หัตถ์เปลวอัคคีสีชาด !
ความรู้สึกนี้.... เฉกเช่นเดียวกับแหล่งกำเนิดพลังปราณทองคำของเขา
ชายหนุ่มเข้าใจในทันทีว่าหลังจากที่ตัวอ่อนกระบี่กลืนลาวากับเปลวไฟเข้าไป
มันก็ค่อยๆหลอมรวมพลังของเปลวไฟ
ความรู้สึกอันร้อนแรงที่ปะทุอยู่ในร่างกายของเขาก็คือพลังแห่งเปลวไฟ
เขาจึงรีบเริ่มกระบวนบรรเทาจุดฝังเข็มอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
จุดฝังเข็มสองจุดของเส้นชีพจรกระบี่เส้นที่สี่ของเขาได้ถูกบรรเทาเสร็จสิ้นโดยพลังเปลวไฟ
ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆและขยับไปสู่ขอบเขตปราณจิตขั้นที่ห้า
!
ถึงแม้ว่าจี้เทียนซิงจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมตัวอ่อนกระบี่ถึงมีเอฟเฟกต์และการเปลี่ยนแปลงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาความแข็งแกร่ง
เขารีบนั่งลงภายในม่านพลังสีทองและจดจ่ออยู่กับการบ่มเพาะพลังเปลวไฟในร่าง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม
การบรรเทาจุดฝังเข็มจุดที่สามก็เสร็จสมบูรณ์
.......
อีกครึ่งชั่วยามจุดฝังเข็มจุดที่สี่ก็เสร็จสมบูรณ์
......
อีกครึ่งชั่วยามจุดฝังเข็มที่ห้าก็เสร็จกระบวนการบรรเทา
...
เมื่อเวลาทั้งหมดผ่านไปความแข็งแกร่งของจี้เทียนซิงก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ลาวาและเปลวไฟภายในท้องของยักษ์ลาวาถูกกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว
บัดนี้ในทุกทิศทางเขาไม่สามารถมองเห็นร่องรอยของเปลวไฟได้อีกต่อไป
ไม่แม้แต่จะพบเจอลาวาสักหยดเดียว
ในกระเพาะของมันหลงเหลือเพียงแนวปะการังสีดำ
ลาวาและเปลวไฟถูกกลืนกินทำให้พลังต้นกำเนิดของยักษ์ลาวาหายไปอย่างรวดเร็วและร่างกายก็เริ่มปริแตกเกิดเป็นช่องว่างขึ้น
ฮูมมมมมมมมมมมมม
!!
มันคำรามอย่างบ้าคลั่งและกระแทกร่างกายภายในมหาสมุทรแมกมา
มันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เพียงแค่ดิ้นรนและเปิดปากกว้างเพื่อกลืนกินลาวาอย่างต่อเนื่อง
หมายจะชดเชยพลังที่สูญหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ทว่า
ลาวาที่มันกลืนลงไปใหม่นั้น เมื่อผ่านช่องท้องมาถึงจุดที่จี้เทียนซิงอยู่
มันก็ถูกตัวกระบี่กลืนกินเข้าไปอย่างต่อเนื่องราวกับหลุมไร้ก้น
ในไม่ช้า
เวลาได้ผ่านไปถึงสามชั่วยาม
ยักษ์ลาวายังคงสวาปามลาวาในมหาสมุทรแมกมาอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่พลังของมันจะกลับมาเพิ่มพูนได้เร็วกว่าการกลืนกินของตัวอ่อนกระบี่เช่นนั้นหรือ
?
แน่นอนว่าไม่
!
บัดนี้มันกลายเป็นหินโสโครกสีดำ
ไร้ซึ่งลาวาและเปลวไฟอันร้อนระอุ
ร่างของมันนั้นไม่อาจเรียกได้ว่ายักษ์ลาวาอีกต่อไป
ร่างใหญ่โตมโหฬารของมันปริแตกออกเป็นรอยร้าวหนาแน่นและหินโสโครกสีดำ
มันเริ่มพังทลายลงอย่างรวดเร็วและทรุดตัวลงไปในมหาสมุทรแมกมา
หลังจากผ่านไปห้าชั่วยาม
ร่างกายของมันก็แหลกสลาย หลงเหลือไว้เพียงร่างกายครึ่งท่อน
อีกหนึ่งวันต่อมามันก็สลายไปโดยสมบูรณ์กลายเป็นแนวปะการังสีดำที่แตกสลายและกระจัดกระจายจมหายไปในมหาสมุทรแมกมา
ซ่า......
ใต้ผิวลาวาอันร้อนระอุได้ปรากฏกระบี่ยักษ์สีทองขึ้น
มันเปล่งพลังไร้สภาวะออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อกลืนกินลาวาในมหาสมุทร รวมไปถึงเปลวไฟที่ลอยอบอวลอยู่บนท้องฟ้า
ลำแสงสีทองของกระบี่ยักษ์ก่อตัวเป็นม่านพลังทรงกลมที่คอยปกป้องจี้เทียนซิงเอาไว้อย่างแน่นหนา
เขานั่งคุกเข่าอยู่นิ่ง
หลับตาและพยายามฝึกฝนบ่มเพาะ กอบโกยให้ได้มากที่สุดเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่ง
อีกสองวันต่อมามหาสมุทรแมกมาที่กว้างใหญ่ถูกกลืนหายไปมากกว่าครึ่งและพื้นผิวแมกมาก็โหว่แหว่งหายไปหลายร้อยเมตร
อีกห้าวันผ่านไปมหาสมุทรแมกมาทั้งหมดก็ถูกกลืนหายไปโดยอำนาจของมหากระบี่สีทอง
มันได้กลายเป็นพื้นที่เปิดโล่งสีน้ำตาลเข้มในทุกทิศทางและมีแนวหินโสโครกเกาะไปทั่ว
แม้แต่ภูเขาไฟก็ยังสงบลงและกลายเป็นภูเขาหินสีดำทั่วๆไป
เมื่อห้าวันที่แล้วพื้นที่แห่งนี้ยังคงเป็นโลกแห่งไฟที่ร้อนระอุจนสิ่งมีชีวิตมิอาจย่างกรายเข้ามาได้ มันเต็มไปด้วยแมกมา
ลาวาและเปลวไฟที่พวยพุ่งอย่างบ้าคลั่งราวกับขุมนรกโลกันต์
แต่บัดนี้
พื้นที่ดังกล่าวกลับไม่สามารถมองหาประกายไฟหรือลาวาได้แม้แต่เสี้ยวกระผีก ! มันกลายเป็นโลกอันมืดมิดและหนาวเย็น
กระบี่ยักษ์สีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศเหนือศีรษะของเขาได้เปลี่ยนไปเป็นครึ่งแดงครึ่งทอง
“วิ้ง !”
ม่านพลังทองคำหายไปและกระบี่ยักษ์สีทองก็ย่อส่วนลงกลายเป็นกระบี่สีแดงทอง
จากนั้นก็พุ่งกลับไปที่ร่างของจี้เทียนซิงและแทรกเข้าไปในหลุมดำที่ตันเถียนอย่างต่อเนื่อง
จี้เทียนซิงสัมผัสถึงมันได้ในใจ
เขาสิ้นสุดการบ่มเพาะและลืมตาขึ้น
ในเวลาเพียงห้าวัน
ความแข็งแกร่งของเขาทะลวงมาถึงขอบเขตปราณจิตขั้นที่ห้าจากขั้นที่สี่ !
ยิ่งไปกว่านั้นตลอดทุกวันที่ผ่านมานี้เขายังใช้พลังแห่งเปลวไฟในการบรรเทาซ้ำเส้นชีพจรกระบี่ทั้งเก้าอยู่ตลอดเวลา
หลังจากการบรรเทาซ้ำซ้อน
เส้นชีพจรกระบี่ของเขาได้กลายเป็นหนาแน่นทนทานและทรงพลังยิ่งขึ้น
อีกทั้งมันยังทำให้รากฐานและศักยภาพของเขาลึกซึ้งขึ้นอีกด้วย !
เขาใช้สัมผัสญาณเพื่อมองภายในร่างกาย
พบว่าตัวอ่อนกระบี่ที่ล่องลอยอยู่ในตันเถียนนั้นกำลังแผ่พลังงานแห่งเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงอย่างแผ่วพลิ้ว
พร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบัดนี้เขาได้ครอบครองคุณสมบัติธาตุที่สองแล้ว
เขาประสบความสำเร็จในการควบคุมพลังแห่งเปลวไฟ !
เขารั้งสัมผัสญาณกลับมาจากตัวอ่อนกระบี่
ใบหน้าเผยรอยยิ้มกว้างด้วยความยินดีขึ้น
“ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนมีชะตาธาตุเพียงชนิดเดียว
มีเพียงยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในขอบเขตปราณฟ้าเท่านั้นจึงจะสามารถควบคุมพลังของธาตุทั้งห้าได้
ชะตาธาตุของข้าคือทอง ตอนนี้ตัวอ่อนกระบี่ในร่างข้ากลืนกินลาวาและเปลวไฟไปมหาศาล
มันทำให้ข้าสามารถควบคุมพลังแห่งธาตุอัคคีได้ทั้งๆที่อยู่ในขอบเขตปราณจิต นี่คือปาฏิหาริย์ชัด
!”
เขากระซิบกับตัวเองพลางก้มลงมองฝ่ามือซ้าย
ที่กลางฝ่ามือซ้ายของเขาปรากฏสัญลักษณ์เปลวเพลิงสีแดงชาดขึ้น
เขาสามารถเห็นได้ชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์เกิดขึ้นในมือซ้ายของเขา
จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
พลันกระตุ้นปราณแท้ด้วยพลังทั้งมวลและรวบรวมมันเอาไว้ที่มือซ้าย
ทันใดนั้นแขนซ้ายของเขาก็กลายเป็นสีแดงชาด
แดงเหมือนหินลาวา !
เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะทดสอบพลังของมือซ้าย
จากนั้นเขาก็เหยียดแขนซ้ายออกไปแล้วผลักฝ่ามือไปทางด้านหน้า
ฝ่ามือของเขาปะทุเปลวเพลิงสีแดงชาดออกมากลายเป็นลำแสงเพลิงขนาดใหญ่กระทบเข้ากับภูเขาไฟที่อยู่ห่างออกไปสิบไมล์
"ปัง !"
เสียงดังที่ดังกึกก้องปะทุขึ้น
ภูเขาไฟสูงถึงพันฟุตถูกทำลายด้วยหัตถ์ปราณเพลิงสายนี้
ครึ่งหนึ่งของภูเขาไฟถล่มลงมาและระเบิดเป็นก้อนกรวดชิ้นเล็กชิ้นน้อย
จี้เทียนซิงเบิกตาค้างด้วยความตกตะลึงในทันที
ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ก้อนกรวดพลางส่งเสียงอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“มารดามันเถอะ ! ไฉนถึงได้ทรงพลังเยี่ยงนี้
?!”
เมื่อเสียงของเขาลดลงก็ปรากฏเสียงของจิตกระบี่จางเทียนดังขึ้นในใจ
“เจ้าหนู
รู้หรือไม่ว่าฝ่ามือที่เจ้ายิงออกไปด้วยพลังทั้งหมดนี้สูบกลืนพลังปราณแท้ธาตุไฟของเจ้าไปถึงสามส่วน หากเจ้ายิงมันออกไปเป็นครั้งที่สอง ปราณอัคคีก็จะหมดไป ค่อยๆบ่มเพาะต่อไปและสะสมมันเอาไว้จะดีกว่า”
จางเทียนกล่าวด้วยเสียงต่ำและดูไม่แยแส
แต่น้ำเสียงนั้นแฝงแววหยอกเย้าเอาไว้อย่างสังเกตได้
ทันใดนั้นเองจี้เทียนซิงก็ตระหนักได้อย่างเลือนลางว่าความสามารถนี้เป็นผลพวงจากฝีมือของจางเทียนอย่างแน่นอน
เขาสลายทักษะที่มือซ้ายออกไปอย่างรวดเร็วและฟื้นฟูแขนซ้ายกลับเป็นอย่างเดิม จากนั้นก็กล่าวกับจางเทียนด้วยจิตสัมผัสว่า “อาวุโสจางเทียน ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือและการกระตุ้นเตือนของท่าน”
“ก็แค่เรื่องขี้ผง ไม่ควรค่าให้กล่าวถึง”
จางเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาต่อไปแล้ว
“พลังของเปลวเพลิงสีชาดถูกผนึกไว้ในมือซ้ายของเจ้า
ทว่าพลังของมันยังรุนแรงเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะสามารถควบคุมได้ด้วยพลังในตอนนี้
แต่หากเจ้าพัฒนาระดับพลังได้สูงยิ่งขึ้น
เจ้าถึงจะสามารถควบคุมเปลวเพลิงที่แท้จริงได้”
จี้เทียนซิงพยักหน้าและตอบรับว่า
“ข้าเข้าใจแล้ว"
จากนั้นจิตกระบี่จางเทียนก็ไม่กล่าวอันใดอีก
จี้เทียนซิงระงับความตื่นเต้นยินดีและความประหลาดใจของหัวใจ
สายตากวาดมองไปทั่วแนวหินโสโครกและพื้นที่เปิดโล่งรอบๆเพื่อมองหาร่องรอยของเสี่ยวเฮยหลง
เขาวิ่งหาอยู่ร่วมครึ่งชั่วยามและในที่สุดก็พบเสี่ยวเฮยหลงนอนอยู่ที่เนินเขาห่างออกไปหลายสิบไมล์
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved