ตอนที่ 261

ชัยชนะอันท่วมท้น

จี้เทียนซิง

หยุนเหยา เฟิงหมินและคนอื่นๆรวมตัวอยู่ปากทางเข้าถ้ำปีศาจ ทุกคนหันไปมองหน้ากันและสำรวจสมาชิกทั้งหมดก็พบว่าต่างก็ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก

“ข้าไม่รู้ว่าสมาชิกอีกสี่ทีมที่เหลือจะทำงานลุล่วงหรือไม่”

“นี่เป็นโอกาสที่ดีแล้ว

วันนี้พวกเราควรร่วมมือกันสังหารมหาปุโรหิตและนังปีศาจ!”

“ตามพวกมันไปเถอะ อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ !”

ฮ่าวเมิ่ง

เฟิงหมินและอู่อวี้ได้พูดคุยกัน ทุกคนกระตือรือร้นที่จะเข้าไปในถ้ำปีศาจเพื่อไล่ตามมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้

ในเวลานี้เอง

ป่าที่ว่างเปล่าห่างไปนับกิโลก็ได้ยินเสียงหวีดของลูกศรที่พุ่งขึ้นฟ้า

ทุกคนหันหัวไปมองบนท้องฟ้าและได้เห็นลูกศรสัญญาณ

ทั้งหมดต่างเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุข

“วิเศษ !”

“พวกเขาทำภารกิจเสร็จสิ้น

ขัดขวางพวกปีศาจไม่ให้ออกจากถ้ำได้สำเร็จ !”

“ทั้งสี่ทีมต่างออกจากถ้ำปีศาจมาแล้ว

พวกเขาคงกำลังกลับไปยังจุดนัดพบ”

เฟิงหมินและอู่อวี้และคนอื่นๆต่างแสดงสีหน้ายินดี

หยุนเหยาขมวดคิ้วและครุ่นคิดเรื่องนี้พลางกล่าวว่า

“อย่าเพิ่งรีบร้อนไล่ตามมหาปุโรหิตกับเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้

ไปสมทบกับเหล่าศิษย์ที่เหลือก่อน

พวกเราจะได้ทราบถึงสถานการณ์การต่อสู้ภายในถ้ำปีศาจ”

ทุกคนไม่มีการคัดค้าน

ดังนั้นทั้งหมดจึงตามนางเข้าไปในป่าเพื่อไปรวมกลุ่มกันที่จุดนัดพบ

............

หลังจากนั้นไม่นานจี้เทียนซิงและทุกคนก็มาถึงมั่นเปิดโล่งที่เชิงเขา

มีศิษย์สี่คนกำลังรออยู่

เมื่อพวกเขาได้เห็นกลุ่มของหยุนเหยามาถึงก็รีบเข้ามารายงานสถานการณ์

“ศิษย์พี่หยุนเหยา พวกเราทำภารกิจเรียบร้อยและถอนตัวออกมาสำเร็จแล้ว

!”

“พวกเราได้ทำลายล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจที่กบดานอยู่ภายในถ้ำ ถึงแม้ว่าจะมีปลาเล็ดรอดไปได้หลายตัว

แต่พวกมันเหล่านั้นไม่ปางตายก็พิการ"

เมื่อได้ยินข่าวจากศิษย์ทั้งสอง

จี้เทียนซิง ฮ่าวเมิ่งและคนอื่นๆก็รู้สึกคึกคักขึ้นอักโขและเต็มไปด้วยความยินดี

อย่างไรก็ตาม

ตัวแทนทั้งสองยังรายงานต่อไปว่า “ศิษย์พี่ใหญ่

พวกเราต่อสู้นองเลือดกับพวกมันและสังหารปีศาจไปร่วมร้อย แต่ทว่า พวกเราก็มีบางส่วนตกตายไปเช่นกัน...

อีกทั้งยังมีหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสเอาการ”

“มีศิษย์พี่ศิษย์น้องหกคนที่สละชีวิตไว้ที่นี่

พวกเรานำร่างของพวกเขาออกมาแล้ว”

จี้เทียนซิง

หยุนเหยาและคนอื่นๆมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

พวกเขาหันไปมองและเห็นศิษย์มากกว่าสามสิบคนที่รอดชีวิตล้วนเต็มไปด้วยคราบเลือดเกาะติดเต็มไปหมด

เสื้อคลุมสีขาวของผู้คนจำนวนมากขาดแหว่งและถูกย้อมไปด้วยสีแดงเข้มจากโลหิต

แทบทุกคนมีอาการบาดเจ็บมากน้อยต่างกันออกไป

บางคนบาดเจ็บภายในจนต้องนั่งโคจรพลังปราณ บางคนหนักหนาสาหัสถึงขั้นเสียแขนขา

ในทุ่งหญ้าด้านหลังเหล่าศิษย์ที่รอดชีวิตมีร่างเย็นหกร่างนอนอยู่ข้างๆกัน

พวกเขาก็คือผู้เสียสละในภารกิจครั้งนี้

หกคนที่เสียชีวิตไป

หนึ่งคนเป็นศิษย์ของนิกายพันธมิตรสวรรค์

หนึ่งคนของนิกายฤทัยจันทราและสำนักหลิวเหอกับนิกายตันติงอีกฝ่ายละสองคน

เมื่อเห็นฉากนี้อารมณ์ของหยุนเหยาและจี้เทียนซิงก็เริ่มหนักอึ้งขึ้น

ความอิ่มเอิบยินดีลดทอนไปหลายส่วน

อย่างไรก็ตาม

ศิษย์จากทั้งสี่กลุ่มได้ทำลายล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจไปมากกว่าร้อยตนและมีการบาดเจ็บล้มตายเพียงเท่านี้ก็นับว่าเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่แท้จริง

!

เมื่อหยุนเหยาเห็นว่ามีหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

นางก็กล่าวขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลาย

ขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของทุกท่าน ตอนนี้พวกเราหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงไม่อาจเสียเวลาอยู่ที่นี่ได้

พวกท่านรีบกลับไปที่จุดนัดพบบนยอดเขาเพื่อจัดการรักษาบาดแผลโดยเร็วที่สุดเป็นอันดับแรก

ส่วนที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของพวกเราห้าคนเอง”

ผู้นำศิษย์ทั้งสองกำหมัดคารวะให้หยุนเหยา

จากนั้นก็ปฏิบัติตามคำสั่งของนางและจากไปพร้อมกับศิษย์มากกว่า 30 คนอย่างรวดเร็ว

ผู้คนช่วยกันหอบร่างไร้วิญญาณของศิษย์ที่สละชีวิตทั้งหกคนข้ามภูเขาสองลูกไป

เพื่อกลับไปยังยอดเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งเป็นจุดนัดพบ

หลังจากพวกเขาจากไปหมดแล้ว

หยุนเหยา จี้เทียนซิงและคนอื่นๆก็รีบมุ่งหน้าไปที่ปากถ้ำปีศาจเพื่อไล่ตามมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้

หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไป

ทุกคนก็เดินผ่านทางคดเคี้ยวและเข้าไปจนถึงถ้ำเปิดโล่งที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยความมืด

ทุกคนกระชับอาวุธไว้มั่นและเดินด้วยความระมัดระวังทุกฝีก้าว

ดวงตากวาดมองไปรอบๆเพื่อหาร่องรอยของมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้

ภายในถ้ำเต็มไปด้วยคราบเลือดและแอ่งเลือดมากมาย

อีกทั้งยังมีศพของเผ่าปีศาจหลายที่ทอดร่างเป็นศพอยู่บนพื้น

จี้เทียนซิงนับในใจอย่างคร่าวๆก็พบว่าเฉพาะภายในถ้ำก็มีศพของเผ่าปีศาจถึง

80 ตน

อย่างไรก็ตาม

ทุกคนเดินหารอบถ้ำแล้วกลับไม่พบแม้แต่เงาของมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้

หยุนเหยาขมวดคิ้วและมองดูประตูหินรอบๆถ้ำพลางกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า

“ฐานทัพของพวกมันลึกลับซับซ้อน มีประตูหินหลายบาน

มีทางเดินคดเคี้ยว มีห้องลับอีกมากมายที่อยู่ด้านหลังประตู”

“พวกเราแบ่งออกเป็นสองทีมเพื่อค้นหาก็แล้วกัน

เมื่อพบร่องรอยของผู้นำทั้งสองของพวกมันก็รีบส่งสัญญาณให้กันทันที”

ทุกคนพยักหน้ารับและแยกออกเป็นสองทีมเพื่อทำการค้นหา

หยุนเหยาเฟิงหมินอยู่ทีมเดียวกัน  ส่วนอีกทีมก็คือจี้เทียนซิง

ฮ่าวเมิ่งและอู่อวี้

ทุกคนเปิดประตูหินรอบๆถ้ำเข้าไปในทางเดินด้านหลังประตูและค้นตามห้องลับทีละห้อง

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม

พวกเขาก็ช่วยกันค้นหาห้องลับหลังประตูอย่างระมัดระวังจนหมดสิ้น

พวกเขากลับไปรวมตัวกันที่ถ้ำเปิดโล่งตรงกลางเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

ฮ่าวเมิ่งเอ่ยปากขึ้นกับทุกคนว่า

“ประตูหินสองประตูทางซ้ายทีมของข้าได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว

ไม่พบร่องรอยของมหาปุโรหิตและนังปีศาจแม้แต่น้อย มีเพียงเผ่าปีศาจไม่กี่ตนที่เล็ดรอดไปซ่อนตัว

พวกเราจัดการหมดเรียบร้อย”

เฟิงหมินกล่าวต่อไปว่า

“พวกข้าตรวจดูฝั่งขวาก็ไม่พบร่องรอยของพวกมันเช่นกัน”

หยุนเหยาขมวดคิ้วเรียวงามขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่ประตูหินใหญ่สุดที่อยู่เบื้องหน้าพลางกล่าวว่า

“เหลือเพียงประตูนี้เท่านั้นที่พวกเรายังมิได้ตรวจสอบดู”

“หากข้าจำไม่ผิด มีเพียงมหาปุโรหิตและนังปีศาจเท่านั้นที่สามารถเข้าออกประตูใหญ่บานนี้ได้

ดังนั้นมันสมควรเป็นความลับของถ้ำปีศาจนี้”

กล่าวจบนางก็นำทุกคนไปที่ด้านหน้าของประตูหินที่ใหญ่ที่สุด

ประตูหินบานนี้ปิดสนิทไว้อย่างแน่นหนาด้วยริ้วลำแสงสีแดงเข้ม

กรอบประตูนั้นจารึกไว้ด้วยเส้นสายและสัญลักษณ์ของข่ายอาคม

เห็นได้ชัดว่ามันถูกปกป้องไว้ด้วยข่ายอาคมอย่างชัดเจน

หยุนเหยา

เฟิงหมิน อู่อวี้เข้ามาช่วยเสริมแรงและใช้เวลาพอสมควรกว่าจะทำลายข่ายอาคมป้องกันที่ประตูนี้ได้

หลังจากเปิดประตูหินเข้าไป

ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายกันตรวจค้นทีละห้องอย่างระแวดระวัง

ในไม่ช้าก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม

พวกเขาทั้งห้าแยกย้ายกันค้นหาทั้งหกห้องที่อยู่หลังประตูบานใหญ่

อีกทั้งค้นหาในห้องลับย่อยๆอีกด้วย

แต่ทว่าก็ยังไม่พบร่องรอยของมหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้

ในที่สุดทุกคนก็มารวมกันที่หน้าประตูห้องลับสุดท้ายที่อยู่เบื้องหน้าหยุนเหยา

ห้องลับนี้มีขนาดใหญ่กว่าทุกห้องที่ผ่านมา

มันราวกับห้องสังเวยหรือห้องบูชา

กลางห้องมีแท่นบูชาและสระโลหิตขนาดใหญ่

มีรูปปั้นปีศาจอยู่กลางสระซึ่งดูน่าเกลียดน่ากลัวเป็นอย่างมาก

รอบๆห้องมีโต๊ะหิน

เก้าอี้และตู้เก็บของ ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้อยู่รอบกำแพง

อย่างไรก็ตาม

มหาปุโรหิตและเสวี่ยเยวี่ยจวินจู้ก็มิได้อยู่ในห้องลับนี้เช่นกัน

ทุกคนค้นหาทุกซอกทุกมุมของห้องลับ

และแม้แต่ค้นหาในสระโลหิตก็ยังไม่พบเบาะแสใดๆ