ตอนที่ 287

ไปตายซะให้หมด

!

อีกาดำกระดูกคลั่งจำนวนนับหมื่นปกคลุมไปทั่วท้องนภาอย่างเนืองแน่นเหมือนก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่

ร่างของจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยถูกครอบคลุมและถูกล้อมรอบไว้ด้วยอีกาดำจำนวนนับไม่ถ้วน

พวกเขาดูเหมือนมดตัวจ้อยใต้เมฆสีดำก้อนมหึมา !

ถึงแม้จะมีความพยายามอย่างมากในการตอบโต้การโจมตีอย่างมืดฟ้ามัวดินของพวกมัน

แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจกวาดล้างหมดได้หมดสิ้น

ขนาดตัวของเฉียนเยวี่ยนั้นใหญ่กว่าจึงตกเป็นเป้าหมายหลักของฝูงอีกาอันดุร้าย

ในช่วงเวลาสั้นๆทั่วร่างของมันปกคลุมไปด้วยรอยกัดและรอยกรงเล็บของพวกมัน

โลหิตและขนสีฟ้าน้ำแข็งอันเงางามหลุดร่วงเป็นกระจุกๆ

"อา.... !

ระยำเอ้ย

ไอ้อีกาเหม็นเน่า ! พวกเจ้ากล้าดียังไงวะถึงได้มาทำให้ขนอันงดงามของราชาผู้นี้ต้องหลุดร่วง

?  ไสหัวไปให้พ้นทางโว้ย

!”

ตูม

!!

เฉียนเยวี่ยคำรามด้วยความโกรธแค้น

มันโบกกรงเล็บอย่างเกรี้ยวกราดเกิดเป็นลำแสงน้ำแข็งสีฟ้า สังหารฝูงอีกาเบื้องหน้าจนร่วงเป็นทาง

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว !”

ปราณลำแสงน้ำแข็งประดุจดั่งศรน้ำแข็งอันแหลมคมที่พุ่งทะลวงทิ่มแทงฝูงอีกานับไม่ถ้วนและฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ

แต่ทว่าการโจมตีของมันที่ประเคนเข้าใส่ฝูงอีกาที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้านั้นด้วยด้อยค่า

อีกฝ่ายสูญเสียเพียงเล็กน้อยราวกับน้ำหยดเดียวที่หยดจากถังขนาดใหญ่

อีกาสีดำกรูกันเข้ามาในทุกทิศทาง

ไม่เพียงแค่ไม่ลดลง แต่จำนวนของพวกมันยังเพิ่มพูนเป็นทบทวี !

หลังจากที่อีกาดำบางส่วนถูกสังหารเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

พวกมันกลายเป็นเศษเนื้อที่ตกลงมาจากฟ้า

พวกมันที่เหลือโผบินเข้าไปจิกกินพวกเดียวกันอย่างเอร็ดอร่อย

ภาพที่เห็นนี้ช่างโกลาหลวุ่นวาย

ภายใต้การกระตุ้นของโลหิตและความตาย

พวกมันยิ่งกลายเป็นดุร้ายกระหายเลือดมากขึ้นเรื่อยๆและปิดล้อมจี้เทียนซิงกับเฉียนเยวี่ยอย่างมืดฟ้ามัวดิน

“บะ......บ้าเอ้ย

ยิ่งตายยิ่งคลั่งหรือไงวะไอ้พวกนี้ !?”

เฉียนเยวี่ยกรีดร้องเสียงหลง

จี้เทียนซิงก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดและอึดอัด

เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆและได้เห็นอีกาสีดำที่เข้ามารวมกลุ่มกันหนาแน่นขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

คิ้วของเขาหักมาชนกันและกระซิบในใจว่า “แม้แต่มดก็ยังรุมกัดราชสีห์ให้สิ้นใจได้หากมีจำนวนมากพอ....

หากปล่อยไว้แบบนี้ข้ากับเฉียนเยวี่ยคงถูกพวกมันรุมทึ้งเป็นชิ้นๆแน่”

“ปล่อยไว้แบบนี้ไม่เข้าท่าแน่

ข้าต้องหาวิธีกำจัดพวกมันอย่างเด็ดขาด !”

เมื่อตัดสินใจได้

เขาค่อยๆยกมือซ้ายขึ้นและสะสมพลังไว้ที่มือข้างนั้น

ทันใดนั้นแขนซ้ายทั้งหมดของเขาก็กลายเป็นสีแดงเพลิง

มันแดงเข้มราวกับลาวาและกลางฝ่ามือซ้ายก็เต็มไปด้วยเปลวไฟสีแดง

“อีกาดำบัดซบ

ไปลงนรกซะ !”

ชายหนุ่มคำรามเสียงต่ำ

ทันใดนั้นเขาก็ชูฝ่ามือซ้ายขึ้นเหนือศีรษะและเหวี่ยงออกไปข้างหน้า

หัตถ์ปราณเพลิงขนาดมหึมาข้างหนึ่งที่ควบแน่นโดยเปลวไฟสีแดงปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขาจากอากาศที่เบาบาง

พลันกระแทกเข้าใส่ฝูงอีกาสีดำ

มันเป็นหัตถ์ปราณเพลิงขนาดใหญ่ที่กว้างถึงยี่สิบเมตรและยาวสามสิบเมตร

ใหญ่โตอย่างผิดแผกยิ่ง

"บรึ้ม !"

ในขณะนั้นอีกาดำกระดูกคลั่งอย่างน้อยก็หลายร้อยตัวถูกฟาดด้วยเปลวเพลิงยักษ์

พวกมันลุกเป็นไฟและกลายเป็นเถ้าถ่านสีดำในพริบตา

!

เมฆสีดำที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้านั้นถูกกระแทกด้วยหัตถ์ปราณเพลิงจนเกิดช่องว่างในทันที

ก้อนถ่านดำเกรียมซึ่งก็คือร่างที่ถูกเผาของเหล่าอีกาหลายร้อยตัวได้ร่วงลงสู่แม่น้ำเบื้องล่างดัง

ซูม ซูม ซูม ไม่ขาดสาย

จี้เทียนซิงสังหารฝูงอีกาดำหลายร้อยตัวในฝ่ามือเดียว

แต่เขาไม่มีความตื่นเต้นยินดีแม้แต่น้อย

ขวับ

!

เขาสะบัดมือซ้ายอีกครั้งเพื่อควบคุมหัตถ์ปราณเพลิง

กวาดต้อนไปที่ฝูงอีกาอีกกลุ่มที่ด้านข้าง

เปลวเพลิงสีแดงเข้มของฝ่ามือยักษ์แผ่ซ่านปราณอัคคีสีแดงชาดที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้ากว่าหนึ่งร้อยเมตร

ทันใดนั้นอีกาจำนวนนับไม่ถ้วนถูกทำลายในพริบตากลายเป็นชิ้นส่วนเถ้าถ่านดำมืดและตกลงไปในแม่น้ำไม่ขาดสาย

“โอ้ว แม่เจ้า......”

เฉียนเยวี่ยเบิกตากว้างเมื่อได้เห็นภาพนี้

สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความประหลาดใจและตกตะลึง

มันปล่อยคมมีดน้ำแข็งออกไปสังหารฝูงอีกาในขณะที่ส่งเสียงถามจี้เทียนซิงด้วยความตื่นเต้นว่า

“สหายจี้ ! นี่เจ้าสามารถควบคุมปราณอัคคีได้

? คุณพระคุณเจ้า

เจ้าแตกฉานปราณอัคคีได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?”

ก่อนหน้านี้จี้เทียนซิงเพียงพูดคุยกับมันสั้นๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มหาสมุทรแมกมา

เขาไม่ได้อธิบายต่อมันว่าสามารถควบคุมธาตุอัคคีได้แล้วหลังจากถูกยักษ์ลาวากลืนลงท้องเข้าไป

จี้เทียนซิงผุดยิ้มบางเงียบๆและไม่ได้อธิบายอะไร

เขายังคงโบกมือซ้ายอย่างต่อเนื่องเพื่อกวาดต้านฝูงอีกาในทุกทิศทาง

“บึ้ม

บึ้ม  บึ้ม บึ้ม !”

เปลวไฟของหัตถ์ปราณอัคคีสังหารฝูงอีกาดำกระดูกคลั่งฝูงแล้วฝูงเล่า

ในช่วงเวลาสั้นๆพวกมันถูกเผาเป็นเถ้าถ่านตกลงในแม่น้ำนับไม่ถ้วนจนเกิดเสียง

ตูม ตูม ตูม ไม่ขาดสายและไม่สิ้นสุด  และจำนวนของอีกาดำบนท้องฟ้าก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม

ในที่สุดท้องฟ้าก็เริ่มมีแสงสว่างเนื่องจากฝูงอีกาที่เคยหนาแน่นทั่วฟ้ากลับคงเหลือเพียงหยิบมือ

ถึงแม้ภายในถ้ำทั้งสองด้านของหน้าผายังมีฝูงอีกาโฉบออกมาบ้างก็ตาม

แต่พวกมันทำได้เพียงจ้องมองจี้เทียนซิงและเฉียนเยวี่ยอย่างหวาดๆและไม่กล้าโจมตีอีกต่อไป

เมื่อเป็นเช่นนี้

ทั้งสองจึงพ้นจากอันตรายและเร่งความเร็วบินหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

..............

ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเบื้องหน้านี้เต็มไปด้วยก้อนหินสีดำขนาดใหญ่

เฉียนเยวี่ยบินอยู่เหนือแม่น้ำ

ทั่วร่างของมันเต็มไปด้วยแสงสว่างสีฟ้าและมันกำลังฟื้นฟูร่างกายตนเองอย่างเงียบงัน

ในขณะนี้แม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าได้มีวังวนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในทันที

!

วังวนอันมืดมิดนี้หมุนวนด้วยความเร็วยิ่งยวดและกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว มันเหมือนนรกทมิฬที่มีทั้งความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว

เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้จี้เทียนซิงพลันขมวดคิ้วทันทีและตะโกนว่า

“เฉียนเยวี่ย ระวัง !"

เขาเห็นได้ชัดเจนว่าใต้วังวนของกระแสน้ำวนลึกนี้มีเงาร่างสีดำขนาดใหญ่กำลังผุดขึ้นมาเหนือน้ำด้วยความเร็วสูง

“ซู่ม  !!!!”

เมื่อเงาดำขนาดใหญ่ทะลุผ่านผิวน้ำและพุ่งออกมาจากกระแสน้ำวนก็ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่

ตามมาด้วยเสียงคลื่นของสายน้ำที่สาดซัดไปทั่วบริเวณ

เพียงชั่วครู่หนึ่ง

จี้เทียนซิงก็สามารถมองเห็นได้ถนัดตาต่อเงาร่างที่ปรากฏเบื้องหน้า

แท้จริงแล้วเงาดำขนาดใหญ่ใต้น้ำนี้ก็คืองูยักษ์ที่มีความยาวหลายร้อยเมตร !

งูยักษ์ตัวนี้เป็นสีดำเข้มและปกคลุมไปด้วยเกล็ดอันละเอียดอ่อนที่เปล่งประกายอันเยือกเย็น

ลำตัวของมันมีความยาวอย่างน้อยก็สี่ร้อยเมตร

ครึ่งหนึ่งชันกายอยู่กลางอากาศแต่ส่วนหางยังคงซ่อนอยู่ใต้กระแสน้ำวนขนาดใหญ่เบื้องล่าง

เมื่อจี้เทียนซิงได้เห็นภาพลักษณ์ของมัน

ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดเท่าเข็ม ดวงตาของเขาเปล่งประกายสยดสยอง

เนื่องจากงูยักษ์สีดำทมิฬตัวนี้กลับมีถึงเก้าหัว

!

แต่ละหัวนั้นมีขนาดเท่ากัน

และอ้าปากกว้างเหมือนชามขนาดใหญ่ที่รอเขมือบเหยื่อ

“สัตว์อสูรตัวนี้คืออะไร… ? มันใหญ่โตยิ่งนักแถมยังมีเก้าหัว ”

“หรือว่ามันคือจุ้ยโต้วเซ่อในตำนาน ?” (ไฮดร้า)

จี้เทียนซิงมองดูไฮดร้าด้วยท่าทางเคร่งเครียดและลอบกำหมัดอย่างลับๆเพื่อสะสมพลังปราณอันแข็งกร้าวเอาไว้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมที่จะปะทะได้ตลอดเวลา

เฉียนเยวี่ยหยุดอยู่กลางอากาศและจ้องมองไฮดราอย่างระมัดระวัง

ไฮดร้ายืดลำตัวตะหง่านอยู่กลางท้องฟ้าเหนือแม่น้ำสายใหญ่

ดวงตาสีเขียวมรกตทั้งเก้าคู่จับจ้องไปที่เฉียนเยวี่ยและจี้เทียนซิงอย่างไม่วางตา  อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงความกระหายเลือดและเย็นชา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม่น้ำใหญ่สายนี้เป็นที่ถิ่นของมัน

จี้เทียนซิงได้ฆ่าอีกาดำกระดูกคลั่งไปนับไม่ถ้วนสร้างความวุ่นวายไปทั่วแม่น้ำและปลุกให้มันตื่นขึ้น

เฉียนเยวี่ยลอยตัวอยู่ห่างจากไฮดร้าสองร้อยเมตรอย่างเงียบเชียบ

ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากันโดยไม่มีฝ่ายใดเริ่มลงมือก่อน

บรรยากาศดูกดดันจนอากาศราวกับแข็งตัว

อย่างไรก็ตาม

กลิ่นอายอันเย็นเยือกของไฮดร้าและพิษที่มองไม่เห็นชนิดหนึ่งกำลังแพร่กระจายไปในอากาศอย่างเงียบงัน