ใช้ฟ้าดินเป็นดั่งข่ายอาคมคือวิถีที่ใกล้เคียงกับเทพเจ้า
มันช่างยากเย็นยิ่งที่จะทำลายการก่อตัวของข่ายอาคมระดับเทพเพื่อหาทางออกขึ้นสู่ด้านบนสุดของหอคอยเจ็ดดาว
หากไร้ซึ่งความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของศาสตร์แห่งข่ายอาคม
หากปราศจากมุมมองที่กว้างใหญ่และสติปัญญาเหนือคน
มันยากที่จะมองผ่านการก่อตัวนี้
ด้วยเหตุนี้จึงไม่เคยมีศิษย์สาวกคนใดนอกจากหยุนเหยาที่สามารถทะลวงผ่านไปจนถึงยอดหอคอยเจ็ดดาวได้มาก่อน
จี้เทียนซิงเข้าใจในเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่กังวลและหวั่นไหว
ทักษะในศาสตร์แห่งข่ายอาคมของเขาเปรียบได้กับของปรมาจารย์ผู้หนึ่ง
อีกทั้งประสบการณ์และวิสัยทัศน์ก็จัดว่าสูงมาก ติดอยู่แค่เพียงระดับพลังบ่มเพาะของเขานั้นยังไม่ถึงขอบเขตปราณโอสถ
เฉียนเยวี่ยพาชายหนุ่มขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นเวลากว่าหนึ่งวันเต็มและพาเขาบินวนไปทั่ว
ด้วยวิธีการนี้ ทุ่งหญ้าและพื้นดินนับพันไมล์, ยอดเขาหลายสิบแห่งและทะเลสาบทั้งสองแห่งได้ประทับภาพอยู่ในใจของเขา
โลกในรัศมีหลายพันไมล์เหนือท้องฟ้าหดหายกลายเป็นภาพในใจเหมือนแผนที่ขนาดย่อมๆ
เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนยอดเขา ปิดตาลงนั่งสมาธิและวิเคราะห์แผนที่ขนาดย่อมๆในใจอย่างเงียบงันเพื่อคิดคำนวณหาวิธีในการทำลายมัน
เมื่อเวลาผ่านไป ดวงดาวเหนือท้องฟ้าก็เริ่มเคลื่อนไหว
ในไม่ช้าอีกสองวันได้ผ่านพ้นไป
เขาสรุปแผนที่ขนาดย่อมภายในใจนับพันครั้ง และหลังจากการคาดการณ์ได้พอสังเขปจากการคำนวณซ้ำๆ
ในที่สุดเขาก็พบวิธีที่จะทลายมัน
"ข่ายอาคมมหึมาที่ก่อตัวจากฟ้าดินครอบโลกทั้งใบนี้
มียอดเขาทั้งหมดเจ็ดร้อยสี่สิบเก้าลูก มีทะเลสาบทั้งสองฟากข้าง
ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก...."
"มันมีทั้งข่ายอาคมเก้าวิหารและอาคมเจ็ดดาว
นอกจากนี้ยังมีอาคมสี่มังกรและอื่นๆ... เช่นนั้นข้าควรจะเริ่มทำลายอาคมเจ็ดดาว, หลิวเหอและสามขุนเขาเพื่อแยกความแตกต่างของพวกมัน...”
หลังจากคิดแผนได้เช่นนี้
จี้เทียนซิงก็ขึ้นขี่หลังเฉียนเยวี่ยบินสู่ท้องฟ้ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
สองชั่วโมงต่อมา เขาก็มาถึงภูเขาสูงถึงพันฟุตและเริ่มร่ายข่ายอาคมขึ้น เขาใช้เวลาตลอดทั้งวันในการสร้างข่ายอาคมขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมภูเขาทั้งลูก
ข่ายอาคมขนาดใหญ่ชักนำรัศมีพลังฟ้าดินจากทุกทิศทาง
รวบรวมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่และเปลี่ยนรูปแบบการก่อตัวของข่ายอาคมเดิมบนยอดเขา
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ฉากที่น่าเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ภูเขาสูงตระหง่านกว่าหลายพันฟุตและครอบคลุมพื้นที่ห้าสิบไมล์ได้เคลื่อนตัวช้าๆ
มันคลื่นตัวผ่านทุ่งหญ้าจนเกิดเสียงดัง ‘ครืน ครืน’ และย้ายตัวมันเองไปทางตะวันออกประมาณหนึ่งร้อยเมตรก่อนที่จะหยุดลง
ถึงแม้ว่ามันจะขยับไปเพียงร้อยเมตร ซึ่งจากระยะทางเพียงเท่านี้
มิได้สลักสำคัญอะไรหากเทียบกับขนาดอันมหึมาของมัน
อย่างไรก็ตาม หากคิดอย่างจริงจัง
การที่ภูเขาใหญ่กว่าพันฟุตสามารถขยับเคลื่อนไปไกลหลายร้อยเมตรได้เช่นนี้
เกิดขึ้นง่ายๆได้อย่างไร ?
ไม่ต้องพูดถึงยอดยุทธ์ในขอบเขตปราณจิต
ต่อให้เป็นผู้ที่มีพลังในขอบเขตปราณโอสถก็ไม่มีวันทำได้ !
มีเพียงใช้วิธีการก่อตัวของข่ายอาคมและพลังฟ้าดินที่มองไม่เห็นเท่านั้นจึงจะสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้
!
เมื่อเห็นได้เห็นภูเขาสูงขยับออกไปร้อนเมตร
จี้เทียนซิงก็ผุดรอยยิ้มอย่างโล่งอก
ต่อมาเขาขี่เฉียนเยวี่ยขึ้นไปบนท้องฟ้า จนได้มองเห็นโลกจากที่สูง
มองเห็นการเคลื่อนไหวของภูเขาโดยรอบ
"ข้าได้วางข่ายอาคมไว้บนยอดเขาสูง
จนทำให้มันเขยื้อนเคลื่อนไหวออกไป ผลที่ตามมาจะทำให้ทั้งหมดเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่"
"เมื่อถึงตอนนั้น ยอดเขาทางตะวันออกก็สมควรเปลี่ยนแปลง......"
ขณะที่พูด
ด้วยรูปลักษณ์ที่คาดหวังเขามองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์
แน่นอนว่าภูเขาสูงพันฟุตก็เริ่มสั่นสะเทือนและส่งเสียงดัง
"ครืน" จากนั้นก็เริ่มเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ
หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งร้อยอึดใจ
ยอดเขาสูงขยับไปหนึ่งร้อยเมตรก่อนจะหยุดลง
จี้เทียนซิงมองไปทางตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้งพลางกระซิบแผ่วเบาว่า
“ยอดเขาขยับแล้ว..."
คำพูดของเขาเป็นเหมือนเจตจำนงของสวรรค์
ราวกับว่าเขาสามารถใช้พลังฟ้าดินเคลื่อนคล้อยสวรรค์โลกาและย้ายภูเขาทั้งสามลูกได้
เมื่อสิ้นเสียงของเขา ภูเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ก็เริ่มขยับตัว
จนกระทั่งไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ยอดเขาสูงกว่าพันฟุตมากกว่าสี่สิบลูกได้ถูกพลังฟ้าดินผลักออกไปจนเคลื่อนที่จากจุดเดิมกว่าหนึ่งร้อยเมตรบนทุ่งหญ้า
ในที่สุด แม้แต่ทะเลสาบที่เหมือนไข่มุกทั้งสองแห่งก็เริ่มขยับตำแหน่งของมันอย่างน่าอัศจรรย์
จี้เทียนซิงเคลื่อนย้ายภูเขาลูกใหญ่ด้วยพลังของข่ายอาคม
แต่มันทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อข่ายอาคมขนาดมหึมาที่ครอบโลกใบนี้
มันทำให้ทะเลสาบและภูเขาแต่ละลูกถูกย้ายตำแหน่ง
ฉากที่น่ามหัศจรรย์นี้ทำให้ทั้งเฉียนเยวี่ยและเสี่ยวเฮยหลงได้เปิดหูเปิดตา
พวกมันชื่นชมในความสามารถของจี้เทียนซิงเป็นอย่างมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับโลกใบนี้ที่มีขนาดกว้างใหญ่หลายพันไมล์
จี้เทียนซิงนั้นเล็กราวกับฝุ่นผง
อย่างไรก็ตาม เขาเปลี่ยนรูปแบบของฟ้าดินบนโลกใบนี้ด้วยวิถีแห่งข่ายอาคมอันลึกลับและทรงพลัง
โลกอันกว้างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า เป็นเหมือนกระดานหมากรุกที่อยู่ภายใต้คำสั่งและการเคลื่อนไหวของเขา
วิธีการเฉกเช่นนี้ราวกับเทพเจ้า !
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เข้าถึงเวลากลางดึกและการเปลี่ยนแปลงสะท้านทั้งหลายก็เริ่มหยุดลงในที่สุด
ในใจกลางของทุ่งหญ้ารกร้าง ระหว่างภูเขาสูงตระหง่านเสียดฟ้าสองลูก, ท้องฟ้าเหนือเวหายามราตรีได้ส่องแสงสีขาวอันพร่างพราวออกมาอย่างฉับพลัน
แสงสีขาวสว่างจ้าเกิดการควบแน่นเป็นรูขนาดใหญ่บนท้องฟ้า
รูนั้นราวกับกระแสน้ำวนที่ดำสนิทราวกับน้ำหมึกจนมิอาจมองเห็นสิ่งใด
แต่จี้เทียนซิงรับรู้ได้ว่ากระแสน้ำวนนี้เป็นทางผ่านจากโลกชั้นที่หกไปสู่จุดสูงสุดของหอคคอยเจ็ดดาว
!
ในดวงตาของเขาปรากฏรอยยิ้มโล่งอก
จากนั้นเขาก็สั่งให้เฉียนเยวี่ยบินเข้าไปในนั้นทันที
"วู้ม !"
แสงสีขาวเหนือกระแสน้ำวนได้กลืนร่างของเขาเข้าไป
วินาทีต่อมา กระแสน้ำวนแสงสีขาวก็หายไปในทันใดและท้องฟ้ายามค่ำคืนก็กลับสู่ความมืดมิดเช่นเดิมราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเคยปรากฏขึ้นมาก่อน
………….
จี้เทียนซิงได้ผ่านเข้าสู่โลกชั้นที่เจ็ดของหอคอยเจ็ดดาวสำเร็จ
"วาบ !"
ด้วยแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นสายหนึ่ง
เงาร่างของจี้เทียนซิงโผล่ออกมาจากอากาศเบาบางและลงบนพื้นสีดำ
พื้นที่รอบๆมีความกว้างสิบไมล์ ถูกปูด้วยหินชนวนสีดำโบราณนับไม่ถ้วนและยังมีร่องลึกที่สลักอยู่บนพื้น
ลำห้วยนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นเป็นเส้นสายที่หนาแน่นผสานกันเป็นลวดลายอันลึกลับขนาดใหญ่
จี้เทียนซิงมองออกได้ในทันที
แผ่นพื้นหินสีดำใต้ฝ่าเท้าของเขาคือข่ายอาคมขนาดใหญ่ชุดหนึ่ง
รอบนอกของพื้นหินสีดำเป็นทะเลเมฆสีขาวที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ราวกับว่ามันไม่มีที่สิ้นสุด
จี้เทียนซิงเดินไปที่ขอบของข่ายอาคมและเพ่งสายตามองลึกเข้าไปในทะเลเมฆ
แต่เขาก็มิอาจพบเห็นสิ่งใดที่อยู่ใต้นั้นแม้แต่น้อย
เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและได้เห็นท้องฟ้าที่แจ่มจรัสอันกว้างใหญ่อยู่เหนือศีรษะ
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวสลัว
มีจำนวนนับหมื่นพันดวงก่อตัวขึ้นเป็นกลุ่มดาวอันลึกลับงดงาม
ดวงดาวนับไม่ถ้วนส่องสว่างไปด้วยแสงสีเงินระยิบระยับที่โรยลงมาบนข่ายอาคมสีดำ
ทำให้เส้นสายและลวดลายบนอาคมกระพริบไปด้วยแสงอันพร่ามัว
"นี่คือชั้นบนสุดของหอคอยเจ็ดดาว !"
"ไม่ผิดแน่
จากที่ศิษย์พี่ใหญ่เคยกล่าวไว้ นี่คือสถานที่ที่ใกล้เคียงกับหมู่ดาวมากที่สุด !"
จี้เทียนซิงแหงนหน้ามองหมู่ดาวอันเงียบสงัด
จับจ้องมองหาดวงดาวสีแดงซีดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
จากนั้นรอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นกล่าวว่า
"เค่อเค่อ
ในที่สุดข้าก็มาถึงยอดหอคอยเจ็ดดาวแล้ว !”
"ข้าเห็นแล้ว
ดวงดาวสีแดงที่เปล่งประกายตรงนั้นคือดาวขั้วโลกแดง
ข้าจะนำเจ้าและโลงหยกวิญญาณวางไว้ที่นี่
เจ้าจะได้ใช้พลังของมันปรับแต่งและเพิ่มพลังของสายเลือด"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved