ปะทุ
12 ปราณกระบี่
ดูเหมือนว่าจิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินจะถูกคำพูดของจี้เทียนซิงทำให้หวั่นไหว
มันพยักหน้าเห็นด้วยในที่สุด
“ย่อมได้ ที่เจ้ากล่าวมาก็ถูกต้องมิใช่น้อย
หากอาหารไม่คลีนพอ ย่อมส่งผลต่อความอยากอาหารของข้าเป็นแน่”
จากนั้นมันก็โบกอุ้งเท้าหน้าและยิงลำแสงสีฟ้าออกไป
ลำแสงเส้นนั้นกลายเป็นกลุ่มก้อนของมวลน้ำและโอบล้อมจี้เทียนซิงในทันที
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ !”
ในพริบตา
ร่างกายของจี้เทียนซิงก็ถูกชำระล้างด้วยสายน้ำอันเย็นฉ่ำ ฝุ่นละอองและคราบเลือดแห้งกรังที่ติดบนร่างของเขาก็หายไป
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
มันยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้าก็สะอาดเอี่ยมอ่องไปทั้งตัวแล้ว อืม...
แถมเจ้ายังขาวน่ากินไม่น้อย ข้าเริ่มอยากอาหารเสียแล้วสิ”
“ ……..…”
จี้เทียนซิงอึ้งและพูดไม่ออก
เขาอยากจะร้องไห้ในใจอย่างอดไม่ได้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่เปี่ยมอำนาจเช่นนี้
เพียงแค่ถ่วงเวลาไว้ได้ก็นับว่าบุญโขแล้ว นับประสาอะไรกับหาทางหนี !
ในกรณีนี้
ชายหนุ่มทำได้เพียงระเบิดพลังทั้งหมดและเข้าต่อสู้แลกชีวิตเท่านั้น
เขากัดฟันแน่น
ร่างกายเปล่งเกร็งทั่วร่างเพื่อให้กล้ามเนื้อขยายตัวถึงขีดสุด
และกระดูกทั่วร่างลั่นเสียงดัง "แกร่ก แกร่ก"
เขาสามารถได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจได้อย่างชัดเจน
พลังปราณทะลักหลั่งไหลดั่งน้ำท่วมจนเกิดเสียงดังครืน
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของจี้เทียนซิงที่อยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่
9 นั้นเทียบได้กับพละกำลังราวๆ 2000 ปอนด์ทีเดียว
อย่างไรก็ตาม
เส้นลำแสงสีน้ำเงินที่พันรอบตัวเขาอยู่นั้นแข็งแกร่งพอๆกับระดับพลังของร่างต้น
การปะทุพลังทั้งหมดของจี้เทียนซิงก็ยังมิอาจสั่นคลอนมันได้แม้แต่น้อย
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินเห็นชายหนุ่มดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต
มันเพียงจ้องมองดูอย่างเย้ยหยันและไม่คิดจะกินอีกฝ่าย มันกล่าวว่า “โห ? อาหารของข้าช่างเปี่ยมไปด้วยความพยายาม”
“แต่ยิ่งเจ้าดิ้นรนมากเท่าไหร่ เลือดก็จะร้อนขึ้นและพลังปราณในร่างก็จะหนาแน่นยิ่งขึ้น ข้าชอบดูการต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อแล้วค่อยกลืนลงท้องทีหลัง เอาเลย จัดไปให้เต็มที่ ฮ่าๆๆๆ
…”
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ดวงตาของมันจับจ้องไปที่จี้เทียนซิง ซึ่งดูเหมือนมันจะสนุกและคาดหวังอย่างมาก
จี้เทียนซิงทั้งหดหู่ทั้งเปี่ยมไปด้วยโทสะ
แต่เขาก็ทำได้เพียงกัดฟันและดิ้นรนต่อไป
ร่างกายของเขาเริ่มบิดเบี้ยว
กล้ามเนื้อและกระดูกขยายตัวออก
ในที่สุดเส้นสายสีน้ำเงินก็คลายออกอย่างหลวมๆ
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินเลิกคิ้วขึ้นและกล่าวว่า
“เหอๆ อายุเพียงเท่านี้
ไม่คิดว่าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง”
“เอาล่ะ ข้าจะให้โอกาสเจ้ามีชีวิตรอด หากเจ้าสามารถสะบัดหลุดจากพลังของข้าไปได้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แต่ถ้าเจ้าทำไม่ได้จนกระทั่งหมดแรง
เจ้าต้องยอมให้ข้ากินแต่โดยดี”
จี้เทียนซิงมองเห็นถึงความหวังในการมีชีวิตรอด
เขาระเบิดพลังที่รุนแรงยิ่งขึ้นจนทำให้ผิวหนังบวมเป่งจนกลายเป็นสีแดง
เพื่อรีดเค้นพลังให้ถึงขีดสุด
เขาไม่ลังเลเลยที่จะใช้ปราณกระบี่ทั้ง 12 จุดชีพจรในร่าง
“อ้ากกกกกกกกกกก !!”
จี้เทียนซิงแผดเสียงกรีดร้องและระเบิดปราณกระบี่ทั้ง
12 สายออกมาจนหมดสิ้น ปราณกระบี่ไร้สภาพพุ่งทะยานออกมาจากจุดชีพจรของเขาและบินวนเวียนอยู่รอบตัว
“ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ! ! ! !”
ปราณกระบี่ทองคำ
12 สายหมุนอย่างรวดเร็วและแผ่กระจายออกไปรอบทิศ
มันเปล่งแสงสีทองที่ส่องประกายไปทั่วและทำให้เกิดเสียงดัง
ในช่วงวิกฤตนี้
จี้เทียนซิงได้รับแรงบันดาลใจจากศักยภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เขาพบว่าปราณกระบี่ในร่างกายสามารถเรียกออกจากร่างและนำมาใช้เช่นนี้ได้
เขาควบคุมปราณกระบี่ทั้ง
12 เล่มที่โคจรไปมารอบๆเพื่อให้ตัดลำแสงสีน้ำเงินที่พันรอบตัวเขาอยู่
“เคร้ง !”
อย่างไรก็ตาม
ทันทีที่ปราณกระบี่กระทบกับลำแสงสีน้ำเงิน มันเพียงเกิดเสียงที่ดังแหลมเท่านั้น
แต่ไม่บังเกิดผลใดๆ
ลำแสงสีน้ำเงินไม่สามารถทำลายได้ไม่ว่าปราณกระบี่ทั้ง
12 จะผลัดเปลี่ยนหมุนวนกันฟัน ฟาด หรือแทง
ท้ายที่สุดแล้วความแข็งแกร่งของจิ้งจอกสีน้ำเงินกับจี้เทียนซิงนั้นก็ห่างไกลกันเกินไป ระดับพลังงานต่างกันราวกับอยู่คนละโลก !
จี้เทียนซิงสามารถควบคุมปราณกระบี่ให้ออกมาจากร่างได้ในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !”
สุดท้ายปราณกระบี่ทั้งหมดก็พุ่งกลับเข้าสู่ร่างและซ่อนตัวอยู่ในจุดชีพจรทั้ง
12 ตามเดิม
พละกำลังและจิตวิญญาณของจี้เทียนซิงถูกใช้ไปมากกว่าขีดจำกัดถึงสองเท่า ขณะนี้
มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เป็นสีดำแต่ดูว่างเปล่า
ส่วนจิตสำนึกของเขาเริ่มเบลอเสียแล้ว
“บัดซบ.... วันนี้ข้าต้องจบชีวิตที่นี่หรือ ? นี่ข้าต้องกลายเป็นอาหารของจิ้งจอกระยำตนนี้ ?”
“ไม่ได้....
ข้าไม่ยอม ! ข้ายังไม่พบดอกไม้ดาราแดงเลย ข้ายังไม่ได้ล้างแค้นความอัปยศครั้งใหญ่…”
จี้เทียนซิงเต็มไปด้วยสำนึกที่ไม่จำยอม
แต่ในที่สุดเขาก็หลับตาและหมดสติไป
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินแสดงออกถึงสีหน้าที่ผิดหวังเล็กน้อย
มันกล่าวว่า “เฮ้ เจ้าหนู เมื่อกี้ทำเก๋า แต่สุดท้ายเจ้าก็มีความสามารถเท่าหอยมด
? เฮอะ ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินค่าเจ้าสูงเกินไป !”
หลังจากนั้นมันก็เปิดปากกว้างออก
เผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคมสองข้างและกัดไปที่จี้เทียนซิง
ชายหนุ่มหมดสติและไม่รู้สึกตัว
เขาถูกกลืนลงไปโดยจิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงิน
ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้
ลำแสงสีดำอันมืดมิดก็ปรากฏขึ้นที่ท้องของเขา ณ จุดตันเถียน กลิ่นอายแห่งความตายและเยือกเย็นก็แผ่พุ่งออกมา
“วู้มมมมม !”
แสงสีดำขยายตัวใหญ่ขึ้นนับหมื่นเท่าและกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มร่างของจิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงิน
หลุมดำแผ่ซ่านไอมรณะอันเย็นยะเยือก
มันเต็มไปด้วยมวลอากาศและบรรยากาศที่ลึกลับ
ทันใดนั้นเองจิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินก็แข็งทื่อ
ใบหน้าของมันเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ดวงตาสีเงินคู่นั้นของมันเผยให้ถึงความสยองขวัญที่ลึกล้ำ
"นิ นี่มันคืออะไร
?!"
มันอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
มันต้องการถอยห่างจากหลุมดำลึกลับนี่โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม
แสงสีดำในหลุมดำหมุนวนด้วยความเร็วสูงมาก มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้างและการดูดกลืนอันน่ากลัว
ภายในเวลาไม่นานจิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินก็ถูกมันคลุมไปทั่วร่าง
มันขยับตัวไม่ได้และล่องลอยอยู่กลางอากาศด้วยความกลัว มันทำได้เพียงโคจรพลังทั่วร่างออกมาต้านรับพลังลึกลับขุมนี้เท่านั้น
ฟุ่บ
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ !!
ลำแสงน้ำเงินจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกจากร่างของมัน ทั้งหมดพุ่งเข้าไปในหลุมดำเหมือนน้ำฝนและถูกกลืนกินโดยวังวนสีดำในนั้น
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินสังเกตเห็นว่าพลังอันมหาศาลในร่างกายของมันกำลังไหลออกไปอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของมันค่อยๆหดเล็กลงเรื่อยๆ
“หลุมดำนั่น
…มันกำลังจะ ดูดกลืนความแข็งแกร่งของข้า !?”
“อา ! ไม่
ไม่นะ ! บัดซบ ! ระยำเอ้ย ! เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร
?”
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินเต็มไปด้วยความโกรธกริ้วและหวาดกลัว ดวงตาของมันจ้องไปที่จี้เทียนซิงด้วยความคั่งแค้นชิงชัง
ชายหนุ่มหมดสติไร้ซึ่งการตอบสนองไปโดยสิ้นเชิง
เขาลอยอยู่กลางอากาศและไม่ได้รับรู้เรื่องใดทั้งสิ้น
พลังของจิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินถูกดูดกลืนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
รูปร่างของมันหดเล็กลงอย่างรวดเร็วจนมองเห็นด้วยตาเปล่า
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงพลังของมันก็ลดลงถึง
40 %และขนาดของมันก็หดลงครึ่งหนึ่ง
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปพลังของมันถูกดูดไปแล้วถึง
80% ร่างกายหดเล็กจนเหลือเพียงมีขนาดเท่ากับห้องแคบๆ
หลุมดำยังคงห่อหุ้มตัวมันอยู่และดูดซับพลังอย่างต่อเนื่องและขนาดของมันก็ยิ่งเล็กลงอีก
ไม่เพียงเท่านั้น
จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินยังค้นพบอีกว่าหลุมดำลึกลับที่ปรากฏขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยนี้ไม่เพียงแค่กลืนกินพลังของมัน แต่มันยังดูดกลืนพลังฟ้าดินในถ้ำไปด้วย !
พลังในการเขมือบที่น่าสะพรึงกลัวนี้ไม่เพียงแค่ดูดไอพลังของฟ้าดินรอบถ้ำ
แต่มันยังพัดทำลายพนังและกำแพงจนพังพินาศ
นอกจากนี้ไอพลังฟ้าดินที่อยู่ในอัญมณีรอบถ้ำก็ถูกดูดกลืนไปด้วย
สุดท้ายสินแร่ล้ำค่าทั้งหมดก็กลายเป็นหินไร้ค่าที่แตกหักกองระเนระนาด
หลังจากนั้น
สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าก็เกิดขึ้นตามมา
ถ้ำเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและผนังทั้งหมดของถ้ำปริแตกเป็นช่องว่าง
ก้อนหินก้อนกรวดนับไม่ถ้วนถล่มลงมาจากเพดาน
เสียงปริแตกดัง
“แกร่ก” เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดตามมาด้วยเสียง
‘ครืน’ ของการสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
ยอดเขาทั้งหมดสั่นด้วยการเคลื่อนของพื้นดินซึ่งทำให้จิ้งจอกยักษ์สีน้ำเงินตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“ระยำเอ้ย ! ไอ้พลังในการดูดกลืนไร้ที่สิ้นสุดของหลุมดำนี่มันเกิดจากสิ่งใดกันแน่
?”
“แม้กระทั่งข่ายอาคมอันแข็งแกร่งรอบภูเขาก็ยังถูกทำลายล้างด้วยหลุมดำบัดซบนี่เชียวหรือ
?”
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved