ตอนที่
314 โลงหยกวิญญาณ
- หอคอยเจ็ดดาว
"สายเลือดดาราแดง ?"
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้จี้เทียนซิงยกคิ้วขึ้นทันที
ความประหลาดวูบผ่านแววตาของเขา
ตอนนี้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญวิถีข่ายอาคมและได้เรียนรู้เกี่ยวกับข่ายปราณระดับสวรรค์มากมาย
ดังนั้นเขาจึงทราบถึงความลับของยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งหลายคน
ดาวแดงหมายถึงดาวขั้วโลกแดง มันเป็นหนึ่งในดาวฤกษ์ทั้งสามสิบหกดวง
อยู่ในอันดับที่สาม
สายเลือดดาราแดงนั้นย่อมสัมพันธ์กับดาวขั้วโลกแดงอย่างชัดเจน
ถึงแม้จี้เทียนซิงจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสายเลือดนี้มาก่อน
แต่เขาก็คาดเดาได้ว่ามันจะต้องเป็นสายเลือดหายากในระดับสูง !
ในทวีปลมปราณฟ้า มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ที่มีความสามารถและพรสวรรค์ที่สูงส่งพอเท่านั้นจึงจะปลุกพลังสายเลือดให้ตื่นขึ้นมาได้
จอมยุทธ์ที่มีสายเลือดพิเศษย่อมมีความสามารถมากกว่าจอมยุทธ์ธรรมดาและความสำเร็จในการฝึกยุทธ์ก็จะสูงขึ้นด้วย
แน่นอน
พลังสายเลือดย่อมมีทั้งประเภทที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ
สายเลือดทั่วไปโดยมากคือระดับลมปราณ ขั้นสูงคือระดับล้ำลึกและเหนือไปกว่านั้นคือสายเลือดระดับนภา
โดยทั่วไปแล้วจอมยุทธ์ที่มีพลังสายเลือดนั้นหาได้ยากมากในอาณาจักรฆราวาส
เช่นเดียวกับจี้เทียนซิงก่อนหน้านี้
เขามีพลังสายเลือดกระบี่ลี้ลับที่อยู่ในระดับล้ำลึก
เขาจึงสามารถขึ้นเป็นจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดิชิงหยุน
และสายเลือดระดับนภานั้นแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปรากฏขึ้นในอาณาจักรฆราวาส
มีเพียงขุมอำนาจที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่เท่านั้นจึงจะสามารถให้กำเนิดบุตรหลานที่มีพลังสายเลือดอันน่าทึ่งได้
เช่นเดียวกับกายาสวรรค์ของหยุนเหยา
มันเป็นหนึ่งในพลังสายเลือดระดับนภา
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัยว่า "อาวุโสเหยา
สายเลือดดาราแดงเป็นสายเลือดชนิดใดกัน ? เป็นสายเลือดระดับนภาหรือไม่ ?"
ผู้อาวุโสเหยาพยักหน้าและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า
"ถูกต้อง"
จี้เทียนซิงยิ่งรู้สึกงุนงงมากขึ้นพลางถามต่อไปว่า
“อาวุโสเหยา
จากที่ข้าทราบมาผู้ฝึกยุทธ์ที่สายเลือดพรสวรรค์ตื่นขึ้น
พลังความสามารถทุกอย่างของคนผู้นั้นจะพุ่งทะยานอย่างก้าวกระโดด
อีกทั้งความแข็งแกร่งก็จะสูงล้ำผิดธรรมดา ... "
"แต่เทียบกับเค่อเค่อแล้ว
ในเมื่อพลังสายเลือดระดับนภาของนางตื่นขึ้น เหตุใดถึงได้มีอาการเช่นนี้ ? นางกลับหมดสติและตกอยู่ในอันตรายไปเสียได้”
อาวุโสเหยาถอนหายใจก่อนที่จะอธิบาย “เรื่องนี้ซับซ้อนมาก เล่าไปแล้วมันยาว"
"เหตุผลที่ข้าถูกใจจี้เค่อตั้งแต่แรกเห็นและยืนยันจะรับนางเป็นศิษย์
ความจริงแล้วมีสาเหตุอยู่สองประการ"
"ประการแรก
ข้ากับจักรพรรดิของจักรวรรดิชิงหยุนรู้จักกันมาก่อน การที่ข้าคิดรับนางไว้เป็นศิษย์ได้มีการหารือกับอีกฝ่ายไว้แล้ว”
"นับตั้งแต่ที่จี้เค่อเข้านิกายมา
องค์จักรพรรดิได้ส่งจดหมายถึงข้าและขอให้ข้าดูแลนาง
ช่วยนางปลุกพลังสายเลือดอันลึกลับในร่างให้ตื่นขึ้น"
"ประการที่สอง เนื่องจากพลังสายเลือดที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของจี้เค่อนั้นลี้ลับยิ่ง
ก่อนหน้านี้องค์จักรพรรดิชิงหยุนและข้าก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่านางครอบครองสายเลือดชนิดใด"
"นี่คือสาเหตุที่ข้าตัดสินใจรับนางเป็นศิษย์และหาทางช่วยนางปลุกพลังสายเลือดอันลึกลับขึ้น"
จี้เทียนซิงพยักหน้าและตระหนักได้ในทันที
เขาเชื่ออยู่เสมอว่า
ความรักและความเกลียดชังไม่มีทางเกิดขึ้นได้โดยไร้ซึ่งที่มาที่ไป
หากมิใช่เพราะมิตรภาพเก่าแก่ระหว่างจักรพรรดิชิงหยุนกับอาวุโสเหยา
รวมไปถึงการที่จี้เค่อมีสายเลือดลึกลับแฝงอยู่ในร่าง อาวุโสระดับสูงของนิกายใหญ่อย่างเขาจะถูกตาต้องใจองค์หญิงธรรมดาจนออกตัวรับเป็นศิษย์ได้อย่างไร
?
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสเหยาก็กล่าวต่อไปว่า "นับตั้งแต่ที่นางเข้าเป็นศิษย์ของหอวิญญาณโอสถ
ข้าได้พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยให้สายเลือดของนางตื่นขึ้น"
"จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อน
ในที่สุดข้าก็ช่วยนางสำเร็จ และเมื่อข้าพบว่าสายเลือดที่ถูกปลุกขึ้นของนางนั้นคือสายเลือดดาราแดงที่อยู่ระดับสูงสุด
ข้าพูดไม่ออกและตื่นเต้นและยินดีมาก"
"อย่างไรก็ตาม หลังจากนางปลุกพลังสายเลือดดาราแดงสำเร็จ
มันไม่เพียงไม่แข็งแกร่งอย่างที่ควรจะเป็น
แต่พลังลมปราณในร่างของนางกลับปั่นป่วนยุ่งเหยิงจนแทบเอาชีวิตไม่รอด หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียดข้าก็พบว่าภายในร่างของนางถูกผนึกไว้ด้วยพลังที่ลึกลับและทรงพลังมาก”
“พลังนั้นมิใช่พลังปราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์
แต่มันเป็นพลังของเผ่าพันธุ์อื่น ! พลังลึกลับขุมนั้นแทบจะคร่าชีวิตของนางหลังจากสายเลือดตื่นขึ้น"
เมื่อได้คำบอกเล่าจากปากของอาวุโสเหยา
จี้เทียนซิงก็แสดงท่าทางประหลาดใจและถามอย่างรวดเร็วว่า "พลังของเผ่าพันธุ์อื่น
? บ้าน่า จี้เค่อนางเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างชัดเจน
เหตุใดถึงได้มีพลังของเผ่าอื่นผนึกอยู่ในร่าง ?"
อาวุโสเหยาลูบเคราด้วยสีหน้าสะทกสะท้อนใจ
เขาพูดต่อไปอย่างมีความหมาย
"พลังของเผ่าพันธุ์อื่นถูกผนึกไว้ในจิตวิญญาณและดำรงอยู่มาตั้งแต่เกิด
บางทีอาจเกี่ยวข้องกับชีวิตของนาง"
"จี้เทียนซิง
ในเมื่อเจ้าเป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆของจี้เค่อ เจ้าสนิทกับนางมาตั้งแต่เด็ก
เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตของนางบ้าง
?"
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วทบทวนความทรงจำ
เขาพบกับจี้เค่อครั้งแรกตอนอายุได้แปดขวบและกลายเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของกันและกัน
เขารู้ว่าจี้เค่อมีบิดาแต่ไม่มีมารดาตั้งแต่เด็ก
นางเป็นองค์หญิงที่โดดเดี่ยวที่สุดในวัง
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครคือมารดาผู้ให้กำเนิดของนาง
และสิ่งนี้เป็นเรื่องต้องห้ามภายในวังที่ปฏิบัติกันมาอย่างเคร่งครัด
ผู้ใดพูดถึงหรือสืบเสาะต้นกำเนิดของจี้เค่อจะถูกลงโทษสถานหนัก
เหล่าพระโอรสและพระธิดาองค์อื่นๆมองนางเป็นเด็กแปลกแยก
แม้กระทั่งเหล่าพระสนมก็ยังกลั่นแกล้งรังแกนาง
ส่วนองค์จักรพรรดิชิงหยุน แม้จะรักถนอมนาง
แต่พระองค์ก็ยุ่งอยู่กับงานบริหารแผ่นดินและไม่ค่อยมีเวลาให้นางเท่าใดนัก
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้จี้เค่อพึ่งพาและเชื่อใจจี้เทียนซิงอย่างสุดใจ
ตลอดจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขา
เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีตนี้
จี้เทียนซิงก็กล่าวตอบอาวุโสเหยาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผู้อาวุโสเหยา ชีวิตวัยเด็กของจี้เค่อนั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาด
ข้าเกรงว่าคงมีเพียงองค์จักรพรรดิชิงหยุนเท่านั้นที่ทราบความจริงทั้งหมด"
"แต่ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะมาเจาะลึกเรื่องนี้ พวกเราจะจัดการกับขุมพลังในร่างนางได้อย่างไร ? ท่านมีหนทางหรือไม่”
อาวุโสเหยาขมวดคิ้วและคร่ำครวญในใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
“พลังแปลกแยกขุมนั้นลี้ลับทรงพลังและรุนแรงยิ่ง
มันแตกต่างจากพลังลมปราณของเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยสิ้นเชิง
ตาแก่อย่างข้าก็รู้สึกจนปัญญา...”
“ยิ่งไปกว่านั้น พลังขุมนั้นยังผนึกไว้ในจิตวิญญาณของนางอีกด้วย
ไม่มีผู้ใดสามารถสัมผัสต้องได้ เว้นเสียแต่นางจะปรับแต่งพลังนั้นด้วยตัวเอง"
"ข้าครุ่นคิดมานานจนพบทางแก้ปัญหาได้ทางหนึ่ง"
ดวงตาของจี้เทียนซิงสว่างวาบขึ้น คนโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างคาดหวังและรีบถามอีกฝ่ายว่า
"ด้วยวิธีการใดหรือ ?"
ผู้อาวุโสเหยากล่าวอย่างเคร่งขรึม "ระดับพลังลมปราณของจี้เค่อในตอนนี้อ่อนแอเกินกว่าจะปรับแต่งพลังแปลกแยกที่ผนึกไว้ในจิตวิญญาณของนางได้
นางจำต้องพัฒนาระดับพลังโดยเร็ว
หนทางเดียวคืออาศัยพลังโดยธรรมชาติจากสายเลือดของนางเท่านั้น"
"สายเลือดดาราแดงที่ตื่นขึ้นของนางนั้นสอดคล้องกับดวงดาวสีแดงบนท้องฟ้า
ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสิบหกดวง"
"หากเจ้าให้นางได้นอนในโลงหยกวิญญาณและนำโลงไว้บนชั้นสูงสุดของหอคอยเจ็ดดาว นางจะสามารถดึงพลังแห่งดวงดาวจากสวรรค์มาเพิ่มให้กับสายเลือดดาราแดงได้อย่างรวดเร็ว"
"จนกระทั่งเมื่อพลังสายเลือดดาราแดงของนางแกร่งพอ
นางจะสามารถใช้พลังสายเลือดนี้ยับยั้งและปรับแต่งพลังแปลกแยกที่ผนึกอยู่ในจิตวิญญาณของนางได้"
“เมื่อถึงตอนนั้น
นางไม่เพียงจะปลอดภัยจากภยันตราย
แต่นางยังสามารถควบคุมพลังแปลกแยกอันลี้ลับและทรงพลังได้ สุดท้าย
พลังความสามารถของนางจะปะทุออกมาอย่างแท้จริง"
จี้เทียนซิงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "โลงหยกวิญญาณ
? หอคอยเจ็ดดาว
?”
"ผู้อาวุโส
แล้วข้าจะหามันได้จากที่ไหน ?"
ผู้อาวุโสเหยาลูบเคราและกล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบ
“โลงหยกวิญญาณเป็นสมบัติของนิกายเราที่มีพลังความสามารถอันน่าทึ่ง"
“ของสิ่งนี้อยู่ในมือของท่านประมุข ลำบากเพียงเจ้าเอ่ยปากขอยืมเท่านั้น
ข้อนี้ไม่น่ามีปัญหา"
"ส่วนหอคอยเจ็ดดาวเป็นสมบัติล้ำค่าของดินแดนดาราบรรพกาล
มันตั้งอยู่ทางใต้ของยอดเขาซิงเฉินห่างออกไปห้าร้อยไมล์"
"อย่างไรก็ตาม หอคอยเจ็ดดาวอยู่ในความดูแลร่วมกันของแปดนิกายใหญ่โดยมีข้อตกลงและข้อจำกัดที่ใช้ร่วมกัน
จะเปิดเฉพาะบางเวลาเท่านั้น"
Copyright © 2025 xxxxx.com, All Right Reserved