ตอนที่ 284

กระบี่ยักษ์สีทอง

หมัดเพลิงคู่นั้นยังไม่ทันมาถึงตัวก็นำพามาซึ่งลมร้อนที่พัดผ่านใบหน้า

เสี่ยวเฮยหลงสั่นสะเทือนจากลมที่รุนแรงและทำให้ความเร็วในการบินลดลง

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้

จี้เทียนซิงกางฝ่ามือออกมาอีกครั้งและถ่ายเทพลังปราณอันรุนแรงให้กับเสี่ยวเฮยหลงอีกคำรบหนึ่ง

เสี่ยวเฮยหลงระเบิดพลังทั้งมวลในคราเดียวและบินหลบฉากอย่างสุดกำลัง

“ฟุ่บ !”

หมัดเพลิงคู่นั้นของยักษ์ลาวาเฉียดผ่านพวกเขาทั้งสองไปเพียงสองเมตรและร่วงหล่นลงไปในที่สุด

เสี่ยวเฮยหลงหนีพ้นจากการโจมตีของมันและบินหนีไปข้างหน้าอย่างสิ้นหนทาง

ยักษ์ลาวาไม่สามารถบินบนท้องฟ้าได้

ร่างของมันลอยเป็นเส้นโค้งกลางอากาศและล้มลงกระแทกไปในมหาสมุทรแมกมาด้วยเสียงดัง  ซู่ม !

ทันใดนั้นทะเลแมกมาก็เกิดเป็นคลื่นอันรุนแรง

ท้องฟ้าสว่างจ้าด้วยแสงสีแดงจากลาวาที่ปะทุขึ้นจากการกระโจนลงมาของยักษ์ลาวา

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ

ยักษ์ลาวาก็พุ่งออกมาจากทะเลแมกมาและวิ่งเหลือผิวลาวา

เท้าขนาดใหญ่ที่เหยียบย่ำลงไปในทะเลแมกมานั้นกลับมิได้ทำให้ร่างของมันจมลง

แต่มันยังรวดเร็วพอที่จะไล่ตามเสี่ยวเฮยหลงทันอีกด้วย !

“วูบ !”

ยักษ์ลาวาไล่กวดมาอย่างไม่ลดละด้วยความเร็วที่แทบจะเท่ากับเสี่ยวเฮยหลง

แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือมันวิ่งอยู่บนทะเลลาวา

ส่วนเสี่ยวเฮยหลงบินอยู่บนฟ้าสูงกว่าพันจั้งซึ่งนับว่าห่างไกลกันมากนัก

ยักษ์ลาวาพยายามกระโดดหลายครั้ง

และกระโดดได้สูงเพียงห้าถึงหกร้อยเมตรเท่านั้นซึ่งไม่เพียงพอที่จะคว้าตัวเสี่ยวเฮยหลงลงมาได้

อย่างไรก็ตาม

ในขณะที่มันกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงกว่า 500

เมตร

มันได้วาดฝ่ามือของมันและเหวี่ยงหินลาวาหลายก้อนให้พุ่งเข้าหาเสี่ยวเฮยหลงอีกด้วย

มันสะดุ้งตกใจและเตรียมจะม้วนตัวหลบ

“วิ้ด  !  วิ้ด  ! ”

หินลาวาขนาดใหญ่สองก้อนถูกเหวี่ยงขึ้นไปตามมาด้วยเสียงแหลมแหวกอากาศ

“บัดซบ !”

เสี่ยวเฮยหลงสบถด้วยความตกใจและรีบโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้าให้สูงยิ่งกว่าเดิม

ยักษ์ลาวาพยายามตามล่าอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง

มันคว้าหินลาวาเหวี่ยงขึ้นไปไม่หยุดหย่อน

เสี่ยวเฮยหลงหลบหนีอย่างทุลักทุเลเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากหินลาวาถูกเขวี้ยงขึ้นมาก้อนแล้วก้อนเล่า

กระบวนการนี้สูบกินพลังของมันเป็นอย่างมากและทำให้มันอ่อนล้าลงอย่างรวดเร็ว

สุดท้ายความเร็วของมันก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในเวลานี้เองยักษ์ลาวาได้คว้าหินลาวาขนาดใหญ่อีกสองก้อนขึ้นมา

มันใหญ่จนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เสี่ยวเฮยหลงในยามนี้จะบินหนีได้ทัน

"เป้ง !"

เสี่ยวเฮยหลงถูกกระแทกด้วยหินลาวาขนาดใหญ่

ซึ่งปกคลุมไปด้วยลาวาสีแดงเข้ม มันเสียหลักและค่อยๆร่วงลงสู่มหาสมุทรลาวาด้านล่าง

อุณหภูมิสูงสุดขั้วที่ถูกปล่อยออกมาจากหินลาวาสีแดงก้อนนั้นทำให้ไอน้ำแข็งและกายมังกรของมันถูกเผาเป็นควันดำโชยออกมา

ซึ่งแทบจะทำให้มันกลายเป็นมังกรสุก

ความเจ็บปวดที่สุดแสนนี้ทำให้เสี่ยวเฮยหลงส่งเสียงกรีดร้องออกมา

มันได้รับบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสอีกทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง ความโกรธเกรี้ยวพลันปะทุขึ้นและพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต

“ฟุ่บ !”

ในที่สุดมันก็สามารถปลีกตัวออกมาจากลาวาร้อนระอุที่ห่อหุ้มร่างกายของมันออกมาได้

และร่วงลงไปในทะเลแมกมา

ในขณะที่มันกำลังจะตกลงไป

มันระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายออกมาและกลับตัวบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม

มันบินไปได้ไม่ไกลพอและร่วงลงจากท้องฟ้าตกลงสู่ภูเขาไฟอันมืดมิด

เสี่ยวเฮยหลงไม่สามารถดิ้นรนได้อีกต่อไป

มันนอนอย่างไร้การเคลื่อนไหวกลางภูเขาไฟอยู่ในสภาพเป็นตายเท่ากัน

ในเวลาเดียวกัน

จี้เทียนซิงก็ร่วงลงมาจากกลางอากาศและกำลังจะตกลงไปในทะเลแมกมาด้านล่าง

เมื่อตอนที่เสี่ยวเฮยหลงถูกกระแทกด้วยหินลาวา

ชายหนุ่มก็กระโดดหนีจากกลางหลังของมันทันที

โชคดีที่เขาไม่ได้ถูกลาวาเผาแบบเดียวกับเสี่ยวเฮยหลง

ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บบ้างจากสะเก็ดไฟแต่ก็ยังไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

น่าเสียดายที่เขากระโจนไปได้ไกลเพียงไม่กี่ไมล์และในที่สุดก็กำลังจะตกลงไปในทะเลลาวา

แต่ในเวลานี้เอง

ฝ่ามือเพลิงขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าและจับเขาเอาไว้

มันเป็นฝ่ามือของยักษ์ลาวา

!

เขาตกลงไปที่มือใหญ่ของยักษ์ลาวา

ร่างจมอยู่ใต้เปลวเพลิงที่ลุกโหม

ยักษ์ลาวาเปิดปากของมันและยัดเขาเข้าไปในปากและกลืนเขาทั้งเป็น

!

จี้เทียนซิงไม่มีโอกาสต่อสู้และขัดขืน

เขาไหลจากลำคอและตกลงสู่ท้องของมันอย่างรวดเร็ว

…………..

"ซูม !"

เกิดเสียงดังขึ้น

จี้เทียนซิงตกไปในสระลาวาสีแดงและรู้สึกเวียนศีรษะแทบสิ้นสติ

ความร้อนแรงสุดจะเปรียบปานและลาวาที่กำลังแผดเผาร่างของเขานั้นทำให้เขาแทบหมดสติในทันที

ทว่า

อย่างไรก็ตามปราณแท้ในร่างกายของเขาพลันปะทุขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

ก่อตัวเป็นลูกบอลทรงกลมสีทองเข้มเหมือนเปลือกไข่ที่ห่อหุ้มเขาเอาไว้

มันคือชั้นพลังของปราณคุ้มกายที่ช่วยให้เขาไม่ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านจากลาวาอันร้อนระอุเหล่านี้

แต่ทว่าปราณคุ้มกายนั้นมิอาจคงทนอยู่ได้นานนัก

มันละลายอย่างรวดเร็วและชั้นพลังก็ค่อยๆบางลงเรื่อยๆ

ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย

จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจและความโกรธเกรี้ยว

"ระยำ !  นี่ข้าจะต้องจบชีวิตในท้องของยักษ์ลาวางั้นหรือ ?”

เขาคำรามในใจอย่างลับๆ

จิตวิญญาณที่ไม่จำยอมและความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดพลันปะทุขึ้นในดวงจิตของเขา

มันทำให้ทั่วร่างของเขาส่องสว่างด้วยแสงสีทอง

“ซัวะ !”

ตัวอ่อนกระบี่ทองคำในร่างกายได้บินออกมาเองโดยอัตโนมัติและล่องลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา

“วิ้ง.......วิ้ง  วิ้ง  !”

ตัวอ่อนกระบี่สั่นสะเทือนและส่งเสียงร่ำร้องออกมาอย่างรุนแรง

มันใหญ่ขึ้นถึงสองเมตรในชั่วพริบตาและเปลี่ยนไปเป็นกระบี่ยักษ์สีทอง

กระบี่ยักษ์ส่องแสงสีทองอร่ามและก่อตัวเป็นโล่พลังรูปไข่เพื่อปกป้องจี้เทียนซิงไว้อย่างแน่นหนา

ยิ่งไปกว่านั้น

กระบี่ยักษ์ได้ปลดปล่อยพลังไร้สภาพออกมาและกวาดต้อนไปทุกทิศทาง

“ซัวะ

ซัวะ  ซัวะ  ซัวะ   !!”

แมกมาสีแดงในทุกทิศทุกทางรวมทั้งเปลวไฟที่ลอยอยู่ในอากาศถูกพัดพาไปด้วยพลังแห่งการกลืนกินที่มองไม่เห็นและวิ่งเข้าไปควบรวมกันที่กระบี่ยักษ์สีทอง

จี้เทียนซิงแหงนหน้าขึ้นมองกระบี่ยักษ์สีทองเหนือศีรษะของเขา

และได้เห็นว่ามันกำลังก่อตัวเป็นวังวนที่เขมือบกลืนลาวารอบๆและเปลวเพลิงอย่างบ้าคลั่ง

!

ชายหนุ่มยืนอยู่ในม่านพลังทองคำและไม่ถูกกัดเซาะโดยลาวาหรือเปลวไฟอันร้อนแรงอีกต่อไป

แต่เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่กระบี่ยักษ์สีทองกลืนกินลาวาและเปลวไฟทั้งหมดเข้าไปนั้น

พลังของมันก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้เขายังมีความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนในร่างกายเหมือนสายน้ำอุ่นกำลังไหลเวียนอยู่ในเส้นชีพจรลมปราณของเขา

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

ดวงตาของเขาแสดงความประหลาดใจและตกใจออกมา

เขาคาดไม่ถึงว่าตัวอ่อนกระบี่ที่เขาบ่มเพาะไว้นั้นจะแฝงความสามารถยอดเยี่ยมเช่นนี้

มันไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตเขาให้พ้นจากความตายเท่านั้น แต่มันยังกลืนกินเปลวไฟและลาวาได้อีกด้วย

!

หลังจากสองอึดใจ

เขาสงบลงและกวาดสายตาอันแหลมคมเพื่อประเมินสถานการณ์รอบๆ

ที่นี่คือท้องของยักษ์ลาวา

มันมีเปลวไฟและลาวาอันร้อนระอุไปทั่วทุกทิศทาง และมีบางส่วนที่เผยให้เห็นแนวปะการังสีดำ

ในขณะที่กระบี่ยักษ์สีทองกลืนกินลาวาและเปลวไฟอย่างต่อเนื่อง

พวกมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆลาวารอบๆลดลงโดยส่วนใหญ่และเผยให้เห็นชิ้นส่วนของแนวปะการังสีดำขนาดใหญ่

กระบี่ยักษ์สีทองได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย

ขนาดและความยาวของมันมิได้เปลี่ยนแปลง แต่ทว่าภายในลำแสงสีทองของมันได้เผยให้เห็นสัมผัสลางๆของพลังปราณสีแดงเข้มสายหนึ่ง

จี้เทียนซิงมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวอ่อนกระบี่

ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่ยินดีออกมา

เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากตัวอ่อนกระบี่กลืนกินลาวาและเปลวไฟเข้าไป

มันทำให้เขารู้สึกสนิทชิดเชื้อกับเปลวเพลิงมากขึ้น