ตัวตนสูงส่งระดับเจ้าก็มีวันนี้ด้วย
?
เมื่อได้คำพูดของฉู่เทียนเซิง
จี้เทียนซิงก็ตั้งสติและเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เขาเฉือนปลายนิ้วตนเองอย่างไม่ลังเลและรีดเค้นแก่นโลหิตออกมาให้ไหลซึมเข้าสู่ข่ายอาคม
แก่นโลหิตสีแดงสดหยดลงที่ด้านหน้าและกระจายไปตามร่องอาคมทันที
แสงสีที่สดใสเบื้องหน้ายังคงเปล่งประกายไปทั่วแท่นบูชาและดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
หัวใจของฉู่เทียนเซิงและเซี่ยงหวู่จี้บีบรัด
ดวงตาของพวกเขาจ้องมองไปที่ข่ายอาคมด้วยความหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นเกิด
ติ๋ง......
หยดเลือดหยดที่สองจากปลายนิ้วของจี้เทียนซิงยังคงหยดลงและกระจายออกไปตามแนวเส้นอาคม
แสงหลากสีที่ส่องสว่างในข่ายปราณ
ในที่สุดก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วยชั้นโลหิตบางๆ
พลังของแท่นบูชาทั้งหมดดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเลือดหยดที่สามไหลลงสู่เส้นอาคม
ข่ายปราณก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์
วูบ วูบ !
เส้นสายและรูปแบบของอาคมทั่วทั้งแท่นบูชาได้เร่งความเร็วขึ้น
พวกมันเริ่มมีการเชื่อมโยงกันและเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ลี้ลับ
พวกเขาทั้งสามสามารถรู้สึกได้อย่างชัดแจ้งว่าพลังของแท่นบูชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่กี่อึดใจพลังของมันก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหากเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ใช้เวลาเป็นชั่วโมง
!
“ปึง !....
ปึง
!”
ข่ายอาคมในแท่นบูชากำลังเร่งความเร็วและระเบิดออกด้วยพลังอันยิ่งใหญ่จนทำให้ทั่วทั้งแท่นบูชาต้องสั่นสะเทือน
รูปปั้นมังกรทั้งเก้าตัวที่อยู่รอบๆแท่นบูชาเริ่มสว่างไสวไปด้วยสีสันสดใสเปล่งปลั่ง
เมื่อเห็นฉากนี้
ฉู่เทียนเซิงและเซี่ยงหวู่จี้ก็ดวงตาเบิกกว้างพลางหันไปมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย
สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข
“วิเศษ
วิเศษมาก ! สายเลือดของจี้เทียนซิงใช้ได้ผล ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว !”
อาวุโสทั้งสองดีใจจนเนื้อเต้นในขณะที่มองไปยังรูปปั้นทั้งเก้าด้วยสายตาที่ร้อนระอุ
แม้กระทั่งจี้เทียนซิงก็รู้สึกอิ่มเอิบใจเช่นกัน
แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะผ่อนคลายและหยดแก่นโลหิตหยดที่สี่ต่อไป
การเปลี่ยนแปลงเริ่มมากขึ้นและเร็วขึ้น
ลำแสงเจิดจ้ากระพริบถี่ไปด้วยสีสันอันสดใสและควบแน่นกันจนก่อเกิดเป็นอักษรคำว่า [篆] (ผนึก)
และยังมีสัญลักษณ์อาคมจำนวนมาก
มังกรทั้งเก้าตัวที่อยู่รอบแท่นบูชาก็เริ่มเปล่งประกายแวววับมากขึ้นเรื่อยๆจนดูเหมือนจริงและน่าประทับใจอย่างยิ่ง
เมื่อเวลาผ่านไป
อาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจก็ค่อยๆเปิดใช้งานโดยสมบูรณ์
มันก่อให้เกิดแรงกดดันมหาศาลที่กดทับและสะกดข่มทุกสรรพสิ่ง
กลิ่นไอที่มองไม่เห็นแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งถ้ำอาคมและพลังของมหาข่ายปราณอันยิ่งใหญ่ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งถ้ำและผนึกกำลังเกื้อหนุนกันและกันอยู่ตลอดเวลา
โฮกกกกกกกกก
!!
ปีศาจไร้เทียมทานที่ถูกผนึกไว้อยู่ใต้มหาข่ายปราณเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังของอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจอีกครั้งมันรู้สึกสับสนเล็กน้อย
จากนั้นก็ส่งเสียงคำรามลั่นและต่อสู้ดิ้นรนอย่างดุเดือด
ใต้แท่นบูชาปรากฏหมอกควันสีดำทมิฬกลุ่มใหญ่และเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องครวญครางที่ดังระงม
ภายใต้มนต์เสียงที่แฝงไว้ด้วยขุมพลังมหาศาลนี้ทำให้จี้เทียนซิงตื่นตะลึงยกใหญ่จนหน้าซีดเผือด
สติของเขากระเจิดกระเจิงแทบจะสลบเหมือด
“ไม่ได้การแล้ว ท่านอาจารย์อา !”
ฉู่เทียนเซิงกล่าวกับเซี่ยงหวู่จี้และพยายามโคจรพลังปกป้องไม่ให้จี้เทียนซิงได้รับบาดเจ็บจากมนต์อาคมของปีศาจ
“ไอ้หนู อดทนไว้ถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดแล้ว !”
เซี่ยงหวู่จี้ส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายให้ประคองสติเอาไว้
ในที่สุดอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจก็เปิดใช้งานเต็มที่จนก่อให้เกิดบรรยากาศที่สะกดข่มทั่วทั้งผืนปฐพี
ตูม
!
รูปปั้นมังกรเก้าตัวเชื่อมโยงกับเก้าขุนเขาของนิกายพันธมิตรสวรรค์
ซึ่งอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจนี้ใช้พลังเกื้อหนุนจากยอดเขาทั้งเก้าลูกของนิกายพันธมิตรสวรรค์เพื่อสร้างมหาข่ายปราณไว้สะกดปีศาจไร้พ่าย
ดังนั้น
ตราบใดที่นิกายพันธมิตรสวรรค์ยังคงเจริญรุ่งเรืองและเส้นชีพจรวิญญาณบนภูเขาไม่ถูกทำลายจนแตกสลาย
อาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจก็จะสะกดปีศาจไร้พ่ายต่อไป
และในเวลานี้เอง
พลังแห่งสายเลือดกระบี่ลี้ลับของจี้เทียนซิงก็เชื่อมโยงไปถึงขุนเขาทั้งเก้าผ่านรูปปั้นเก้ามังกรและกระตุ้นการทำงานของมหาข่ายปราณโดยสมบูรณ์
วิ้ง
!
แท่นบูชาปลดปล่อยม่านแสงหลากสีที่พร่างพราว
แผ่ขยายออกไปทุกทิศทางรวมตัวกันเป็นข่ายปราณผนึกที่มีขนาดหนึ่งตารางกิโลเมตร
ทันทีที่ข่ายปราณผนึกนี้ก่อตัวขึ้น
อาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจก็ถือว่าได้จัดวางเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้ถูกผนึกไว้ในนี้ก็นับว่าจบสิ้นเช่นกัน !
ขณะเดียวกัน
ปีศาจไร้พ่ายที่ถูกผนึกไว้ในมหาข่ายปราณก็ยิ่งคลุ้มคลั่งโกรธแค้นมากขึ้น
ฟู่
ฟู่ ฟู่ !
หมอกมนต์ดำไร้สิ้นสุด
แผ่พุ่งออกมาจากใต้แท่นบูชาอย่างบ้าคลั่งและก่อตัวเป็นก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่ในถ้ำ
ผลกระทบจากพลังอำนาจที่เกรี้ยวกราดรุนแรงเหนือยุคสมัยได้ทำให้ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ครืน ! ครืน !....... ครืน !
เสียงสั่นสะเทือนยังคงแพร่กระจายจากพื้นดินโดยรอบและทำให้เกิดรอยปริแตกขนาดใหญ่ทั่วไปหมด
“…………… ! ”
ทันใดนั้น
เมื่อปีศาจไร้พ่ายสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้ร่ายอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจในยุคนี้
มันก็สงบลงทันที
เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธแค้นของมันก็หยุดลงเช่นกัน
ผืนดินและถ้ำที่สั่นสะเทือนเริ่มสงบลง
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความเงียบงันไปได้พักใหญ่ ปีศาจไร้พ่ายก็ระเบิดพลังที่แฝงไว้ด้วยมวลอารมณ์อันหลากหลายออกมา
มันมีทั้งเกรี้ยวกราด, ตกใจและโกรธแค้น
“%$$T#!
…… $%%$# ?!”
เสียงกระซิบจางๆในสายลมของเผ่าพันธุ์ปีศาจดังลอดออกมา
มันเป็นเสียงที่แหบพร่าและยากจะจับใจความ
อย่างไรก็ตาม
ความคับข้องใจ ความเกลียดชังและจิตสังหารที่แฝงมากับน้ำเสียงนั้น
จี้เทียนซิงได้ยินอย่างชัดแจ้งเต็มสองหู
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเสียงหวีดร้องของปีศาจไร้พ่ายนั้นพุ่งเป้ามาที่เขา
!
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจต่อมา
ม่านแสงหลากสีก็ห่อหุ้มทั่วทั้งถ้ำอาคมไว้อย่างสมบูรณ์และก่อตัวเป็นข่ายปราณผนึกครึ่งวงกลมคล้ายพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
มหาข่ายปราณนี้ยังได้รวมเอาพลังของเส้นชีพจรในขุนเขาทั้งเก้าเอาไว้
เพื่อสะกดปีศาจไร้พ่ายอย่างมั่นคงอีกด้วย
เวลาผ่านไป
ไม่มีเสียงและการเคลื่อนไหวใดๆจากปีศาจไร้พ่าย แม้แต่มนต์หมอกสีดำและกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกก็ไม่มีเล็ดลอดออกมาอีกเลย
ถ้ำอาคมสงบลงในที่สุด
เซี่ยงหวู่จี้แตกฉานหลายภาษา
เขาเข้าใจภาษาของเผ่าพันธุ์ปีศาจและรู้ว่าเสียงกระซิบแผ่วเบาครั้งสุดท้ายของปีศาจไร้พ่ายนั้นหมายถึงอะไร
รูม่านตาของเขาหดเล็กเท่าเข็มและสั่นระริกอย่างตกตะลึง
จากนั้นเขาก็หันไปมองจี้เทียนซิงด้วยความสงสัยครั้งใหญ่
จี้เทียนซิงถามด้วยสีหน้างุนงง
“ท่านประมุข, ผู้อาวุโสเซี่ยง
ปีศาจตนนั้นพูดอะไรออกมาหรือขอรับ ?”
ฉู่เทียนเซิงไม่รู้ภาษาของเผ่าปีศาจและหันไปมองเซี่ยงหวู่จี้ด้วยแววตาถามไถ่
เซี่ยงหวู่จี้สูดหายใจลึกและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“ปีศาจไร้พ่ายพูดออกมาไม่กี่คำ”
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า ? ตัวตนสูงส่งระดับเจ้าก็มีวันนี้ด้วย ?!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้
จี้เทียนซิงก็ขมวดคิ้วและสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ สัญชาตญาณบอกเขาว่าประโยคนี้ของปีศาจไร้พ่ายนั้นหมายถึงเขา
แต่ทว่า
เขาก็ไม่เข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า ‘อย่างเจ้าก็มีวันนี้ด้วย
?’ มันคืออะไรกันแน่ …. ?
ในเวลานี้เองฉู่เทียนเซิงก็เผยรอยยิ้มโล่งใจและกล่าวแทรกว่า
“ในที่สุดพวกเราก็ประสบความสำเร็จในการเปิดอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจและเสริมความแข็งแกร่งของมหาข่ายปราณของเก้าขุนเขาได้อีกด้วย
พวกเราชนะแล้ว สันติสุขจะเกิดขึ้นกับนิกายพันธมิตรสวรรค์ต่อไปอีกหนึ่งร้อยปี !”
“จี้เทียนซิง
ครั้งนี้เจ้าได้ทำคุณความดีที่ยิ่งใหญ่ต่อนิกาย
ข้าประมุขจะตบรางวัลเจ้าอย่างดีเลิศ !”
“เอาล่ะ กลับกันเถอะ ออกจากที่นี่กัน”
ฉู่เทียนเซิงเบิกบานและอารมณ์ดีอย่างที่สุด
หลังจากสอดส่องความเรียบร้อยแล้วเขาก็ฉุดลากจี้เทียนซิงลงจากแท่นบูชา
..............
ในเวลาเดียวกัน
เหนือท้องฟ้ายามค่ำคืนอันมืดมิดของนิกายพันธมิตรสวรรค์มีเงามายาของขุนเขาทั้งเก้าและมังกรยักษ์เก้าตัวปรากฏขึ้น
มายาเก้ามังกรส่องแสงสีสันอันสดใสและเปล่งประกายระยิบระยับเหนือเวหากินพื้นที่หลายร้อยไมล์ กลิ่นอายของมันราวกับสะกดไว้ทั้งฟ้าดิน
สานุศิษย์ของนิกายพันธมิตรสวรรค์ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยนิมิตแห่งสวรรค์นี้
สีหน้าของพวกมันเผยให้เห็นถึงความหวาดผวาและตื่นตะลึง
อีกสองนิกายใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนับพันไมล์จากนิกายพันธมิตรสวรรค์ก็ได้เห็นมายาเก้ามังกรเหนือท้องฟ้าด้วยเช่นกัน
พวกเขาตื่นตะลึงไปด้วยภาพโอ่อ่าตระการตาราวกับโลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ภายในถ้ำปีศาจ
องค์หญิงเสวี่ยเยวี่ยและมหาปุโรหิตที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ต่างก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้เห็นภาพเหนือท้องฟ้ายามค่ำคืน
ทั้งสองมองไปที่เงาร่างของมังกรเก้าตัวเหนือท้องฟ้า ใบหน้าของพวกมันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์
ดวงตาแดงฉาดไปด้วยโทสะและจิตสังหาร !
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved