เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
?
สายตาที่ทุกคนจ้องมองทำให้เฉินซู่รู้สึกอับอาย
มันกลัวหัตถ์เปลวอัคคีและพลังทำลายของกระบี่จี้เทียนซิงอย่างจับจิต
สิ่งที่มันกล่าวมายืดยาวทั้งหมด
เจตนาแท้จริงเพียงต้องการจำกัดไพ่ตายทุกชนิดของอีกฝ่าย
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ
แม้จี้เทียนซิงจะดูออก แต่เขากลับตกปากรับคำเฉินซู่ !
คนผู้นี้มีความมั่นใจมากเพียงใดกัน
?!
ทันใดนั้นเหล่าศิษย์สาวกนิกายหลายร้อยคนล้วนตกตะลึงและถกเถียงกันเป็นวงกว้าง
เหล่าผู้ดูแลและผู้อาวุโสต่างก็เผยรอยยิ้มและจับจ้องไปที่จี้เทียนซิงด้วยความสนอกสนใจ
ทุกคนรู้ว่าการแสดงที่ดีกำลังจะตามมา
!
จี้เทียนซิงมิใช่บุรุษประเภทที่ชอบโอ้อวดเกินจริง
ในเมื่อเขากล้ารับปากเฉินซู่ก็ย่อมมีความมั่นใจเพียงพอ !
หลายต่อหลายคนตื่นเต้นเดือดพล่านพลางส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจจี้เทียนซิงและเฉินซู่
เหล่าอาวุโสและผู้ดูแลทั้งหลายล้วนพยักหน้าและเต็มไปด้วยสีหน้าคาดหวัง
เฉินซู่รู้สึกผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้มากขึ้น
คนผุดยิ้มบางพลางกล่าวกับอีกฝ่ายว่า “ศิษย์น้องจี้ใจเด็ดจริงๆ
เจ้าเปี่ยมไปด้วยจิตกระหายในการต่อสู้จนศิษย์พี่อย่างข้าอดมิได้ที่จะชื่นชม !”
จี้เทียนซิงกำหมัดคาระวะแล้วทำท่าทาง
"เชิญ"
“ศิษย์น้องจี้ ลงมือเถอะ !”
ท่วงท่าและน้ำเสียงของเฉินซู่แสดงออกถึงความมั่นใจที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากล้น
มุมปากประดับไปด้วยรอยยิ้มยียวน
ในกรณีที่จี้เทียนซิงไม่ใช้หัตถ์เปลวอัคคีและกระบี่มังกรดำ
มันคิดว่าตนเองมีโอกาสชนะอย่างน้อยก็เก้าส่วน !
จี้เทียนซิงไม่ใส่ใจท่าทางมั่นอกมั่นใจของอีกฝ่าย
คนแค่นเสียงแผ่วเบาและทะยานดิ่งเข้าหาอย่างเร็ว
“ฟ้าว !”
ความเร็วของจี้เทียนซิงไต่ถึงระดับสูงสุดเหลือเพียงภาพติดตาเบื้องหลังที่พุ่งเข้าหาเฉินซู่ในพริบตา
หมัดของเขาที่เหวี่ยงออกไปเปล่งประกายรัศมีพลังปราณสีทองที่ควบแน่นเป็นปราณหมัดขนาดใหญ่
และซัดเข้าหาเฉินซู่อย่างเหี้ยมหาญ
“มาได้ดี !”
เฉินซู่เตรียมพร้อม
คนคำรามด้วยความมั่นใจและตั้งกระบวนท่าโต้กลับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
แสงสีฟ้าครามส่องประกายระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของมัน
ควบแน่นเป็นหัตถ์ปราณสีฟ้าและปิดกั้นปราณหมัดของจี้เทียนซิงในทันที
“เป้ง ปัง !”
หมัดและฝ่ามือของชายทั้งสองปะทะกันก่อเกิดเป็นเสียงอึกทึกอย่างรุนแรง
นำพาสายลมแรงพัดกระจายไปรอบๆจนชายเสื้อของทั้งสองพัดพริ้วไปตามแรงลม
การลงมือครั้งนี้เป็นเพียงการประเมิน
ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ
จี้เทียนซิงถอนหมัดออกมาทันทีพลันยกขาขวาขึ้นเตะเหวี่ยงออกไปด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด
มุ่งเป้ากระแทกเข้าหาช่วงเอวของเฉินซู่
เฉินซู่ไม่ธรรมดาสมราคาคุย
คนมีปฏิกิริยาตอบโต้รวดเร็วยิ่ง มันยกขาขึ้นมาปัดป้องและสะบัดกายหลบหนีจากการจู่โจมต่อเนื่องของจี้เทียนซิงราวกับภูติพราย
มันพุ่งไปด้านข้างจี้เทียนซิงและยกฝ่ามือขึ้นจ้วงแทงเป็นกรงเล็บเข้าหาลำคอและหน้าอก
จี้เทียนซิงถอยหลังหลบหลีกพลางโบกมือปัดป่ายอย่างรวดเร็วเพื่อตอบโต้
ชายทั้งสองต่อสู้พัวพันกันราวกับมิต้องพักหายใจ
ท่าร่างรวดเร็วดั่งสายลมกระพริบโผล่ซ้ายทีขวาทีอยู่รอบเวทีและตอบโต้สลับสับเปลี่ยนกันไปมา
ศิษย์หลายคนในจัตุรัสไม่มีความสามารถพอจะมองเห็นหมัดฝ่ามือและการเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งสองได้ชัดตา
สิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงเงาร่างอันพร่าเลือนสองกลุ่มที่เข้าปะทะหักหาญและทับซ้อนกัน
จากนั้นก็แยกจากกันอย่างรวดเร็ว
เสียงของหมัดฝ่ามือดัง
“ปัง ปัง ปัง !” ไม่ขาดสายและส่งเสียงกึกก้องอยู่ตลอดเวลา
ทั้งจี้เทียนซิงและเฉินซู่ล้วนแต่ใช้ความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่
มือของพวกเขาส่องสว่างไปด้วยพลังปราณที่อัดแน่น
ทุกครั้งที่คนทั้งสองปะทะกัน
แรงปะทะก่อเกิดเป็นเสียงสายลมหวีดร้องและกระจายไปทุกทิศทุกทาง
เมื่อทั้งสองเริ่มลงมือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนแรงปะทะทำให้เกิดลมแรงพัดพาก้อนหินดินทรายคลุ้งไปทั่วบริเวณจนสับสนวุ่นวาย
ในช่วงเวลาสั้นๆที่ใช้พลังเต็มพิกัด
ทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันไปกว่าร้อยกระบวนท่า
เพลงหมัดมวยของทั้งสองฝ่ายมีวิถีการจู่โจมที่แตกต่างกัน
ล้วนมีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป ทำให้แต่ละฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยตามๆกัน
อย่างไรก็ตาม
ทั้งคู่เป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ ไม่เพียงแค่มีกระบวนท่าจู่โจมอันล้ำลึก
แต่การป้องกันของพวกเขาล้วนแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
ด้วยการต่อสู้มือเปล่าเยี่ยงนี้ มันเป็นการยากที่จะหาผู้แพ้ผู้ชนะได้ในเวลาอันสั้น
ในที่สุดเฉินซู่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวิตกกังวล
เดิมทีมันคิดว่าหากไร้ซึ่งกระบี่และเพลงฝ่ามือ
มันจะสามารถเอาชนะจี้เทียนซิงได้ภายในหนึ่งร้อยกระบวนท่า
แต่สิ่งที่มันคาดไม่ถึงก็คือ
ต่อให้ไร้ซึ่งไพ่ตายทั้งสองชนิด จี้เทียนซิงก็ยังคงแข็งแกร่งผิดธรรมดา
ในขณะที่ในใจว้าวุ่นไปด้วยความวิตกกังวล
มันมิอาจเก็บงำความแข็งแกร่งไว้ได้อีกต่อไป มันจึงแสดงกระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดออกมา
“เพลงหมัดเก้าสังหาร !!”
เฉินซู่โห่ร้องเสียงต่ำ
กำปั้นกรีดกรายไปด้วยลำแสงสีฟ้าที่ฉีกผ่านอากาศก่อเกิดเป็นหมัดปราณสีฟ้าเก้าหมัดที่พุ่งเข้าหาจี้เทียนซิงอย่างเกรี้ยวกราด
หมัดปราณแต่ละหมัดมีขนาดใหญ่เท่าถังน้ำ
ทุกหมัดมีพลังเต็มสิบส่วนของระดับปราณจิตขั้นเก้าที่ดิ่งเข้าใส่จุดตายของจี้เทียนซิงในทิศทางที่ต่างกัน
เมื่อหมัดปราณปรากฏขึ้น
ทั่วทั้งเวทีก่อเกิดลมแรงเป็นพายุเฮอริเคนและสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ร่างของจี้เทียนซิงถูกบัดบังด้วยกำปั้นขนาดใหญ่ทั้งเก้าในพริบตา
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้
ชายหนุ่มยังไม่เปลี่ยนสีหน้า เขายังคงสงบเยือกเย็นด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
“คมมีดขนนกพันเล่ม ”
เขากระตุ้นปราณกระบี่สามเล่มออกมาอย่างไร้ซึ่งความลังเลและสำแดงเพลงกระบี่ดาราเหินออกมาตอบโต้ทันที
“ซัวะ
ซัวะ ซัวะ !”
ปราณกระบี่สามเล่มแยกออกเป็นเก้าในพริบตา
พวกมันโบยบินออกไปดุจลำแสงออโร่ร่าที่ทักทอเป็นข่ายกระบี่เพื่อต้านรับอีกฝ่าย
เป้ง เป้ง
เป้ง ...... !
หมัดปราณจากเพลงหมัดเก้าสังหารพุ่งเข้าถล่มกับปราณกระบี่ทั้งเก้าเล่ม
ส่งเสียงระเบิดออกมาหลายระลอกจนดังสนั่นกึกก้อง
หมัดเก้าสังหารของเฉินซู่ถูกต้านรับไว้ได้หมดสิ้น
แต่เก้าปราณกระบี่ของจี้เทียนซิงกลับยังไม่บุบสลาย
ภายใต้การควบคุมของชายหนุ่ม
กระบี่ทั้งเก้าตัดผ่านอากาศและพุ่งเข้าจู่โจมเฉินซู่อย่างต่อเนื่อง
ปราณกระบี่ทุกเล่มเปล่งประกายและรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ
มันระเบิดพลังทำลายอันดุร้ายของเพลงกระบี่ดาราเหินออกมา
“ฉัวะ
ฉัวะ ฉัวะ !!”
เพียงพริบตาเดียว
เก้าปราณกระบี่พวยพุ่งจู่โจมออกไปร่วมสองร้อยครั้งจากทุกทิศทางและทุกแง่มุม
เฉินซู่ถูกครอบงำโดยลำแสงกระบี่พร่างพราวเต็มท้องฟ้าในทันที
ใบหน้าของมันซีดขาวดุจกระดาษและอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องเสียงหลงออกมา
“จี้เทียนซิง ! ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย
! เจ้า........อ้ากกกกกกกกก
!”
คำพูดยังไม่ทันจบ
คนพลันแผดเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดออกมา
เห็นได้ชัดว่าเฉินซู่เข้าใจผิดคิดว่าจี้เทียนซิงเล่นสกปรกลอบใช้ปราณกระบี่จากกระบี่มังกรดำในการร่ายเคล็ดเพลงกระบี่อันดุร้ายเกรี้ยวกราดนี้ออกมา
ปราณกระบี่รัวถี่ยิบหนาแน่นเพียงนี้
อีกทั้งความเร็วยังสูงล้ำ เป็นไปไม่ได้ที่เฉินซู่จะปิดกั้นได้หมดสิ้น
ในระยะเวลาเพียงห้าอึดใจ
เก้ากระบี่ได้จู่โจมออกไปกว่าพันครั้ง
เมื่อสิ้นสุดกระบวนท่า
ลำแสงกระบี่ทั้งหมดก็จางหายไปหลงเหลือเพียงร่างของเฉินซู่ที่มอมแมม
โลหิตโทรมกายอย่างน่าเวทนา
เสื้อคลุมสีขาวที่ปกคลุมบนร่างของมันถูกตัดผ่าเป็นชิ้นๆเหมือนกองผ้าขี้ริ้ว
ทั่วร่างเต็มไปด้วยบาดแผลกระบี่และรอยบาก
โลหิตสีแดงฉาดไหลซึมออกมาจากปากแผลจนย้อมเสื้อผ้าอาภรณ์เป็นสีแดงก่ำ
มันจ้องเขม็งไปที่จี้เทียนซิงพลางคำรามด้วยโทสะ
ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “จี้เทียนซิง ! ระยำเอ้ย
เจ้ามันชั่วช้าบัดซบยิ่งนัก เจ้ากลับคำพูดอย่างน่าไม่อาย
ไหนตกลงกันว่าจะไม่ใช้กระบี่อย่างไงเล่า !?”
จี้เทียนซิงมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าราบเรียบและกล่าวอย่างไม่แยแสว่า
“เจ้าเอาตาไปไว้ที่ไหนถึงพูดว่าข้าลอบใช้กระบี่ ?”
“อย่ามาเล่นลิ้น ! ทุกคนต่างก็เห็นเต็มสองตา
เจ้ายังคิดจะเถียงหน้าด้านๆอีกหรือ ?!” เฉินซู่โกรธเกรี้ยวจะแผดเสียงอาละวาดออกมา
จี้เทียนซิงจ้องมองมันราวกับมองคนเมาอาละวาดพลางกล่าวว่า
“งั้นเจ้าก็ถามพวกเขาสิ มีใครเห็นบ้างว่าข้าใช้ ‘กระบี่’ ?”
เฉินซู่ชะงักงันและหันซ้ายแลขวาไปมองเหล่าศิษย์รอบๆเวทีเป็นเชิงไตร่ถามในทันที
อย่างไรก็ตาม
เขาเห็นเพียงว่าทุกคนล้วนแต่ส่ายหัวไปตามๆกัน
เหล่าศิษย์หลายคนยังเผยสีหน้าเวทนา
บ้างก็ส่ายหัวถอนหายใจ บ้างก็แสยะยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าแปลกๆ
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร
……. ?
เฉินซู่เป็นโง่งมไปในทันที
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved