ข้าลุยเอง
!
จี้เทียนซิงกับลู่หมิงหยางหันไปมองหน้ากันโดยมิได้รีบร้อนขึ้นเวที
ส่วนทางด้านของนิกายกระบี่ฟ้า ไม่ว่าจะเป็นอาวุโสคุมกฎ
พ่อบ้านรวมไปถึงเหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างก็เผยรอยยิ้มหยอกเย้าที่มั่นอกมั่นใจ
พวกฮั่งเชินทั้งสามคนไม่จำเป็นต้องพูดคุยนัดแนะใดๆให้มากความ
พวกมันตัดสินใจจัดลำดับการประลองได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อสิ้นเสียงของอาวุโสต่ง
หยานตงไหลที่มีระดับพลังอ่อนด้อยที่สุดในบรรดาศิษย์ทั้งสามก็เดินออกไปยืนกลางเวทีมังกรจันทร์
อาวุโสถังของฝ่ายนิกายกระบี่ฟ้าประกาศขึ้นในทันที
“รอบแรก
หยานตงไหลจากนิกายกระบี่ฟ้าเป็นตัวแทนเข้าร่วมการต่อสู้”
ชูไฮว่ซานหันไปมองจี้เทียนซิงและลู่หมิงหยางเพื่อรอคอยให้พวกมันตัดสินใจกันเองว่าใครจะลงประลองก่อน
ลู่หมิงหยางที่เห็นว่าหยานตงไหลลงประลองเป็นคนแรกก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาทันทีและรีบกล่าวกับจี้เทียนซิงอย่างรวดเร็วว่า
“ให้ข้าลุยเองไอ้น้อง !”
ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ยอมให้จี้เทียนซิงเอ่ยปากและชิงมุ่งหน้าไปกลางเวทีอย่างรวดเร็ว
ชูไฮว่ซานประกาศเสียงดังขึ้นมาทันทีว่า
“รอบแรก นิกายพันธมิตรสวรรค์ขอส่งลู่หมิงหยางลงประลอง”
จากนั้นชูไฮว่ซานและอาวุโสถังก็ล่าถอยไปยืนอยู่ที่ขอบเวทีและจ้องมองไปยังศิษย์ทั้งสองกลางสนาม
หยานตงไหลกุมกระบี่และยืนกอดอกอย่างเยือกเย็น มันเผยยิ้มยียวนพลางจ้องมองไปที่ลู่หมิงหยางอย่างมีเลศนัยและกล่าวว่า
“ศิษย์น้องลู่หมิงหยาง พวกเราได้พบหน้ากันอีกแล้ว”
“เฮอะ !
ลู่หมิงหยางแค่นเสียงและเผยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
มันขี้เกียจเกินกว่าจะต่อปากต่อคำกับหยานตงไหลและหยิบลูกบอลสีเงินออกมาอย่างรวดเร็ว
มันถือลูกบอลสีเงินไว้บนฝ่ามือและอัดพลังปราณอันแก่กล้าเข้าไป
วู้ม !
ทันใดนั้นลูกบอลเงินก็ส่องแสงสีเงินอันวาววับและเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนชุดเกราะสีเงินพัวพันไปทั่วร่างของมัน
ชุดเกราะนี้ไม่เพียงแค่ห่อหุ้มร่างกายส่วนบนของมันเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงรองเท้าและกลายเป็นหมวกรบที่ปกคลุมมิดชิดดุจนักรบโบราณ
!
แม้กระทั่งดวงตาที่มองลอดจากหมวกเกราะก็ยังมีม่านแสงสีเงินจางๆที่คอยปกป้องดวงตาเอาไว้อีกด้วย
ในชั่วพริบตาลู่หมิงหยางก็เป็นดั่งยักษ์สีเงินที่สูงเกือบสองเมตร
!
เมื่อเห็นภาพนี้เหล่าศิษย์นิกายพันธมิตรสวรรค์กลับไม่ได้รู้สึกถึงความฮึกเหิมยิ่งใหญ่แม้แต่น้อย สีหน้าของพวกมันทุกคนดูแปลกพิลึก...
สารรูปที่เปลี่ยนไปของลู่หมิงหยางทำให้คนของนิกายกระบี่ฟ้าระเบิดเสียงหัวเราะร่าออกมาพร้อมกับกุมท้องเอนตัวไปข้างหน้าด้วยความขบขัน
แม้แต่พ่อบ้านและอาวุโสคุมกฎก็ยังอดไม่ได้ที่จะลอบหัวเราะแผ่วเบาออกมา
หยานตงไหลกลั้นหัวเราะ
มันอดไม่ได้ที่จะยิ้มหยามพลางมองไปที่ลู่หมิงหยางด้วยความสมเพช
จากนั้นก็กล่าวล้อเลียนว่า “ฮ่ะๆ ศิษย์น้องลู่
เจ้าเตรียมตัวมาได้ดีเยี่ยมจริงๆ !”
“เห็นเจ้ากลายร่างเป็นนักรบยักษ์สีเงินที่น่าเกรงขามเช่นนี้
ข้าล่ะกลัวจนแข้งขาสั่นยืนแทบไม่ไหวแล้ว
ไม่ไหวๆ..... สงสัยข้าต้องขอยอมแพ้ซะแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ......"
ลู่หมิงหยางรู้ดีว่าทุกคนกำลังหัวเราะเยาะ
แต่มันก็กล้ำกลืนความอัปยศอดสูและชักกระบี่สีทองออกมา
ดวงตาจ้องเขม็งไปที่หยานตงไหลและคำรามออกมาว่า
“ศิษย์พี่หยาน
อย่าได้โอหังให้มากนัก พวกเรามารบมิได้มาพล่าม เข้ามาเลยเซ่ ! ให้ข้าดูหน่อยเถอะว่าเจ้าเจ๋งแค่ไหน !”
“ย่อมได้”
เช้ง
!
หยานตงไหลก็ชักกระบี่สีดำจากกลางหลังด้วยเจตนาต่อสู้อันแรงกล้าจนทำให้ผู้คนหายใจไม่ทั่วท้อง
“ศิษย์น้องลู่ เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว !”
“เพลงกระบี่เจ็ดสังหารที่ข้าสำแดงกลางจตุรัสในวันนั้นเป็นเพียงกระบวนท่าแรกเริ่ม
บัดนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นเพลงกระบี่เจ็ดสังหารที่แท้จริง !”
ฟุ่บ
!
เมื่อเสียงลดลงหยานตงไหลก็พุ่งเข้าหาลู่หมิงหยางด้วยสองมือที่กุมกระบี่พลางคำรามออกมาด้วยเจตนาฆ่าฟัน
หนึ่ง สะบั้นกระดูก !
หยานตงไหลทะยานดิ่งใส่ลู่หมิงหยางพลางตวัดกระบี่ออกมา
คลื่นกระบี่สีดำที่ทุบกระแทกออกไปหาลู่หมิงหยางนี้ยาวเกือบสองเมตร
มันหอบหุ้มไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้ขุนเขาและสายน้ำต้องพินาศ
“มาได้ดี !”
ลู่หมิงหยางไม่ตื่นตระหนก ขวัญกำลังใจของมันปะทุซ่านดังสายรุ้ง จากนั้นมันได้ตวัดกระบี่สาดซัดออกไปสามสาย
ป้ง !!
คลื่นกระบี่ของทั้งสองปะทะเข้าหากันในทันทีและส่งเสียงอู้อี้แสบแก้วหูออกมา
คลื่นกระบี่สามสายของลู่หมิงหยางถูกทำลายด้วยคลื่นกระบี่ของหยานตงไหลในฉับพลัน
หยานตงไหลกระโจนเข้าใส่อีกคำรบพลางฟาดกระบี่กระแทกหาลู่หมิงหยาง
เจตนาฆ่าฟันทั่วร่างที่แผ่ซ่านออกมาเกือบจะควบแน่นกลายเป็นสายลม
สาม สังหารฤทัย !
ลำแสงกระบี่อันทรงพลังสามเส้นวาบผ่านและห่อหุ้มลู่หมิงหยางไว้
ณ จุดนนั้นทันที
เจตนาฆ่าฟันอันรุนแรงและพลานุภาพของเพลงกระบี่ที่น่าหวาดกลัวทำให้ดวงตาของลู่หมิงหยางสั่นระริกอย่างตื่นตระหนก สีหน้าของมันกลายเป็นไม่น่าดู
น่าเสียดายที่มันใส่หมวกเกราะปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิดจนคนรอบข้างไม่อาจเห็นการแสดงออกของมันได้
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้มันล่าถอยไปวูบหนึ่งและควงลำแสงกระบี่ออกไปต้านทาน
เป้ง
เป้ง เป้ง !!
แสงกระบี่บนท้องฟ้าปะทะกันอย่างรุนแรง
เสียงอู้อี้แสบหูระเบิดออกมาอีกครั้ง
คลื่นกระบี่ของลู่หมิงหยางถูกทุบทำลายเป็นชิ้นอีกครั้งและแตกกระจายไปทั่ว
หยานตงไหลยิ่งลงมือยิ่งคึกคัก
เจตนาฆ่าฟันของมันเกรี้ยวกราดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเป็นเงาตามตัว มันดีดปราดไปเบื้องหน้าดุจอุกกาบาตเข้าหาลู่หมิงหยางด้วยกลิ่นอายพลังอันไร้เทียมทาน
สี่ ดับวิญญาณ !
กระบี่สีดำตวัดออกอีกครั้ง
แผ่กระจายเป็นคลื่นกระบี่อันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวสี่สายซึ่งครอบคลุมไปทั่วร่างลู่หมิงหยาง
ลู่หมิงหยางมีระดับพลังอ่อนด้อยกว่าหยานตงไหล
มันรู้สึกตระหนกต่อเจตนาฆ่าฟันอันรุนแรงของอีกฝ่ายจนไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆกับการโจมตีครั้งนี้
เมื่อเห็นคลื่นกระบี่สี่สายที่เปล่งประกายต่อหน้าเส้นแล้วเส้นเล่า
มันทำได้เพียงถอยร่นอย่างต่อเนื่องและเหวี่ยงกระบี่ไปมาก่อเกิดเป็นเส้นแสงคลื่นกระบี่สิบแปดสายเพื่อเข้าต้านรับอย่างหดหู่
เคร้ง !
หลังจากเสียงแสบแก้วหูระเบิดขึ้นอีกรอบ
คลื่นกระบี่ของลู่หมิงหยางก็ถูกทุบทำลายจนหมดสิ้น
คลื่นกระบี่สี่สายของหยานตงไหลก็หายไปสามสายเช่นกัน
แต่ทว่ากระบี่สายที่สี่ยังคงอยู่และในที่สุดก็ได้กระแทกเข้าใส่ชุดเกราะของลู่หมิงหยางเข้าเต็มๆ
“เคร้งงงงง !!”
หลังจากสิ้นเสียงตกกระทบ
ลู่หมิงหยางก็ถูกส่งให้บินออกไปไกลสามเมตรด้วยคลื่นกระบี่ชุดสุดท้ายของหยานตงไหล
ไหล่ซ้ายของเกราะเงินเผยให้เห็นร่องลึกอันน่าตกใจ
เห็นได้ชัดว่าเกราะเงินของลู่หมิงหยางได้รับความเสียหายแล้ว
โชคดีที่เกราะเงินช่วยลดทอนพลังโจมตีจนทำให้ลู่หมิงหยางไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
มันรีบลุกขึ้นยืนและหันไปมองที่ไหล่ซ้ายด้วยใบหน้าซีดขาวอย่างหวาดกลัว
ทว่าหยานตงไหลก็พุ่งออกไปตามติดอย่างต่อเนื่องด้วยเจตนาฆ่าฟัน
ลู่หมิงหยางอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบที่แผ่นหลังพลางคิดในใจ
"ระยำ ! ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้วะ ?!”
“นี่คือพลังที่แท้จริงของมันงั้นหรือ ?”
ในเวลาเดียวกันหยานตงไหลก็ทะยานมาถึงและฟาดคลื่นกระบี่ออกไปอีกห้าสาย
ห้า ทำลายพสุธา !!
ลู่หมิงหยางหลบเลี่ยงอย่างหมดท่าอีกครั้งพลางยกกระบี่ขึ้นต้าน
“เคร้ง.... เคร้ง !”
หลังจากเสียงแหลมระเบิดขึ้นอีกครั้งหลาย
ลู่หมิงหยางก็ถูกซัดกระเด็นจนกลิ้งตลบไปไกลถึงสี่เมตร
เกราะที่หน้าอกของมันถูกคว้านออกจนเป็นร่องลึก
มาถึงตอนนี้มันเข้าใจแล้วว่าเพลงกระบี่เจ็ดสังหารที่หยานตงไหลบ่มเพาะนั้นเป็นวิชากระบี่ต่อสู้อันดุร้ายเพียงใด
เพลงกระบี่ชนิดนี้มุ่งเน้นที่สังหาร
มันไม่จำเป็นต้องออกกระบวนท่าให้มากความ
มันคือการสังหารอย่างรวดเร็วและจะไม่หยุดจนกว่าจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้พินาศสิ้น
!
ยิ่งเร่งมากเท่าใดพลังทำลายและเจตนาฆ่าฟันก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นเงาตามตัว นอกจากนี้เพลงกระบี่ก็จะทรงพลังมากยิ่งขึ้น
หก สังหารเบิกขุนเขา !
โดยไม่รีรอให้ลู่หมิงหยางได้มีโอกาสลุก
หยานตงไหลออกเพลงกระบี่ที่หกทันที
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลู่หมิงหยางไม่มีพลังพอที่จะหยุดยั้งกระบี่ที่หกได้อีกแล้ว มันถูกกระแทกลอยละลิ่วไปอีกรอบ
ครั้งนี้ชุดเกราะสีเงินของมันเกิดร่องลึกขึ้นอีกสามรอยจนกลายเป็นบิดเบี้ยวผิดรูป
ถึงแม้สมบัติชิ้นนี้จะเป็นเกราะป้องระดับล้ำลึก
แต่กระบี่ดำของหยานตงไหลก็เป็นศัตราวุธระดับล้ำลึกเช่นกัน
สังหารที่เจ็ด สวรรค์บรรลัย !!
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved