เอี๋ยนเอ๋อร์โบกมือด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่ปรากฏบนใบหน้าพลางกล่าวว่า
"ศิษย์พี่เทียนซิงท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร"
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับบาดเจ็บจี้เทียนซิงก็รู้สึกโล่งใจ
ในเวลานี้เองเสี่ยวไป๋ก็รีบพุ่งออกมาจากป่าและวิ่งไปหยุดอยู่ข้างหน้าเอี๋ยนเอ๋อร์
มันส่งเสียงคำรามหลายรอบพลางจ้องมองไปที่ป่าเบื้องหน้าอย่างระแวดระวัง
เมื่อเห็นการตอบสนองนี้เฉียนเยวี่ยจึงอธิบายกับทั้งสองอย่างรวดเร็วว่า
"เสี่ยวไป๋อยากจะบอกว่าในป่านี้มีอันตราย ให้พวกเจ้าอยู่ให้ห่างๆ”
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วพลางหันไปมองดูป่าข้างหน้าและสังเกตด้วยสายตาแหลมคม
ก่อนหน้านี้เฉียนเยวี่ยเคยพาเขาบินบนท้องฟ้าผ่านจุดนี้ซึ่งก็ปกติดี
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวไป๋และเอี๋ยนเอ๋อร์ถึงได้ถูกกระแทกอย่างกระทันหันเช่นนี้
เมื่อมาถึงจุดนี้เขาจ้องมองไปที่ป่าอยู่ครู่หนึ่งและพบเบาะแสบางอย่าง
"มันแปลกมาก ราวกับมีการวางข่ายปราณเอาไว้ !"
จี้เทียนซิงพึมพำและเดินไปที่ป่า
เฉียนเยวี่ย, เอี๋ยนเอ๋อร์และเสี่ยวไป๋รีบตามมาอย่างรวดเร็วและมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
จี้เทียนซิงเข้าสู่ป่าและหยุดอยู่ระหว่างต้นไม้สูงสองต้น
เมื่อตอนที่เสี่ยวไป๋และเอี๋ยนเอ๋อร์ถูกกระแทกจนกระเด็นก็เริ่มที่จุดนี้
ต้นไม้ใหญ่สองต้นว่างเปล่าและไม่มีอะไรผิดปกติ
อย่างไรก็ตามสีหน้าของจี้เทียนซิงกลายเป็นเคร่งขรึม
คนเหยียดฝ่ามือและโคจรพลังลมปราณออกมา
พลังปราณสีทองอันน่าตื่นตาระเบิดขึ้นในอากาศและหายไปอย่างแปลกประหลาด
จี้เทียนซิงโบกฝ่ามือไปมาอย่างต่อเนื่องด้วยมือทั้งสองข้างและสีหน้าของเขาก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
ประมาณครึ่งชั่วยามต่อมา กำแพงลำแสงเปี่ยมด้วยสีสันกว้างประมาณห้าเมตรและสูงสามเมตรก็ค่อยๆปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือกำแพงที่ก่อตัวขึ้นจากข่ายอาคม
กำแพงแสงหลากสีสันนี้เต็มไปด้วยพลังที่ผันผวน
มันซ้อนทับกันอย่างหนาแน่นและเปล่งคลื่นพลังออกมาเป็นระลอก
“เป็นข่ายปราณจริงๆ ! อีกทั้งวิธีจัดวางก็ยังดูเหมือนจะอยู่ในระดับสูงมาก
!”
เอี๋ยนเอ๋อร์เห็นเบาะแสในที่สุด
สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความงุนงงและประหลาดใจ
จี้เทียนซิงพยักหน้าและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
"ถูกแล้ว ข่ายปราณนี้ดูเหมือนง่าย เป็นเพียงแค่กำแพงลำแสง
แต่แท้จริงแล้วมันคือข่ายปราณระดับสวรรค์ ! ยิ่งไปกว่านั้น
ดูจากการก่อตัวของมันก็เพิ่งใช้เวลาไม่นาน อาจจะแค่สองสามวันเท่านั้นเอง"
"ข่ายปราณระดับสวรรค์ ?” เอี๋ยนเอ๋อร์ตกใจยิ่งขึ้นและถามอย่างไม่อยากเชื่อว่า
“สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากนิกายพันธมิตรสวรรค์เพียงร้อยไมล์
ใครกันที่มาวางข่ายปราณระดับสวรรค์ไว้ที่นี่ ?"
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วและจ้องมองการก่อตัวของมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวด้วยเสียงลุ่มลึกว่า
“ไม่ต้องห่วง
ข้าจะถอดรหัสและทำลายมัน ถึงตอนนั้นเราจะรู้คำตอบเอง"
"เอ๋ ?"
เอี๋ยนเอ๋อร์อุทานด้วยความประหลาดใจ เขาเบิกตากว้างมองอีกฝ่ายอย่างเหลือเชื่อว่า “ศิษย์พี่เทียนซิง
ท่านสามารถถอดรหัสข่ายปราณระดับสวรรค์ได้ด้วยหรือ ? แต่ข้าได้ยินมาว่ามีเพียงแค่ยอดฝีมือในขอบเขตปราณฟ้าขึ้นไปเท่านั้นจึงจะสามารถ...."
จี้เทียนซิงลูบหัวเอี๋ยนเอ๋อร์และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“ข่ายปราณระดับสวรรค์แบ่งออกเป็นสี่ระดับ
สูงสุด สูง กลาง ต่ำ ซึ่งความยากง่ายในการจัดวางหรือถอดรหัสพวกมันก็จะแตกต่างกันไป"
ข่ายปราณที่พวกเราเห็นนี้เป็นเพียงข่ายปราณสวรรค์ระดับต่ำจนแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตปราณโอสถก็สามารถทำลายมันได้"
“ซึ่งข้าก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์นี้เช่นกัน
ข้าจะลองทำลายมันดู"
เอี๋ยนเอ๋อร์ส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจ
ดวงตาของเขากระพริบด้วยความอิจฉาและเคารพเทิดทูน “ฮ้า.. ? ศิษย์พี่เทียนซิง
ท่านก็ยังดูเยาว์วัยนัก ที่แท้เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้”
จี้เทียนซิงเพียงแย้มยิ้มและไม่พูดอะไรต่อไป
จากนั้นก็เริ่มทำลายข่ายปราณตรงหน้าด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมด
ใบหน้าของเขาสงบนิ่งราวกับผิวน้ำ ดวงตาจ้องลึกเข้าไปในกำแพงแสงหลากสี
วาดฝ่ามือพลังปราณสีทองออกมาอย่างต่อเนื่องและถ่ายเทเข้าไปยังกำแพงข่ายปราณเบื้องหน้า
ภายในดวงตาของเขามองเห็นเป็นเส้นสายของสีสันมากมายรวมไปถึงการก่อตัวของข่ายปราณ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภายในภูเขาเต็มไปด้วยความเงียบ
เอี๋ยนเอ๋อร์จ้องมองจี้เทียนซิงอย่างตั้งอกตั้งใจ
ส่วนเฉียนเยวี่ยและเสี่ยวไป๋ก็กวาดสายตามองไปรอบๆและส่งเสียงพูดคุยกันอยู่สองตัว
สองชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จี้เทียนซิงยังคงพยายามทำลายการก่อตัวของข่ายปราณ
กระบวนการนี้สูบกลืนพลังลมปราณไปมากมายจนทำให้เขารู้สึกอ่อนล้าจนเหงื่อผุดซึมที่หน้าผาก
หลังจากทั้งหมด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงมือทำลายการก่อตัวของข่ายปราณระดับสวรรค์ด้วยตนเอง
เขาอดไม่ได้ที่จะขบคิดในใจว่า “ถึงจะเป็นระดับต่ำสุดแต่มันก็สมแล้วที่เป็นข่ายปราณระดับสวรรค์
กว่าข้าจะทำลายมันได้ก็ต้องใช้พลังทั้งหมดแถมยังใช้เวลามากกว่าสองชั่วยาม”
“ส่วนมหาข่ายปราณระดับสวรรค์ที่อยู่ในสุสานโบราณภูเขามังกรนั้นมีการจัดวางที่ยอดเยี่ยมกว่านี้หลายเท่า
ดูเหมือนว่าต้องรอจนกว่าข้าจะมีพลังถึงระดับปราณโอสถจึงจะมีหวัง !"
………..
จากนั้นเวลาผ่านไปอีกไม่นานข่ายปราณก็เริ่มปริแตก
กำแพงลำแสงหลากสีเริ่มบิดเบี้ยวและยุบอย่างรวดเร็ว
ชิ้นส่วนจำนวนมากถูกรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นประตูลำแสงหลากสีรูปทรงไข่
นี่คือประตูวาร์ปเข้าไปข้างใน
จี้เทียนซิงกวาดตาสำรวจเบื้องหน้าเล็กน้อยและขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า
"เมื่อมองไปยังเส้นทางเดินภายในข่ายปราณนี้ ดูเหมือนจะนำไปสู่ประตูหลัก"
"แปลกมาก
ใครกันแน่ที่ยอมเสียเวลามากมายเพื่อสร้างข่ายปราณระดับสวรรค์และอาคมเคลื่อนย้าย ?"
เขาตระหนักได้ว่าด้านหลังข่ายปราณนี้มีเรื่องแปลกๆซ่อนอยู่
เอี๋ยนเอ๋อร์ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเช่นกันและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
"ศิษย์พี่เทียนซิงนี่มันแปลกๆนะ
ท่านว่าพวกเราควรจะเข้าไปดูกันหน่อยไหม ?"
จี้เทียนซิงพยักหน้าโดยไม่ลังเลและเห็นด้วย
ทั้งสองเริ่มก้าวเท้าข้ามประตูวาร์ปทีละคนและเข้าไปในอาคมเคลื่อนย้าย
ส่วนเฉียนเยวี่ยและเสี่ยวไป๋ก็ตามหลังมาติดๆ
ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายช่องนั้นประกอบไปด้วยผนังกำแพงแสงหลากสีและมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ
อย่างไรก็ตามมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันลึกลับและดูเหมือนทางออกจะอยู่ห่างออกไปเพียงร้อยก้าวเท่านั้น
จี้เทียนซิงกับเอี๋ยนเอ๋อร์เดินไปตามทางจนสุดทางและพบทางออกในที่สุด
"ฟุ่บ !"
ทั้งสองพาเฉียนเยวี่ยและเสี่ยวไป๋ข้ามประตูวาร์ปจนมาถึงถ้ำว่างเปล่าที่ไหนสักแห่ง
ถ้ำขนาดใหญ่แห่งนี้มีรัศมีกว่า 1,000 เมตร
ส่วนบนสุดของถ้ำและกำแพงหินโดยรอบนั้นฝังไว้ด้วยอัญมณีสีสันสดใส
อัญมณีนับพันไม่เพียงแค่ส่องประกายแวววาว แต่มันยังเปล่งคลื่นพลังอันรุนแรงออกมา
ทั่วทั้งถ้ำเต็มไปด้วยพลังงานและมีแสงสว่างมาก
จี้เทียนซิงกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ
จนกระทั่งเขาได้เห็นข่ายอาคมเล็กๆที่อยู่ตรงกลางถ้ำ
มันเป็นแท่นบูชาทรงกลมที่กินรัศมีราวๆ 100 เมตรเต็มไปด้วยเส้นสายอาคมจารึกสลักเอาไว้มากมาย
ประดับประดาไว้ด้วยหินวิญญาณและอัญมณีจำนวนมาก
รอบแท่นบูชาวงกลมมีเสามังกรทองคำเก้าเสาตั้งอยู่
เสามังกรแต่ละเสามีขนาดใหญ่และดูน่าเกรงขามมาก
มันหนากว่าแปดเมตรและสูงกว่าร้อยเมตร
นอกจากนี้ที่เสายังถูกจารึกไว้ด้วยรูปฟันมังกรทองคำ
จี้เทียนซิงสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเสามังกรแต่ละต้นนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายกดทับอันรุนแรงราวกับขุนเขาลูกใหญ่
เพียงกวาดสายตามองวูบเดียวเขาก็รับรู้ได้ว่าเสามังกรยักษ์ทั้งเก้าต้นนั้นประกอบขึ้นเป็นข่ายอาคมอันยอดเยี่ยมประเภทหนึ่ง
!
ทันใดนั้นเอง หางตาของเขาเหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่บนแท่นบูชา
มันคือชายแก่คิ้วขาวในชุดเสื้อคลุมสีเหลือง
ผิวเข้ม ร่างเตี้ยและมีเคราแพะ !
คนผู้นั้นกำลังก้มศีรษะลงและเฝ้าดูการก่อตัวของแท่นบูชาอย่างระมัดระวัง
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved