ตอนที่ 221

สำเร็จหรือล้มเหลว

จี้เทียนซิงเข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงรากฐานก่อตั้งนับพันปีของนิกายพันธมิตรสวรรค์  มันสำคัญยิ่งกว่าเรื่องราวใดๆในนิกาย เขาย่อมไม่กล้าหละหลวมแม้แต่น้อย

ต่อมา

ฉู่เทียนเซิงก็โบกมือใช้ปราณบีบอัดเป็นคลื่นแสงขนาดเท่าไข่ฟองเล็กให้ปรากฏบนฝ่ามือของเขา

เขาเอื้อมมือไปอย่างช้าๆแล้วกดที่หน้าผากของจี้เทียนซิง

วิ้ง  !

กลุ่มแสงสีทองอันตระการตาพุ่งเข้ามาในจิตของเขาทันที  ทันใดนั้นจี้เทียนซิงก็รู้สึกได้ว่ามีข้อมูลมากมายนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาในสมองของของเขา

มันคือข้อมูลของข่ายปราณทั้งหมด

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าก้อนแสงสีทองที่ฉู่เทียนเซิงส่งผ่านมานั้นก็คือวิธีการเปิดใช้งานอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจนั่นเอง

มันเป็นมหาข่ายปราณระดับสวรรค์เช่นเดียวกับมหาข่ายปราณในสุสานพันปีใต้ภูเขามังกรที่ลึกลับซับซ้อนและมีขั้นตอนต่างๆมากมาย

หากฉู่เทียนเซิงเปลี่ยนเป็นอธิบายด้วยวาจา

จี้เทียนซิงมั่นใจว่าต่อให้อีกฝ่ายใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนอธิบาย

เขาก็ไม่มีวันเข้าใจ

แน่นอนว่ายอดฝีมือระดับปราณฟ้าอย่างฉู่เทียนเซิงย่อมมีวิธีการพิเศษในการส่งผ่านข้อมูลให้อีกฝ่ายโดยไม่ต้องพูด

จี้เทียนซิงรู้สึกปวดศีรษะไม่น้อยจากข้อมูลมหาศาลที่ถูกส่งมา

เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้

หลังจากอาการปวดศีรษะหายไป

เขาก็นั่งลงกับพื้นและปิดตาอย่างเงียบงันเพื่อซึมซับและเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเปิดใช้งานมหาข่ายปราณ

เวลาผ่านไป

ถ้ำอาคมก็ยังคงเย็นเยือก มืดมิดและเงียบงัน

ฉู่เทียนเซิงและเซี่ยงหวู่จี้ต่างก็ยืนรออารักขาอย่างเงียบๆด้วยความอดทน

หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง

เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ยามดึกสงัด

ในที่สุดแสงสีทองที่เปล่งประกายกลางหน้าผากของจี้เทียนซิงก็หายไป

ชายหนุ่มเรียนรู้กระบวนการทั้งหมดได้ในที่สุด

เขาลืมตาขึ้นและเห็นว่าฉู่เทียนเซิงกับเซี่ยงหวู่จี้กำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“จี้เทียนซิง เจ้าเรียนรู้ได้ทั้งหมดหรือไม่ ?”

จี้เทียนซิงพยักหน้าตอบว่า

“ท่านประมุขวางใจได้เลย ข้าเรียนรู้และจดจำกระบวนการทั้งหมดของมหาข่ายปราณนี้ได้แล้ว

พวกเราเริ่มลงมือได้ทุกเมื่อ”

ฉู่เทียนเซิงเผยสีหน้ายินดีและพยักหน้าพลางกล่าวว่า

“วิเศษ !”

เซี่ยงหวู่จี้อมยิ้มและกระซิบแผ่วเบากับฉู่เทียนเซิงว่า

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วนี่นาว่าพรสวรรค์โดยกำเนิดทางด้านข่ายอาคมของเจ้าหนูนี่ไม่ธรรมดา

ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าแล้วหรือยัง ?”

ฉู่เทียนเซิงพยักหน้าอย่างเงียบงันและเผยให้เห็นรอยยิ้ม

จี้เทียนซิงเห็นสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องของคนทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย

แต่ทว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการวางข่ายปราณใหม่อีกครั้ง

เขาไม่มีเวลาพอจะถาม

“จี้เทียนซิง

เจ้ามากับข้า” ฉู่เทียนเซิงเดินนำและมุ่งหน้าไปที่ด้านบนของแท่นบูชา

ส่วนจี้เทียนซิงก็ตามหลังมาติดๆ

เขาปีนขึ้นไปบนแผ่นหินกลมที่ด้านบนของแท่นบูชาและนั่งลงคุกเข่า

แผ่นหินนี้มีขนาดเท่าถังเก็บน้ำ

แต่มันคือแกนกลางของข่ายอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจ ซึ่งเต็มไปด้วยลวดลายอักขระอาคมที่สลับซับซ้อนและหนาแน่น

ฉู่เทียนเซิงและเซี่ยงหวู่จี้นั่งอยู่ข้างๆเขาทั้งซ้ายและขวาพร้อมกับโคจรพลังปราณไว้ที่ฝ่ามือกดไปที่หัวไหล่ของเขา

ทันใดนั้นจี้เทียนซิงก็สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าฝ่ามือของชายทั้งสองคนนี้เต็มไปด้วยพลังลมปราณมหาศาลที่ส่งผ่านเข้ามาจนทำให้เขาแทบจะกระอักเลือดตาย

“จี้เทียนซิง เจ้าเริ่มได้เลย”

เมื่อได้ยินเสียงของฉู่เทียนเซิง

จี้เทียนซิงก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านที่ทำให้เสียสมาธิออกไป

เขายกมือขึ้นอย่างหนักแน่นและทำท่าทางพิเศษ

วาดไปมาเป็นเส้นโค้งอันลี้ลับเพื่อร่ายมนต์อาคมออกมา

ในเวลาเดียวกันฝ่ามือของเซี่ยงหวู่จี้และฉู่เทียนเซิงที่ทาบอยู่ที่หัวไหล่ของเขาก็ถ่ายเทพลังปราณมหาศาลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะนั้นร่างกายของจี้เทียนซิงก็พองเป่งอย่างรุนแรงเหมือนบอลลูนที่พองตัว

พลังลมปราณของยอดฝีมือขอบเขตปราณฟ้าทั้งสองคนนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวและแทบจะทำให้เขาร่างระเบิดตาย

เขารีบสงบใจลงทันทีและโบกมือร่ายอาคมเพื่อเปลี่ยนพลังลมปราณมหาศาลสองสายนี้ให้เป็นลำแสงหลากสีสันที่พุ่งออกมา

“เปรี้ยง ! เปรี้ยง

!”

ลำแสงหลากสีสันสองสายถูกถ่ายเทลงไปบนข่ายปราณวงกลมและทำให้ข่ายปราณส่องแสงสว่างขึ้นในทันที

ข่ายปราณที่เคยเป็นสีน้ำตาลเข้มกลับกลายเป็นมีสีสันขึ้นทันตา  มันเปล่งแสงเจิดจ้าสว่างไสวอย่างงดงาม

เส้นสายอาคมที่หนาแน่นก็เริ่มเปล่งแสงของพลังปราณอันผันผวนออกมา

จี้เทียนซิงเห็นด้วยตาของตนเองว่า

หลังจากลำแสงพลังปราณหลากสีสันถูกถ่ายเทลงไปในข่ายปราณ

มันก็กระจัดกระจายไปตามเส้นสายอาคมเส้นแล้วเส้นเล่าและครอบคลุมทั่วทั้งแท่นบูชา

ดังนั้น

พื้นดินใต้แท่นบูชาจึงค่อยๆส่องสว่างนับตั้งแต่ด้านล่างสู่ด้านบนด้วยแสงที่เจิดจ้า

ฉู่เทียนเซิงและเซี่ยงหวู่จี้ก็ยังคงถ่ายเทพลังปราณอย่างต่อเนื่องจนทำให้ทั่วทั้งแท่นบูชาเกิดเป็นแสงบาดตาจนแทบมองไม่เห็น

ลวดลายและรูปแบบต่างๆของแท่นบูชาเริ่มมีสีสันสดใสและมีชีวิตชีวา

บรรยากาศอันน่าเกรงขามฟื้นคืนกลับมา

มันกระจายไปทั่วแท่นบูชาและปกคลุมไปทุกทิศทุกทาง

หลังจากเวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วยาม

แท่นบูชาทั้งหมดก็จุดสว่างอย่างสมบูรณ์แบบ

แรงกดดันมหาศาลที่ถูกขับออกจากแท่นบูชาเริ่มลามไปทั่วทั้งถ้ำอาคม

บรรยากาศสะกดข่มแผ่รัศมีไปทั่วทั้งจัตุรัส

นี่เป็นครั้งแรกที่จี้เทียนซิงได้เชื่อมต่อกับข่ายปราณระดับสวรรค์และรู้สึกถึงพลังอันน่าเกรงขามของแท่นบูชาได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกในการวางอาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจเท่านั้น

เขาไม่กล้ารีรอและโบกฝ่ามืออย่างรวดเร็วเพื่อร่ายอาคมต่อไป และระมัดระวังอย่างมากในการควบคุมพวกมันให้ไปรวมกันที่แท่นบูชา

กระบวนการนี้ช้าเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า

ยากลำบากและอันตรายมาก

มันไม่อาจผิดพลาดใดๆได้แม้แต่นิดเดียว !

เมื่อดำเนินการถึงขั้นตอนนี้แล้วหากเขาผิดพลาดขึ้นมา

มีทางเลือกสองทางก็คือยกเลิกการวางข่ายปราณทั้งหมด

หรือไม่ก็ฝืนต่อไปซึ่งอาจได้รับพลังตีกลับที่ทำให้เกิดความเสี่ยงถึงชีวิต

ดังนั้นเขาต้องละทิ้งทุกสิ่งที่รบกวนสมาธิออกไปให้หมด

และตั้งสมาธิไปที่การร่ายอาคมเท่านั้น

หลังจากเวลาที่เหลือ

ข่ายปราณที่อยู่ใต้เขาได้เปลี่ยนไป เส้นสายอาคมสองสามสายเริ่มหมุนและบิดตัว  สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามหาข่ายปราณที่อยู่ใต้แท่นบูชาเริ่มถูกกระตุ้นทีละน้อย

หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไป

ข่ายปราณเริ่มเกิดเส้นสายอาคมมากมายที่เริ่มมีการขยับตัวและเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ลึกลับขึ้น  ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม

เส้นสายอาคมเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นมากกว่าสิบสาย

แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม

...

รูปแบบของข่ายปราณเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

อาคมหลายแห่งในแท่นบูชาเริ่มค่อยๆขยับตัว

ฉู่เทียนเซิงและเซี่ยงหวู่ต่างก็เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้

แววตาของพวกมันทอประกายด้วยความยินดีปรีดาและเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เพราะเมื่อครั้งก่อนที่พาจี้หลิงเข้ามา มันไม่มีอาคมชุดใดขยับแม้แต่น้อย !

ความสามารถในการจัดวางอาคมของจี้เทียนซิงไม่เพียงทำให้พวกเขาไม่ผิดหวัง

แต่มันยังนำมาซึ่งรุ่งอรุณแห่งความหวังครั้งใหม่ในการเริ่มต้นวางมหาข่ายปราณเพื่อสะกดปีศาจอีกครั้ง

!

เวลาผ่านไปถึงสามชั่วยามโดยไม่รู้ตัว

ลาดลายและเส้นสายอาคมทั้งหมดเริ่มมีปฏิกิริยาขึ้น

ราวกับว่าพวกมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ทั่วทั้งแท่นบูชามิได้ให้ความรู้สึกเหี่ยวเฉาหดหู่ไร้ซึ่งประกายชีวิตอีกต่อไป

มันไม่เพียงส่องสว่างมีชีวิตชีวาแต่ข่ายอาคมทั้งเริ่มถูกเปิดใช้งานแล้ว

บรรยากาศอันงดงามตระการตาปรากฏให้เห็นทั่วทั้งแท่นบูชาราวกับว่าอยู่ในอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยหลอดไฟสว่างจ้า

ในเวลานี้เองฉู่เทียนเซิงก็กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“จี้เทียนซิง พวกเราใกล้จะประสบความสำเร็จมากแล้ว

!”

“เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย เจ้าต้องใช้แก่นโลหิตบีบอัดเข้าไปในข่ายอาคมและเริ่มร่ายมหาข่ายปราณด้วยสายเลือดกระบี่ลี้ลับ”

“อาคมเก้ามังกรผนึกปีศาจนั้นจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อรูปปั้นมังกรทั้งเก้าตัวส่องสว่าง

!”

“จะสำเร็จหรือล้มเหลว อยู่ที่ขั้นตอนนี้แล้ว !”