ไปตายซะให้หมด
!
อีกาดำกระดูกคลั่งจำนวนนับหมื่นปกคลุมไปทั่วท้องนภาอย่างเนืองแน่นเหมือนก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่
ร่างของจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยถูกครอบคลุมและถูกล้อมรอบไว้ด้วยอีกาดำจำนวนนับไม่ถ้วน
พวกเขาดูเหมือนมดตัวจ้อยใต้เมฆสีดำก้อนมหึมา !
ถึงแม้จะมีความพยายามอย่างมากในการตอบโต้การโจมตีอย่างมืดฟ้ามัวดินของพวกมัน
แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจกวาดล้างหมดได้หมดสิ้น
ขนาดตัวของเฉียนเยวี่ยนั้นใหญ่กว่าจึงตกเป็นเป้าหมายหลักของฝูงอีกาอันดุร้าย
ในช่วงเวลาสั้นๆทั่วร่างของมันปกคลุมไปด้วยรอยกัดและรอยกรงเล็บของพวกมัน
โลหิตและขนสีฟ้าน้ำแข็งอันเงางามหลุดร่วงเป็นกระจุกๆ
"อา.... !
ระยำเอ้ย
ไอ้อีกาเหม็นเน่า ! พวกเจ้ากล้าดียังไงวะถึงได้มาทำให้ขนอันงดงามของราชาผู้นี้ต้องหลุดร่วง
? ไสหัวไปให้พ้นทางโว้ย
!”
ตูม
!!
เฉียนเยวี่ยคำรามด้วยความโกรธแค้น
มันโบกกรงเล็บอย่างเกรี้ยวกราดเกิดเป็นลำแสงน้ำแข็งสีฟ้า สังหารฝูงอีกาเบื้องหน้าจนร่วงเป็นทาง
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว !”
ปราณลำแสงน้ำแข็งประดุจดั่งศรน้ำแข็งอันแหลมคมที่พุ่งทะลวงทิ่มแทงฝูงอีกานับไม่ถ้วนและฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ
แต่ทว่าการโจมตีของมันที่ประเคนเข้าใส่ฝูงอีกาที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้านั้นด้วยด้อยค่า
อีกฝ่ายสูญเสียเพียงเล็กน้อยราวกับน้ำหยดเดียวที่หยดจากถังขนาดใหญ่
อีกาสีดำกรูกันเข้ามาในทุกทิศทาง
ไม่เพียงแค่ไม่ลดลง แต่จำนวนของพวกมันยังเพิ่มพูนเป็นทบทวี !
หลังจากที่อีกาดำบางส่วนถูกสังหารเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
พวกมันกลายเป็นเศษเนื้อที่ตกลงมาจากฟ้า
พวกมันที่เหลือโผบินเข้าไปจิกกินพวกเดียวกันอย่างเอร็ดอร่อย
ภาพที่เห็นนี้ช่างโกลาหลวุ่นวาย
ภายใต้การกระตุ้นของโลหิตและความตาย
พวกมันยิ่งกลายเป็นดุร้ายกระหายเลือดมากขึ้นเรื่อยๆและปิดล้อมจี้เทียนซิงกับเฉียนเยวี่ยอย่างมืดฟ้ามัวดิน
“บะ......บ้าเอ้ย
ยิ่งตายยิ่งคลั่งหรือไงวะไอ้พวกนี้ !?”
เฉียนเยวี่ยกรีดร้องเสียงหลง
จี้เทียนซิงก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดและอึดอัด
เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆและได้เห็นอีกาสีดำที่เข้ามารวมกลุ่มกันหนาแน่นขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
คิ้วของเขาหักมาชนกันและกระซิบในใจว่า “แม้แต่มดก็ยังรุมกัดราชสีห์ให้สิ้นใจได้หากมีจำนวนมากพอ....
หากปล่อยไว้แบบนี้ข้ากับเฉียนเยวี่ยคงถูกพวกมันรุมทึ้งเป็นชิ้นๆแน่”
“ปล่อยไว้แบบนี้ไม่เข้าท่าแน่
ข้าต้องหาวิธีกำจัดพวกมันอย่างเด็ดขาด !”
เมื่อตัดสินใจได้
เขาค่อยๆยกมือซ้ายขึ้นและสะสมพลังไว้ที่มือข้างนั้น
ทันใดนั้นแขนซ้ายทั้งหมดของเขาก็กลายเป็นสีแดงเพลิง
มันแดงเข้มราวกับลาวาและกลางฝ่ามือซ้ายก็เต็มไปด้วยเปลวไฟสีแดง
“อีกาดำบัดซบ
ไปลงนรกซะ !”
ชายหนุ่มคำรามเสียงต่ำ
ทันใดนั้นเขาก็ชูฝ่ามือซ้ายขึ้นเหนือศีรษะและเหวี่ยงออกไปข้างหน้า
หัตถ์ปราณเพลิงขนาดมหึมาข้างหนึ่งที่ควบแน่นโดยเปลวไฟสีแดงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาจากอากาศที่เบาบาง
พลันกระแทกเข้าใส่ฝูงอีกาสีดำ
มันเป็นหัตถ์ปราณเพลิงขนาดใหญ่ที่กว้างถึงยี่สิบเมตรและยาวสามสิบเมตร
ใหญ่โตอย่างผิดแผกยิ่ง
"บรึ้ม !"
ในขณะนั้นอีกาดำกระดูกคลั่งอย่างน้อยก็หลายร้อยตัวถูกฟาดด้วยเปลวเพลิงยักษ์
พวกมันลุกเป็นไฟและกลายเป็นเถ้าถ่านสีดำในพริบตา
!
เมฆสีดำที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้านั้นถูกกระแทกด้วยหัตถ์ปราณเพลิงจนเกิดช่องว่างในทันที
ก้อนถ่านดำเกรียมซึ่งก็คือร่างที่ถูกเผาของเหล่าอีกาหลายร้อยตัวได้ร่วงลงสู่แม่น้ำเบื้องล่างดัง
ซูม ซูม ซูม ไม่ขาดสาย
จี้เทียนซิงสังหารฝูงอีกาดำหลายร้อยตัวในฝ่ามือเดียว
แต่เขาไม่มีความตื่นเต้นยินดีแม้แต่น้อย
ขวับ
!
เขาสะบัดมือซ้ายอีกครั้งเพื่อควบคุมหัตถ์ปราณเพลิง
กวาดต้อนไปที่ฝูงอีกาอีกกลุ่มที่ด้านข้าง
เปลวเพลิงสีแดงเข้มของฝ่ามือยักษ์แผ่ซ่านปราณอัคคีสีแดงชาดที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้ากว่าหนึ่งร้อยเมตร
ทันใดนั้นอีกาจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลายในพริบตากลายเป็นชิ้นส่วนเถ้าถ่านดำมืดและตกลงไปในแม่น้ำไม่ขาดสาย
“โอ้ว แม่เจ้า......”
เฉียนเยวี่ยเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นภาพนี้
สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและตกตะลึง
มันปล่อยคมมีดน้ำแข็งออกไปสังหารฝูงอีกาในขณะที่ส่งเสียงถามจี้เทียนซิงด้วยความตื่นเต้นว่า
“สหายจี้ ! นี่เจ้าสามารถควบคุมปราณอัคคีได้
? คุณพระคุณเจ้า
เจ้าแตกฉานปราณอัคคีได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”
ก่อนหน้านี้จี้เทียนซิงเพียงพูดคุยกับมันสั้นๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มหาสมุทรแมกมา
เขาไม่ได้อธิบายต่อมันว่าสามารถควบคุมธาตุอัคคีได้แล้วหลังจากถูกยักษ์ลาวากลืนลงท้องเข้าไป
จี้เทียนซิงผุดยิ้มบางเงียบๆและไม่ได้อธิบายอะไร
เขายังคงโบกมือซ้ายอย่างต่อเนื่องเพื่อกวาดต้านฝูงอีกาในทุกทิศทาง
“บึ้ม
บึ้ม บึ้ม บึ้ม !”
เปลวไฟของหัตถ์ปราณอัคคีสังหารฝูงอีกาดำกระดูกคลั่งฝูงแล้วฝูงเล่า
ในช่วงเวลาสั้นๆพวกมันถูกเผาเป็นเถ้าถ่านตกลงในแม่น้ำนับไม่ถ้วนจนเกิดเสียง
ตูม ตูม ตูม ไม่ขาดสายและไม่สิ้นสุด และจำนวนของอีกาดำบนท้องฟ้าก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม
ในที่สุดท้องฟ้าก็เริ่มมีแสงสว่างเนื่องจากฝูงอีกาที่เคยหนาแน่นทั่วฟ้ากลับคงเหลือเพียงหยิบมือ
ถึงแม้ภายในถ้ำทั้งสองด้านของหน้าผายังมีฝูงอีกาโฉบออกมาบ้างก็ตาม
แต่พวกมันทำได้เพียงจ้องมองจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยอย่างหวาดๆและไม่กล้าโจมตีอีกต่อไป
เมื่อเป็นเช่นนี้
ทั้งสองจึงพ้นจากอันตรายและเร่งความเร็วบินหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
..............
ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเบื้องหน้านี้เต็มไปด้วยก้อนหินสีดำขนาดใหญ่
เฉียนเยวี่ยบินอยู่เหนือแม่น้ำ
ทั่วร่างของมันเต็มไปด้วยแสงสว่างสีฟ้าและมันกำลังฟื้นฟูร่างกายตนเองอย่างเงียบงัน
ในขณะนี้แม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าได้มีวังวนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในทันที
!
วังวนอันมืดมิดนี้หมุนวนด้วยความเร็วยิ่งยวดและกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มันเหมือนนรกทมิฬที่มีทั้งความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว
เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้จี้เทียนซิงพลันขมวดคิ้วทันทีและตะโกนว่า
“เฉียนเยวี่ย ระวัง !"
เขาเห็นได้ชัดเจนว่าใต้วังวนของกระแสน้ำวนลึกนี้มีเงาร่างสีดำขนาดใหญ่กำลังผุดขึ้นมาเหนือน้ำด้วยความเร็วสูง
“ซู่ม !!!!”
เมื่อเงาดำขนาดใหญ่ทะลุผ่านผิวน้ำและพุ่งออกมาจากกระแสน้ำวนก็ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่
ตามมาด้วยเสียงคลื่นของสายน้ำที่สาดซัดไปทั่วบริเวณ
เพียงชั่วครู่หนึ่ง
จี้เทียนซิงก็สามารถมองเห็นได้ถนัดตาต่อเงาร่างที่ปรากฏเบื้องหน้า
แท้จริงแล้วเงาดำขนาดใหญ่ใต้น้ำนี้ก็คืองูยักษ์ที่มีความยาวหลายร้อยเมตร !
งูยักษ์ตัวนี้เป็นสีดำเข้มและปกคลุมไปด้วยเกล็ดอันละเอียดอ่อนที่เปล่งประกายอันเยือกเย็น
ลำตัวของมันมีความยาวอย่างน้อยก็สี่ร้อยเมตร
ครึ่งหนึ่งชันกายอยู่กลางอากาศแต่ส่วนหางยังคงซ่อนอยู่ใต้กระแสน้ำวนขนาดใหญ่เบื้องล่าง
เมื่อจี้เทียนซิงได้เห็นภาพลักษณ์ของมัน
ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดเท่าเข็ม ดวงตาของเขาเปล่งประกายสยดสยอง
เนื่องจากงูยักษ์สีดำทมิฬตัวนี้กลับมีถึงเก้าหัว
!
แต่ละหัวนั้นมีขนาดเท่ากัน
และอ้าปากกว้างเหมือนชามขนาดใหญ่ที่รอเขมือบเหยื่อ
“สัตว์อสูรตัวนี้คืออะไร… ? มันใหญ่โตยิ่งนักแถมยังมีเก้าหัว ”
“หรือว่ามันคือจุ้ยโต้วเซ่อในตำนาน ?” (ไฮดร้า)
จี้เทียนซิงมองดูไฮดร้าด้วยท่าทางเคร่งเครียดและลอบกำหมัดอย่างลับๆเพื่อสะสมพลังปราณอันแข็งกร้าวเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
พร้อมที่จะปะทะได้ตลอดเวลา
เฉียนเยวี่ยหยุดอยู่กลางอากาศและจ้องมองไฮดราอย่างระมัดระวัง
ไฮดร้ายืดลำตัวตะหง่านอยู่กลางท้องฟ้าเหนือแม่น้ำสายใหญ่
ดวงตาสีเขียวมรกตทั้งเก้าคู่จับจ้องไปที่เฉียนเยวี่ยและจี้เทียนซิงอย่างไม่วางตา อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงความกระหายเลือดและเย็นชา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม่น้ำใหญ่สายนี้เป็นที่ถิ่นของมัน
จี้เทียนซิงได้ฆ่าอีกาดำกระดูกคลั่งไปนับไม่ถ้วนสร้างความวุ่นวายไปทั่วแม่น้ำและปลุกให้มันตื่นขึ้น
เฉียนเยวี่ยลอยตัวอยู่ห่างจากไฮดร้าสองร้อยเมตรอย่างเงียบเชียบ
ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากันโดยไม่มีฝ่ายใดเริ่มลงมือก่อน
บรรยากาศดูกดดันจนอากาศราวกับแข็งตัว
อย่างไรก็ตาม
กลิ่นอายอันเย็นเยือกของไฮดร้าและพิษที่มองไม่เห็นชนิดหนึ่งกำลังแพร่กระจายไปในอากาศอย่างเงียบงัน
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved