก็ต้องไป"
หยุนเหยาปรายตามองอีกฝ่ายด้วยแววตาลึกซึ้ง
หลังจากลังเลครู่หนึ่งนางก็หยิบป้ายสีเงินออกจากแหวนมิติและมอบให้เขา
"นี่คือป้ายยืนยันในการเข้าสู่หอคอยเจ็ดดาว
หนึ่งนิกายจะมีหนึ่งป้าย เมื่อประตูเข้าหอคอยเปิด
แต่ละนิกายจะเข้าไปได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้น การทดสอบในสามชั้นแรกนั้นค่อนข้างง่าย
ศิษย์ชั้นสูงส่วนใหญ่สามารถผ่านมันได้ไม่ยาก”
“แต่ทว่า การทดสอบชั้นสี่ถึงหกนั้นยากและอันตรายมาก
สามชั้นนี้แทบจะไม่มีผู้ใดผ่านไปได้
เดิมทีข้าก็ไม่คิดจะเข้าหอคอยเจ็ดดาวของปีนี้อยู่แล้ว
ข้าต้องการมอบโอกาสนี้ให้ศิษย์น้องคนอื่นๆ แต่ในเมื่อเจ้ามีความจำเป็น เช่นนั้นข้าก็ขอมอบโอกาสนี้ให้เจ้า"
หลังจากนั้นนางก็แนะนำจี้เทียนซิงถึงอันตรายในแต่ละพื้นที่และอธิบายถึงความลึกลับในชั้นที่เจ็ด
จี้เทียนซิงฟังอย่างตั้งใจและจดจำคำพูดของนางไว้ทุกคำ
หลังจากหยุนเหยาพูดจบ
เขาก็รับป้ายยืนยันหอคอยเจ็ดดาวมา จากนั้นก็กล่าวขอบคุณนาง
เรื่องการบุกเข้าไปจนถึงชั้นเจ็ดเพื่อรักษาจี้เค่อ
เขาจะต้องเป็นผู้ลงมือกระทำเอง เขาไม่กล้าร้องขอให้หยุนเหยาเป็นผู้ช่วยจี้เค่อ
เพราะพวกนางทั้งสองไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆต่อกัน
เพียงแค่หยุนเหยายินยอมมอบป้ายยืนยันให้มันก็นับว่าดีมากแล้ว
..........
หลังจากออกจากวิหารไป๋หยุน
จี้เทียนซิงมุ่งหน้ากลับไปยังตำหนักฉิงเทียนอีกครั้งเพื่อขอพบฉู่เทียนเซิง
ฉู่เทียนเซิงกำลังเก็บกวาดห้องลับ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมาเยี่ยมจึงบอกให้ผู้พิทักษ์ชุดดำพาเข้ามาในห้อง
"เทียนซิง เจ้ากำลังตามหาข้า ?"
ฉู่เทียนเซิงนั่งขัดสมาธิอยู่ในข่ายปราณและเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าราบเรียบ
จี้เทียนซิงเดินไปหยุดอยู่ข้างหน้าอีกฝ่าย “คารวะท่านอาจารย์ ศิษย์มีเรื่องคิดถามท่านสักเล็กน้อย”
"สหายสนิทของข้าเป็นศิษย์อยู่ในหอวิญญาณโอสถ
นางกำลังอยู่ในอันตรายด้วยปัญหาที่ยากจะแก้ ... "
“ผู้อาวุโสเหยาบอกศิษย์ว่าหากต้องการรักษานางจะต้องอาศัยโลงหยกวิญญาณ
และพานางขึ้นไปบนหอคอยเจ็ดดาวชั้นบนสุดเพื่อดูดซับไอพลังจากดวงดาว”
"ดังนั้นศิษย์จึงบังอาจขอยืมโลงหยกวิญญาณจากท่าน
หวังว่าท่านอาจารย์จะเติมเต็มความปรารถนาให้ศิษย์"
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้
สีหน้าของฉู่เทียนเซิงเต็มไปด้วยความสงสัยแล้วถามขึ้นว่า "เจ้าคิดจะไปหอคอยเจ็ดดาว
?"
"หอคอยเจ็ดดาวแต่ละชั้นเต็มไปด้วยอันตรายทุกย่างก้าว
หากพลาดพลั้งเพียงนิดเดียวเจ้าอาจจะจบชีวิตลงได้"
จี้เทียนซิงกำหมัดและกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ท่านอาจารย์ เพื่อช่วยชีวิตผู้คน
ยิ่งเป็นสหายสนิทของศิษย์ด้วยแล้ว ข้าจำเป็นต้องเสี่ยง"
ฉู่เทียนเซิงขมวดคิ้วและชั่งน้ำหนักเรื่องนี้ในใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากว่า
“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจไปแล้วอาจารย์ก็จะไม่ขัด
หอคอยเจ็ดดาวอันตรายมาก หากคิดจะไปที่นั่นเจ้าต้องฝึกฝนตัวเองและพัฒนาความแข็งแกร่ง
อาจารย์สามารถให้เจ้ายืมโลงหยกวิญญาณได้ แต่วัตถุชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของนิกาย
มันหาได้ยากและล้ำค่ามาก เจ้าจงรักษามันไว้ให้ดีอย่าได้สูญหาย"
จี้เทียนซิงพยักหน้าและสัญญาทันที
"ขอบคุณท่านอาจารย์สำหรับความเมตตา
ศิษย์จะรักษามันให้ดีและไม่ปล่อยให้มันต้องเสียหายเด็ดขาด"
ฉู่เทียนเซิงพยักหน้าพลางเหยียดฝ่ามือซ้ายออกไป
แสงสีเงินเปล่งประกายอยู่บนฝ่ามือของเขา
จากนั้นกล่องหยกสีขาวขนาดเท่าหัวแม่มือก็ปรากฏขึ้นทันที
กล่องหยกขาวเท่าหัวแม่มือนี้มีลักษณะยาวและถูกแกะสลักเป็นรูปโลงศพ
หากต้องการใช้งานโลงหยกวิญญาณ
คนผู้นั้นจำเป็นจะต้องใช้วิธีพิเศษเพื่อเปิดข่ายอาคมและทำให้มันกลายเป็นโลงที่แท้จริง
หลังจากจี้เทียนซิงรับของมา
ฉู่เทียนเซิงก็สอนวิธีใช้งานทั้งหมดให้
จี้เทียนซิงนั่งฟังและจดจำทุกถ้อยคำที่อีกฝ่ายกล่าว
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามเขาก็ประสบความสำเร็จในวิธีการเปิดและใช้งานโลงหยกวิญญาณ
ฉู่เทียนเซิงหยิบเครื่องรางอีกสองชิ้นและลูกบอลสีเงินขนาดเท่ากำปั้นขนาดใหญ่ออกมาและมอบมันให้เขา
พร้อมทั้งกล่าวว่า
"เทียนซิง ครั้งนี้เจ้าไปที่หอคอยเจ็ดดาวย่อมเต็มไปด้วยอันตรายมาก
บางครั้งอาจตกอยู่ในสถานะวิกฤติถึงชีวิต อาจารย์ขอมอบเครื่องรางให้เจ้าสองชิ้นและสมบัติไว้ป้องกันตัว
เจ้าสามารถใช้พวกมันหากตกอยู่ในยามคับขัน พวกมันจะช่วยเจ้าให้พ้นอันตราย"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved