ตอนที่ 281

จุดอ่อนของมัน

ในที่สุดจี้เทียนซิงก็เข้าใจแล้วว่าการถูกกลืนกินแก่นชีวิตนั้นเป็นอย่างไร

เพลิงวิญญาณฟ้าบุกเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างเงียบเชียบ

มันทำให้รู้สึกเย็นเยือกไปทั่วสรรพางค์กาย

เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังชีวิตกำลังไหลออกไปอย่างรวดเร็ว

ร่างกายคล้ายกับว่ามันกำลังเสื่อมสภาพและโรยรายิ่งขึ้น

โชคดีที่เขาเป็นวัยรุ่น

หลังจากถูกกลืนแก่นชีวิตเข้าไปจำนวนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาของเขาก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

หากเขาเป็นชายแก่ผมขาวและถูกกลืนกินแก่นชีวิตเยี่ยงนี้

เกรงว่าชีวิตคงอยู่ห่างประตูยมโลกไม่ไกลนัก...

อาการบาดเจ็บที่หลั่งโลหิตนั้นยังไม่น่ากลัวเทียบเท่ากับการที่รู้สึกว่าชีวิตของตนเองถูกสูบกลืนไปเรื่อยๆจนตายอย่างช้าๆ

จี้เทียนซิงหัวเสียกับเจ้ากระดูกยักษ์ตนนี้มาก

แต่เขาก็รู้ตัวว่ายังไม่อาจกำราบมันได้อย่างสิ้นเชิง เขาทำได้เพียงหลบหลีกการโจมตีและค้นหาจุดอ่อนของมันอย่างเงียบๆ

ส่วนอาการบาดเจ็บของเฉียนเยวี่ยนั้นหนักหนาเกินไป

แม้แต่จะบินก็ยังยากและเป็นไปไมได้ที่จะให้มันช่วยต่อสู้กับกระดูกยักษ์ตัวนี้

ดังนั้น

จี้เทียนซิงจึงให้มันกลับเข้าไปในถุงมิติเพื่อให้มันได้พักผ่อนและฟื้นฟูพลังปราณกลับมา

เขาจึงต้องเผชิญหน้ากับมันตามลำพังและหนีไปในป่าเรื่อยๆ เขาเพ่งสมาธิทั้งมวลไปที่การโคจรย่างก้าวไร้เงาเพื่อให้ความเร็วพุ่งสูงถึงขีดสุด

เงาร่างของเขากระพริบไปมาซ้ายทีขวาทีผ่านชั้นหมอกในป่า

เสียงดัง

“เป้ง เป้ง เป้ง”

ดังขึ้น กระดูกยักษ์ก้าวไปข้างหน้าและกระทืบเท้าเหยียบลงบนพื้นดินจนเกิดหลุมขนาดใหญ่และสั่นสะเทือนไปทั่ว

มันดูเหมือนจะหงุดหงิดอย่างสมบูรณ์และเปิดปากพ่นเพลิงวิญญาณฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า

“ตูม !!  ตูม !!”

เสียงกัมปนาทดังกึกก้องสั่นสะท้อนออกมาในท้องฟ้าสลัว

เสาเพลิงวิญญาณฟ้าระเบิดออกกลายเป็นหลุมขนาดยักษ์หนึ่งหลุม

และตามมาอีกหนึ่งหลุมในเวลาไล่เลี่ยกัน สาดฝุ่นละอองกระจุยกระจายไปทั่วท้องฟ้า

คลื่นกระแทกอันรุนแรงที่เกิดจากเสาเพลิงสีฟ้ากวาดไปทั่วทุกทิศทุกทาง

เงาร่างของจี้เทียนซิง

บางครั้งก็คล้ายกับจมอยู่ใต้เปลวไฟสีฟ้าและบางครั้งก็คล้ายกับถูกไฟโหมกระหน่ำพัดผ่าน

สถานการณ์ของเขากลายเป็นอันตรายยิ่งยวดราวกับการเต้นอยู่บนปลายคมมีด

ในช่วงเวลาสั้นๆกระดูกยักษ์สีขาวก็ไล่ล่าเขาไปไกลกว่าสิบไมล์และพ่นเพลิงวิญญาณฟ้าระเบิดเป็นเสาเพลิงสูงกว่าสิบเสา

หลายต่อหลายครั้งที่เขาถูกจู่โจมด้วยคลื่นกระแทกจากแรงระเบิดอันรุนแรง

มันทำให้อาการบาดเจ็บของเขาเพิ่มขึ้น มุมปากปรากฏโลหิตไหลไม่ขาดสาย

แต่นี่เป็นเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย สิ่งที่รุนแรงยิ่งกว่าก็คือพลังของเขาถูกกลืนหายไปกับเพลิงวิญญาณฟ้า

อีกทั้งลมหายใจก็เริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ

ผิวหนังทั่วร่างของเขากลายเป็นสีเทาและปกคลุมไปด้วยกลิ่นไอมรณะอันรุนแรง

เขาไม่รู้ว่าตนเองจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน

เขาจะมีชีวิตรอดพ้นจากป่าแห่งความตายนี้ได้หรือไม่

ก่อนที่จะเข้าสู่เทือกเขาหมอกเร้นลับ

เขารู้แค่เพียงว่าสถานที่นี้เต็มไปด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือดขั้นวิกฤติ และมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถกลับออกมาได้แบบมีชีวิต

แต่เมื่อมาถึงจุดนี้และได้สัมผัสด้วยตัวเอง

ในที่สุดเขาก็เข้าใจตำนานได้อย่างถ่องแท้แล้ว

มันน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงร่ำลือหลายเท่านัก !

“เพลิงวิญญาณฟ้าที่แยกตัวออกมาจากกระดูกยักษ์ดูเหมือนจะโผล่ออกมาจากดวงตาของมัน…...”

“แต่ตัวของมันสูงกว่าสองร้อยเมตร ข้าไม่สามารถทะยานขึ้นไปโจมตีดวงตาของมันได้เลย...”

ในระหว่างที่เขาหนีจากการโจมตีของกระดูกยักษ์

เขาก็ครุ่นคิดหาวิธีต่อกรอย่างกระตือรือร้น

“หนีไม่ได้

มิฉะนั้นข้าคงต้องอ่อนล้าจนหมดเรี่ยวแรงและตกตายกลายเป็นหนึ่งในโครงกระดูกที่นี่แน่

ต้องวัดดวงกันดูล่ะ !”

หลังจากนั้นไม่นาน

เมื่อเขาหนีจากการโจมตีของเสาเพลิงสีฟ้าได้อีกครั้ง เขาก็ฉวยโอกาสทดลองตอบโต้

ฮ่ะ  !

จี้เทียนซิงกัดฟันคำรามลั่น

เขาใช้สองมือกุมกระบี่มังกรดำไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นที่หลังมือ  คนระเบิดพลังปราณชั่วชีวิตออกมา พลางตวัดกระบี่สุดเรี่ยวแรงไปที่เท้าข้างซ้ายของโครงกระดูกยักษ์

โครงกระดูกยักษ์นั้นอยู่ไม่ไกลจากเขาและนิ้วเท้าของมันเพียงนิ้วเดียวก็ใหญ่พอๆกับตัวเขาทั้งร่าง

"เป้ง  !!!!!!!"

คลื่นกระบี่อันพร่างพราวนำมาซึ่งพลังเบิกปฐพี

มันกระทบเข้าใส่เท้าข้างซ้ายของกระดูกยักษ์จนเกิดเสียงระเบิดดังอึกทึก

พลังคลื่นกระแทกขนาดใหญ่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

จี้เทียนซิงปลิวไถลออกไปไกลหลายสิบเมตร

เท้าซ้ายของกระดูกยักษ์ถูกทุบเป็นหลุมลงครึ่งหนึ่งในจุดนั้นและยุบตัวด้วยกระดูกหักจำนวนมากที่กระจายอยู่รอบๆ

ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่เกินไป

เมื่อเท้าซ้ายถูกทุบออกมันจึงไม่สามารถรองรับสมดุลของร่างกายได้อีกต่อไป

มันเดินโซเซและในที่สุดร่างสูงใหญ่ของมันก็ล้มลงมาราวกับภูเขาที่พังทลายลงมาบนโลก

“ครืน............ครืน  ! ”

เสียงที่ดังกึกก้องราวกับโลกแตกก้องกังวานไปทั่วป่า

แผ่นดินถูกทับจนเกิดหลุมลึกขนาดใหญ่และพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

มีโอกาสแล้ว....

!

ฟุ่บ  !  ฟุ่บ  !

จี้เทียนซิงฉวยโอกาสนี้อย่างไร้ความลังเล

กระตุ้นปราณกระบี่สองสายที่ส่องประกายเพื่อใช้เพลงกระบี่ดาราเหินมุ่งเป้าไปที่ดวงตาของกระดูกยักษ์

“วายุอัสนีบาต !!”

ปราณกระบี่ทองคำพุ่งไปซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งหมายจะพิฆาตกระดูกยักษ์

พวกมันผสานกันก่อเกิดเป็นสายลมที่พัดกระหน่ำทำให้เกิดสายฟ้าสีทองขนาดใหญ่ในทันที  เป้าหมายคือดวงตาของซ้ายของมัน

“ครืน  !!”

เสียงสนั่นราวกับสายฟ้าระเบิดก้องผ่าท้องนภา

ดวงตาข้างซ้ายของกระดูกยักษ์ถูกทุบทำลายและเปลวไฟสีฟ้าที่ดวงตาซ้ายของมันก็สลัวลง

มันไม่สามารถส่งเสียงกรีดร้องหรือคำรามได้  มันพยายามลุกขึ้นและเปิดปากของมันอีกคราเพื่อพ่นเสาเพลิงวิญญาณฟ้าออกมา

จี้เทียนซิงไหวตัวอยู่ก่อนแล้วว่ามันจะต้องตอบโต้กลับ

เขาสามารถล่าถอยได้ทันเวลาก่อนที่มันจะเปิดปาก

“ตูมมมม !”

เสาเพลิงสีฟ้าขนาดใหญ่พุ่งกระแทกพื้นดิน

ลำธารหลายร้อยเมตรถูกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ

คลื่นกระแทกที่เกิดจากพลังอันรุนแรงของเพลิงวิญญาณฟ้าได้โหมกระหน่ำกวาดต้อนพื้นดินร่วมหลายร้อยเมตร

เมื่อเห็นฉากนี้

จี้เทียนซิงขมวดคิ้วทันที ดวงตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยข้อสงสัย

"เกิดอะไรขึ้น ? ข้าได้ทำลายดวงตาข้างซ้ายของมันแล้ว

ไฉนมันถึงยังปล่อยเพลิงวิญญาณฟ้าออกมาได้โดยที่พลังแทบไม่ลดทอนลง ?”

“หรือว่า........ แหล่งกำเนิดเพลิงวิญญาณฟ้าของมันจะไม่ใช่ดวงตา ?”

เมื่อตระหนักถึงข้อพิรุธนี้

ชายหนุ่มจ้องมองไปทั่วร่างกระดูกยักษ์เพื่อค้นหาต้นกำเนิดพลังเพลิงวิญญาณฟ้าของมัน

ทันใดนั้นเขาได้พบเบาะแส

ในร่างของยักษ์กระดูกขาวมีกลุ่มก้อนเปลวไฟสีฟ้าสามกลุ่ม

ทั้งสองกลุ่มแรกยังคงเป็นดวงตาของมันที่ถึงแม้ว่าจะลึกลับและหนาวเย็น

แต่กลับไม่แข็งแกร่งเท่ากับกลุ่มที่สาม

เปลวไฟสีฟ้าจุดที่สามนั้นอยู่ในลำคอของมัน

มันเป็นดวงตาเพลิงที่ใหญ่กว่าและน่าทึ่งยิ่งกว่า !

"ที่นี่เอง !"

จี้เทียนซิงตื่นตัวทันที

ดวงตาของเขาส่องประกายความหวัง

เขากระตุ้นคลื่นปราณกระบี่อีกสายหนึ่งขึ้นมาเพื่อโจมตีต่อเนื่อง

“ประกายแสง มังกรแดง  !! ”

กระบี่เพลิงทองคำยาวกว่าสองเมตรปะทุขึ้น

ห้อมล้อมไปด้วยเปลวไฟสีทองราวกับมังกรทองตัวหนึ่งที่มีอำนาจในการทำลายล้างทุกสรรพสิ่ง

มันพุ่งเข้าขย้ำช่วงลำคอของกระดูกยักษ์อย่างรวดเร็ว

“แกร่ก  !”

เสียงปริแตกที่คมชัดดังขึ้น

กระดูกสีขาวในลำคอของกระดูกยักษ์ถูกบดขยี้โดยประกายแสงมังกรแดงจนมีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

แสงปราณกระบี่ลักษณ์มังกรทองทะลวงลำคอของมันลอดผ่านช่องโหว่และระเบิดเข้าใส่กลุ่มเปลวเพลิงสีฟ้าที่น่าทึ่งและลึกลับที่สุดในทันที

"บึ้ม   !!"

กลุ่มแสงเพลิงสีฟ้าและลำแสงประกายแสงมังกรแดงระเบิดในเวลาเดียวกัน

กลายเป็นเปลวไฟอันยิ่งใหญ่ตระการตา

พื้นที่หลายร้อยเมตรรอบๆถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วจนท่วมท้นร่างของจี้เทียนซิง

หลังจากนั้นไม่นานคลื่นไฟสีฟ้าก็จางหายไปและป่าก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง

กระดูกยักษ์มหึมายังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นและไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ

เมื่อกลุ่มแสงไฟในลำคอของมันถูกทำลาย พลังต้นกำเนิดที่คอยเกื้อหนุนมันก็หายไป

ไฟสีฟ้าบนดวงตาทั้งสองข้างของมันก็เริ่มจางลง สุดท้ายก็ดับมอดอย่างรวดเร็ว

แกร่ก

แกร่ก แกร่ก

เสียงคมชัดของกระดูกเสียดสีดังขึ้น

ร่างของกระดูกยักษ์เริ่มยุบตัวและกลายเป็นกองกระดูกหักผุพังอย่างรวดเร็ว