เพลงกระบี่ดารา
ห้านภาลัย !
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบุคลในชุดคลุมสีขาวที่เข้ามานี้ก็คือหยุนเหยา
!
จี้เทียนซิงคาดไม่ถึงว่าหยุนเหยาซึ่งเดิมทีหนีไปจากถ้ำปีศาจได้แล้วกลับย้อนมาอีกครั้ง
!
“ศิษย์พี่ใหญ่ ! ท่าน.....
ท่านกลับมาทำไม...”
หยุนเหยามองเห็นอีกฝ่ายยังปลอดภัยครบสามสิบสอง ใบหน้าอันงดงามเย็นชาดุจน้ำแข็งของนางจึงสงบลง
“ข้ากลับมาช่วยเจ้า” นางไม่มีเวลาอธิบาย
หลังจากกล่าวเพียงห้าคำก็พาชายหนุ่มหนีออกจากห้องลับอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของจี้เทียนซิงสั่นสะท้าน
ในหัวใจดั่งมีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน เขากับนางต่างรู้ดีว่าถ้ำปีศาจแห่งนี้อันตรายแค่ไหน
มองจากสภาพร่างกายของนางตอนนี้
เห็นได้ชัดว่านางหนีรอดไปได้และได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ด้วยสภาพเช่นนี้นางยังอุตส่าห์ย้อนกลับมาเพื่อช่วยชีวิตเขา
น้ำใจอันงดงามและสิเน่หาเช่นนี้
เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร ?
เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าภายในใจที่เย็นชาดุจน้ำแข็งของนางนั้น
ตัวตนของเขาจะสำคัญมากจนนางยอมเสี่ยงชีวิตกลับมาช่วย
ชายหนุ่มติดตามหยุนเหยาออกไปจากห้องขังแล้วเดินไปตามทางเดินอันมืดมิด
เขาไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจต่อนาง
“ศิษย์พี่ ขอบคุณท่านมากแล้ว”
หยุนเหยากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ข้าเป็นผู้ขอให้เจ้ามาช่วยภารกิจ
ข้าย่อมไม่ทิ้งเจ้าไว้คนเดียวแน่นอน”
ผ่านไปครู่หนึ่งทั้งสองก็รีบออกมาจากทางเดินมืดและเข้าไปในถ้ำขนาดใหญ่ หยุนเหยาหันรีหันขวางเพื่อระบุทิศทางหลบหนีและกำลังจะนำจี้เทียนซิงไปที่ทางออก
ในขณะนี้เองประตูหินที่อยู่ไม่ไกลก็เปิดออก
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยและมหาปุโรหิตที่สวมเสื้อคลุมสีดำทมิฬก็เดินออกมาจากประตูหิน !
ทั้งสองกำลังจะมุ่งหน้าไปยังห้องขังจี้เทียนซิงเพื่อเค้นความลับ
พวกเขาบังเอิญมาเห็นหยุนเหยาและจี้เทียนซิงที่กำลังหลบหนีทันที
ดวงตาอันดุร้ายของทั้งสองเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน
รังสีสังหารแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ “นังหนู เจ้าหนีจากความตายไปได้แต่ยังกล้าย้อนกลับมาช่วยคนอีกหรือ
รนหาที่ตาย !”
ตูม !!!
มหาปุโรหิตปะทุพลังปราณสีดำด้วยความโกรธ
เขาคำรามออกมาและร่างอันใหญ่โตนั้นก็กลายเป็นหมอกสีดำที่พุ่งเข้าหาหยุนเหยาและจี้เทียนซิง
วูบ !!
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยทะยานตามติดมาจากด้านหลังอย่างใกล้ชิดกลายเป็นเงาดำอีกสายหนึ่งและพุ่งเข้าหาจี้เทียนซิงดุจสายฟ้าฟาด
“เจ้าหนุ่มน้อย อยู่ในเงื้อมมือข้าแล้วยังคิดหลบหนี
? ฝันเฟื่องนัก !"
นางต้องการมอบความตายให้จี้เทียนซิง ตอนนี้นางรู้แล้วว่าชายหนุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกประคำดารา
เป็นไปไม่ได้ที่นางจะปล่อยให้อีกฝ่ายออกไปจากที่นี่
“ฟุ่บ ! ฟุ่บ
!”
ในเสี้ยวพริบตามหาปุโรหิตและองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยก็มาถึงเบื้องหน้าของหยุนเหยาและจี้เทียนซิงพร้อมกับโคจรพลังปราณอันท่วมท้นออกมา
ดวงหน้างามของหยุนเหยาฉายแววตระหนก
ดวงตาของนางเปล่งประกายอย่างเคร่งเครียดกดดัน
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ
นางไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะผลักจี้เทียนซิงออกไปจากจุดปะทะพลางตะโกนออกมาว่า
“ข้าจะขวางพวกมันไว้ เจ้าไปซะ !”
เช้ง !
ขณะที่นางพูดจบก็นางก็ชักกระบี่ออกมาโบกสะบัดบนท้องฟ้าและพุ่งเข้าหามหาปุโรหิตและองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยทันที
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !!
คลื่นกระบี่ทั้ง
49 สายส่องประกายแสงอันเย็นเยือกไปร่วมสิบเมตร
มันหมุนวนเป็นพายุเฮอริเคนโอบล้อมเผ่าปีศาจทั้งสองในพริบตา
“เฮอะ !”
มหาปุโรหิตแค่นเสียงเย็น
มันเอื้อมมือไปที่เอวและดึงแส้งูทมิฬออกมาโบกสะบัดเป็นคมมีดสีดำและปิดกั้นคลื่นกระบี่ทั้งหมดของหยุนเหยา
คมมีดสีดำทึบดั่งรัตติกาลไร้แสงปะทะหักหาญกับคลื่นกระบี่อันเย็นเยียบของหยุนเหยา
พวกมันระเบิดเป็นเสียงดังสนั่นสั่นสะเทือนไปทั่วถ้ำ
จี้เทียนซิงถูกหยุนเหยาผลักจนกระเด็นไปเกือบถึงปากทางออกถ้ำ
แต่เขาวกกลับมาหานางอีกครั้งอย่างไร้ซึ่งความลังเล
“ศิษย์พี่
จะหนีก็ต้องหนีด้วยกัน !”
“ท่านไม่ทิ้งข้า
ข้าก็ไม่มีวันทิ้งท่าน !”
กล่าวจบชายหนุ่มก็ชักกระบี่มังกรดำออกมาและเหวี่ยงเข้าหาองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยทันที
“เปรี้ยง !”
ลำแสงกระบี่สีขาวดุจหิมะยาวสามเมตรที่นำมาซึ่งพลังอำนาจทำลายล้าง
เหวี่ยงเข้าหาเหนือศีรษะขององค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยอย่างดุดัน
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยหรี่ตาลง
นางโคจรปราณโลหิตเป็นฝ่ามือยักษ์สีแดงเลือดเพื่อต้านรับลำแสงกระบี่ขาวของจี้เทียนซิง
“ปง ! ปง
!”
ลำแสงกระบี่สีขาวปะทะเข้าหาฝ่ามือโลหิตของนางอยู่สองครั้งและทำให้สลายหายไป
“ดิ้นรนเข้าไปเถอะ !”
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยแสยะยิ้มหยามหยัน
นางไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยและโคจรพลังปราณอีกครั้งก่อรูปเป็นฝ่ามือโลหิตที่กระแทกเข้าใส่จี้เทียนซิง
ย่างก้าว
ไร้เงา !
จี้เทียนซิงปะทุพลังปราณใช้ออกด้วยย่างก้าวไร้เงาในจังหวะนั้น
เขาถอยหนีไปด้านหลังและยกกระบี่มังกรดำขึ้นต้านทาน
ห่างออกไปไม่ไกลนัก
หยุนเหยาก็กำลังต่อสู้กับมหาปุโรหิตอย่างดุเดือด
นางไม่ได้ลงมืออย่างหักโหม
เพียงแค่พยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่ายให้มากที่สุด เนื่องจากระดับพลังปราณที่แตกต่างกัน
การปะทะซึ่งหน้ารังแต่จะทำให้พ่ายแพ้เร็วขึ้นเท่านั้น
หลังจากสู้พลางถอยพลางไประยะหนึ่ง
หยุนเหยาและจี้เทียนซิงก็ถอยมาถึงทางออกของถ้ำปีศาจ
ในเวลานี้เอง มือซ้ายของหยุนเหยาโบกสะบัดกลางอากาศดั่งนางฟ้าร่ายรำ
ก่อรูปเป็นอาคมสายหนึ่ง จากนั้นกระบี่ที่มือขวาก็ร่ายรำด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยดุจสายน้ำ
หนึ่งอาคม
หนึ่งเพลงกระบี่ผสานกันกลางอากาศกลายเป็นคลื่นมนต์กระบี่ขนาดใหญ่ห้าสาย !
คลื่นกระบี่แต่ละสายยาวกว่าห้าเมตร
มันโอบหุ้มไปด้วยขุมพลังปราณอันน่าสะพรึงกลัวที่จ่อชี้ไปที่มหาปุโรหิตและองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ย
ทันทีที่หยุนเหยาร่ายมนต์กระบี่นี้เสร็จสิ้น พลังปราณทั้งมวลในร่างก็ถูกเร่งเร้าจนถึงขีดสุด
กระโปรงยาวขาวบริสุทธิ์ของนางโบกสะบัดทั้งที่ไม่มีแรงลม
เศษหินดินทรายปลิวว่อนขึ้นสู่ท้องฟ้า
ดวงหน้างดงามซีดขาวดุจกระดาษและแสดงออกอย่างผิดปกติ
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเคล็ดวิชาก้นหีบ
หลังจากใช้งานออกไปแล้วพลังของนางจะถดถอยลง ดังนั้นหากไม่คับขันจริงๆนางจะไม่ใช้มันออกมา
“เพลงกระบี่ดารา ห้านภาลัย !!”
ครืน.... !
คลื่นกระบี่ห้าสายตัดผ่านท้องฟ้ายามราตรีอันมืดมิดราวกับสายอสุนีบาตห้าเส้น
!
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยไม่กล้าประมาทต้านรับมันโดยตรง
นางสีหน้าเปลี่ยนไปและก้าวถอยหลังทันที
แม้แต่มหาปุโรหิตผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ขมวดคิ้วมุ่นอย่างเคร่งเครียด
มันโบกสะบัดแส้งูทมิฬหลายระลอกเป็นลำแสงกระบี่สีดำหลายร้อยเล่มเพื่อต่อต้าน
“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง !”
ลำแสงกระบี่จำนวนมากถูกทุบทำลายและระเบิดออกเป็นเมฆหมอกสีดำกระจายม้วนตลบไปทั่วบริเวณ
ตูม ! ตูม !
ตามมาด้วยเสียงกัมปนาทของพื้นดินที่ถูกคว้านเป็นร่องลึกยาวสิบเมตร
ฝุ่นละอองสาดคลุ้งปกคลุมท้องฟ้าทันที
หยุนเหยาไม่ได้คาดหวังว่าเพลงกระบี่ดาราห้านภาลัยของนางจะล้มมหาปุโรหิตและองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยได้
นางคิดแค่เพียงว่าจะใช้เพลงกระบี่นี้เพื่อถ่วงเวลาพวกมันและเพิ่มโอกาสในการหลบหนีเท่านั้น
"ศิษย์น้อง
ไป !"
นางฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายกำลังถูกมนต์กระบี่พัวพัน
รีบฉุดลากจี้เทียนซิงหนีต่อไปทันที
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม
จี้เทียนซิงและหยุนเหยาก็ออกมาถ้ำมาสู่ป่าในเชิงเขาได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม
มีเสียงฝีเท้าอย่างเร่งร้อนของคนสองคนตามมาติดๆและพุ่งออกมาจากถ้ำปีศาจ
ทั้งสองนั้นก็คือมหาปุโรหิตและองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยนั่นเอง
“เดรัจฉานน้อยทั้งสอง พวกเจ้าหนีไม่พ้นหรอก !”
มหาปุโรหิตพุ่งดิ่งไปตามติดจี้เทียนซิงและเหวี่ยงแส้งูทมิฬออกไปเป็นคมมีดสีดำนับร้อยเส้นปกคลุมไปทั่วร่างจี้เทียนซิง
เมื่อเห็นฉากนี้หยุนเหยาก็รีบทะยานมาบังจี้เทียนซิงอย่างไม่ลังเล
นางยกกระบี่ขึ้นปัดป้องคมมีดสีดำนับไม่ถ้วนอย่างทุลักทุเล
ปัง
ปัง เปรี้ยง !
เสียงระเบิดดังสนั่น
จากนั้นร่างบอบบางของหยุนเหยาก็กระเด็นไปไกลนับสิบเมตร ตกลงไปในพงหญ้า
“ศิษย์พี่ !”
จี้เทียนซิงร่ำร้องอย่างกระวนวาย
หยุนเหยาได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียพลังปราณไปมหาศาลจากการร่ายมนต์กระบี่ดาราห้านภาลัย
ตอนนี้นางเป็นดั่งลูกศรที่ยิงออกไปจนสุดหล้าแล้ว
นางอ่อนแอมากจนไม่สามารถรับการโจมตีของมหาปุโรหิตได้อีกไป
หลังจากอีกฝ่ายกระแทกหยุนเหยากระเด็นออกไป
มันก็เหวี่ยงแส้งูทมิฬเข้าหาจี้เทียนซิงอย่างดุดันอีกครา ส่วนองค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยก็โคจรพลังปราณก่อรูปเป็นฝ่ามือโลหิตคู่หนึ่งและโอบล้อมจี้เทียนซิงเพิ่มอีกคน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการกลุ้มรุมของยอดฝีมือทั้งสอง
พลังยุทธ์ของจี้เทียนซิงในตอนนี้ไม่มีทางต่อต้านได้แม้แต่น้อย
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย
จิตใจของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความรวดร้าวและไม่จำยอม รังสีฆ่าฟันในการดิ้นรนเอาชีวิตปะทุขึ้น !
ย่างก้าว
ไร้เงา !
จี้เทียนซิงเร่งเร้าพลังปราณชั่วชีวิตและใช้ออกด้วยย่างก้าวไร้เงาอีกครั้งเพื่อหลบการโจมตีที่โอบล้อมมาจากทุกทิศทางดั่งแหฟ้าตาข่ายดิน
ถึงแม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์
แต่เขาก็ไม่เคยจำนนต่อโชคชะตา
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved