ท้าทายองค์ราชา
เมื่อเสียงต่ำของเจี้ยนหวู่เซิงแผ่กระจายออกไปทั่วจัตุรัส สายตาทุกคู่ก็รั้งรวมไปอยู่ที่ร่างขององค์ชายจี้หลิง
ดูเหมือนว่าองค์ชายจี้หลิงก็คาดเดาออกแต่แรกแล้วเช่นกันว่าเจี้ยนหวู่เซิงจะท้าทายตนเอง ซึ่งสีหน้าท่าทางของเขาก็ยังเป็นปกติ
เขาก้าวขึ้นไปที่ลานประลองและยืนห่างจากเจี้ยนหวู่เซิง
10 เมตร มุมปากของเขายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
“เจี้ยนหวู่เซิง การจัดอันดับของท่านผู้ดูแลนั้นเป็นผลลัพธ์สุดท้าย
ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่เจ้าก็ไม่ใช่คู่มือของราชาผู้นี้แน่นอน !”
จี้หลิงจ้องมองอีกฝ่ายพลางกล่าวด้วยเสียงนุ่มลึก
น้ำเสียงของเขาเหมือนเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง
ใบหน้าของเจี้ยนหวู่เซิงดูมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆแต่ดวงตาของมันกลับเต็มไปด้วยความคิดต่อสู้อันรุนแรง
มันตะโกนตอบกลับว่า
“องค์ชาย
ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าผู้ใดเป็นอันดับหนึ่ง
ท่านต้องลองสู้กับข้าดูก่อนถึงจะทราบ”
“ข้าน้อยล่วงเกินแล้ว รับกระบวนท่า !”
สุดท้ายมันก็ชักกระบี่ออกมาแล้วทะยานไปหาจี้หลิง
ท่าร่างของมันนับว่ารวดเร็วมากจนเกิดภาพติดตาอยู่ด้านหลัง
“เช้ง !”
มันชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วและดุดันจนผู้ชมนับหมื่นต่างก็ตกใจ บางคนก็กลั้นหายใจและรู้สึกกดดันแทนองค์ชายจี้หลิง
ลำแสงกระบี่ที่แหลมคมและไร้คู่เปรียบ
เปล่งประกายราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาฉีกชั้นบรรยากาศยามราตรี
อัจฉริยะหลายคนหน้าถอดสีและสำนึกตัวว่าไม่อาจหยุดเพลงกระบี่นี้ของเจี้ยนหวู่เซิงได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม
จี้หลิงสีหน้าไม่เปลี่ยน ยังคงสงบเยือกเย็นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
“เพลงกระบี่เพลิงทรราชย์ !”
จี้หลิงชักกระบี่พลางคำรามกึกก้องและกวาดกระบี่วาดเป็นลำแสงกระบี่รูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
ลำแสงกระบี่สีแดงที่เขาร่ายรำออกมาลุกเป็นไฟ
มันหมุนตัวเป็นคลื่นความร้อนในวงแหวนและหอบพัดสายลม
"ปัง!"
รังสีกระบี่สองสายปะทะกันและระเบิดออกเป็นเสียงดัง
วิชากระบี่ของเจี้ยนหวู่เซิงถูกทำลายโดยวิชากระบี่ของจี้หลิงและทำให้มันต้องถูกกระแทกถอยรูดไปถึง
5 ก้าว
“ฟาดฟันสามคลื่นเพลิง !”
จี้หลิงแค่นเสียงและซัดรังสีกระบี่เพลิงออกไปอีกสามสายทันที
เจี้ยนหวู่เซิงถูกล้อมรอบไปด้วยเปลวไฟที่ร้อนแรงและไร้ที่หลบซ่อน
มันทำได้เพียงวาดกระบี่ต้านรับอย่างยากลำบากเท่านั้น
ในใจของมันตกตะลึงและแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อออกมา
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง !”
กระบี่ของชายหนุ่มทั้งสองปะทะกันอีกครั้งและเจี้ยนหวู่เซิงก็ถูกกระแทกถอยไปอีกหกก้าว
ต่อมาจี้หลิงก็เปิดการโจมตีต่อเนื่องอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
จนทำให้เจี้ยนหวู่เซิงตกอยู่ท่ามกลางพายุกระบี่
จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนในจัตุรัสที่ได้เห็นจี้หลิงสะกดข่มเจี้ยนหวู่เซิงไว้ได้โดยสิ้นเชิงต่างก็ส่งเสียงอุทานอย่างไม่น่าเชื่อออกมา
ทุกคนเข้าใจแล้วว่าองค์ชายน้อยเก็บซ่อนพลังฝีมือมาโดยตลอด
จนบัดนี้พระองค์เพิ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริง !
การประลองครั้งนี้เป็นการสัประยุทธ์ที่น่าตื่นตะลึงและน่าทึ่งที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มประลองมา
ทั้งจี้หลิงและเจี้ยนหวู่เซิงต่างก็มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
การต่อสู้อันดุเดือดของพวกเขาทั้งสองโอบล้อมไปทั่วเวที
เงาร่างของทั้งคู่กระพริบไหวซ้ายทีขวาทีอย่างพร่ามัวจนแทบไม่อาจจับตามองได้ทัน
ผู้ชมนับหมื่นคนต่างก็จดจ้องมองการต่อสู้อันแพรวพราวด้วยความตื่นเต้น
ในไม่ช้า
เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ
องค์ชายจี้หลิงยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังลมปราณและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วป่าเถื่อน
โดยไร้ซึ่งอาการบาดเจ็บใดๆ
ส่วนเจี้ยนหวู่เซิงรับกระบี่ไปเต็มๆ
5 แผล กลางหลัง หน้าอก แขน และต้นขา
โดยมีแผลกระบี่ลึกถึงกระดูกจนโลหิตไหลชุ่มโชก
เขาเป็นดั่งลูกศรที่พุ่งไปสุดหล้า
และทำได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไร้ทางเลือก
“องค์ชายน้อย ข้ายอมรับว่าสู้ท่านไม่ได้
ข้าขอยอมแพ้ !”
เมื่อได้ยินเจี้ยนหวู่เซิงประกาศยอมแพ้
จี้หลิงก็สอดกระบี่คืนฝักและเผยรอยยิ้มอย่างสง่างาม
ในที่สุดทุกคนในจตุรัสก็ได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงขององค์ชายจี้หลิงและเชื่อในสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้
การจัดอันดับพลังยุทธ์เป็นการจัดอันดับโดยคนของนิกายหนุนสวรรค์ซึ่งไม่ผิดพลาดและเที่ยงตรง
เมื่อเจี้ยนหวู่เซิงยอมแพ้และลงจากเวที ฮั่นเฉียวเซิงก็เดินสวนขึ้นไปและประกาศเสียงดังว่า
“เจี้ยนหวู่เซิงท้าทายล้มเหลว และอันดับยังคงเดิม”
“มีผู้ใดคิดจะท้าทายอีกหรือไม่ ?”
เหล่ารุ่นเยาว์ต่างเงียบและไม่มีใครคิดจะขึ้นไปท้าทาย
เดิมทีเว่ยหลิงเฟิงที่อยู่อันดับสี่คิดจะท้ารบกับจี้เทียนซิงเพื่อชิงอันดับสามและแก้แค้นให้สหายสนิท, เจียงไป๋อวี้
อย่างไรก็ตามหลังจากความล้มเหลวในการท้ารบของเจี้ยนหวู่เซิง
ในใจของมันก็เต็มไปด้วยความลังเลและไม่กล้าลงมือแต่เนิ่นๆเพราะกลัวจะสูญเสียพลัง
ผู้คนนับหมื่นในจัตุรัสต่างก็เริ่มเชื่อมั่นแล้วว่าการจัดอันดับที่ผู้ดูแลฮั่นประกาศนั้นถูกต้อง องค์ชายจี้หลิงสมควรเป็นอันดับหนึ่งโดยแท้
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ฝูงชนกระซิบกระซาบกัน
เงาร่างชายหนุ่มในอาภรณ์สีดำก็ผุดลุกขึ้นยืน “ข้า จี้เทียนซิงขอท้าทายจี้หลิงตอนนี้ !”
จี้เทียนซิงเดินขึ้นไปบนลานประลองอย่างไร้อารมณ์
ดวงตาจดจ้องไปที่องค์ชายจี้หลิงอย่างเย็นเยือกและปลดปล่อยแววตาที่ยั่วยุท้าทายออกไป
ทันใดนั้นเองสายตาของคนนับหมื่นจับจ้องที่ร่างของเขา
ฝูงชนระเบิดเสียงฮือฮาออกมาทันที
“สวรรค์ ! ขนาดเจี้ยนหวู่เซิงยังสู้องค์ชายไม่ได้
แต่จี้เทียนซิงกลับหาญกล้าท้าทายเชียวหรือ !?”
“หมอนี่เลือดร้อนจริงๆ ! พลังยุทธ์ขององค์ชายอย่างน้อยก็อยู่ในเขตแดนต้นกำเนิดแท้จริงขั้นที่ 7 เชียวนะ !”
“มันข้องใจกับการจัดอันดับของผู้ดูแลสินะ ? อวดดีนัก !”
“เหอๆ ข้าไม่แปลกใจสักนิดเพราะจี้เทียนซิงเคยเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งมาก่อน การได้อันดับที่สามย่อมทำให้มันไม่พอใจและคิดจะช่วงชิงตำแหน่งกลับคืนมา
!”
“ข้าขอเดิมพันว่าจี้เทียนซิงจะพ่ายให้กับองค์ราชาภายใน
30 กระบวนท่า !”
“โห ?
30 กระบวนท่า
? เจ้าประเมินค่ามันสูงเกินไปแล้ว ข้าว่า 20 เอ้า !”
ผู้คนจำนวนมากต่างสนทนาเย้ยหยันต่อจี้เทียนซิงและมั่นใจว่าเขาจะต้องพ่ายแพ้ด้วยความอวดดีไม่ประมาณตน มีเพียงองค์หญิงน้อยจี้เค่อเท่านั้นที่เงยหน้ามองจี้เทียนซิงและโบกมือกำลังใจให้เขา
“พี่ใหญ่เทียนซิง ข้าเชื่อในตัวท่าน ! สู้ให้เต็มที่เลย !”
ท่ามกลางเสียงดังสนั่นของผู้คน
จี้เทียนก็เดินขึ้นลานประลองด้วยรอยยิ้มมั่นใจ
“จี้เทียนซิง
เจ้าฟื้นพลังยุทธ์กลับมาได้แต่ยังคิดว่าตนเองเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งอยู่งั้นหรือ
?”
“ฮึๆ....
เจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนไม่น้อยสำหรับความเหิมเกริมวันนี้ ! ราชาผู้นี้จะสั่งสอนให้เจ้าได้รู้ว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งก็คือข้าเท่านั้น
เจ้าเป็นเพียงก้อนหินให้ข้าเหยียบย่ำ !”
น้ำเสียงของจี้หลิงเยือกเย็นและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
เขาสลัดคราบสุภาพบุรุษผู้มากน้ำใจไปโดยสิ้นเชิง
จี้เทียนชิงมั่นใจแล้วว่าจี้หลิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวล
มันเป็นศัตรูที่ต้องฆ่าให้ตายกันไปข้าง !
ดังนั้นการที่จี้หลิงคิดจะฆ่าเขาก็ไม่ทำให้แปลกใจแม้แต่น้อย
ดวงตาของจี้เทียนซิงจ้องมองไปที่จี้หลิงอย่างมืดมน
และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“จี้หลิง !
ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ว่า
แผนการและอุบายทั้งหมดทั้งปวงของเจ้า สุดท้ายก็เป็นฟองสบู่ในความฝัน! ความมั่นใจและความเย่อหยิ่งของเจ้าจะจบลงที่นี่
! วันนี้ !”
เช้ง
เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง !
เมื่อสิ้นเสียง
จี้เทียนซิงก็สาดปราณกระบี่ 6 สายออกมาทันทีและแปรเปลี่ยนเป็นรังสีข่ายกระบี่สีทองที่โอบล้อมรอบตัวจี้หลิง
“ศาสตร์ลับอวี้เจี้ยน รังสีข่ายกระบี่ !”
ชายหนุ่มกุมกระบี่มังกรดำไว้ในมือซ้ายและใช้ศาสตร์ลับอวี้เจี้ยนด้วยมือขวาเพื่อควบคุมปราณกระบี่ทั้งหมดให้ก่อตัวเป็นตาข่ายกระบี่ที่ปกคลุมร่างของจี้หลิง
“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !”
ปราณกระบี่กระพริบถี่และลากเป็นลำแสงตาข่ายกระบี่สีทองยาวและบีบเข้าหาจี้หลิง
“โฮ่ ?”
สีหน้าของจี้หลิงเปลี่ยนไปเล็กน้อยและชักกระบี่ออกจากฝักเพื่อโจมตีกลับทันที
“เพลงกระบี่เพลิงทรราชย์ !”
จี้หลิงใช้เพลงกระบี่ที่รุนแรงที่สุดออกมา
ฟาดฟันเป็นรังสีกระบี่นับสิบสายต้านรับข่ายกระบี่สีทองของจี้เทียนซิงอย่างดุดัน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved