อันที่จริงแล้วด้วยระดับความแข็งแกร่ง
พลังและวิธีการของจี้เทียนซิงนั้นยังมิอาจทำลายข่ายปราณอนุพันธ์ห้าธาตุได้อย่างสมบูรณ์
เขาสามารถปิดการทำงานของมันได้เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น
คร่าวๆแล้วก็ประมาณเจ็ดวัน
หลังจากเจ็ดวันผ่านไปอนุพันธ์ห้าธาตุจะกลับมาทำงานตามปกติ
แต่เพียงสามารถทำได้ขนาดนี้ก็สร้างความตื่นตะลึงให้แก่หยุนเหยา
ชูไฮว่ซานและเหล่าผู้ดูแลอย่างคาดไม่ถึงแล้ว !
ผู้คนรอบๆยังคงรู้สึกทึ่งกับภาพที่เห็น จี้เทียนซิงหยุดมือและนั่งลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว
ถือหินวิญญาณไว้ในมือและเริ่มฟื้นฟูพลังลมปราณ
ในช่วงเวลาตลอดห้าชั่วยามที่ผ่านมานี้
เขาใช้พลังไปมากมายในกระบวนการทะลวงข่ายปราณ ไม่เพียงแค่ปราณแท้มหาศาลที่เสียไป
แต่จิตวิญญาณก็ยังอ่อนล้าตามไปด้วย
เมื่อเห็นเช่นนี้หยุนเหยาจึงเดินชดช้อยไปเบื้องหน้ามันและนั่งลงเหยียดฝ่ามือผสานกับฝ่ามือของอีกฝ่ายเพื่อส่งผ่านพลังไปให้
เดิมทีจี้เทียนซิงจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูพลังกว่าสี่ชั่วยามและเสียหินวิญญาณหนึ่งก้อน
แต่ด้วยความช่วยเหลือของหยุนเหยา
พลังของมันก็ฟื้นฟูกลับมาสมบูรณ์ได้หลังจากสองชั่วยามผ่านไป
หลังจากเสร็จเรียบร้อย
จี้เทียนซิงก็พยักหน้าให้นางเพื่อแสดงความขอบคุณ
จากนั้นเขาก็กลับไปลงมือต่ออีกครั้ง ทะลวงข่ายปราณชนิดที่สอง, ข่ายปราณเจ็ดดารา
เมื่อเห็นขั้นตอนนี้
ชูไฮว่ซานขมวดคิ้วขึ้นโดยพลันและถามในทันทีว่า “เทียนซิง
เหตุใดเจ้าถึงได้เริ่มลงมือกับข่ายปราณเจ็ดดาราก่อนเล่า ? มิใช่ว่าควรเป็นเสถียรหกวิถีหรอกหรือ ??”
ไม่เพียงแค่ชูไฮว่ซานเท่านั้นที่สงสัย
แต่ทุกคนรอบๆก็รู้สึกแบบเดียวกัน
จี้เทียนซิงอธิบายให้ฟังอย่างรวดเร็วว่า
“อาวุโสชู
มหาข่ายปราณระดับสวรรค์นี้ซ้อนทับกันด้วยข่ายปราณถึงห้าชนิด
กระบวนการในการทำลายมันจะต้องทำทีละขั้นและค่อนข้างนอกกรอบ"
"หากเริ่มจากง่ายไปยากซึ่งเป็นสามัญสำนึกทั่วไป
ข้าเกรงว่าข่ายปราณเสถียรหกวิถีจะเกิดปฏิกิริยาขึ้นและระเบิดอย่างรุนแรงแน่นอน
สุสานและภูเขาทั้งหมดจะพังทลาย”
ชูไฮว่ซานตระหนักขึ้นมาอย่างฉับพลันและพยักหน้าเข้าใจ
“เป็นเช่นนี้นี่เอง
!”
จี้เทียนซิงกล่าวต่อไปว่า
"ก่อนหน้านี้ข้าได้มีวาสนาได้ฝึกฝนวิถีแห่งข่ายอาคมกับผู้อาวุโสท่านหนึ่งอยู่สองสัปดาห์
มันทำให้ข้าเข้าใจถึงการจัดวางและรูปแบบของมหาข่ายปราณระดับสวรรค์นี้
ข้าจึงค่อยๆปลดมันตามลำดับไปทีละส่วน"
ตอนอยู่ในวิหารโบราณแห่งดวงดาว
เต่ามังกรได้สั่งสอนความรู้ให้จี้เทียนซิงมากมาย
เขาจึงทราบหัวใจสำคัญในการทำลายมหาข่ายปราณระดับสวรรค์นี้
อีกทั้งเต่ามังกรยังย้ำนักย้ำหนาว่าจงปลดล็อคมันตามลำดับเท่านั้น
หากวางลำดับการปลดทะลวงผิดพลาด
ผลที่ตามมาจะร้ายแรงยิ่ง ข่ายปราณจะเกิดปฏิกิริยาและระเบิดในทันที
จี้เทียนซิงจดจำคำพูดเหล่านี้ไว้ในใจและก่อนจะลงมือเขาก็ได้คิดคำนวณถึงความเป็นไปได้มากมายหลายร้อยครั้ง
ซึ่งผลที่ออกมาจะต้องแม่นยำที่สุด
หยุดไปครู่หนึ่ง
ชายหนุ่มก็จีบนิ้วชี้กับนิ้วกลางเข้าหากันก่อรูปแบบเป็นดัชนีกระบี่
จากนั้นใช้ดัชนีกระบี่วาดเป็นเส้นสายโค้งเว้าอย่างต่อเนื่องด้วยท่วงท่าลึกลับพิสดาร
ปราณแท้เปล่งแสงสว่างไหลเวียนไปตามเส้นโค้งเหล่านี้
หลังจากนั้นไม่นานเส้นสายปราณแท้เปล่งปลั่งจากดัชนีกระบี่ก็จมเข้าไปในข่ายปราณและสร้างปฏิกิริยาอันยิ่งใหญ่ขึ้นทันที
มันเกิดการเปลี่ยนแปลงราวกับแผ่นดินไหว
ม่านปราการหลากสีที่มีรัศมี
1,000 เมตรส่องสว่างขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที ก่อตัวเป็นเมฆหลากสีด้วยรัศมีหลายสิบไมล์
มหาข่ายปราณระดับสวรรค์ทั้งหมดยังมีการเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง มีจุดสีเงินหนาแน่นเกาะอยู่บนม่านปราการหลากสีกว่า
90,000 จุด ประดุจดั่งทะเลดวงดาวที่กว้างใหญ่ไพศาล
จุดสีเงินเหล่านั้นเปล่งแสงเจิดจ้าดั่งดวงดารา
สะท้อนหมูเมฆหลากสีสันเหนือมหาข่ายปราณ
ทันใดนั้นเองแผนที่หมู่ดาวอันงดงามตระการตาและน่าหลงใหลพลันปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
ทุกคนมองไปที่หมู่เมฆและดวงดาวบนท้องฟ้า
ได้เห็นจุดแสงสีเงินของดวงดาวทั้ง 90,000 ดวงที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ภาพอันวิจิตรที่ได้เห็นนี้ทำให้ทุกคนอึ้ง
โดยเฉพาะเหล่าผู้ดูแลที่หมกมุ่นอยู่กับการศึกษาข่ายปราณอาคมมากว่าครึ่งชีวิต พวกมันประจับใจต่อความลึกลับอันน่าหลงใหลของข่ายปราณระดับสวรรค์ที่เปล่งแสงเจิดจ้าอยู่เบื้องหน้า
ในขณะนี้เอง
พวกมันได้เห็นความลึกลับของข่ายปราณเจ็ดดาราซึ่งเป็นข่ายปราณระดับสวรรค์ ภาพของดาวเคลื่อนดาราคล้อยเหล่านี้ทำให้พวกมันตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น
"ละ.. เหลือเชื่อ ! เป็นบุญตาของข้ายิ่งนักที่มีโอกาสได้เห็นการก่อตัวของข่ายปราณอันงดงามเช่นนี้
ตาแก่อย่างข้าตายไปก็ไม่เสียดายแล้ว !”
"นี่เป็นปาฏิหาริย์อย่างแน่นอน
! การก่อตัวอันน่าอัศจรรย์นี้ไม่ได้เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ! "
"จี้เทียนซิงมีความสามารถในระดับปราณจิตเท่านั้น
แต่ความสำเร็จของมันกลับลึกล้ำเกินกว่าพวกเราทุกคน ช่างน่าอับอายเสียจริง......."
"ไอ๊ ! เมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มอายุเพียง 17
ปีที่ทำได้ขนาดนี้ การที่พวกเรามีชีวิตมาร่วมร้อยกว่าปีนั้นช่างสูญเปล่าเสียจริง !"
"สวรรค์อวยพรให้นิกายเรามีศิษย์ที่ประเสริฐและมากความสามารถอีกคน
!"
ทุกคนรอบๆเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี ปากพูดพร่ำเพ้อในขณะที่ดวงตาจับจ้องไปบนท้องฟ้าหมู่ดาวอย่างไม่ละสายตา
ก่อนหน้านี้ที่ทุกคนได้ยินว่าจี้เทียนซิงคิดจะทำลายมหาข่ายปราณ
พวกมันเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเพราะกลัวว่ามันจะทำพลาดจนเกิดความเสียหาย
ท้ายที่สุดแล้วชูไฮว่ซานก็เคยย้ำนักย้ำหนากับพวกมันทุกคนว่าข่ายปราณระดับสวรรค์ชุดนี้มีความลึกลับเป็นอย่างยิ่ง
การทำลายข่ายปราณขนาดใหญ่นั้นหากเกิดการเบี่ยงเบนผิดพลาดใดๆ
มันจะทำให้เกิดผลตามมาที่ไม่อาจแก้ไขได้
ข่ายปราณทั้งหมดและสุสานจะระเบิด
ทว่า เมื่อทุกคนที่ได้เห็นกระบวนการและวิธีการทำลายข่ายปราณของจี้เทียนซิง, ได้เห็นแผนที่ดวงดาวบนท้องฟ้าที่วิจิตรงดงาม
ความวิตกกังวลทั้งหมดก็หายไปโดยพลันและถูกแทนที่ด้วยความตื่นตะลึงตกใจ
แม้แต่หยุนเหยาที่มักจะวางสีหน้าเย็นชาก็ยังต้องเผยอกลีบปากน้อยๆขึ้นด้วยความตกใจ นางตกตะลึงกับความลึกลับของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสีเงินตรงหน้านี้
นางยืนอยู่ข้างๆจี้เทียนซิง ผินวงหน้างามจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสนอกสนใจและได้เห็นสีหน้าจริงจังที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
กลิ่นอายบุรุษเพศที่หนักแน่นมั่นคงราวกับขุนเขา ทั้งหมดทั้งมวลทำให้นางรู้สึกถึงคุณค่าและเสน่ห์ของมันมากขึ้นเรื่อยๆ
"หากเปรียบเทียบกับชายหนุ่มหล่อเหลาที่มีความกล้าหาญดุดัน เทียนซิงนั้นสงบเยือกเย็น, สุขุม, มีความมั่นใจและเก็บอาการได้ดียิ่งกว่า"
"หากได้เห็นท่วงท่าของมันในยามนี้
ไม่ทราบว่าจะมีอิสตรีมากน้อยเพียงใดที่จะตกหลุมรักและหลงใหลมัน.... "
ความคิดเหล่านี้เปล่งประกายในใจของหยุนเหยา
จากนั้นมุมปากของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้มที่งดงาม
ผ่านไปสี่ชั่วยามโดยไม่รู้ตัว
เมฆหลากสีสันที่ปกคลุมท้องฟ้าและแผนภูมิท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วย
90,000 ดวงดาวก็สลายไปในที่สุด
จี้เทียนซิงวาดเส้นสายปราณแท้อันเจิดจ้าอย่างต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อทำลายข่ายปราณ
ในที่สุดก็สามารถปิดการทำงานของมันได้ชั่วคราว
ข่ายปราณเจ็ดดารานั้นลึกซึ้งและทรงพลังยิ่งกว่าอนุพันธ์ห้าธาตุ
ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถก็ยังทำได้เพียงปิดการทำงานของมันได้แค่หกวันเท่านั้น
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ
จี้เทียนซิงก็หดมือกลับและหยุดโคจรพลัง ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดเซียว
เหงื่อเย็นเริ่มซึมออกมาจากหน้าผาก
ลมปราณแท้จริงของเขาหมดลงอีกครั้งและจิตวิญญาณรู้สึกอ่อนล้า
เขาหยิบหินวิญญาณออกมาและดูดซับพลังของมันเพื่อฟื้นฟู
หยุนเหยาก็เดินไปนั่งตรงข้ามเขาอีกครั้ง
ทาบฝ่ามือประสานเพื่อถ่ายเทลมปราณช่วยฟื้นฟูพลังอีกทางหนึ่ง
สามชั่วยามต่อมาพลังของเขาก็ฟื้นกลับมาได้แปดส่วน
เขาอดทนต่อความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
เริ่มกระบวนการทำลายมหาข่ายปราณระดับสวรรค์ต่อไป
"ยังคงเหลือข่ายปราณซ้อนอีกสามชนิดที่ต้องทำลาย
แต่ข้ามีเวลาแค่หกวันเท่านั้น”
"ครั้งนี้ข้าจะต้องหยุดการทำงานของข่ายปราณเสถียรหกวิถีเป็นลำดับต่อไป
!”
จี้เทียนซิงทราบดีว่ายิ่งเป็นข่ายปราณชุดหลังๆความยากก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าทวี
แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัด เขาจะหยุดพักไม่ได้
เขาจ้องเขม็งไปที่ข่ายปราณเบื้องหน้า โบกฝ่ามือโคจรพลังลมปราณออกมาอีกครั้งเป็นแสงปราณเจิดจ้า
ฉีดอัดเข้าไปที่ม่านพลังหลากสีสันและเริ่มกระบวนการยับยั้งการทำงานของข่ายปราณเสถียรหกวิถี
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved