อีกาดำกระดูกคลั่ง
ถึงแม้ว่าเสี่ยวเฮยหลงจะดวงแข็งพอที่ยังเก็บชีวิตน้อยๆเอาไว้ได้
แต่อาการบาดเจ็บของมันก็หนักหนาเอาการและต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นฟูได้
จี้เทียนซิงเห็นรอยแผลสีดำและรอยไหม้อยู่ทั่วร่างกายของมัน เขาจึงนำโอสถรักษาบาดแผลยัดใส่ปากให้มันกินก่อนที่จะนำมันไปไว้ในถุงมิติเพื่อปล่อยให้มันได้พักผ่อน
จากนั้นเขาก็ปลุกเฉียนเยวี่ยในถุงมิติให้ออกมา
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในป่าแห่งความตาย
เฉียนเยวี่ยได้รับบาดเจ็บไม่น้อยจากการถูกกลืนกินแก่นชีวิตจากเพลิงวิญญาณสีฟ้า
หลังจากปล่อยให้มันได้นอนจำศีลอยู่หลายวันเพื่อพักฟื้น
ในที่สุดอาการบาดเจ็บของมันก็หายไป ขนที่เคยเป็นสีเทาด่างกลับมาเป็นสีฟ้าครามดุจเดิม
“วูบ !”
เฉียนเยวี่ยบินออกมาจากถุงมิติและปรากฏตัวต่อหน้าจี้เทียนซิงอย่างรวดเร็ว
กระโดดขึ้นไปด้านหลังของมันแล้วพูดว่า
“เฉียนเยวี่ย เดินทางกันต่อเลย”
มันพยักหน้าขยับปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและมองไปรอบๆ
พื้นที่โล่งกว้างสีดำขนาดใหญ่และภูเขาหินสีดำเหล่านั้นดูแปลกประหลาดสำหรับมันมาก ทำให้มันเต็มไปด้วยความสงสัยว่าระหว่างที่มันหลับเกินเรื่องอะไรขึ้น
มันอดไม่ได้ที่จะถามอีกฝ่ายถึงเรื่องราวทั้งหมด
จี้เทียนซิงเผยยิ้มบางก่อนที่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้มันฟัง
…………..
หลังจากครึ่งชั่วยามต่อมา
เฉียนเยวี่ยก็พาจี้เทียนซิงออกจากเขต ‘มหาสมุทรแมกมา’ อันกว้างใหญ่และเข้าสู่เทือกเขาที่งดงามแห่งหนึ่ง
ใกล้กับกำแพงมหาสมุทรแมกมา
ไม่มีแม้แต่ใบหญ้างอกเงยขึ้นมาสักต้นเดียว
ส่วนอีกด้านหนึ่งของเทือกเขากลับเป็นป่าดึกดำบรรพ์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้สูงตระหง่าน
เฉียนเยวี่ยบินไปมากกว่าสองร้อยไมล์ในรวดเดียวและข้ามป่าอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งสู่พื้นที่อีกส่วน
ณ
จุดนี้ มันกำลังบินอยู่เหนือแม่น้ำใหญ่ที่มีคลื่นสูง
แม่น้ำสายนี้กว้างหลายร้อยเมตร
ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาสีดำสองลูก แม่น้ำกำลังพุ่งสูงขึ้นและพัดอย่างรุนแรง
ไม่มีผู้ใดทราบว่ามันจะมุ่งหน้าไปที่ไหน
ด้านข้างของแม่น้ำเป็นหน้าผาสูงชันที่ตรงดิ่ง
กำแพงหินเป็นสีดำเข้มที่เต็มไปด้วยถ้ำหินอันมืดมิดมากมาย
เฉียนเยวี่ยบินกลับไปตามแม่น้ำ, จี้เทียนซิงมองไปที่หน้าผาทั้งสองด้านและรู้สึกบางอย่างเกี่ยวกับถ้ำที่หนาแน่นเหล่านั้นพลางกล่าวว่า
“จากเครื่องหมายบนแผนที่
หลังจากผ่านทะเลเพลิงก็จะมาถึงภูเขาอวานหยา”
“ภูเขาแห่งนี้มีแม่น้ำสายใหญ่ พวกเราต้องขึ้นเหนือไปตามแม่น้ำใหญ่และค้นหาจุดกำเนิดแม่น้ำเพื่อไปต่อยังทะเลสาบจันทร์เต็มดวง"
เขาจดจำข้อมูลที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ได้อย่างขึ้นใจ
ในใจเริ่มก่อเกิดความคาดหวังอย่างลึกซึ้ง
ตราบใดที่เขาข้ามภูเขาอว๋านหยาไปได้
เขาก็สามารถไปถึงเส้นชัยและเข้าสู่ทะเลสาบจันทร์เต็มดวงได้ในที่สุด
เขาลอบอธิษฐานอย่างเงียบๆในใจหวังว่าพื้นที่ต่อไปจะราบรื่นและไม่อันตรายเท่าป่ามรณะหรือทะเลเพลิง......
อย่างไรก็ตาม
ดูเหมือนสวรรค์จะต่อต้านคำอธิษฐานของเขา
บนหน้าผาทางด้านซ้ายของแม่น้ำใหญ่
ในถ้ำสีดำปรากฏกลุ่มนกสีดำกลุ่มใหญ่โผล่ขึ้นมาอย่างกระทันหันและพุ่งเข้าหาพวกเขาดั่งลูกธนู
นกสีดำกระจุกเป็นฝูงอย่างหนาแน่นราวกับเมฆสีดำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับลมแรงและดิ่งไปหาเฉียนเยวี่ยในพริบตา
จี้เทียนซิงเห็นได้ถนัดตาว่านกสีดำเหล่านี้มีความยาวหนึ่งเมตร
มันเป็นสีดำขลับราวกับหมึก มีเส้นขนแข็งกล้าและมีปากอันแหลมคมราวกับมีดชั้นเลิศ
อีกทั้งยังมีกรงเล็บอันคมกล้า
นกสีดำเหล่านี้ดูเหมือนอีกา
แต่มันใหญ่กว่าอีกาโดยทั่วไปหลายเท่า ทั้งแข็งแกร่งกว่าและก้าวร้าวยิ่งกว่า !
เขาจดจำได้ในทันทีว่านกสีดำเหล่านี้ก็คือสัตว์อสูรชนิดหนึ่ง, อีกาดำกระดูกคลั่ง !
ความแข็งแกร่งของมันนั้นเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตปราณจิตขั้นที่สี่
ซึ่งไม่นับว่าเป็นภัยคุกคามต่อจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยในยามนี้
แต่ทว่าด้วยจำนวนนับร้อยตัวบวกกับความก้าวร้าวและพลังทำลายอันน่าสะพรึง
มันทำให้ผู้คนต้องหวั่นเกรงอยู่หลายส่วน
"ไม่ได้การ ! นี่มันอีกาดำกระดูกคลั่ง เฉียนเยวี่ยระวังด้วย !”
จี้เทียนซิงร่ำร้องออกมาทันที
ดวงตาของเขาสาดประกายเย็น
เขากระตุ้นคลื่นกระบี่ออกมาสามสายและซัดเข้าหาฝูงอีกาดำกระดูกคลั่งเหล่านั้นในทันที
“ซัวะ
ซัวะ ซัวะ !”
สามคลื่นกระบี่แยกออกเป็นเก้าทิศทางพร้อมกันและเปลี่ยนน่านฟ้าให้กลายเป็นสมรภูมิสังหารของปราณกระบี่อันพร่างพราว
เมื่อได้ยินเสียง
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ” เมฆสีดำที่เกิดจากการรวมกลุ่มของอีกาดำกระดูกคลั่งก็ถูกฟาดฟันไปทั่วท้องฟ้าในทันที
มีพวกมันอย่างน้อยหนึ่งร้อยตัวที่ถูกฆ่า
ณ จุดนั้นด้วยลำแสงกระบี่อันคมกล้าของจี้เทียนซิง
ซากร่างของพวกมันที่ตกตาย
กระจายเป็นโลหิตสีดำฉีกพุ่งไปทั่วท้องฟ้าและไหลลงสู่แม่น้ำด้านล่าง
เฉียนเยวี่ยก็ลงมืออย่างระมัดระวังเช่นกัน
มันเปิดปากพ่นคมมีดน้ำแข็งสีฟ้ามากกว่าสิบสายราวกับลูกศร ยิงเข้าใส่อีกาเหล่านั้น
ทันใดนั้นพวกมันหลายสิบตัวก็ถูกยิง
ซากศพตกลงมาจากท้องฟ้าสู่แม่น้ำเบื้องล่าง
ภายในพริบตาเดียวอีกาสีดำหลายร้อยตัวก็ถูกจัดการจนเกลี้ยง
เหลืออีกเพียงกระจุกหนึ่งที่ยังคงลอยอยู่ในอากาศ
“เหอะ เหอะ อีกาบัดซบที่น่ารังเกียจ
อยู่ดีไม่ว่าดีเหิมเกริมมาโจมตีพวกเรา หาที่ตายโว้ย !”
เฉียนเยวี่ยบุ้ยปากโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจและยังคงบินไปข้างหน้า
สีหน้าของจี้เทียนซิงกลับยังไม่ผ่อนคลายเท่าใดนัก
ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
“เฉียนเยวี่ย อย่าได้ประมาทไป ! พวกเราฆ่าพวกมันไปมากมาย
กลิ่นคาวเลือดและไอสังหารจากศพนับร้อยย่อมดึงดูกพวกมันให้กรูกันเข้ามามากขึ้นแน่นอน
!”
แน่นอน เมื่อสิ้นเสียงของจี้เทียนซิง หน้าผาที่อยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำก็มี
'เมฆดำ' พุ่งออกจากถ้ำทันที
กลุ่มเมฆแต่ละก้อนนั้นมองคร่าวๆสมควรมีอีกาดำกระดูกคลั่งจำนวนหนึ่งถึงสองตัวที่พุ่งมาราวกับลูกศร
พวกมันดิ่งเข้าหาจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง
“กา ! กา
! กา!”
เสียงกรีดร้องแปลกๆของพวกมันผสานกันเป็นกลุ่มเดียวและสะท้อนก้องไปมาระหว่างหน้าผาทั้งสองฝั่ง
จี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยได้ยินเสียงที่รุนแรง
เพียงรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ดวงตาพร่ามัวและปวดหัวอย่างมาก
ในโอกาสนี้อีกาดำกระดูกคลั่งก็รีบกรูกันเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ
พลางยื่นจะงอยปากอันแหลมคมและกางกรงเล็บอันคมกริบ
เฉียนเยวี่ยรีบกระพือปีกของมันอย่างรวดเร็วและเร่งความเร็วเพื่อบินไปข้างหน้า
หมายจะสลัดให้หลุดการรุมล้อมของฝูงอีกา
เพื่อที่จะฝ่าทะลุวงล้อม
มันโบกอุ้งเท้าคู่หนึ่งยิงเป็นลำแสงน้ำแข็งสีฟ้าออกไปทั่วท้องฟ้าและเปิดฉากตอบโต้
ในเวลาเดียวกันมันก็ส่งสัญญาณเสียงเตือนจี้เทียนซิงในทันที
“สหายจี้ !
เสียงร้องของอีกาบัดซบพวกนี้แปลกประหลาดมาก
พวกมันสามารถผสานกันสร้างเป็นคลื่นเสียงโจมตีใส่สมองได้ ระวังด้วย !”
จี้เทียนซิงกุมศีรษะพยักหน้า
เขาก็รับรู้เรื่องนี้เช่นกัน จากนั้นก็ใช้สองนิ้วของมือขวาจี้สกัดจุดในร่างกายตนเองทันที
“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !”
หลังจากสกัดจุดฝังเข็มทั้งสี่
ประสาทรับเสียงของเขาก็ถูกปิดผนึกชั่วคราว เขาไม่อาจได้ยินเสียงใดๆอีกในตอนนี้
เสียงกรีดร้องที่แปลกประหลาดของอีกาดำหลายร้อยตัวคือการโจมตีด้วยคลื่นเสียงที่มองไม่เห็น เมื่อไม่ได้ยินซะก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาอีกต่อไป
“ศาสตร์อวี้เจี้ยน !”
เขากระตุ้นคลื่นกระบี่สีทองแดงหลายสายออกมา
โบยบินไปรอบๆเพื่อก่อเกิดเป็นข่ายปราณกระบี่คุ้มกายเพื่อต้านรับการโจมตีของอีกาอันดุร้ายเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
“ซัวะ ซัวะ ซัวะ ซัวะ !”
ภายในรัศมีสิบเมตรรอบๆตัวเขาได้ถูกหุ้มไว้ด้วยเส้นสายปราณกระบี่สีทองแดงราวกับตาข่าย
อีกาดำที่พุ่งเข้าหาข่ายปราณกระบี่ล้วนถูกเฉือนด้วยลำแสงที่เปล่งประกายและกลายเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน
ตกลงมาจากท้องฟ้า
อย่างไรก็ตามจำนวนของอีกาดำมีมากมายเกินไป
บนหน้าผาทั้งสองฝั่งของแม่น้ำยังมีกลุ่มอีกาสีดำพุ่งออกมาจากถ้ำและพวกมันก็เข้าปิดล้อมจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยอย่างไม่ขาดสาย
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved