ตอนที่
348 สาบานต่อฟ้า
นิกายกระบี่ฟ้าในยามรุ่งสางมีแต่ความเงียบปกคลุมไปทั่วทุกที่
ผู้คนต่างก็หลับใหล บ้างก็ปิดด่านบ่มเพาะ
ทว่า เสียงคำรามของฉู่เทียนเซิงนั้นราวกับห่าพายุฝนฟ้าคะนองและทำให้ทุกคนสะดุ้งพรวด
ทันใดนั้น บนยอดเขาหลายแห่งของนิกายกระบี่ฟ้าและตามบ้านเรือนตำหนักนับไม่ถ้วนก็มีเสียงร่ำร้องด้วยความสงสัยและโกรธเกรี้ยวดังระงม
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน
เมื่อเสียงคำรามที่ดังก้องทั่วท้องฟ้าจางลง
ในส่วนลึกของยอดเขากระบี่ศักดิ์สิทธิ์พลันปรากฏแสงสว่างนับสิบจุดขึ้น
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่ามากกว่าสิบคนในระดับปราณโอสถพุ่งเป็นเส้นรุ้งมาที่จตุรัสบนยอดเขา
ร่างผอมบางที่มีกลิ่นไอคมกริบดุจกระบี่วิเศษ
หลวมรวมพลังลมปราณเป็นปีกสีเงินคู่หนึ่ง เร่งความเร็วจากน่านฟ้าดิ่งลงมาที่กลางจัตุรัส
"ตึง !"
รูปลักษณ์ไม่สูงไม่เตี้ยแต่เต็มไปด้วยความยโสโอหัง
เย่อหยิ่งทะนงตน คมกล้าดั่งกระบี่ไม่มีวันหัก
บุคลผู้นี้ก็คือเกาอวี่, ประมุขคนปัจจุบันของนิกายกระบี่ฟ้า
คนโบยบินลงมาจากทางเหนือของจัตุรัสเหนือยอดเขา
ตามมาด้วยเหล่าผู้เฒ่าและผู้ดูแลจำนวนมากที่มาสมทบและห้อมล้อมมันไว้ทันทีราวกับดาวล้อมเดือน
ในช่วงเวลาสั้นๆ ยอดฝีมือผู้เข้มแข็งสิบแปดคนก็ยืนหยัดข้างประมุขของพวกมัน เผชิญหน้ากับฉู่เทียนเซิงและคนอื่นๆ
เทียนเจี้ยนจงปลดปล่อยจิตสังหารออกมา
ใบหน้าของมันมืดมนเย็นชาดุจน้ำแข็ง
เห็นได้ชัดว่ามันหงุดหงิดอย่างมาก ในใจเต็มไปด้วยความคลั่งแค้นอันน่ากลัว
ก่อนที่เทียนเจี้ยนจงจะได้เอ่ยปาก
ฉู่เทียนเซิงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยโทสะพลันคำรามกราดเกรี้ยว “เกาอวี่ ! ส่งตัวเอี๋ยนเอ๋อร์มา !”
เทียนเจี้ยนจงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาพลางแสยะยิ้มกล่าวว่า
“ฉู่เทียนเซิง
ลูกศิษย์เจ้าสังหารเหวินหยูศิษย์ข้ากลางงานฉลองวันเกิด ข้าต้องสะสางหนี้แค้นนี้ !”
"เจ้าจะให้ข้ายอมอ่อนข้อส่งตัวศิษย์ตัวน้อยของเจ้ากลับคืนเช่นนั้นหรือ
?
เฮอะ ฝันไปเถอะ !”
ฉู่เทียนเซิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียมพลางตะโกนกลับว่า
“เกาอวี่
เหตุใดศิษย์เจ้าถึงได้ตกตาย เรื่องนี้เจ้าย่อมรู้แก่ใจ !”
"ความทะเยอทะยานดั่งหมาป่าของเจ้าเป็นรับรู้กันดีทั่วทั้งดินแดนดาราบรรพกาล
ทุกการกระทำของเจ้าตลอดหลายปีที่ผ่านมีล้วนแต่มีจุดประสงค์แอบแฝง
คิดว่าข้าดูไม่ออก ?"
"แต่ข้าไม่คิดฝันเลยว่าเจ้าจะกล้าถึงขั้นนี้
เจ้าพยายามหาเรื่องปะทะกับนิกายข้าทั้งทางทั้งและทางอ้อม
เจ้าวางแผนใส่ร้ายป้ายสีศิษย์ข้า เจ้านี่มันชั่วร้ายน่ารังเกียจ เต็มไปด้วยพิษสง !”
ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เทียนเจี้ยนจงเริ่มมีโทสะ
คนกล่าวตอบว่า “เฮอะ...
ฉู่เทียนเซิง เจ้าพ่นวาจาไร้สาระ กลับดำเป็นขาว !”
"เมื่อคืนนี้ในงานฉลองวันเกิดข้า ศิษย์ของเจ้าจี้เทียนซิงสังหารศิษย์ข้าเหวินหยู
ทุกคนล้วนเห็นกับตาและเป็นพยาน
เจ้ายังมีหน้ามากล่าวหาข้าว่าใส่ความศิษย์เจ้างั้นหรือ ?”
"เจ้าคิดว่าข้าจะส่งศิษย์รักตัวเองไปตายเพื่อใส่ความศิษย์เจ้างั้นหรือ
?"
"ฉู่เทียนเซิง
! เจ้าอย่าได้ริอาจบิดเบือนความจริงข่มเหงรังแกผู้คนเกินไปนัก”
หลังจากเทียนเจี้ยนจงพูดจบ
ชายวัยกลางคนสองคนก็ก้าวออกมาจากฝูงชน เดินมาข้างๆมัน
ชายสองคนนี้คือประมุขนิกายพันใบไม้ร่วงและนิกายเจิ้นหวู่
หลังจากงานฉลองวันเกิดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
คนของนิกายอื่นล้วนกลับไปหมดสิ้น เหลือเพียงประมุขสองนิกายนี้
ประมุขนิกายพันใบไม้ร่วงมองหน้าฉู่เทียนเซิงและกล่าวอย่างไร้อารมณ์ว่า
“ประมุขฉู่
คำพูดที่ท่านกล่าวมานั้นช่างไร้สาระและไร้เหตุผลสิ้นดี"
"ข้าอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนนี้และได้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ข้าสามารถยืนยันได้ว่าจี้เทียนซิงหนักมือสังหารซื่อเหวินหยู"
"ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้เห็นร่างที่ไร้ลมหายใจของซื่อเหวินหยูด้วยตาตัวเอง
มันตกตายด้วยวิชาฝ่ามือของจี้เทียนซิงจริงๆ"
ประมุขนิกายเจิ้นหวู่พยักหน้าและกล่าวเสริมอย่างสะทกสะท้อนใจ
“ถูกต้อง
ข้าก็เห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาตนเองเช่นเดียวกัน
ข้ายังทราบอีกว่าท่านประมุขเกาดีต่อซื่อเหวินหยูแค่ไหน ท่านรักมันราวกับบุตรชายแท้ๆของตัวเอง"
"ดังนั้น
ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ประมุขเกาจะใส่ร้ายจี้เทียนซิงโดยใช้ชีวิตของซื่อเหวินหยูเป็นเดิมพัน
แผนการใช้หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิตเช่นนี้มันยากที่จะเชื่อและไร้สาระจนน่าขันเกินไป
ท่านประมุขฉู่ !”
ฉู่เทียนเซิงขมวดคิ้วสาดสายตาเย็นชาจ้องมองไปยังสามประมุข, กระบี่ฟ้า พันใบไม้ร่วงและเจิ้นหวู่ จากนั้นคนกลายเป็นนิ่งเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
มันพึมพำในใจว่า
"เทียนซิงบอกต่อข้าว่ามันไม่ได้มีเจตนาฆ่าซื่อเหวินหยู เด็กคนนี้รู้หนักเบา คงไม่ด่วนลงมือฆ่าคนกลางที่สาธารณะเช่นนี้แน่
นอกจากนี้มันยังใช้พลังเพียงเจ็ดส่วน ซึ่งย่อมไม่เพียงพอในการปลิดชีพอีกฝ่ายที่มีระดับพลังเหนือกว่า...”
"หลังจากการตายของซื่อเหวินหยู ผู้เฒ่าและผู้พิทักษ์เกราะดำของนิกายกระบี่ฟ้าก็รีบเข้ามาในห้องโถงทันที
คนเหล่านี้รอซุ่มอยู่รอบห้องก็แสดงว่าต้องมีการเตรียมพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า...."
ฉู่เทียนเซิงได้ทำการวิเคราะห์เหตุการณ์ก่อนหน้านี้และสรุปเอาเองว่านี่ต้องเป็นแผนการร้ายของนิกายกระบี่ฟ้า
นี่คือเหตุผลที่มันต้องยกกำลังบุกนิกายกระบี่ฟ้า
ไม่เพียงแค่ต้องการถามเรื่องราวจากปากเทียนเจี้ยนจงเป็นการส่วนตัว
แต่ยังเพื่อช่วยเอี๋ยนเอ๋อร์กลับไปอีกด้วย
ในเวลานี้เอง
เทียนเจี้ยนจงเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไปจึงตะโกนเสียงทุ้มออกมาว่า “ฉุ่เทียนเซิง
ข้อเท็จจริจทั้งหมดก็เป็นอย่างที่เจ้าได้ยิน ประมุขนิกายทั้งสองก็เป็นพยานบุคล
เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย ?!”
ฉู่เทียนเซิงยกศีรษะขึ้น
มองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาพลางตะโกนอย่างโกรธแค้นว่า “เกาอวี่ อย่าได้มาเล่นลวดลาย
เจ้าคิดจะล้มนิกายพันธมิสวรรค์จนถึงขั้นกล้าคบหากับพวกมารร้าย !"
"ต่อให้เจ้าคิดจะปิดบังเรื่องนี้แค่ไหนก็ตาม คิดหรือว่าจะพ้นสายตาของพวกข้าไปได้ ?!"
สิ้นคำ
ดวงตาของมันก็เหลือบมองไปที่เทียนจี้เจิ้นเหรินที่ยืนอยู่ข้างๆเทียนเจี้ยนจง
สีหน้าของมันเย็นชาไร้อารมณ์
มือลูบแส้หางม้าด้วยท่วงท่าราวกับนักพรตบำเพ็ญตน
ลักษณะล้ำลึกยาวจะคาดเดา
เทียนเจี้ยนจงชะงักไปวูบหนึ่งและเหล่าผู้เฒ่ารวมไปถึงผู้ดูแลหลายคนต่างก็หัวเราะเยาะ
"ฉู่เทียนเซิง ข้าว่าเจ้าเพ้อไปแล้วกระมัง ?!"
จากนั้นคำรามเสียงดังกล่าวต่อไปว่า
“เจ้านี่มันเพ้อเจ้อพูดจามั่วซั่วไปเรื่อย
คิดจะเลี่ยงความรับผิดชอบและบิดเบือนความจริงเพื่อปกป้องศิษย์ตัวเองด้วยวิธีการป้ายสีข้าคืนเช่นนี้น่ะหรือ
?"
“นิกายกระบี่ฟ้าของข้าเป็นนิกายชั้นสูงที่สืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปี
พวกเราต่างก็เกลียดชังพวกเผ่ามารที่โหดเหี้ยมดุร้ายมาโดยตลอด
เช่นนี้ข้าจะไปเกี่ยวข้องกับพวกมันได้อย่างไร ?!”
"ฉู่เทียนเซิง
! ก่อนนี้ข้าเคยเคารพเจ้าในฐานะผู้เยี่ยมยุทธ์ท่านหนึ่งที่น่านับถือ
แต่ข้าไม่คิดฝันเลยว่าแท้จริงแล้วเจ้ากลับเป็นพวกชั่วช้าสารเลว
เจ้าใส่ความข้าและหยามเกียรตินิกายกระบี่ฟ้าอย่างร้ายกาจ !”
"ข้าเกาอวี่ขอสาบานต่อสวรรค์
หากข้าและนิกายกระบี่ฟ้าสมรู้ร่วมคิดกับพวกมารร้าย ขอให้ห้าอัสนีลงทัณฑ์ ตายโดยไร้ที่กลบฝัง ! นิกายกระบี่ฟ้าพินาศล่มจม กลายเป็นฝุ่นผง !”
เสียงของเทียนเจี้ยนจงก้องกังวานแฝงไปด้วยความโกรธกริ้ว
คนตะโกนสาหัสสาบานอย่างโหดเหี้ยมในที่สาธารณะซึ่งการกระทำของมันนี้กระตุ้นเลือดลมของเหล่าผู้เฒ่าและสาวกทั้งหลาย
แม้แต่เหล่ายามหลายสิบคนก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
จ้องมองไปที่ฉู่เทียนเซิงและคนอื่นๆด้วยความไม่พอใจ
ประมุขนิกายพันใบไม้ร่วงและนิกายเจิ้นหวู่ต่างก็เชิดหน้ามองอีกฝ่ายด้วยท่าทางดูถูกพลางกล่าวว่า
"ประมุขฉู่ ก่อนนี้ข้ามองท่านผิดไปจริงๆ
ข้าไม่คิดเลยว่าที่แท้ท่านจะเป็นพวกน่ารังเกียจเยี่ยงนี้ !"
"เหอๆ
ท่านประมุขฉู่ผู้สูงส่ง เพื่อปกป้องความผิดบาปของลูกศิษย์ตัวเอง ถึงขนาดไม่ลังเลที่จะประดิษฐ์ถ้อยคำโกหกพกลมมาใส่ร้ายท่านประมุขเกา ช่างไร้ยางอายเสียจริงๆ !"
ผู้เฒ่าและลูกศิษย์ลูกหาของนิกายกระบี่ฟ้าล้วนแต่ด่าทอฉู่เทียนเซิงด้วยความโกรธแค้น
พวกมันสาปแช่งอีกฝ่ายว่าเป็นความอับอายของผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายธรรมะและเป็นพวกน่ารังเกียจ
ฉู่เทียนเซิงสองมือไพล่หลัง
คนยังคงมีสีหน้าสงบเยือกเย็นและไม่คิดเอ่ยปากตอบโต้ใดๆ
มันมองอย่างลึกซึ้งไปที่เทียนเจี้ยนจงอยู่นาน
จากนั้นรั้งสายตากลับไปมองเทียนจี้เจิ้นเหรินพลางกระซิบกับตัวเองว่า “ดูจากปฏิกิริยาของเกาอวี่แล้วดูเหมือนว่ามันจะยังมองไม่ออกถึงความลึกลับของบุคลข้างกายมัน..."
"เจ้านักพรตผู้นี้ปลอมแปลงได้ล้ำลึกมาก
หากมิใช่เพราะหยุนเหยาสัมผัสกลิ่นของพวกมารได้ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ยังมองไม่ออกว่ามันเป็นพวกมารแฝงตัวมา
!”
"เช่นนี้....
ดูเหมือนว่าเกาอวี่และนิกายกระบี่ฟ้าจะถูกพวกมารหลอกใช้อย่างแน่นอน
!"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved