ตอนที่ 293

24 วิถีข่ายอาคมระดับสวรรค์

กว่าจี้เทียนซิงจะดั้นด้นมาถึงทะเลสาบจันทร์เต็มดวงได้

เขาต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเพื่อตามหาลูกปัดแห่งดวงดารา

เมื่อมาถึงจุดหมาย

ผลที่ได้กลับกลายเป็นเต่ามังกรหินตัวหนึ่งบอกต่อเขาว่าลูกปัดมิได้อยู่ในวิหารแห่งดวงดาวอีกแล้ว

!

ในใจของเขารู้สึกหดหู่ผิดหวังเล็กน้อย

แต่ประโยคต่อมาเต่าหินบอกเขาว่าลูกปัดแห่งดวงดาราสมควรอยู่ในสุสานพันปีใต้ภูเขามังกร

นอกจากนี้อีกฝ่ายยังคิดจะสอนวิธีการทำลายข่ายอาคมให้เขาอีกด้วย

สำหรับจี้เทียนซิง

เรื่องนี้น่ายินดีและประหลาดใจมาก !

เขาคารวะเต่าหินทันทีและกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณผู้อาวุโสมาก ผู้เยาว์รู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก !”

เต่าทรราชไม่ตอบคำ

แต่แผ่นหินใหญ่สีดำที่ด้านหลังของมันกลับมีแสงสีขาวส่องสว่างขึ้น

ม่านแสงสีขาวนี้เป็นเหมือนหน้าจอ

มันแสดงรูปภาพแผนผังมหาข่ายปราณระดับสวรรค์ขึ้นมาในทันที

ภาพของข่ายปราณที่ปรากฏเบื้องหน้านี้มีลักษณะการจัดวางที่ยอดเยี่ยมเปี่ยมไปด้วยความงดงามและละเอียดอ่อนมาก

มันทำให้จี้เทียนซิงจับจ้องอย่างไม่วางตา

ในไม่ช้ารูปภาพก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป

มันแสดงโครงสร้างและบริบทของข่ายปราณระดับสวรรค์

ตลอดจนวิถีในการถอดรหัสแบบไหลทวนกระแส

จี้เทียนซิงตั้งสมาธิไปที่แผ่นหิน

ร่างกายและจิตใจทั้งหมดราวกับถูกแช่แข็งอยู่ในภาพข่ายปราณเบื้องหน้า

เขาเฝ้าสังเกตอย่างถี่ถ้วน

“นี่คือ…ข่ายปราณระดับสวรรค์”

เมื่อเวลาผ่านไปภาพของม่านแสงสีขาวก็เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องและความลึกลับของข่ายปราณสามมิติก็ได้ถูกวิเคราะห์อย่างชัดเจนและครบถ้วนสมบูรณ์

จี้เทียนซิงจดจำวิธีการที่จะทำลายเส้นสายอาคมและจดจำภาพทุกภาพทุกรายละเอียดเอาไว้อย่างตั้งใจ

ต่อมาม่านแสงสีขาวก็แสดงภาพใหม่ขึ้น

มันคือข่ายปราณระดับสวรรค์ชิ้นใหม่

“นี่คือข่ายปราณสี่สวรรค์รวมหนึ่ง !”

จี้เทียนซิงเห็นเบาะแสทันที

ดวงตาของเขาจับจ้องที่ม่านแสงและพยายามเรียนรู้อย่างจริงจัง

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม

ความลึกลับของภาพข่ายปราณสี่สวรรค์รวมหนึ่งก็แสดงอย่างเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นภาพใหม่ก็ปรากฏขึ้นในม่านแสงสีขาว

ข่ายปราณ

เช่น อนุพันธ์ห้าธาตุ, เสถียรหกวิถี, เจ็ดดาราและข่ายปราณโซ่ผนึกแปดมังกรล้วนแต่ถูกนำเสนอทีละหน้าให้จี้เทียนซิงได้ศึกษา

ต่อมา

แม้แต่ความลับสุดยอดของข่ายปราณหม้อวิเศษเก้าจักรวาลก็ยังปรากฏขึ้นเบื้องหน้า !

จี้เทียนซิงรู้สึกตื่นเต้นและเหลือเชื่อยิ่งนัก

จากนั้นม่านแสงสีขาวก็ยังคงแสดงข่ายปราณระดับสวรรค์มากขึ้น

รวมไปถึงรายละเอียดและวิธีการถอดรหัสพวกมัน

จี้เทียนซิงจ้องไปที่ม่านแสงและสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วน

เขามุ่งมั่นตั้งใจจนลืมกระทั่งเวลา

.......

ผ่านไปหกชั่วยามโดยไม่รู้ตัว

ม่านแสงสีขาวได้นำเสนอวิธีการถอดรหัสมหาข่ายปราณชุดแล้วชุดเล่าอย่างต่อเนื่องกว่ายี่สิบชุด

ข่ายปราณและข่ายอาคมระดับสวรรค์ทุกชนิดล้วนแล้วแต่ลึกลับ

วิธีการถอดรหัสหรือทำลายพวกมันช่างเต็มไปด้วยความซับซ้อนยุ่งเหยิงมากกว่า

ต่อให้เป็นผู้มีพรสวรรค์ในวิถีแห่งข่ายอาคมอย่างจี้เทียนซิงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแสดงข่ายอาคมทั้งยี่สิบกว่าชนิดได้อย่างละเอียดเช่นนี้

ในที่สุดม่านแสงสีขาวก็หายไป

แผ่นหินสีดำที่ด้านหลังของเต่าหินก็เริ่มเลือนลาง

เสียงของเต่าหินกลับมาดึงขึ้นในใจของจี้เทียนซิง

“เด็กน้อย 24

วิถีข่ายอาคมระดับสวรรค์ที่ข้าสอนเจ้าเมื่อครู่นี้

ครอบคลุมแทบจะทุกชนิดจากทั่วทั้งทวีปลมปราณฟ้า ตราบใดที่เจ้าสามารถเข้าใจข่ายอาคมทั้ง

24 วิถีได้อย่างแตกฉาน

เมื่อนั้นเจ้าก็สามารถเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์แห่งข่ายอาคมได้เลย

จากนั้นไม่ว่าจะเป็นข่ายอาคมหรือข่ายปราณที่ต่ำกว่าระดับสวรรค์

ไม่มีชนิดไหนที่เจ้าจะไม่สามารถพิฆาตได้ !”

จี้เทียนซิงรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เขาปรารถนาที่จะเป็นปรมาจารย์ในศาสตร์แห่งข่ายอาคมอยู่แล้ว

เขารีบตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า

“ขอบคุณมาก ผู้อาวุโส !”

“สุสานของจักรพรรดิเย่ใต้ภูเขามังกรถูกวางไว้ด้วยข่ายปราณห้าธาตุ, เสถียรหกวิถี, เจ็ดดารา, โซ่ผนึกแปดมังกรและหม้อวิเศษเก้าจักรวาล”

“หลังจากที่ข้าเข้าใจวิธีการทำลายข่ายปราณทั้งห้าชนิดนี้

ข้าก็จะสามารถเปิดสุสานจักรพรรดิเย่ได้ในที่สุด !”

เต่าหินส่งเสียงแผ่วเบาออกมาว่า

“เด็กน้อย ถึงแม้ว่าความสามารถในวิถีข่ายอาคมของเจ้าจะค่อนข้างสูง

แต่มันก็เป็นการยากที่จะทำลายข่ายปราณระดับสวรรค์ในสุสานของเย่หวงด้วยพลังของเจ้า”

เมื่อก่อนจางเทียนก็เคยกล่าวเช่นนี้กับจี้เทียนซิง  บัดนี้ได้ยินคำพูดเดิมซ้ำอีกครั้ง

คนขมวดคิ้วทันทีและถามว่า “ผู้อาวุโส

ท่านหมายความว่าข้าจะสามารถปลดข่ายปราณนั่นได้ก็ต่อเมื่อไปถึงขอบเขตปราณโอสถใช่หรือไม่

?"

เต่าหินเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า

“ปราณโอสถเป็นแค่การเริ่มต้น

เมื่อถึงขอบเขตนั้นเจ้าจะมีคุณสมบัติพอที่จะสามารถทำลายมันได้จริง  แต่ ! โอกาสสำเร็จจะไม่สูงนัก”

“และมหาข่ายปราณพิทักษ์สุสานเย่หวงนั้นจัดวางไว้ด้วยข่ายปราณระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดถึงห้าชนิด

พวกมันเต็มไปด้วยความซับซ้อนยากจะคาดเดา เปี่ยมไปด้วยอันตรายยิ่งนัก

ถึงแม้ข้าจะไม่มีโอกาสได้เห็นพวกมันกับตา

แต่ต้องขอเตือนเจ้าด้วยความหวังดีว่าข่ายปราณทั้งห้านั้นซ้อนทับกัน

เจ้าต้องทำลายมันตามลำดับและเฉพาะเจาะจง”

“ที่สำคัญ ยามที่เจ้าทำลายข่ายปราณลำดับแรกสำเร็จ

เจ้าจะถูกผลสะท้อนกลับจนอาจจะตกตายได้ในทันทีหากพลังไม่แข็งแกร่งพอ”

เมื่อได้ยินคำอธิบายอย่างเคร่งขรึมจริงจัง

จี้เทียนซิงก็เข้าใจดีว่าเรื่องนี้จะต้องทำการอย่างรัดกุม สุขุมรอบคอบอย่างยิ่งยวดและต้องไม่เสี่ยงพร่ำเพรื่อ

ในระยะเวลาสั้นๆนี้เขาย่อมไม่สามารถจัดการกับมันได้อย่างแน่นอนและต้องอดทนรอจนกว่าจะมีพลังมากพอ

เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับมันอยู่ครู่หนึ่งและถามอย่างไม่เต็มใจ

“ผู้อาวุโส

หากข้าสอนวิธีการถอดรหัสพวกนี้ให้แก่ยอดฝีมือที่มีพลังแข็งกล้ายิ่งกว่าข้า

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำสำเร็จ ?”

เต่าหินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ไม่ได้แน่นอน ! ความรู้ความเข้าใจในเต๋าแห่งข่ายอาคมนั้น สิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนมีความเข้าใจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของแต่ละคน

ข้าเพิ่งจะสอนข่ายอาคมให้เจ้าไปถึง 24

ชนิดภายในวันเดียว

เจ้าคิดว่าแตกฉานพอที่จะสอนผู้อื่นแล้วหรือไง ?  แน่นอนว่าไม่ !”

“ต่อให้เจ้าเข้าใจทุกกระเบียดนิ้ว

แต่ยามที่เจ้าส่งผ่านความรู้ที่ได้รับมาให้ผู้เชี่ยวชาญคนอื่น

คนผู้นั้นที่มีพรสวรรค์และความรู้ความเข้าใจที่ไม่เหมือนเจ้า

การรับรู้และแสดงออกก็ย่อมต่างกัน ผลที่ออกมาก็ต้องต่างกันและจะทำให้ทุกอย่างคลาดเคลื่อน”

“มหาข่ายปราณที่พิทักษ์สุสานคือมหาข่ายปราณระดัวสวรรค์ขั้นสูงสุด

เจ้ามิอาจใช้วิธีที่ไม่แน่นอนลองผิดลองถูกได้ มิฉะนั้นมหาข่ายปราณจะระเบิดตัวเอง

ผู้ลงมือถอดรหัสและทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นจะตกตายในพริบตา

เต่าหินอธิบายอย่างละเอียดชัดเจน

ดังนั้นจี้เทียนซิงย่อมมิกล้าทดลองสุ่มสี่สุ่มห้า

เขาทำได้ดีที่สุดก็คือทำความเข้าใจให้มาก

จากนั้นก็ลงมือทำลายมหาข่ายปราณด้วยตนเอง

ในเวลานี้เอง

ดวงตาของเต่าหินก็ระเบิดแสงสีขาวออกมา พวกเขาพุ่งเข้าไปในหัวของจี้เทียนซิงราวกับสายน้ำ

“วูบ วูบ วูบ !”

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีข้อมูลมากมายไม่รู้จบราวกับน้ำที่ล้นทะลักพุ่งเข้ามาในใจของเขา

จนทำให้รู้สึกเวียนหัว

เสียงของเต่าหินกลายเป็นแผ่วจางและดูอ่อนแอลง

มันกล่าวเตือนอย่างเคร่งขรึมซ้ำๆว่า “เด็กน้อย นี่คือแก่นแท้แห่ง 24

วิถีข่ายอาคมระดับสวรรค์ ข้าจะใส่มันไว้จิตของเจ้า”

“เจ้าต้องสงบใจลง พยายามทำความเข้าใจเพื่อปรับแต่งมันให้สมบูรณ์”

“ไม่กี่วัน หรือไม่ก็มากกว่าครึ่งเดือนให้หลัง

เจ้าจะสามารถเข้าใจกฎแห่งการทะลวงผ่านข่ายปราณเหล่านั้นได้อย่างแท้จริง อย่าได้ลืมที่ข้ากล่าวเตือนเสียล่ะ”

ในขณะที่พูด

เสียงของมันก็ยิ่งอ่อนลงและอ่อนลง ในที่สุดเสียงของมันก็หายไปโดยสมบูรณ์

เห็นได้ชัดว่าจิตวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ของเต่าหินนั้นได้สลายไปในฟ้าดินและถูกทำลายไปตลอดกาล

จี้เทียนซิงยืนอยู่ข้างหน้าเต่าหินและโค้งศีรษะคำนับมันด้วยความจริงใจ

เขารู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อความรู้ที่มันมอบให้

จากนั้นเขาก็นั่งไขว่ห้างและหลับตาลง

ภารกิจสำคัญของเขาตอนนี้ก็คือขัดเกลาข้อมูลจำนวนมหาศาลที่อยู่ในใจ

เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน

กลุ่มแสงสีขาวทั้งสองกลุ่มภายในจิตใจของเขาพลันปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องและกระจายไปทั่วจิตวิญญาณของเขา

นอกจากนี้รอบๆตัวเขายังปรากฏริ้วลำแสงสีขาวบางๆขึ้น

มันช่วยให้อารมณ์ของเขาสงบลงอย่างลึกลับ

เวลาผ่านไปถึงแปดวันโดยไม่รู้ตัว

จี้เทียนซิงกลั่นกรองข้อมูลและองค์ความรู้ปริมาณมหาศาลติดต่อกันแปดวันแปดคืน

ในที่สุดเขาก็ปรับแต่งกลุ่มก้อนลำแสงสีขาวทั้งสองกลุ่มได้โดยสมบูรณ์ ซึ่งมันทำให้เขาเข้าใจในทุกอณูของข่ายปราณระดับสวรรค์ทั้ง

24 ชนิดอย่างแท้จริง !