ตอนที่ 286

อีกาดำกระดูกคลั่ง

ถึงแม้ว่าเสี่ยวเฮยหลงจะดวงแข็งพอที่ยังเก็บชีวิตน้อยๆเอาไว้ได้

แต่อาการบาดเจ็บของมันก็หนักหนาเอาการและต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นฟูได้

จี้เทียนซิงเห็นรอยแผลสีดำและรอยไหม้อยู่ทั่วร่างกายของมัน เขาจึงนำโอสถรักษาบาดแผลยัดใส่ปากให้มันกินก่อนที่จะนำมันไปไว้ในถุงมิติเพื่อปล่อยให้มันได้พักผ่อน

จากนั้นเขาก็ปลุกเฉียนเยวี่ยในถุงมิติให้ออกมา

ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในป่าแห่งความตาย

เฉียนเยวี่ยได้รับบาดเจ็บไม่น้อยจากการถูกกลืนกินแก่นชีวิตจากเพลิงวิญญาณสีฟ้า

หลังจากปล่อยให้มันได้นอนจำศีลอยู่หลายวันเพื่อพักฟื้น

ในที่สุดอาการบาดเจ็บของมันก็หายไป ขนที่เคยเป็นสีเทาด่างกลับมาเป็นสีฟ้าครามดุจเดิม

“วูบ !”

เฉียนเยวี่ยบินออกมาจากถุงมิติและปรากฏตัวต่อหน้าจี้เทียนซิงอย่างรวดเร็ว

กระโดดขึ้นไปด้านหลังของมันแล้วพูดว่า

“เฉียนเยวี่ย เดินทางกันต่อเลย”

มันพยักหน้าขยับปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและมองไปรอบๆ

พื้นที่โล่งกว้างสีดำขนาดใหญ่และภูเขาหินสีดำเหล่านั้นดูแปลกประหลาดสำหรับมันมาก  ทำให้มันเต็มไปด้วยความสงสัยว่าระหว่างที่มันหลับเกินเรื่องอะไรขึ้น

มันอดไม่ได้ที่จะถามอีกฝ่ายถึงเรื่องราวทั้งหมด

จี้เทียนซิงเผยยิ้มบางก่อนที่เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้มันฟัง

…………..

หลังจากครึ่งชั่วยามต่อมา

เฉียนเยวี่ยก็พาจี้เทียนซิงออกจากเขต ‘มหาสมุทรแมกมา’ อันกว้างใหญ่และเข้าสู่เทือกเขาที่งดงามแห่งหนึ่ง

ใกล้กับกำแพงมหาสมุทรแมกมา

ไม่มีแม้แต่ใบหญ้างอกเงยขึ้นมาสักต้นเดียว

ส่วนอีกด้านหนึ่งของเทือกเขากลับเป็นป่าดึกดำบรรพ์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้สูงตระหง่าน

เฉียนเยวี่ยบินไปมากกว่าสองร้อยไมล์ในรวดเดียวและข้ามป่าอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งสู่พื้นที่อีกส่วน

จุดนี้ มันกำลังบินอยู่เหนือแม่น้ำใหญ่ที่มีคลื่นสูง

แม่น้ำสายนี้กว้างหลายร้อยเมตร

ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาสีดำสองลูก แม่น้ำกำลังพุ่งสูงขึ้นและพัดอย่างรุนแรง

ไม่มีผู้ใดทราบว่ามันจะมุ่งหน้าไปที่ไหน

ด้านข้างของแม่น้ำเป็นหน้าผาสูงชันที่ตรงดิ่ง

กำแพงหินเป็นสีดำเข้มที่เต็มไปด้วยถ้ำหินอันมืดมิดมากมาย

เฉียนเยวี่ยบินกลับไปตามแม่น้ำ, จี้เทียนซิงมองไปที่หน้าผาทั้งสองด้านและรู้สึกบางอย่างเกี่ยวกับถ้ำที่หนาแน่นเหล่านั้นพลางกล่าวว่า

“จากเครื่องหมายบนแผนที่

หลังจากผ่านทะเลเพลิงก็จะมาถึงภูเขาอวานหยา”

“ภูเขาแห่งนี้มีแม่น้ำสายใหญ่ พวกเราต้องขึ้นเหนือไปตามแม่น้ำใหญ่และค้นหาจุดกำเนิดแม่น้ำเพื่อไปต่อยังทะเลสาบจันทร์เต็มดวง"

เขาจดจำข้อมูลที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ได้อย่างขึ้นใจ

ในใจเริ่มก่อเกิดความคาดหวังอย่างลึกซึ้ง

ตราบใดที่เขาข้ามภูเขาอว๋านหยาไปได้

เขาก็สามารถไปถึงเส้นชัยและเข้าสู่ทะเลสาบจันทร์เต็มดวงได้ในที่สุด

เขาลอบอธิษฐานอย่างเงียบๆในใจหวังว่าพื้นที่ต่อไปจะราบรื่นและไม่อันตรายเท่าป่ามรณะหรือทะเลเพลิง......

อย่างไรก็ตาม

ดูเหมือนสวรรค์จะต่อต้านคำอธิษฐานของเขา

บนหน้าผาทางด้านซ้ายของแม่น้ำใหญ่

ในถ้ำสีดำปรากฏกลุ่มนกสีดำกลุ่มใหญ่โผล่ขึ้นมาอย่างกระทันหันและพุ่งเข้าหาพวกเขาดั่งลูกธนู

นกสีดำกระจุกเป็นฝูงอย่างหนาแน่นราวกับเมฆสีดำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับลมแรงและดิ่งไปหาเฉียนเยวี่ยในพริบตา

จี้เทียนซิงเห็นได้ถนัดตาว่านกสีดำเหล่านี้มีความยาวหนึ่งเมตร

มันเป็นสีดำขลับราวกับหมึก มีเส้นขนแข็งกล้าและมีปากอันแหลมคมราวกับมีดชั้นเลิศ

อีกทั้งยังมีกรงเล็บอันคมกล้า

นกสีดำเหล่านี้ดูเหมือนอีกา

แต่มันใหญ่กว่าอีกาโดยทั่วไปหลายเท่า ทั้งแข็งแกร่งกว่าและก้าวร้าวยิ่งกว่า !

เขาจดจำได้ในทันทีว่านกสีดำเหล่านี้ก็คือสัตว์อสูรชนิดหนึ่ง, อีกาดำกระดูกคลั่ง !

ความแข็งแกร่งของมันนั้นเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตปราณจิตขั้นที่สี่

ซึ่งไม่นับว่าเป็นภัยคุกคามต่อจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยในยามนี้

แต่ทว่าด้วยจำนวนนับร้อยตัวบวกกับความก้าวร้าวและพลังทำลายอันน่าสะพรึง

มันทำให้ผู้คนต้องหวั่นเกรงอยู่หลายส่วน

"ไม่ได้การ !  นี่มันอีกาดำกระดูกคลั่ง  เฉียนเยวี่ยระวังด้วย !”

จี้เทียนซิงร่ำร้องออกมาทันที

ดวงตาของเขาสาดประกายเย็น

เขากระตุ้นคลื่นกระบี่ออกมาสามสายและซัดเข้าหาฝูงอีกาดำกระดูกคลั่งเหล่านั้นในทันที

“ซัวะ

ซัวะ  ซัวะ !”

สามคลื่นกระบี่แยกออกเป็นเก้าทิศทางพร้อมกันและเปลี่ยนน่านฟ้าให้กลายเป็นสมรภูมิสังหารของปราณกระบี่อันพร่างพราว

เมื่อได้ยินเสียง

“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ” เมฆสีดำที่เกิดจากการรวมกลุ่มของอีกาดำกระดูกคลั่งก็ถูกฟาดฟันไปทั่วท้องฟ้าในทันที

มีพวกมันอย่างน้อยหนึ่งร้อยตัวที่ถูกฆ่า

ณ จุดนั้นด้วยลำแสงกระบี่อันคมกล้าของจี้เทียนซิง

ซากร่างของพวกมันที่ตกตาย

กระจายเป็นโลหิตสีดำฉีกพุ่งไปทั่วท้องฟ้าและไหลลงสู่แม่น้ำด้านล่าง

เฉียนเยวี่ยก็ลงมืออย่างระมัดระวังเช่นกัน

มันเปิดปากพ่นคมมีดน้ำแข็งสีฟ้ามากกว่าสิบสายราวกับลูกศร ยิงเข้าใส่อีกาเหล่านั้น

ทันใดนั้นพวกมันหลายสิบตัวก็ถูกยิง

ซากศพตกลงมาจากท้องฟ้าสู่แม่น้ำเบื้องล่าง

ภายในพริบตาเดียวอีกาสีดำหลายร้อยตัวก็ถูกจัดการจนเกลี้ยง

เหลืออีกเพียงกระจุกหนึ่งที่ยังคงลอยอยู่ในอากาศ

“เหอะ เหอะ อีกาบัดซบที่น่ารังเกียจ

อยู่ดีไม่ว่าดีเหิมเกริมมาโจมตีพวกเรา หาที่ตายโว้ย !”

เฉียนเยวี่ยบุ้ยปากโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจและยังคงบินไปข้างหน้า

สีหน้าของจี้เทียนซิงกลับยังไม่ผ่อนคลายเท่าใดนัก

ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

“เฉียนเยวี่ย อย่าได้ประมาทไป !   พวกเราฆ่าพวกมันไปมากมาย

กลิ่นคาวเลือดและไอสังหารจากศพนับร้อยย่อมดึงดูกพวกมันให้กรูกันเข้ามามากขึ้นแน่นอน

!”

แน่นอน   เมื่อสิ้นเสียงของจี้เทียนซิง หน้าผาที่อยู่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำก็มี

'เมฆดำ' พุ่งออกจากถ้ำทันที

กลุ่มเมฆแต่ละก้อนนั้นมองคร่าวๆสมควรมีอีกาดำกระดูกคลั่งจำนวนหนึ่งถึงสองตัวที่พุ่งมาราวกับลูกศร

พวกมันดิ่งเข้าหาจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง

“กา ! กา

! กา!”

เสียงกรีดร้องแปลกๆของพวกมันผสานกันเป็นกลุ่มเดียวและสะท้อนก้องไปมาระหว่างหน้าผาทั้งสองฝั่ง

จี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยได้ยินเสียงที่รุนแรง

เพียงรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ดวงตาพร่ามัวและปวดหัวอย่างมาก

ในโอกาสนี้อีกาดำกระดูกคลั่งก็รีบกรูกันเข้ามาจากทั่วทุกสารทิศ

พลางยื่นจะงอยปากอันแหลมคมและกางกรงเล็บอันคมกริบ

เฉียนเยวี่ยรีบกระพือปีกของมันอย่างรวดเร็วและเร่งความเร็วเพื่อบินไปข้างหน้า

หมายจะสลัดให้หลุดการรุมล้อมของฝูงอีกา

เพื่อที่จะฝ่าทะลุวงล้อม

มันโบกอุ้งเท้าคู่หนึ่งยิงเป็นลำแสงน้ำแข็งสีฟ้าออกไปทั่วท้องฟ้าและเปิดฉากตอบโต้

ในเวลาเดียวกันมันก็ส่งสัญญาณเสียงเตือนจี้เทียนซิงในทันที

“สหายจี้ !

เสียงร้องของอีกาบัดซบพวกนี้แปลกประหลาดมาก

พวกมันสามารถผสานกันสร้างเป็นคลื่นเสียงโจมตีใส่สมองได้ ระวังด้วย !”

จี้เทียนซิงกุมศีรษะพยักหน้า

เขาก็รับรู้เรื่องนี้เช่นกัน จากนั้นก็ใช้สองนิ้วของมือขวาจี้สกัดจุดในร่างกายตนเองทันที

“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !”

หลังจากสกัดจุดฝังเข็มทั้งสี่

ประสาทรับเสียงของเขาก็ถูกปิดผนึกชั่วคราว เขาไม่อาจได้ยินเสียงใดๆอีกในตอนนี้

เสียงกรีดร้องที่แปลกประหลาดของอีกาดำหลายร้อยตัวคือการโจมตีด้วยคลื่นเสียงที่มองไม่เห็น  เมื่อไม่ได้ยินซะก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขาอีกต่อไป

“ศาสตร์อวี้เจี้ยน !”

เขากระตุ้นคลื่นกระบี่สีทองแดงหลายสายออกมา

โบยบินไปรอบๆเพื่อก่อเกิดเป็นข่ายปราณกระบี่คุ้มกายเพื่อต้านรับการโจมตีของอีกาอันดุร้ายเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

“ซัวะ ซัวะ ซัวะ ซัวะ !”

ภายในรัศมีสิบเมตรรอบๆตัวเขาได้ถูกหุ้มไว้ด้วยเส้นสายปราณกระบี่สีทองแดงราวกับตาข่าย

อีกาดำที่พุ่งเข้าหาข่ายปราณกระบี่ล้วนถูกเฉือนด้วยลำแสงที่เปล่งประกายและกลายเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน

ตกลงมาจากท้องฟ้า

อย่างไรก็ตามจำนวนของอีกาดำมีมากมายเกินไป

บนหน้าผาทั้งสองฝั่งของแม่น้ำยังมีกลุ่มอีกาสีดำพุ่งออกมาจากถ้ำและพวกมันก็เข้าปิดล้อมจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยอย่างไม่ขาดสาย