ตำราโบราณอันลึกลับ
ทุกคนเดินไปที่โต๊ะหินอย่างสิ้นหนทางและรวมตัวกันเพื่อหารือ
เฟิงหมินมองไปที่หยุนเหยาและถามด้วยเสียงต่ำว่า
“ศิษย์พี่หยุนเหยา ในเมื่อพวกเราไม่พบมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ภายในถ้ำปีศาจ
เช่นนั้นพวกเราควรทำอย่างไรต่อไปดี ?”
สีหน้าของอู่อวี้ดูไม่สบอารมณ์และสบถออกมาว่า
“ปีศาจสองตนนั่นต้องหนีไปแล้วแน่นอน บัดซบ ! พวกเราพลาดไปที่ไม่สังหารพวกมันตั้งแต่ทีแรก !”
คิ้วของหยุนเหยาขมวดมุ่นและครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“ศิษย์น้องเฟิงหมิน ศิษย์น้องอู่อวี้
มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ต้องหลบหนีไปจากทางออกอื่นแล้ว พวกมันมีสมบัติเวทย์คุ้มกาย
ถึงแม้พวกเราจะพบมันก็ยากที่จะสังหารได้สำเร็จ”
“ในเมื่อพวกมันหนีรอดไปได้
ภารกิจครั้งนี้ก็ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว”
เฟิงหมินและอู่อวี้ต่างก็ไม่เต็มใจ
แต่พวกเขาก็เข้าใจคำพูดของหยุนเหยาเป็นธรรมดา ดังนั้นจึงส่ายหัวยอมแพ้
หยุนเหยามองไปที่พวกเขาทั้งสองและพูดขึ้นว่า
"ศิษย์น้องเฟิงหมิน ศิษย์น้องอู่อวี้ พวกเจ้าสองคนรีบออกจากถ้ำปีศาจไปโดยเร็วที่สุด
และกลับไปยังฐานที่มั่นคอยดูแลสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บก่อนเถิดที่หลักของเราดูแลสมาชิกที่บาดเจ็บ"
เฟิงหมินถามด้วยความสับสนว่า
“ศิษย์พี่หยุนเหยา แล้วพวกท่านทั้งสามเล่า ? พวกท่านไม่คิดกลับไปพร้อมพวกเราหรือ
?”
หยุนเหยาส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“เผ่าปีศาจถูกทำลายล้าง มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้หลบหนีไป พวกเราต้องทำลายถ้ำปีศาจแห่งนี้ให้สิ้นซากจึงจะพูดได้ว่าประสบความสำเร็จโดยแท้จริง”
ทั้งเฟิงหมินและอู่อวี้พยักหน้ารับคำ
ทั้งสองไม่ล่าช้าอีกต่อไปและกล่าวอำลากับหยุนเหยาและจี้เทียนซิงก่อนจะออกจากห้องลับ
เพื่อกลับไปยังเชิงเขา
ดังนั้นภายห้องลับที่มีแสงสลัวจึงเหลือเพียงหยุนเหยา
จี้เทียนซิงและฮ่าวเมิ่งเท่านั้น
นางกวาดสายตามองไปรอบๆตัวและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
“ศิษย์น้องจี้ ศิษย์น้องฮ่าว ที่นี่เป็นห้องลับที่เป็นแกนกลางของถ้ำปีศาจ
บางทีอาจมีความลับหรือเบาะแสใดๆซ่อนอยู่ พวกเราลองค้นหากันอย่างละเอียดดูอีกที”
จี้เทียนซิงและฮ่าวเมิ่งพยักหน้า
พวกเขาก็คิดเช่นเดียวกันจึงเริ่มแยกย้ายกันสำรวจทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียดถี่ถ้วน
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม
ทั้งสามคนก็ค้นหาไปทั่วห้องลับแท่นบูชจนพบข้าวของที่กระจัดกระจายมากมาย
พวกเขานำสิ่งของเหล่านั้นมาวางซ้อนกันจนเป็นกองภูเขาขนาดย่อมๆ
ซึ่งในนั้นเต็มไปด้วยตำราเคล็ดวิชาบ่มเพาะมากมาย
อีกทั้งยังมีตำราโบราณอีกหลายสิบเล่มเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น
มีกระดองเต่าที่ถูกจารึกด้วยเส้นสายแปลกตารวมไปถึงอุปกรณ์ เข็มทิศ
แผนที่และวัสดุปรุงยา
ฮ่าวเมิ่งยังพบสายโซ่ลูกปัดสีขาวเทาจำนวนหนึ่ง หลังจากการตรวจดูอย่างละเอียดก็พบว่ามันทำมาจากกระดูกมนุษย์จริงๆ
หลังจากการค้นหาจนหัวหมุน
ทั้งสามคนก็ถูกล้อมรอบด้วยไป 'กองภูเขา' กวาดสายตามองรอบๆ ถึงแม้จะมีสมบัติมากมาย แต่มันก็มีประโยชน์ต่อเผ่าพันธุ์ปีศาจเท่านั้น
ไม่ใช่สิ่งของสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์
เคล็ดวิชาบ่มเพาะ
ตำราโบราณหลายสิบเล่มที่กองพะเนินเหล่านี้ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาของเผ่าพันธุ์ปีศาจที่ทั้งสามคนไม่เข้าใจ
อุปกรณ์ระดับล้ำลึก
เม็ดยาและข้าวของอื่นๆล้วนเป็นสิ่งของของเผ่าปีศาจเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
แต่ถึงกระนั้น
หยุนเหยาก็ไม่ยอมปล่อยให้ความเป็นไปได้แม้แต่น้อยเล็ดรอดสายตา
นางกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเราช่วยกันตรวจสอบข้าวของเหล่านี้ทั้งหมด
บางทีอาจจะค้นพบอะไรสำคัญ”
ฮ่าวเมิ่งพยักหน้าและตำราเก่าแก่ขึ้นมาพลิกอ่านดูเพื่อพยายามทำความเข้าใจ
ส่วนจี้เทียนซิงก็หยิบตำราหลายเล่มออกมาอย่างสุ่มๆและเห็นตัวอักษรเผ่าปีศาจเต็มพรืดจนรู้สึกปวดหัว
เขาคร้านจะเปิดดูต่อไปจึงเดินหาตามห้องลับอย่างต่อเนื่อง
เขาเหยียดมือไปแตะควานดูตามผนังรอบมุมเพื่อค้นหาช่องลับที่ซ่อนอยู่ในผนัง
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบช่องมืดที่มีกล่องดำใบหนึ่ง
เขาเปิดกล่องดำออกและพบตำราสีดำอยู่ข้างในนั้น
ตอนแรกเขาไม่คิดจะสนใจตำราเล่มนี้เพราะคาดว่ามันคงถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาของเผ่าปีศาจอีกตามเคย
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่
หลังจากพลิกผ่านๆไปสองสามหน้าก็พบว่ามันเป็นตำราที่เขียนขึ้นด้วยภาษาของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างน่าประหลาดใจ
จี้เทียนซิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งและคิดในใจด้วยความสงสัยว่า
“ห้องลับแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดของถ้ำปีศาจ
เหตุใดถึงได้มีตำราโบราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ? แถมยังเก็บซ่อนไว้อย่างลึกลับเช่นนี้
หรือว่ามหาปุโรหิตจะซ่อนมันเอาไว้ ?”
เขาพลิกหน้าตำราอย่างรวดเร็วและดูเนื้อหาของมันคร่าวๆจนกระทั่งได้พบตัวอักษรคำว่า
[เทพกระบี่] บนหน้าหนึ่งของตำรา
ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดเล็กลงในทันทีและเพ่งพินิจอย่างระมัดระวังต่อ
เนื้อหาบนตำรานั้นเขียนไว้ว่า
‘นามของเทพกระบี่แพร่สะพัดไปทั้งทวีป
สร้างความหวาดกลัวแด่ทุกเผ่าพันธุ์ กลุ่มก้อนกองกำลังล้วนหลีกหนีไปไกลต่อชื่อนี้....’
‘ปีเกิ้งซี เดือนเกิ้งเฉิน , เทพกระบี่เหยียบเท้าลงบนอาณาจักรเทียนเฉิน ณ สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งของอาณาจักรนี้ เพียงหนึ่งกระบี่สยบสุดยอดฝีมือขอบเขตจักรพรรดิ
ทั่วทั้งดินแดนล้วนศิโรราบ’
‘เทพกระบี่รั้งอยู่ในอาณาจักรเทียนเฉินเป็นเวลาสิบวัน
ไม่มีผู้ใดทราบว่าไปที่ไหน และไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร’
‘หลายปีต่อมามีข่าวว่าอาณาจักรเทียนเฉินได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่จากการชี้นำของเทพกระบี่
ซึ่งทำให้แข็งแกร่งขึ้นและประสบความสำเร็จอย่างสูงล้ำ’
‘เทพกระบี่ทิ้งลูกปัดแห่งดวงดาราไว้ในดินแดนดาราบรรพกาล
มันคือสมบัติระดับสุดยอดอันน่าตกตะลึงที่ทำให้สามารถทะลวงผ่านสู่ขอบเขตเทวะ.....’
‘ทว่า ลูกปัดแห่งดวงดาราก็ยังไม่เคยถูกผู้ใดพบเห็นมาก่อนและข่าวนี้ยากที่จะฟันธงได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือข่าวลือ”
..........
จี้เทียนซิงอ่านทุกอักษรอย่างระมัดระวังและพบว่าตำราเล่มนี้เกี่ยวข้องกับเทพกระบี่
มันเป็นตำราโบราณเล่มบางเฉียบและหน้าสุดท้ายถูกฉีกออกไป
เมื่อเขาได้อ่านจนถึงคำว่าลูกปัดแห่งดวงดารา
เขาก็รู้สึกตกใจและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม
ในหน้าสุดท้ายของมันมีกระดาษสีเหลืองแผ่นหนึ่งที่วาดรูปขุนเขาลูกหนึ่งที่ถูกปกคลุมไว้ด้วยหมู่เมฆ
จี้เทียนซิงเพ่งเข้าไปมองใกล้ๆและได้เห็นว่ามันเป็นเพียงภาพภูเขาที่มีป่าปกคลุมและมีชั้นหมอกหนาๆ
นอกจากนี้
ภาพวาดนี้ไร้ซึ่งคำอธิบายใดๆ ไม่มีเงื่อนงำอื่นๆเช่นกัน
เขารวบรวมความคิดและพึมพำกับตัวเองว่า
“เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้วที่เผ่าปีศาจได้ตามหาลูกปัดแห่งดวงดารา
เนื้อหาในตำราเล่มนี้กล่าวถึงเทพกระบี่และลูกปัดทั้งสิ้น ดูเหมือนว่าจะมีเบาะแสบางประการที่เกี่ยวพันกัน ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงพบตำราที่เขียนด้วยภาษาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่นี่
ที่แท้มหาปุโรหิตก็เก็บซ่อนมันไว้นี่เอง”
คิดถึงเรื่องนี้จี้เทียนซิงก็เหลียวมองหยุนเหยาและฮ่าวเมิ่ง
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่กำลังคุ้ยตำราโบราณอย่างตั้งอกตั้งใจ
เขาจึงเก็บตำราสีดำเล่มนี้ไว้ในแหวนมิติอย่างลับๆ
ต่อมา
เขาก็ไม่มีอะไรทำจึงเดินไปที่โต๊ะหินและช่วยทั้งสองตรวจสอบสิ่งของเพื่อหาเบาะแส
หนึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งสามคนค้นตำราและสิ่งของทุกอย่างแล้วก็ยังไม่พบเบาะแสที่มีค่า
สิ่งเดียวที่มีและอาจเป็นประโยชน์ก็คือตำราโบราณหลายสิบเล่ม
น่าเสียดายที่ทั้งสามอ่านภาษาของเผ่าปีศาจไม่ออกจึงไม่สามารถรับรู้เนื้อหาข้างในได้
ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงขนพวกมันกลับไปที่นิกายพันธมิตรสวรรค์
ต่อมาหยุนเหยาเปิดพื้นที่ในแหวนมิติและกวาดเอาทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะใส่ไว้ในนั้นพลางกล่าวว่า “ศิษย์น้องจี้ ศิษย์น้องฮ่าว ข้าต้องการนำสิ่งของพวกนี้กลับไปยังนิกายให้ท่านอาจารย์ตรวจสอบดูอีกที”
“พวกเราหมดธุระกับถ้ำปีศาจแล้ว
ตอนนี้ถึงเวลาทำลายมันให้พินาศซะ”
ฮ่าวเมิ่งพยักหน้าและเผยรอยยิ้มพลางกล่าวว่า
“เรื่องนี้ท่านไม่ต้องกังวลหรอกศิษย์พี่ใหญ่ ข้าเตรียมพร้อมไว้แล้ว
เดี๋ยวจัดให้”
“ช่วงหลายปีมานี่ข้าทำภารกิจสำเร็จหลายอย่าง
ท่านประมุขและเหล่าผู้อาวุโสจึงตบรางวัลให้ข้าด้วยลูกระเบิดปราณหลายลูกเลย
ข้าไม่เคยได้ใช้มันเลย
ในที่สุดวันนี้ก็มีโอกาสได้เห็นพลังของมันเสียที”
“ข้าจะวางลูกระเบิดปราณไว้ทุกที่ในถ้ำปีศาจ
หลังจากจุดระเบิดด้วยอาคม พวกมันจะระเบิดพร้อมกันจนถ้ำปีศาจทั้งหมดพินาศสิ้น !”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved